ลาดราชวัตรเป็นอีกหนึ่งตลาดเก่าแก่ ที่รวบรวมของกิน ร้านอาหารอร่อยๆ ไว้ให้เลือกมากมาย วันนี้ “มติชนอคาเดมี” จะพาทุกคนไปชิมอาหารร้านอร่อยในย่านราชวัตร เผื่อถูกปากถูกใจใครหลายๆ คนที่กำลังมองหาที่เที่ยวที่ชิมจะได้ตามไปกินกันจ้า

1.วิโรจน์โภชนา

พิกัด : เยื้องกรมสรรพสามิตร ข้างร้านขายยาคลังยาราชวัตร

เป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 60 ปี พ่อค้าก็ใจดียิ้มแย้มตลอดเวลา และคอนเฟิร์มว่าร้านนี้เน้นความสะอาด อร่อย และราคาถูก ถึงทำให้ลูกค้าติดใจกลับมากินเรื่อยๆ

เมนูเด่นของร้านวิโรจน์โภชนาคือ “เย็นตาโฟ” ซึ่งเป็นเมนูที่ลูกค้านิยมสั่งกันมากที่สุด ลองสั่งมาแล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกค้าถึงติดใจ เพราะร้านนี้เขาใช้ของดีมาทำ และให้เครื่องเยอะมาก ทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง มาแบบเนื้อเน้นๆ ไม่ผสมแป้ง แมงกะพรุนเนื้อเด้งกรุบกรอบ หมึกแก้วก็นุ่ม กินง่าย ไม่เหนียว น้ำซุปก็หวานจากการตุ๋นกระดูกหมู ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ลูกค้าก็จะเข้ามาเรื่อยๆไม่ขาดสายเลย

2.ลูกชิ้นราชวัตร

พิกัด : ตรงข้ามตลาดศรีราชวัตร
เบอร์โทร : 02-241-4470
เมนู : เส้นเล็กรวมลูก + ลูกชิ้นเอ็นหมู + ลูกชิ้นหมู

ร้านนี้ก็ยังคงความเก่าแก่ไว้เหมือนกัน ร้านเปิดมานานกว่า 40 ปี ตอนนี้ก็เป็นรุ่นที่ 3 ที่มารับช่วงต่อแล้ว ของเด็ดของร้านนี้ก็คือ “ลูกชิ้น” เลยจ้า เมนูที่ลองสั่งมากินก็คือ เส้นเล็กรวมหมู ก็จะมีทั้งตับที่นุ่ม ไม่เหนียวและคาว ลูกชิ้นกับหมูแผ่นก็เนื้อหมูแน่นๆ ไม่มีแป้งผสม และหมูตุ๋นที่เนื้อนุ่มละลายในปาก ส่วนลูกชิ้นนั้นรสชาติจะออกเค็มหน่อยๆ แต่พอทานกับน้ำจิ้มที่รสชาติออกหวานๆ เผ็ดๆ แล้วก็ลงตัวดี กินแล้วเนื้อนุ่มๆ เด้งๆ

3. ก๋วยจั๊บเก๋ากึ๊ก

พิกัด : ตรงข้ามตลาดศรีราชวัตร
เมนู : กระเพาะปลา + ก๋วยจั๊บ + ข้าวมันไก่

ร้านนี้เป็นร้านที่เก่าแก่ที่สุดที่ไปกินมาเลย เพราะเขาเปิดมานานถึง 80 ปี! ก็เลยลองสั่งมาถึง 3 เมนูด้วยกัน เริ่มด้วยเมนูแรกเลยก็คือ “ข้าวมันไก่” เขาก็จะให้เนื้อมาเต็มๆ ใครที่ชอบสั่งข้าวมันไก่ไม่เอาหนังนี่ต้องชอบร้านนี้แน่นอน เนื้อไก่ก็นุ่มมาก ไม่แห้ง น้ำจิ้มมีครบทั้งสามรส เปรี้ยวเค็มหวาน มีความหอมจากเครื่องเทศที่นำมาใช้

ต่อด้วยเมนูที่สองอย่าง “กระเพาะปลา” บอกเลยว่าให้กระเพาะมาทั้งเยอะทั้งใหญ่ ใส่ไก่ฉีก และหน่อไม้นิดหน่อย ตัวกระเพาะมีความนุ่มมาก แต่ส่วนตัวแล้วจะชอบแบบที่เคี้ยวกรุบๆ มากกว่า แต่ถ้าใครชอบแบบนุ่มๆ ก็แนะนำเลยจ้า

และสุดท้ายคือเมนูเด็ดของร้าน นั่นก็คือ “ก๋วยจั๊บ” เป็นก๋วยจั๊บน้ำข้นที่น้ำซุปไม่มีกลิ่นเลย หมูกรอบที่ใส่มาก็กรอบสมชื่อ ส่วนเนื้อนุ่มอร่อย หนังก็กรอบ และที่สำคัญคือปกติแล้วจะเป็นคนที่ไม่ค่อยกินเครื่องในค่ะ เพราะชอบไปเจอร้านที่ทำแล้วคาวหรือไม่ก็เหนียว แต่ร้านนี้ พวกเครื่องในนุ่มมาก และไม่มีกลิ่นคาวเลย

4.สวัสดีหอยทอดผัดไทย

พิกัด : ข้างร้านก๋วยจั๊บเก่ากึ๊ก
เมนู : ผัดไทยวุ้นเส้นกุ้งสด + หอยทอด

เป็นอีกหนึ่งร้านที่ขายดีมากกก เพราะเห็นลูกค้าเข้ามาสั่งตลอดแบบไม่ขาดสาย ความพิเศษของร้านนี้จะตั้งครัวไว้ด้านหน้า ทำให้ลูกค้าเห็นกันไปเลยจ้า ส่วนที่สั่งมาก็เป็นผัดไทยกุ้งสด เส้นชุ่มน้ำซอสดี สามารถกินได้แบบไม่ต้องปรุงเลย เส้นก็เหนียวนุ่ม ให้กุ้งมาอีก 2 ตัวใหญ่ๆ เนื้อแน่น แต่แอบแห้งไปนิดนึงแต่ก็โอเคอยู่ค่ะ

ส่วนหอยทอด เขาก็ให้หอยมาเยอะ กรอบนอกนุ่มใน แต่ส่วนตัวเราว่าน้ำจิ้มยังไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่ แต่ก็พอรับได้อยู่

5.วันสตาร์เป็ดย่าง

พิกัด : ตรงข้ามห้างทองปิติเจริญ
เบอร์โทร : 02-241-2506 , 081-827-5454
เมนู : ข้าวหน้าเป็ด + ข้าวหมูกรอบ + ข้าวหมูแดง + หมี่แห้งหมูแดง

เมนูเด็ดของร้านวันสตาร์เป็ดย่างก็คือ ข้าวหน้าเป็ดกับข้าวหมูกรอบ เริ่มด้วยข้าวหน้าเป็ดที่แค่เห็นก็ชวนน้ำลายสอ พอได้ชิมก็ทำเอาฟินเลยทีเดียว เพราะได้เป็ดเนื้อแน่นๆ ไม่มีกลิ่นคาว

ข้าวหมูกรอบ เนื้อนุ่มมาก แนะหนังก็กรอบอร่อย ส่วนข้าวหมูแดง เนื้อนุ่ม แผ่นใหญ่ รสชาติกลมกล่อม และกุนเชียงก็ไม่แข็ง พอกัดแล้วรู้สึกชุ่มน้ำ รสชาติจะออกหวานๆ

น้ำที่ราดมามีความเข้มข้น ได้กลิ่นของเครื่องเทศ รสชาติออกเค็มไปหน่อย แต่ถ้าทานกับข้าวก็จะพอดี

ปิดท้ายด้วยบะหมี่หมูแดงก็อร่อยเหมือนกัน เส้นเหนียวนุ่ม และยิ่งคลุกกับกระเทียมเจียวที่เขาใส่มาแล้วรสชาติยิ่งกลมกล่อมแบบไม่ต้องปรุงเลย

6.ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาราชวัตร (นายโจ้)

พิกัด : ติดร้านลูกชิ้นราชวัตร
เบอร์โทร : 081-424-4867
เมนู : เกี้ยมอี๋เย็นตาโฟ

ถึงแม้ความเก่าแก่จะไม่เท่าร้านอื่น ด้วยอายุของร้านที่เปิดมา 10 ปี แต่บอกเลยว่าคุณภาพไม่ใช่เล่นๆ เพราะเขาเลือกแต่วัตถุดิบชั้นดีมาใช้ทำก๋วยเตี๋ยว และให้เครื่องเยอะมากๆ แถมยังสร้างเอกลักษณ์ให้กับร้านตัวเองด้วย คือ จะมีเส้นเกี๊ยมอี้ให้เลือกด้วยค่ะ ถ้าใครไม่เคยเห็นหรือรู้จักก็ลองนึกภาพเส้นที่คล้ายๆ กับลอดช่องดู เส้นมีความเหนียวนุ่ม ผักสดกรอบ หมึกแก้วก็นุ่มแต่ยังมีความกรุบกรอบเวลาเคี้ยว ลูกชิ้นก็เนื้อแน่น เต้าหู้และหมูก็นุ่ม ไม่แข็งแห้ง แถมยังมีเกี๊ยวปลามาให้อีก 1 ชิ้นโตๆ เต็มคำ

7.ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่

พิกัด : ข้างร้านสมหวังซาลาเปา
เบอร์โทร : 02-241-0236
เมนู : ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่

ปิดท้ายย่านราชวัตรด้วยเมนู “ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่” ของร้านนี้ ที่เส้นมีความเหนียวนุ่ม แต่รสชาติจะติดเค็มนิดๆ แม่ค้าแนะนำให้กินกับซอสพริกจะลงตัวมาก เนื้อไก่ก็ไม่แห้งจนเกินไป หมึกที่ใส่มาก็นุ่มมากๆ ยิ่งกินคู่กับปาท่องโก๋จิ๋วยิ่งอร่อยเพราะตัวปาท่องโก๋จิ๋วกรอบ และไม่อมน้ำมันเลย

บอกเลยว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความอร่อยในย่านราชวัตรเท่านั้น ส่วนใครจะไปแวะเวียนไปชิมตามรีวิวก็ไม่ว่ากันจ้า!

จะมีซักกี่ครั้งที่เวลาเราไปกินข้าวนอกบ้านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนได้กินรสมือแม่ ในที่นี้ คือ ความพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ หรือโภชนาการ

ร้านแม่อวยพร Thai Fine Cusine ที่ศรีสมานซอย 8 ดอนเมือง คือ หนึ่งในนั้น

ร้านนี้ดัดแปลงรถเมล์สาย 145 มาเป็นร้านอาหารสุดเท่ ขึ้นป้ายว่า Tooney bus ภายในโอ่โถง มีที่นั่งราว 30 ที่ ตกแต่งด้วยเลโก้ลายการ์ตูนต่างๆ ติดแอร์ 2 ตัว ด้านหน้าหลังฉ่ำเย็นสบาย

แม่อวยพร อมรศรีสกุล

เมนูเด่นมี 2 อย่าง คือ ขนมจีนน้ำยาปู และปูผัดข้าว

ขนมจีนน้ำยาปู รสชาตินั้นละมุน แถมอัดแน่นไปด้วยเนื้อกรรเชียงปูคำใหญ่ๆ แถมไข่ยางมะตูมให้อีกครึ่งซีก มีผักสดให้กินแกล้ม ส่วนใครกินเผ็ดใส่พริกได้ตามใจชอบ ขนมจีนจานนี้กินพอดีอิ่ม ในราคา 120 บาท

ส่วนปูผัดข้าว คือ โปะกรรเชียงปูให้แบบเต็มๆ ข้าวใช้หอมมะลิคุณภาพ ผัดออกมาเรียงเม็ดสวย หอมกลิ่นกระทะไหม้ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรแซ่บ จานนี้ 120 บาท เหมือนกัน

ไหนๆ ก็มาแล้ว เลยลองสั่งมาอีก 2-3 อย่าง คือ หมี่กะทิกุ้งหลนสูตรแม่อวยพร 65 บาท จานนี้เทคนิคต้องเอาหลนเทคลุกกับหมี่ให้เส้นดูดรสชาติของหลนที่เค็มหวานให้เข้ากันก่อน เรียกว่าเด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี

ต่อมาลองก๋วยเตี๋ยวหลอดเต้าหู้หมูตุ๋น 55 บาท จานนี้แนะนำตักพริกน้ำส้มใส่รับรองอร่อยเด็ด และตบท้ายด้วย หมูทอดคอนโดหมักซอส XO ในราคา 50 บาท ที่ตอนแรกก็ว่าจะไม่หยิบ เห็นเพื่อนร่วมโต๊ะกินไม่หยุด เลยต้องลองบ้าง เท่านั้นแหละ ลืมอ้วนไปเลยค่ะ

อิ่มอร่อยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ชวนพนักงานในร้านพูดคุย ปรากฏว่าเป็นลูกชายของแม่อวยพร อมรศรีสกุล

ผู้เป็นลูกชาย บอกว่า แม่อวยพรนั้นมีฝีมือทำอาหารมานานแล้ว ทั้งไทย และจีน แต่ไม่เคยเปิดร้านอาหารมาก่อน ทั้งชีวิตค้าขายของแห้งของสดมาตลอด มีคู่ค้าเป็นถึงห้างเซ็นทรัล และยังเป็นเบื้องหลังของอาหารเจในเซ็นทรัลเกือบทุกปี นอกจากนี้ ออกบูธตามห้างบ้าง ส่วนมากขายขนมไข่สูตรซัวเถา ปัจจุบันไม่มีแล้ว เปลี่ยนเป็นข้าวเหนียวมูนบ้าง ข้าวเหนียวมะม่วงบ้าง

กระทั่งทนคำรบเร้าคนรอบข้างไม่ไหว ตัดสินใจทำร้านอาหารในวัยเกือบ 60 ปี รวบรวมสูตรเด็ดเกือบ 20 รายการ แล้วให้ลูกชายมาเป็นผู้ช่วย

สำหรับเมนูเด่น ขนมจีนน้ำยาปูนั้น ถือเป็นอาหารจานเด็ดของแม่อวยพร ที่ในอดีตมักจะทำช่วงเทศกาล แต่ละครั้งใช้เวลาทำนาน เพราะทุกอย่างใช้มือตำ เครื่องเทศจัดเต็มให้ถึงเครื่องถึงรส แต่เดิมจะทำน้ำยากะทิโดยใช้ปลาช่อน ส่วนน้ำยาปูก็เด็ดไม่แพ้กัน แต่ยังคงใช้เนื้อปลาช่อนผสมเพื่อให้รสชาติกลมกล่อม

ปัจจุบันร้านเปิดได้ 8 เดือนแล้ว มีลูกค้าทั้งขาจร และขาประจำ ส่วนมากเป็นคนแถวดอนเมืองแวะเวียนมาอุดหนุน บางคนติดใจถึงขั้นสั่งไลน์แมนผูกปิ่นโตกันเลย

ใครเป็นแฟนขนมจีนน้ำยา ต้องไม่พลาดไปลองชิมน้ำยาปูของที่นี่ ร้านหาไม่ยาก ถ้ามาเส้นสรงประภาให้ตรงมา ร้านอยู่ศรีสมานซอย 8 กูเกิลแมปพาส่งถึงที่ หรือใครที่เลยซอยไปเข้าทางขึ้นทางด่วนก็ไม่ต้องตกใจ ให้ชิดซ้ายไว้จะมีที่ยูเทิร์น


ที่มา คอลัมน์ เตี้ยวตุ้ย ตะลุยกิน นสพ.มติชนรายวัน

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่สาวกญี่ปุ่นมาแล้วคุ้มสุดๆ สำหรับงาน TOYOTSU Japan Festival 2018 เทศกาลสินค้าและอาหารจากประเทศญี่ปุ่นครั้งยิ่งใหญ่ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นงานที่ให้ทุกคนได้ช้อป ชิม ชม ชิลล์กับบรรยากาศแบบญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น พร้อมชมการแสดงสุดพิเศษจากเหล่าศิลปินดารา มากมาย ภายในงานมีทั้งร้านอาหาร สิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆ ทันสมัย สะดวกสบาย ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เป็นต้น

แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคงจะเป็น “อาหาร” ที่ขนมาให้ชิมและช้อปเพียบ ชนิดที่ว่าแทบจะยกประเทศญี่ปุ่นมาไว้ตรงหน้าเลยทีเดียว งานนี้ “มติชนอคาเดมี” เลยขอพาชิม 5 ความอร่อยที่ต้องตามไปกินกันให้ได้!

1.อูด้งหน้าหมูทอดราดแกงเขียวหวาน

เมนูอูด้งหน้าหมูทอดราดแกงเขียวหวาน จากร้าน kimukatsu เสิร์ฟเส้นอูด้งร้อนๆเหนียวนุ่มกำลังดี พร้อมน้ำแกงเขียวหวานรสชาติเข้มข้น กินคู่กับ “คิมุคัทสึ” หมูทอด “มิลฟิล” คัตสึรสชาติดั้งเดิมของญี่ปุ่น เนื้อนุ่ม แน่นเต็มคำ เข้ากันได้ดีกับเส้นอูด้งและน้ำแกงเขียวหวาน นอกจากนี้ยังมีเมนู มินิเบอร์เกอร์ และตอติญ่าห่อหมูทอดสูตรพิเศษอีกด้วย

พิกัดร้าน : เซ็นทรัล พลาซา พระราม 3 ชั้น 6

2.โอบังยากิชาเขียวถั่วแดง

โอบังยากิจากร้าน Minamoto Kitchoan หรือเป็นที่รู้จักว่าคือขนมครกโบราณญี่ปุ่น เนื้อสัมผัสแป้งนุ่มกำลังดี ให้ไส้เยอะและไม่หวานมากจนเกินไป ยิ่งกินตอนที่เพิ่งทำเสร็จจากเตายิ่งอร่อย นอกจากนี้ยังมีเมนู ขนมโดรายากิไส้ถั่วแดงและเกาลัด , ขนมโมจิเนื้อนิ่มสอดไส้ถั่วแดงกวนคลุกเคล้าด้วยผงชาเขียว และไส้พีชญี่ปุ่น, ดังโงะย่าง เป็นต้น

พิกัดร้าน : อิเซตัน ชั้น 5 (เซ็นทรัลเวิลด์) , เอ็มควอเทีย ชั้น G โซนเทคโฮม

3.ซูชิ

มางานญี่ปุ่นทั้งทีจะไม่กินซูชิได้ไง โดยซูชิจากร้าน NIPPON TEI (นิปปอน เทอิ) ซึ่งเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นมามากกว่า 20 ปี มีเชฟมาทำซูชิให้กินแบบสดๆ เลย หรือที่เรียกกันว่า ซูชิแบบโอมากาเสะ ข้าวปั้นมาพอดีคำ ปลาสด เนื้อนุ่มหวาน และไม่คาว เวลากินแล้วเหมือนซูชิละลายในปาก ไข่ปลาแซลมอนเม็ดใหญ่ รสชาติอร่อย ให้เยอะเคี้ยวเพลินๆ

แต่ร้านนี้เขาก็ไม่ได้มีแค่ซูชิเท่านั้น แต่ยังมีเมนูอื่นๆ อีก ทั้งคาวทั้งหวาน เช่น ซาซิมิรวม, Sashimi Goten Mori, Kobe beef teriyaki, โซเมนเย็น, Negi Toro Don, ถั่วแดงร้อนที่มาพร้อมโมจิหนึบๆ , โมจิย่างโรยผงคินาโกะ เป็นต้น

พิกัดร้าน : ในกรุงเทพมี 3 สาขา – ราชดำริ , ราชประสงค์ , สยามพารากอน (ใช้ชื่อว่า The Grill Tokyo) นอกกรุงเทพมี 3 สาขา คือ ศรีราชา, อมตะนคร , สนามกอล์ฟเกียรติธานีคัน-ทรีคลัป

4.เกี๊ยวซ่า

เกี๊ยวซ่าจากร้าน OSAKA OHSHO หรือที่แปลได้ว่าเป็น “ราชาของเกี๊ยวซ่าแห่งโอซากา” จุดเด่นของร้านคือเกี๊ยวซ่าที่ปั้นสดๆ มีไส้แตกต่างกันถึง 3 ชนิด และห่อด้วยแผ่นเกี๊ยวซ่าสูตรพิเศษ กัดเข้าไปคำแรก ด้านหนึ่งกรอบ อีกด้านหนึ่งจะนุ่ม ส่วนไส้เกี๊ยวซ่าก็มีความชุ่มฉ่ำของส่วนผสมต่างๆไว้อย่างลงตัว

พิกัดร้าน : สาขาทองหล่อ, สาขาธนิยะ, สาขาเมกาบางนา

5.Iced Matcha

สิ่งที่ต้องมาคู่กันตลอดเมื่อพูดถึงญี่ปุ่น นั่นก็คือชาเขียวนั่นเอง มีเมนูเครื่องดื่มต่างๆ ทั้งพวกกาแฟ ชาเขียว จากร้าน CAFÉ KALDI (คาเฟ่คาลดี้) ที่ชงชาแบบดั้งเดิม ด้วยการตีด้วยตะกร้อชา ใครที่คอชาเขียวต้องไม่พลาด ความหวาน 25% รสชาติกำลังดี ไม่เข้มจนเกินไป แต่ก็ไม่หวานมาก หรือถ้าใครอยากได้รสชาติเข้มข้นแบบชาเขียวแท้เลยก็สั่งไม่ใส่นมได้จ้า

พิกัดร้าน : Esplanade , มาบุญครอง , JJ Mall

สำหรับใครที่พลาดงานนี้ไปก็สามารถไปตามพิกัดที่เราหามาให้ได้เลย หรือไม่ก็อาจจะต้องรองาน TOYOTSU JAPAN FESTIVAL ปีหน้าเลยจ้า!

เดินเมียงมองด้วยความสงสัยอยู่หลายครั้ง ว่าร้านอะไรมาเปิดใหม่แทนร้านเหล้าเจ้าดังย่านประชาชื่น ทำเลติดคอนโดฯประชานิเวศน์ 1 มองจากด้านนอกเห็นแต่ตู้ปลาขนาดใหญ่มีปลามังกรเวียนว่ายอยู่ 4-5 ตัว

เลิกงานวันก่อนเลยชวนเพื่อนลองเข้าไปดูถึงได้รู้ว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อ Tank restaurant and cafe ด้านในมีสไตล์การตกแต่งสุดแหวกแนว จนดูแทบไม่รู้ว่าร้านนี้ขายอาหารญี่ปุ่น!

ทั้ง การจัดไฟให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในบาร์ สีสันโทนน้ำเงิน ความมินิมอลของเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงไฮไลต์ตู้ปลาไซซ์ใหญ่จัดวางไว้ตามมุมต่างๆ รวมๆ แล้ว มันช่างขัดกับภาพความคุ้นเคยเดิมไปมาก

เอาเป็นว่าเข้ามาแล้วยังไงก็ต้องสั่งอาหาร

ฟาก เมนูก็ช่างมีสไตล์ของตัวเอง แบ่งอาหารตามโหมดของอารมณ์ความรู้สึก ตั้งแต่ กินเล่น รีบกินรีบไป คุมน้ำหนักแต่ว่าหิว หิวมากๆ ไปจนถึงแบ่งกันกิน ส่วนราคาไม่หนีร้านอาหารเชนในห้างใหญ่เท่าไหร่

ไม่ต้องคิดนาน ข้าพเจ้าพลิกไปโหมดหิวมากๆ สั่งเซตแทงค์เทมปุระ (315 บาท) และโหมดหิวแต่ไม่อยากกินเยอะ คือ เซตหมูสันนอกทอดชุบเกล็ดขนมปัง (215 บาท) ให้เพื่อนแบบไม่ต้องคิดมาก เพราะอาหารทอดนี่ชมฯและเพื่อนชอบนัก

แม้ว่า พนักงานจะแนะนำว่าปลาดิบที่นี่คุณภาพดีไม่ต่างจากทองหล่อ แต่บางเวลาการเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น เราก็อยากกินอาหารที่ปรุงสุกบ้างนะคะ ไม่ใช่เอะอะก็ปลาดิบๆ

โดยเฉพาะของทอดๆ อย่างเทมปุระ มีนักกินเคยบอกว่าทอดแล้วผิวต้องบาง เวลากินก็ต้องเบา ไม่ใช่กัดลงไปแป้งหนาปั้ก!! หรือบางร้านกัดทีน้ำมันเยิ้มก็ไม่ไหว

ระหว่าง รอลุ้นอาหารมื้อเย็นอย่างใจจดใจจ่อ มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าที่นี่นั่งสบายมาก รู้สึกผ่อนคลาย เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่ร้านจัดแต่ง และตู้ปลาที่มองได้ไม่เบื่อ

ส่วน ผลการชิมอาหารทอดค่อนข้างดี หมูทอดอร่อย มีความจุ้ยซี่เบาๆ ความหนาของหมู กัดแล้วพอดิบพอดีคำ มีความฉ่ำนุ่ม แป้งกรอบ จิ้มซอสก็ลงตัว ส่วนเทมปุระ สอบผ่านทุกข้อที่ว่ามา มื้อนี้จัดว่าดี สมกับที่ลองเข้ามาเสี่ยงดวง (ฮา)

จาก นั้นเลือกตบของหวานด้วยไอติมเหล้าบ๊วย หรืออุเมะชู กับราสเบอรี่เบียร์ เขาเอามาทำซอร์เบท กินแล้วชื่นใจ ถือเป็นฟินนาเล่ปิดท้ายของค่ำคืน

เอา เป็นว่า คออาหารญี่ปุ่นที่ไม่อยากเข้าห้าง ลองมาที่ร้านแทงค์ ย่านประชาชื่นดูบ้าง ท้าเลยว่าถ้าลองมาครั้งแรกแล้ว ครั้งที่สอง สาม สี่ ห้า ต้องตามมาแน่นอน

 


ที่มา คอลัมน์เคี้ยวตุ้ยตะลุยกิน โดย ชม นำพา [email protected] / นสพ.มติชน