อายุน้อย-ทุนจำกัด ไม่ใช่อุปสรรค สาวนศ.ผุดไอเดียทำ “หมูกระทะพร้อมทาน” ขายดีวันละ 50 แก้ว!

อีกหนึ่งตัวอย่างธุรกิจของผู้ที่ตั้งใจจริง  “หมูกระทะพร้อมทาน”  เป็นกิจการ หมูกระทะดิลิเวอร์รี่ปรุงสำเร็จบรรจุในแก้วพลาสติก สามารถแกะน้ำจิ้มราดแล้วทานได้เลย ไม่ต้องปิ้งย่างให้เสียเวลา ที่สำคัญสามารถพกพาไปทานที่ไหนก็ได้ เพราะใส่มาในแก้วพลาสติก แบบครบเซ็ต

เจ้าของคือ คุณดาว – ชลธิชา โกติยะ อายุ 21 ปี นักศึกษา จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เธอเล่าว่า ปกติทำหมูกระทะทานที่บ้านอยู่แล้ว เพื่อนบอกว่าอร่อย จึงอยากทำร้านหมูกระทะ แต่ด้วยอายุน้อย ยังไม่มีทุนมากพอที่จะเปิดร้าน จึงทำในรูปแบบย่างสำเร็จพร้อมทาน ใส่ในแก้วพลาสติก เพื่อประหยัดต้นทุน

ก่อนเล่าต่อว่า หลังจากเปิดร้าน ผลตอบรับดีเกินคาดคงเพราะราคาถูก แก้วละ 39 บาท คนจึงให้ความสนใจกันเยอะแบบไม่น่าเชื่อ ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 50 แก้ว แต่บางวันขายได้ 80-90 แก้วเลยทีเดียว กลุ่มลูกค้ามีทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น คิดว่าคนให้ความสนใจเพราะความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร

ถามถึงข้อแตกต่างจากหมูกระทะรูปแบบทั่วไป คุณดาวเผยว่า ลูกค้าสามารถพกพาไปทานที่ไหนก็ได้ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยเพราะใส่ในแก้วพลาสติก นอกจากนี้ น้ำจิ้มของร้านรสชาติอร่อย ใช้วัตถุดิบสด สะอาด ทำใหม่วันต่อวัน ที่สำคัญราคาไม่แพง ยุติธรรมกับลูกค้า

 

ด้านแผนการตลาด คุณชลธิชา บอกยิ้มๆ

“ตอนนี้อยากขายแบบดิลิเวอร์รี่นี้ไปเรื่อย ๆ ก่อน ยังไม่อยากทำร้าน เพราะเรายังเรียนอยู่ ที่สำคัญ ทุนไม่พอที่จะเปิดร้านใหญ่ ๆ สำหรับอุปสรรคสำคัญในการทำธุรกิจ คือ  ทางร้านขาดกำลังคนในการขนส่ง ยิ่งวันไหน ออเดอร์เยอะ ลูกค้าก็รอนาน เพราะมีคนส่งอยู่ไม่กี่คน”

สนใจอยากอุดหนุน สามารถเข้าไปได้ที่ facebook : shake it dao หรือโทร 080-704-5631 (คิดค่าส่งตามระยะทาง

ที่มา : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์

อยากเดาว่า คงมีคนเคยกิน เห็ดตับเต่า (King bolete mushroom) ไม่มาก แม้ส่วนใหญ่น่าจะเคยเห็นวางขายตามตลาดสดบ้านๆ ในช่วงต้นถึงกลางฤดูฝน ซึ่งก็คือช่วงนี้แหละนะครับ อาจเพราะด้วยชื่อ ด้วยรูปทรง และด้วยสีที่ออกดำๆ ดูไม่ชวนกินเอาเสียเลยก็เป็นได้

เท่าที่รู้ คนเหนือเอามันมาแกงอ่อมเปล่าๆ บ้าง ใส่หมูบ้าง แกงใบมะขามอ่อนน้ำใสๆ บ้าง ส่วนคนบ้านสวนภาคกลางแถบบางกรวย ไทรม้า นนทบุรี มีสูตรยำใส่กะทิ หมูสามชั้น กุ้งแห้ง ตะไคร้ใบมะกรูดซอย กับทำฉู่ฉี่น้ำข้นๆ ใส่เนื้อปลาทูนึ่ง ทั้งสองสูตรนี้อร่อยมากๆ ครับ โดยเฉพาะถ้าได้เห็ดอ่อน ดอกเล็กๆ ซึ่งมีความกรุบกรอบ เคี้ยวมันอย่างหาตัวเปรียบได้ยาก

สมัยก่อน ที่ผมทำบ่อยคือแกงอ่อมแบบอีสาน ใส่พริกสด หอมแดง ตะไคร้ตำ ในหม้อน้ำใบย่านาง ปลาร้า ชะอม ต้นหอม ใบแมงลัก ผมคิดว่าคงไม่ได้รู้สึกไปเองคนเดียว ว่าเห็ดตับเต่าอ่อนๆ กรอบๆ นั้น ได้สังเคราะห์กลิ่นดินหอมๆ เข้าไว้ในน้ำเนื้อของมันมากยิ่งกว่าเห็ดเผาะเสียอีก ทำให้เมื่อเอามาปรุงกับข้าวแล้ว กับข้าวชามนั้นก็จะมีเอกลักษณ์ในตัวเองสูง

ความที่เพิ่งได้เห็ดตับเต่ามาถุงหนึ่ง แต่เป็นเห็ดที่ไม่ใหม่เท่าใดนัก ความกรุบกรอบลดน้อยไปเกือบครึ่ง ดังนั้น จึงไม่สามารถจะเอามายำอร่อยๆ กินได้นะครับ จำต้องยักย้ายไปปรุงเป็นสำรับอื่นที่จะช่วยพยุงรสชาติเอาไว้ให้ได้

มันก็เหมือนเวลาเราได้กุ้ง ปู ปลาที่ไม่สดมากนักมา จะปิ้งจะยำก็ไม่ได้แล้ว ต้องเอาไปต้มไปแกง ให้เครื่องต้มเครื่องแกงช่วยดึงรสชาติขึ้นมา อย่างนี้เป็นต้น

ผมนึกถึงสำรับไทยภาคกลางระดับคลาสสิก คือ ต้มกะทิสายบัวปลาทูนึ่ง แต่ครั้งนี้ผมจะชักเอาสายบัวออก ใส่เห็ดตับเต่าเข้าไปแทนที่เลย ก็ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ?

หลังจากใช้มีดเล่มเล็กๆ เกลาเศษดินตรงโคนเห็ดออก ล้างน้ำเร็วๆ โดยใช้กาบมะพร้าว ใยบวบ หรือฟองน้ำขัดคราบดำๆ ออกบ้างจนดอกเห็ดสะอาดดีแล้ว ก็หั่นเป็นชิ้นหนาๆ ไว้

ตำพริกไทยขาว รากผักชี หอมแดง กะปิเข้าด้วยกันในครกหินจนละเอียด เป็นพริกแกง

แกะปลาทูนึ่งเอาแต่เนื้อไว้เป็นซีกๆ

เตรียมหากะทิสดไว้ให้พร้อม

ละลายพริกแกงในกะทิใสหน่อย ต้มจนเดือดสักครู่ ถ้าจะให้รสชาติกลมนัว ควรจะเติมเปรี้ยวนิดเดียวด้วยน้ำมะขามเปียก หรือชิ้นส้มแขกแห้งนะครับ จากนั้นใส่เห็ดตับเต่าลงไป ต้มราว 5 นาที เติมหัวและหางกะทิให้แกงข้นใสพอดีๆ อาจเพิ่มน้ำตาลปี๊บได้ ถ้าชอบให้มีรสหวานอ่อนๆ ใส่เนื้อปลาทูนึ่งตามลงไป ถ้าต้องการให้เนื้อนิ่มๆ ก็รีบยกลงหลังใส่ไปราวสองสามอึดใจ ไม่อย่างนั้นเนื้อปลาทูนึ่งที่แกะออกจากก้างแล้วจะแข็งกระด้างเร็วมากในหม้อแกงเดือดๆ นะครับ

โรยต้นหอมหั่นยาวๆ ลงในหม้อเพื่อเพิ่มกลิ่นผักๆ ไปตัดความมันเลี่ยนของกะทิ และสร้างดุลยรสกับกลิ่นดินของเห็ดตับเต่า สีน้ำแกงจะออกคล้ำๆ ปนเหลืองนิดๆ จากสีของเนื้อในเห็ดตับเต่าเอง และที่ค่อนข้างแปลก คือเราจะรู้สึกว่ากลิ่น ?ต้มกะทิเห็ดตับเต่า? ใส่เนื้อปลาทูนึ่งของเราหม้อนี้ คล้ายว่ามีกลิ่นถั่วเมล็ดแข็งอย่างถั่วลิสงปนอยู่ด้วยหน่อยๆ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ใส่ลงไปแม้แต่เม็ดเดียว

มันเป็นความลี้ลับพิสดารอีกประการหนึ่งของการปรุงกับข้าวกับปลา ที่การผสมผสานของวัตถุดิบบางสิ่ง กลับทำให้เกิดกลิ่น รส หรือกระทั่งเนื้อสัมผัสเหมือนอีกสิ่งหนึ่งที่เราคุ้นชิน โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

กินราดข้าวชุ่มๆ หรือซดน้ำร้อนๆ ก็ชื่นใจเหมือนเราเคยกินต้มกะทิสายบัวปลาทูนึ่งทุกประการครับ

1
4

ที่มา : มติชน

ผู้เขียน : กฤช เหลือลมัย

คอพะโล้ จะต้องติดใจ หมูพะโล้ปลาเค็ม

ลืมเรื่อง ไข่พะโล้บูดเอาไว้ชั่วคราว

เพราะคราวนี้ กฤช เหลือลมัย คอลัมนิสต์ คอลัมน์อาหาร ในหนังสือพิมพ์ มติชน ได้นำเสนอ “หมูพะโล้ปลาเค็ม” มายั่วยวน คอพะโล้ และไม่พะโล้ทุกคน ที่รับรองว่า เอาสูตรนี้ไปทำแล้วจะติดอกติดใจในรสชาติไปอีกนาน

พะโล้ปลาเค็ม โดย กฤช เหลือลมัย

การต่อยอดจากสูตรของ ประยูร จรรยาวงษ์

 

ใครก็ตามที่ชอบทำอาหาร คงเคยรู้สึกเหมือนผมบ้างไม่มากก็น้อย คือรู้สึกว่า สูตรอาหารบางสำรับนั้น มันแสนที่จะลงตัว พอเหมาะพอดี ไม่มีขาดมีเกิน กินครั้งใดก็อร่อย ทั้งอยากกินไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุด จนพาลสงสัยว่าคนคิดเขาคิดขึ้นมาได้ตอนไหนอย่างไรเอาเลยทีเดียว

สูตรหนึ่งที่ผมยอมใจมานาน ก็คือ “หมูตุ๋นปลาเค็ม” ของ คุณประยูร จรรยาวงษ์ นักเขียนการ์ตูนผู้ยิ่งยง ซึ่งแม้ท่านล่วงลับไปแล้วเมื่อ 27 ปีก่อน ทว่ารสมือของท่านในหมูตุ๋นฯ หม้อนี้ย่อมจะส่งต่อไปยังใครต่อใครอีกมากมายไม่มีวันจบสิ้น คุณประยูรใช้หมูสามชั้นติดหนัง ตุ๋นในหม้อน้ำมัน กับปลาสละเค็ม ตะไคร้ กระเทียม พริกไทย ปรุงด้วยซีอิ๊วขาวและซอสปรุงรส จนน้ำแห้ง หมูเดือดฉ่า ผิวนอกเกรียมน้ำมันนิดๆ

กลิ่นและรสเปรี้ยวซ่าของตะไคร้ ผสานกับกระเทียมพริกไทยสุกหอมในน้ำมันของชิ้นหมูเกรียม ซึ่งพลอยซึมซับรสเค็มลึกๆ ของปลาเค็มไว้อย่างเต็มที่ แถมมีซีอิ๊วขาวแต่งรสให้มีสีสันขึ้นอีก มันทำให้แม้ผมจะเคยพยายามลองเพิ่ม ลด ดัดแปลงวิธีปรุงและวัตถุดิบบางตัวให้ต่างออกไปบ้าง ทว่าก็ไม่อาจสร้างหมูตุ๋นปลาเค็มหม้อใหม่ที่พอเทียบเคียงสูตรคุณประยูรได้เลยจริงๆ

ผมจึงคิดว่า ถ้าอย่างนั้น เรา “ขอยืม” มาใช้กับสำรับที่ใกล้เคียงกันน่าจะดี เช่น หมูพะโล้ โดยนึกเชื่อมโยงไปถึงขาหมูพะโล้สูตรหนึ่งซึ่งพ่อครัวใส่ปลาเค็มต้มรวมไปในหม้อด้วย กับนึกถึงพะโล้ที่บ้านเพื่อนผมคนหนึ่ง ซึ่งแทนที่จะใช้ไข่เป็ดไข่ไก่ เขาก็ใช้ไข่นกกระทาแทน

บางที การที่เราพออธิบายได้ว่า สิ่งที่เรากำลังจะต้มผัดแกงทอด ฯลฯ ต่อไปนี้ มันมี “ราก” ที่อ้างอิงได้ พูดง่ายๆ คือไม่ได้มั่วนิ่ม ก็ช่วยเรียกความมั่นใจได้ไม่น้อยนะครับ

ถ้ามั่นใจกันแล้ว ก็เริ่มทำ “หมูพะโล้ปลาเค็ม” ของเราเลยดีกว่า ค่อยๆ เตรียมไปทีละอย่างครับ เช่นว่า หั่นหมูเป็นชิ้นใหญ่ๆ ต้มไข่นกกระทาในหม้อน้ำจนสุก ปอกเปลือกไว้

ทอดปลาอินทรีเค็ม แล้วทำใจแข็งไว้ อย่าได้ซอยพริกซอยหอมบีบมะนาวลงไปเป็นอันขาด เดี๋ยวเผลอกินหมดซะก่อน

1

ทอดเต้าหู้แข็งพอให้ผิวนอกเกรียมๆ

ตัดตะไคร้ ทุบพอแตก หัวกระเทียมปอกเปลือกแค่เกลาๆ เอาปลายมีดจิ้มให้เป็นรูทั้งหัว

เตรียมรากผักชี เกลือ พริกไทยดำบุบ น้ำตาลอ้อย และซีอิ๊วดำหวานดำเค็ม เพื่อ “แปลงร่าง” สูตรของคุณประยูรให้มีความเป็นพะโล้มากขึ้น

ผมเพิ่มพริกขี้หนูแห้งเม็ดใหญ่ เพื่อให้มีรสเผ็ดแหลมแทรกบ้างนิดหน่อยด้วยครับ

พอเตรียมครบแล้ว ก็เอาชิ้นหมูสามชั้นลงผัดในกระทะน้ำมัน เติมเกลือ ซีอิ๊วดำหวานดำเค็ม เพื่อย้อมสีหมูให้คล้ำสวยสักครู่ จึงวางชิ้นปลาเค็มให้เข้าที่เข้าทาง สลับด้วยหัวกระเทียม พริกไทย รากผักชี พริกแห้ง และท่อนตะไคร้ทุบ แล้วเติมน้ำให้ท่วม ทยอยใส่เต้าหู้ทอด ไข่นกกระทา เติมน้ำตาลปรุงรสหวานได้อีกหน่อยถ้าชอบ

ต้มรุมไฟอ่อนไปราว 2 ชั่วโมง คอยเติมน้ำไว้อย่าให้แห้ง กับชิมให้ได้รสเค็มหวานอย่างที่ต้องการ ทั้งหมู ปลาเค็ม เครื่องปรุง และน้ำพะโล้จะค่อยๆ จัดการตัวเองให้รสชาติกลมกลืนกัน โดยที่เราไม่ต้องห่วงเรื่องการปรุงสักเท่าไหร่หรอกครับ

พอหมูสามชั้นเปื่อยนุ่มดีแล้ว มันจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของตะไคร้ เจือรสเค็มลึกๆ และกลิ่นยั่วยวนของปลาเค็มอบอวลไปทั้งหม้อ แถมไข่นกกระทาก็ให้เนื้อสัมผัสกรุบกรอบที่แปลกออกไป มีรสเผ็ดพริกแซมแทรกเล็กน้อย เรียกว่าจิตวิญญาณของกับข้าวหลายจานดูจะมารวมกันอยู่ที่นี่

พะโล้ของเราหม้อนี้ ถึงจะแปลก แต่ย่อมอร่อยถูกปากแน่นอนครับ

ที่มา : มติชน

ผู้เขียน : กฤช เหลือลมัย

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 สิงหาคม ที่ลานฟู้ดวอล์ค พลาซ่า ชั้น G ศูนย์การค้าเมกาบางนา ศูนย์การค้าเมกาบางนา สุดยอดแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่พบปะสังสรรค์แห่งย่านกรุงเทพตะวันออก ร่วมกับ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน(มติชนอคาเดมี) สร้างปรากฎการณ์ความอร่อย เปิดงาน  “เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019” ภายใต้แนวคิด“Eat Like A Local”  จัดโดยมติชนอคาเดมี ตั้งแต่วันนี้ – 12 สิงหาคม โดยมีคุณสิรินฉัตร แสงศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา และ คุณสกุณา ประยูรศุข ผู้อำนวยการมติชนอคาเดมี ร่วมเปิดงาน

โดยงาน  “เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019” ได้รวบรวมกว่า 30 ร้านอร่อยระดับตำนานมาไว้ในแห่งเดียว ให้สายชิม สายช้อป ได้มารวมตัวกันอิ่มอร่อยและฟินสุดๆ กับเมนูอร่อย หาทานยากที่ทุกคนรอคอย อาทิ ร้านเฮียจกโต๊ะเดียว, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวนายหมี วัดหนามแดง, ขนมไทยป้าเยาว์ 

เจ้าเก่าติวานนท์ ฯลฯ พร้อมสนุกสนานกับเวิร์คช้อปพิเศษต้อนรับเทศกาลวันแม่ อาทิ เวิร์คช้อปการชงชาเฉพาะบุคคล การทำ DIY โปสการ์ดแม่-ลูก การทำเจลลี่ดอกไม้ และการประดิษฐ์ช่อดอกมะลิ ฯลฯ

คุณสิรินฉัตร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดเผยว่า ด้วยแนวคิดของศูนย์การค้าเมกาบางนา ที่นำเสนอการเป็น  “Meeting Place” สุดยอดแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่พบปะสังสรรค์แห่งย่านกรุงเทพตะวันออก รองรับทุกเจนเนอเรชั่น ตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงกลุ่มคนสูงอายุ โดยกิจกรรมสำคัญที่เป็นศูนย์รวมของทุกคน ในครอบครัว คือ การมาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์แห่งความสุขร่วมกัน ดังนั้นศูนย์การค้า               เมกาบางนา จึงเป็น Food Destination แห่งกรุงเทพตะวันออกที่รวบรวมร้านอาหารกว่า 165 ร้าน ทั้ง ร้านอร่อย ร้านชิล ร้านฮิตอินเทรนด์ และร้านชื่อดังในตำนาน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกรับประทานได้หลากหลายในทุกๆ โอกาส

“โดยงาน “เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019 เรามีความตั้งใจจะสร้างสีสันแห่งความสุข ความอร่อยในรสชาติ และ มอบประสบการณ์ใหม่ๆ ในการมารับประทานอาหารที่เมกาบางนาให้กับลูกค้า พร้อมทั้งกระชับความสัมพันธ์ครอบครัว เนื่องในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนแห่งวันแม่อีกด้วย”คุณสิรินฉัตรกล่าว

ทั้งนี้ คุณสิรินฉัตรและคุณสกุณา ยังได้ร่วมพูดคุยถึงแนวคิด Eat Like a Local ด้วย

โดยคุณสิรินฉัตร กล่าวว่า โดยส่วนตัวเป็นสายหวาน สายขนม ชอบขนมไทย พอรู้ว่าเครือมติชนนำขนมหม้อของป้าเยาว์ร้านอร่อยมาออกบูธในงานนี้ก็รู้สึกดีใจที่ได้ทาน

คุณสิรินฉัตร แสงศรี
จก โต๊ะเดียว
จก โต๊ะเดียว

ด้านคุณสกุณา กล่าวว่า ถ้าถามว่าเมนูสุดโปรดคืออะไร ตอบยากที่สุดในชีวิต เพราะชอบรับประทานชอบชิมอาหารอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้ตอบจริงๆ ชอบเมนูเส้นทุกชนิด ทุกอย่าง

ส่วนเทรนด์อาหารที่กำลังมาในตอนนี้ คุณสกุณา บอกว่า ยังคงเป็นอาหารสุขภาพ ปัจจุบันคนยังห่วงใยสุขภาพตัวเองมาก ก่อนจะกินอาหารจะดูก่อนว่าอันตรายไหม ปลอดภัยไหม เชื่อว่าเทรนด์อาหารสุขภาพยังคงอยู่และยังอยู่ต่อไปอีกหลายปี

นอกจากนี้ เฮียจก – สมชาย ตั้งสินพูลชัย ได้โชว์สาธิตการทำเกี๊ยวกุ้ง ที่เพิ่งได้รับมิชลินไกด์ มาหมาดๆ โดยเฮียจก เผยถึงเคล็ดลับการก้าวมาสู่ร้านอร่อยระดับตำนาน คือ 1.คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี 2.ต้องมีเทคนิคการทำ และ3.ทำด้วยใจ

แยม ฐปณีย์

ด้าน แยม ฐปณีย์ เอียดศรีชัย ผู้สื่อข่าวชื่อดัง ที่มาออกบูธร้านขนมจีนบ้านพี่แยม กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการทำขนมจีนมาจาก เป็นคนจ.สงขลา จึงชื่นชอบอาหารใต้เป็นพิเศษอยู่แล้ว และเรามีสูตรพิเศษขนมจีนน้ำยา ลองทำให้เพื่อนกิน และเพื่อนเชียร์ให้เปิดร้าน จึงเป็นที่มาของขนมจีนบ้านพี่แยม ของเราจะเป็นสูตรพิเศษนอกจากขนมจีนน้ำยาปลาแล้ว เรายังใส่ปู และซีฟู้ด มีให้เลือกหลายแบบด้วย รสชาติของเราจะไม่เผ็ดมากอย่างอาหารใต้ จะเผ็ดกลางๆเพื่อให้คนภาคกลางทานได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงาน “เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019” ได้รวบรวมเอาร้านดังร้านเด็ดที่เป็นไฮไลท์ตามแนวคิด “Eat Like A Local” กว่า 30 ร้านอร่อย ทั้งอาหารหลัก ขนมหวาน และเครื่องดื่มสูตรพิเศษ อาทิ ร้านเฮียจกโต๊ะเดียว, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวนายหมี, ขาหมูกรอบ บาย เชฟเดย์, ดีว่ะ แหนมเนือง, ร้านถนัดหอย, ร้านขนมจีนบ้านพี่แยม(ฐปณีย์) , ขนมไทยสูตรต้นตำรับ ขนมไทยป้าเยาว์ เจ้าเก่าย่านติวานนท์,

ร้านพริกไทยสด Peppercorn อาหารใต้รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน , ร้าน Grün cafe’& Eatery และ ร้าน Piset Restaurant Phuket เป็นต้น พร้อมทั้งมีกิจกรรมสาธิตแนะนำวิธีการปรุงอาหารเมนูอร่อยจากเชฟคนดังอีกด้วย อาทิ เชฟเฮียจก – สมชาย ตั้งสินพูลชัย และ เชฟแจ็ค – จักรภัทร กีรพัฒนพิบูลย์ จากร้านขาหมูกรอบ บาย เชฟเดย์ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ภายในงานยังจัดเวิร์คช้อปพิเศษต้อนรับเทศกาลวันแม่ อาทิ เวิร์คช้อปการชงชา (Tea Blending) ที่แนะนำการชงชาที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ทั้งชาเขียว ชาขาว ชาดำ และชาอูหลง, การถ่ายทอดความรักความผูกพันของคุณแม่คุณลูก ผ่านการประดิษฐ์โปสการ์ด, เวิร์คช้อปการเจลลี่ดอกไม้ และการทำซุ้มดอกมะลิที่สวยงามเป็นสัญลักษณ์ในวันแม่ เป็นต้น

อีกทั้งยังมอบสิทธิพิเศษสุด! สำหรับสายชิมสายช้อปรับสิทธิประโยชน์ สุดคุ้ม 2 ต่อ คุ้มต่อที่ 1 ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเมกาบางนา (Megabangna) รับฟรีทันที Megabangna Application Shopping Bag ผลิตจากวัสดุกันน้ำได้ ดีไซน์สวยเท่แบบรักษ์โลก และคุ้มต่อที่ 2 สมาชิกเมกาสไมล์รีวอร์ดส กดแลกรับ อี – คูปองส่วนลดสูงสุด 20 บาท สำหรับซื้ออาหารและเครื่องดื่มภายในงาน

สายช้อปสายชิม ห้ามพลาด! ตามรอยอร่อยในสไตล์ Eat Like A Local ในงาน “เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019  จัดโดย เครือมติชน” ตั้งแต่วันนี้ – 12 สิงหาคมนี้ ณ ชั้น G โซนฟู้ดวอล์ค พลาซ่า ศูนย์การค้าเมกาบางนา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-105-1000 และ  www.mega-bangna.com

#Megabangna #เมกาบางนา #MegaFoodTastival

DSCF5789

ใครที่ไหนไม่รู้บอกว่า “กินเรื่องใหญ่ ตายเรื่องกลาง ตะรางเรื่องเล็ก” ช่างเป็นวลีที่เข้าถึงสัจธรรมแห่งชีวิตเสียนี่กระไร เรื่องกินนั้นมันเรื่องใหญ่จริงๆ ไม่เชื่อลองดู ตั้งแต่ “กินเปลี่ยนโลกได้” เป็นการกินที่เน้นกระบวนการผลิตที่สะอาด ไม่เจือปนสารเคมีในการปลูก แปรรูป ไม่สร้างมลพิษให้สิ่งแวดล้อม ให้คนปลูก คนกิน “กินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น” เป็นการรับประทานอาหารแต่ละอย่างในปริมาณที่เหมาะสม จึงเป็นคำตอบของการสร้างสุขภาพที่ดี และก็ยังมี “กินเปลี่ยนโรค” ความหมายบอกตรงตัวอยู่แล้ว และยังมีกินอื่นๆ อีกมากมาย

กินเรื่องใหญ่ที่กำลังจะกล่าวถึง เป็นการไปกินของอร่อย เมนูธรรมดา แต่รสชาติขั้นเทพ เป็นความพิเศษที่เหล่านักกิน นักชิม ไปจนถึงชาวบ้านคนธรรมดาต้องถวิลหา เพราะนี่เป็นงานความอร่อยเทรนด์ใหม่สายโลคอล สตรีทฟู้ดของไทย ที่มารวมตัวกันที่นี่ที่เดียว ประชันกระทะ ตะหลิว ให้ได้ลิ้มรสกันที่งาน “Mega Food Tastival 2019” โดยความร่วมมือของศูนย์อาชีพและธุรกิจ “มติชนอคาเดมี” จับมือกับห้างยักษ์ใหญ่ซีกกรุงเทพฯ ตะวันออก “เมกา บางนา” ระหว่างวันที่ 8-12 สิงหาคม 2562 ช่วงเทศกาลวันแม่แห่งชาติ ที่บริเวณฟู้ดวอล์ก พลาซ่า (Food Walk Plaza) ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกา บางนา

เป็นแนวคิดที่อยากให้นักกิน นักชิมทั้งหลาย ได้รู้จักอาหารโลคัลของไทย เมนูง่ายๆ แต่ได้ความฟิน ทั้งอิ่มทั้งอร่อย ในราคาสบายกระเป๋า โดยรวบรวมกว่า 30 ร้านดังรับประกันความฟินมาไว้ภายในงาน ชนิดได้ยินชื่อแล้วร้อง ว้าว !!!! อยากไปกินในทันใด มีเจ้าไหนบ้างนับนิ้วกันดูได้

พระเอกแรกของงานไม่ใช่ใครที่ไหน “เฮียจก โต๊ะเดียว” แห่งเยาวราช ปัจจุบันได้มิชลิน ไกด์ มาประดับข้างฝา เจ้าของเมนู “เกี๊ยวกุ้ง” อันลือลั่น มางานนี้ไม่ต้องจองถึงปีก็ได้กินแน่นอน เกี๊ยวกุ้งของเฮียจกใครๆ ก็รู้ว่าเป็นหนึ่งในปฐพี แต่จะกินไม่ได้ง่าย มางานนี้เฮียจกเปิดขายให้คนทั่วไปมีโอกาสกินได้อย่างไม่อั้น “…กุ้งที่นำมาทำเกี๊ยวรับรองว่าสุดยอดเขาเรียกกุ้งโอวคัก หาไม่ค่อยได้ส่วนมากมีเท่าไหร่ถูกซื้อไปหมด เนื้อกุ้งชนิดนี้จะอร่อยเด้ง ทำเกี๊ยวแล้วอร่อยมาก..” เสียงเล่าสรรพคุณเกี๊ยวของเฮียจก

จากเฮียจก เป็น “นายหมี” ราชาแห่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เจ้าของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายหมี” วัดหนามแดง-บางพลี จ.สมุทรปราการ ปัจจุบันย้ายร้านมาอยู่ที่ปากซอยลาซาล 54 แต่ความอร่อยยังเทพเหมือนเดิม “นายหมี-อำนาจ พิทยาธร” ปรุงก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรไหหลำกับน้ำซุปรสเด็ด แบบไม่มีผงชูรส และการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างดีในการทำก๋วยเตี๋ยววันละ 100 กิโลกรัม รู้แล้วอย่าเพิ่งเชื่อ แต่อยากให้ไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง

ขึ้นแท่นความอร่อยแบบไม่เลิกรา เป็นเมนู “ขาหมูเยอรมัน By ChefDay” สำหรับคนชอบกินขาหมูทอดแบบกรอบๆ จะกินเป็นกับข้าว หรือกินแกล้มเครื่องดื่ม ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด “เชฟเดย์” เป็นชื่อของร้าน แต่คนทำอาหารคือ “เชฟแจ็ค” หรือ “จักรภัทร กีรพัฒนพิบูลย์” อธิบายขยายความว่า เชฟเดย์ตัวจริงคือชื่อของลูกชายที่หมายมั่นปั้นมือจะให้สืบทอดธุรกิจต่อในอนาคต ขาหมูของเชฟเดย์เลือกใช้เฉพาะขาหลัง เพราะเนื้อมาก กระดูกเล็ก ทอดในเตาที่สั่งทำโดยเฉพาะ เป็นขาหมูที่ส่วนหนังกรอบฟู และกรอบอยู่นานถึง 8 ชั่วโมง กินกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่เจ้าของคิดขึ้นเอง ไม่ใช้น้ำส้มสายชู ไม่ใส่ผงชูรส ใครกินแล้วน้ำตาไหล เพราะความอร่อยที่เพิ่งค้นพบนั่นเอง

เกี๊ยวกุ้ง เฮียจก โต๊ะเดียว
เกี๊ยวกุ้ง เฮียจก โต๊ะเดียว
นายหมี-อำนาจ พิทยาธร
ขาหมูเยอรมัน By ChefDay
ขาหมูเยอรมัน By ChefDay

เทรนด์ใหม่มาแรงสำหรับคนยุคนี้ เป็นอาหารจานหอยของร้าน “ถนัดหอย” เปิดขายอยู่ที่ ฟู้ดวิลล่า มาร์เก็ต ย่านราชพฤกษ์ เจ้าของ “ออมสิน จันทร์ทองใบ” อยากประลองความอร่อยท้าพิสูจน์กับคนชอบกินหอย จึงยกร้านพร้อมน้ำจิ้มแซ่บสูตรโบราณมาร่วมแจม ขายหอยแครงของไทยชนิดไม่เคยหากินได้ที่ไหนมาก่อน เป็นหอยแครงลวกกันสดๆ ทุกวัน จะเอาแบบแรร์, มีเดียม หรือกำลังกิน เลือกได้ตามใจ “แบงค์-ออมสิน” เจ้าของร้านบอกว่าเราไม่ได้ขายอย่างเดียว แต่เน้นคุณภาพ ความสด สะอาด ของหอย อยากให้คนกินของดี กินได้ทุกตัว กว่าจะทำเมนูออกมาได้ต้องศึกษาเรื่องหอยอยู่หลายปี เพื่อให้สมกับชื่อร้านถนัดหอย จึงอยากชวนไปกินหอยแกล้มผักบุ้งดอง เป็นเจ้าเดียวในประเทศไทย

เมนูเด็ดร้านถนัดหอย

นอกจากนี้ ยังเอาใจคนรักอาหารใต้ ด้วยเมนูข้าวเเกงปักษ์ใต้รสเด็ด จาก “ร้านพริกไทยสด” เจ้าของร้านเป็นวัยรุ่นคุณพ่อลูกหนึ่ง รับสืบทอดวรยุทธ์จากพ่อจนฝีมือฉกาจ เปิดร้านเอาใจคนชอบอาหารไทยแกล้มไวน์ ที่ สนามกอล์ฟกรุงเทพ กรีฑา เมนูชวนน้ำลายหก มีตั้งแต่ แกงเหลืองหน่อไม้ปลากะพง, ใบเหลียงผัดไข่, ยำใบเหลียงทอดกรอบ, หมูคั่วเคย, แกงไตปลา, พริกขิงปลาดุกฟู, แกงไก่ใบยี่หร่า ฯลฯ รับรองความอร่อยทุกเมนู “พลุ-กฤติพันธ์ พงษ์จีน” ปกติไม่ชอบไปออกร้านที่ไหน แต่เพื่อพี่ๆ งานนี้เสียหน้าไม่ได้

เมนูที่ไม่ต้องรอให้ชวนก็ควรไปกิน เป็นฝีมือของนักข่าวสาวที่ผันตัวมาเปิดร้านขายขนมจีน ชื่อ “ขนมจีนบ้านพี่เเยม-ฐปณีย์ เอียดศรีชัย” นักข่าวสาวชื่อดังฝึกปรือจับทัพพีจนได้ดีกรีระดับ 5 ดาว มาเปิดหม้อน้ำยาปักษ์ใต้ขายขนมจีน ใครไม่เชื่อก็ต้องซื้อไปลอง แล้วจะรู้ว่าขนมจีนบ้านพี่แยม เด็ด เผ็ด ดุ ยิ่งกว่าการเจาะข่าวเป็นไหนๆ

เสร็จจากของคาว วกเข้าของหวาน ต้องยกนิ้วให้ “ขนมไทยป้าเยาว์ เจ้าเก่าติวานนท์” “ป้าเยาว์-พะเยาว์ กฤษแก้ว” อาจารย์สอนทำขนมไทย ประจำการอยู่ที่ “มติชนอคาเดมี” ฝีมือระดับปรมาจารย์ ไม่ว่าขนมไทยชนิดไหน ทั้งขนมหม้อ ขนมถาด ขนมนึ่ง ไม่มีคำว่าไม่อร่อย จนได้ฉายา “ป้าเยาว์ขนมไทยร้อยหม้อ” และด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู “ป้าเยาว์” บอกไว้ว่าการทำขนมใช่ว่าจะคิดแต่กำไร-ขาดทุน แต่ต้องคิดถึงลูกค้า คนกิน ต้องให้เขาได้กินของดีมีคุณภาพ ใส่ใจทุกเรื่องรายละเอียด ทุกขั้นตอน และวัตถุดิบต้องสด ใหม่ อย่าไปขี้เหนียว ขนมหวานป้าเยาว์จึงเป็นเมนูห้ามพลาดในชาตินี้

ที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างเรียกน้ำย่อยแค่ 1 ใน 3 ของงาน วันจริง ของจริง ยังมีเมนูจากร้านคุณภาพที่คัดสรรมางานนี้โดยเฉพาะ ไม่มีมั่ว รับรองคุณภาพเน้นๆ ออกชื่อได้แบบไม่ลังเล อาทิ ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเส้นปลาโกอ่าง” ร้าน “ซี่โครงปราณ” สูตรโบราณจาก อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปูเเน่นๆ กับร้าน “Viya Crab” ชาเย็นเเก้วยักษ์สุดฮิปสเตอร์ โดยร้านพิเศษเเห่งภูเก็ต กาเเฟไข่ไก่อารมณ์ดี GrÜn cafe&Eatery, เบเกอรี่ฝีมือเชฟญี่ปุ่น ร้าน “Brainwake” เครื่องดื่มละมุนจากร้าน “In.Vi.Tation Café” ย้อนยุคไปชิมขนมไทยต้นตำรับกับร้าน “ขนมบ้านคุณยาย” อื่นๆ อีกมากมาย..อีกมากมาย

กินอิ่มแล้วยังมีกิจกรรมให้เพลิดเพลิน ชมการสาธิตสูตรอาหารจากร้านระดับตำนาน และเชฟดังร้านอร่อย สนุกสนานกับการทำเวิร์กช็อปพิเศษต้อนรับวันแม่ อาทิ Tea Blending การทำโปสการ์ดร้อยรักแม่-ลูกผูกพัน การทำเจลลี่ดอกไม้ และการทำช่อดอกมะลิ ไม่พลาดมินิคอนเสิร์ตสบายอารมณ์ เเถมร่วมใจรักษ์โลกรวมพลังรียูสกับ ZeroMoment Refillery ร้านเเนวใหม่ สไตล์ Zero Waste และ Refund Machine สำหรับนักกิน นักช้อปยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งเเวดล้อม เชิญชวนตามลายแทงความอร่อยในงานเมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019 วันที่ 8-12 สิงหาคม 2562 เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. 5 วันเต็ม

ขนมจีนบ้านพี่แยม
ขนมจีนบ้านพี่แยม
ขนมไทยป้าเยาว์
ดีว่ะแหนมเนือง
ดีว่ะแหนมเนือง
ซี่โครงปราณ
ซี่โครงปราณ

ลายแทงความอร่อยร้านดัง เตรียมพุงให้พร้อม

JOK โต๊ะเดียว, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายหมี, ขาหมูเยอรมัน By Chef Day, ขนมหวานร้อยหม้อป้าเยาว์, กาแฟไข่ GrÜn cafe&Eatery, ถนัดหอย, ดีว่ะแหนมเนือง Deva namnueng, ไก่ทอดเกาหลี By Matichon Academy, ร้านปู Viya Crab, ชาเย็นแก้วยักษ์ ร้านพิเศษ Piset Cafe, กิฟท์ ซาลาเปาทับหลี, ซี่โครงปราณ Sikrongpran จาก อ.ปราณบุรี, กาแฟสดรสละมุน อิน.วิ.เทชั่น คาเฟ่ In. Vi. Tation Café, นมปังโกเบจาก BRAINWAKE CAFE, ข้าวแกงปักษ์ใต้ร้านพริกไทยสด, ขนมจีนบ้านพี่แยม Baan P’Yam, Farmhouse รอยัลเบรด ปังเย็น, หมึกย่างต่อเเถว, ขนมบ้านคุณยาย Baankhunyai, เผ๊ดดเผ็ด!! (น้ำพริก&ปูดอง), ก๋วยเตี๋ยวโกอ่างเส้นปลา, หมูปิ้งนมสดรวยเป็นล้าน, เมี่ยงกลีบบัวบ้านสวน, น้ำสมุนไพรเเฟนซี

ผู้เขียน : กรรณิการ์ ฉิมสร้อย

 

ของอร่อยที่จะชวนไปชิมในสัปดาห์นี้อยู่แถวๆ ถนนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ชื่อร้าน SAME SAME By Chef Bob เจ้าของร้านคือคุณอนันตยา ธัญญผล หรือคุณเอ็กซ์

เชฟใหญ่ของร้าน ชื่อเชฟบ๊อบ ไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นสามีของคุณเอ็กซ์นั่นเอง เชฟบ๊อบมีชื่อจริงว่าคุณพงษ์ประพันธ์ นามภักดี เป็นชาวจังหวัดศรีสะเกษ เริ่มทำงานในร้านอาหารมาตั้งแต่ตำแหน่งพนักงานล้างจาน

ค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์การทำงานมาเรื่อยๆ มาเป็นผู้ช่วยเตรียมวัตถุดิบในร้านอาหารสไตล์อเมริกัน แล้วย้ายไปทำงานร้านอาหารอิตาเลียนในตำแหน่งผู้ช่วยกุ๊ก เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นกุ๊ก เป็นซูเชฟ จากนั้นมาเป็นเชฟ ประจำอยู่ที่ร้านอาหารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง นานถึงสิบสองปี

เมื่อมีโอกาสฤกษ์งามยามดี ในช่วงปลายปี พ.ศ.2561 จึงลาออกมาทำกิจการของตัวเองกับภรรยา โดยใช้ชื่อร้านว่า SAME SAME By Chef Bob

รายการอาหารของทางร้าน มีหลากหลาย ทั้งพิซซ่า สปาเกตตี สเต๊ก และกับข้าวแบบไทยๆ ถ้าได้เปิดเมนูดู จะเห็นว่ามีให้เลือกมากมาย สุดแท้แต่ใครจะชอบแนวไหน

ของอร่อยที่อยากชวนให้ลองชิม ได้แก่ พิซซ่าแป้งบางกรอบ มีให้เลือกหลายหน้า เช่น แซลมอนรมควัน แฮมชีส คาโบนาร่า ทะเล ไส้กรอกอิตาเลียน จะสั่งแบบสองหน้าในถาดเดียว เชฟก็จัดให้ได้

เปาะเปี๊ยะแฮมชีส ทอดมันกุ้ง ยำถั่วพูปูนิ่ม ยำมะเขือยาวทะเล หมูมะนาว ขาหมูเยอรมันทอด มันบดกับผักโขมเบคอนราดซอสเกรวี่ ปลาแซลมอนย่างซอสพริกไทยดำ สปาเกตตีปูนิ่มคั่วเกลือ ปลากะพงนึ่งผักน้ำพริก สะตอผัดกะปิกุ้ง ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ ซี่โครงหมูนึ่งเต้าเจี้ยว ไข่ตุ๋นทะเลหม้อไฟ

ของหวานแนะนำ ไอศกรีมทีรามิสุ เครปซูเซทกับไอศกรีม พานาคอตต้า กล้วยอบน้ำผึ้งทอดกับซอสวานิลลา

เครื่องดื่ม มีน้ำมะพร้าวเกล็ดน้ำแข็ง น้ำส้มสด น้ำเสาวรส น้ำตะไคร้

2
4

SAME SAME By Chef Bob อยู่ใกล้สี่แยกท่าอิฐ-ไทรม้า ถ้าไปจากสี่แยกแคราย ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ลงสะพานไปแล้วใช้ช่องทางด้านซ้าย เพื่อเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกท่าอิฐ ตรงเข้าไปนิดเดียว จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปจอดในลานจอดรถได้เลย

ที่นั่งในร้าน มีทั้งในห้องปรับอากาศ และบริเวณรับลมธรรมชาติใต้ร่มไม้

เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 น. ถึง 23.00 น. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-7059-3653

เมื่อไม่กี่วันก่อน ได้ไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารอีสานแถบเชิงสะพานอรุณอมรินทร์ ฝั่งธนบุรี กับรุ่นพี่ที่เคารพนับถือ แล้วมีคนสั่งแกงแบบลาวๆ ชามหนึ่งมากินกัน พอได้กิน ก็ระลึกชาติขึ้นมา ว่าเราไม่ได้ทำแกงนี้กินมานานแค่ไหนแล้วนะ ทั้งๆ เป็นของอร่อย ทำง่าย แถมมีประโยชน์มากๆ

สำรับที่ว่านี้ก็คือ แกงเห็ดรวมŽ ครับ เหมาะกับช่วงต้นถึงกลางฤดูฝน เพราะตอนนี้ตลาดสดบ้านๆ ยังพอมีเห็ดป่าเห็ดทุ่งหลายชนิดขายให้กินอยู่ หรือแม้แต่กรณีคนเมือง เดี๋ยวนี้ผมก็เห็นว่า ไม่ว่าจะตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือรถพุ่มพวงที่วิ่งเข้าออกขายกับข้าวสดตามหมู่บ้านจัดสรร มักมีเห็ดขายทั้งแบบแยกชนิดและแบบรวมหลายอย่างในแพคเดียว นับว่าสะดวกแก่การทำแกงนี้มากเลย

คนที่ชอบอาหารอีสาน แล้วชอบแกงอีสานรสอ่อน โปร่ง เบา อยากกินผักกินเห็ดเยอะๆ รับรองว่าไม่ผิดหวัง สูตรที่จะชวนทำวันนี้นับว่าพื้นฐานที่สุดแล้วล่ะครับ

น้ำแกงหลักเราใช้น้ำคั้นใบย่านาง ซึ่งแม้เดี๋ยวนี้เริ่มมีขายสำเร็จเป็นถุงๆ แต่หากเลือกได้ ผมอยากให้หาซื้อใบสดมาล้างให้สะอาด ใส่กะละมัง เติมน้ำ แล้วขยำคั้นด้วยมือไปจนน้ำข้นเขียวอื๋อ ค่อยกรองเอาใบยุ่ยๆ ที่กลายเป็นกากสีขาวซีดๆ นั้นทิ้งไป

ข้นกว่า เขียวกว่า หอมกว่าเยอะครับ ไม่เชื่อก็ลองดู

ของอื่นๆ ก็มีพริกแกง ซึ่งใช้แค่หอมแดง พริกขี้หนูอีสาน (พริกโพน) กับตะไคร้หั่นท่อน เอาลงตำรวมในครกพอแตกๆ ก็ได้แล้ว

เห็ดอะไรที่อยากกิน เอามาล้าง หั่นเป็นชิ้นๆ ตามใจชอบ

ความหอมของน้ำแกง นอกจากตะไคร้ในพริกแกงแล้ว เราใช้ต้นหอม ใบแมงลัก และยอดชะอม

รสหวานแบบธรรมชาติๆ มาจากฟักทองมันๆ หน่อไม้ต้ม และบวบหอมครับ

หม้อนี้ ผมปรุงเค็มด้วยเกลือและน้ำปลา แต่ลูกอีสานตัวจริงเสียงจริงคงพึงใจน้ำปลาร้ามากกว่า ก็เลือกใช้ได้ตามชอบ

ไม่ต้องใส่เนื้อสัตว์อะไรหรอกนะครับ เห็ด ฯลฯ และผักหญ้าสดๆ ขนาดนี้ย่อมจะให้รสหวานโปร่งๆ แบบที่หากเรากินจนคุ้นลิ้นไปสักพัก ทีนี้ต่อไปจะโหยหาเลยเชียวแหละ

เริ่มทำโดยยกหม้อน้ำคั้นใบย่านางเขียวอื๋อนั้นตั้งไฟ ใส่พริกแกง หน่อไม้ เกลือ น้ำปลา ต้มเคี่ยวไฟอ่อนไปสัก 10 นาที จึงเริ่มใส่ฟักทอง กับเห็ดที่เนื้อไม่เละ อย่างเช่นเห็ดหูหนู เห็ดฟาง

ดูว่าชิ้นฟักทองเริ่มสุกไล่จากผิวเข้าไปได้สักครึ่งหนึ่ง จึงใส่บวบหอม ยอดชะอม และต้นหอม

พอบวบเริ่มนุ่ม ซึ่งหมายความว่าฟักทองใกล้สุกเต็มที่ ใส่เห็ดดอกอ่อนที่เหลือ และใบแมงลัก ชิมรสให้เค็มอ่อนๆ โดยเติมเกลือหรือน้ำปลา

1
3

ถ้าเพิ่งทำครั้งแรกอาจแปลกใจ ทำไมรสหวานมันมาจากไหน ก็มาจากเห็ด หน่อไม้ บวบ และโดยเฉพาะฟักทองนั่นเองครับ เมื่อไม่มีเนื้อสัตว์อะไรมาชิงรส แกงนี้จะออกโปร่งๆ รสอ่อนๆ และทำให้ลิ้นเรารับรู้รสผักและเห็ดสดๆ ได้อย่างเต็มที่

ไม่กี่อึดใจหลังใส่ใบแมงลัก กลิ่นหอมอบอวลอันเป็นเอกลักษณ์ของแกงอีสานจะโชยขึ้นมาจนแทบอดใจไม่ไหว ยกลงกินได้เลยครับ

แกงที่เราลงมือคั้นใบย่านางเองจะน้ำเขียวอื๋อ หอมหวาน ได้ความสดใหม่จริงๆ สูตรที่ทำนี้เป็นแบบง่ายที่สุด บางคนอาจเพิ่มข้าวเบือ (ข้าวเหนียวแช่น้ำจนพอง) โขลกในพริกแกงนิดหน่อย หรือละลายน้ำแป้งข้าวเหนียวใส่ตอนใกล้เสร็จ เพื่อเพิ่มความข้นของน้ำแกงได้

ใครจะเพิ่ม จะลด สลับสับเปลี่ยนผักสดหรื อเห็ดก็คงสนุกดี แต่ขอให้ลองคิดถึงรส กลิ่น และความ เบาŽ อันเป็นเอกลักษณ์ของแกงเห็ดรวมนี้ไว้สักหน่อย เพราะถ้าเราใช้ผักกลิ่นแรงๆ บางทีมันก็อาจ หนักŽ เกินไปสำหรับแกงที่ไม่ได้ปรุงใส่เนื้อสัตว์น่ะครับ

อย่างไรก็ดี ทัพพีเมื่ออยู่ในมือเรา เดี๋ยวเราก็รู้เองแหละครับ ว่าเราชอบกินรสอะไรยังไงแบบไหน

ที่มาเสาร์ประชาชื่น มติชนรายวัน
ผู้เขียนกฤช เหลือลมัย

หนึ่งในเมนูขวัญใจสายเฮลท์ตี้ ต้องแหนมเนือง ที่อุดมไปด้วยผักสารพัดประโยชน์ กินคู่กับหมูและน้ำจิ้มรสเด็ด

มองหาร้านแหนมเนืองอร่อยๆ แหนมเนืองสูตรคลีน หมูยอใช้เนื้อหมูล้วน100% ไม่ผสมแป้ง ไม่ใส่สารกันบูด ผักปลอดสาร แนะนำร้าน DEVA Namnueng แหนมเนืองสูตรโบราณ ร้านที่เห็นชื่อแล้วเหมือนนักร้องดังสาย DEVA แต่จริงๆแล้ว เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย คือ ร้านดีว่ะแหนมเนือง มีคุณพัทธนันท์ นิติไชยโรจน์ และคุณชาญชัย เอกไพศาลกุล หนุ่มสาวรุ่นใหม่วัยเพียง30เศษ เป็นผู้ดำเนินกิจการ พิกัดอยู่ที่ ฟู้ดวิลล่าราชพฤกษ์ ล๊อคe044

ที่นี่ประทับใจตรงที่ไม่หวงเครื่อง จัดหนัก จัดเต็มทุกอย่าง!!

            

ผักใบเขียวสดๆล้างสะอาดน่ารับประทาน ทั้งผักแพรว ใบสะระแหน่ ใบโหระพา ผักกาดหอม รวมถึงกล้วยน้ำว้าดิบ มะเฟืองหวาน กระเทียม พริก โดยผักทั้งหมดเป็นผักปลอดสารพิษที่ส่งตรงจากสวน นำมาล้างหั่นและฝานเอาไว้ให้พอดีคำคาราวานมากันครบเซ็ต

ส่วนหมูที่กินคู่กับแหนมเนือง อย่างที่บอกเขาใช้หมูล้วนจริงๆ กินแล้วรู้เลยว่าไร้แป้ง และกลิ่นหอมกว่าหมูยอทั่วไป ถามไปถามมาได้ความว่าทางร้านใช้พริกไทยดำเป็นส่วนผสมจึงทำให้หอมเย้ายวนมากขึ้น พอราดด้วยน้ำจิ้มรสหวานเปรี้ยว ตัดกับรสเค็มนิดๆของหมู มันโดนมากอ่ะ อร่อยจนหยุดไม่อยู่จริงๆ

นอกจากนี้ ร้านดีว่ะแหนมเนือง ยังขายหมูยอที่ทำเองด้วย มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งหมูยอเนื้อล้วน และหมูยอเนื้อผสมหนัง รวมทั้งยังมีหมูยอที่ทางร้านคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน คือ หมูยอแหนมใบมะยม เนื้อหมูยอจะหอมใบมะยมและมีรสเปรี้ยวอ่อนๆ สูตรนี้เลิฟเลย ดีต่อใจมากมาย อยากให้ได้ลิ้มลอง

สำหรับคนที่จะซื้อแหนมเนือง ทางร้านขายราคาชุดละ180บาทมีหมู4ไม้และผักครบเซ็ต โดยผักจะล้างและฝานไว้ให้พร้อมรับประทาน หรือใครอยากกินเป็นคำ ก็มีแหนมเนืองโรลพร้อมกินห่อไว้ให้สำเร็จ ขายกล่องละ90บาท

และถ้าใครอยากซื้อแหนมเนืองแพ็คส่งพัสดุไปให้ญาติพี่น้องแต่กลัวจะเสียก่อนถึงผู้รับ หายห่วงจ้า เพราะหมูที่กินกับแหนมเนือง หลังจากย่างแล้วทางร้านจัดทำแพ็คเกจอย่างดี ซิลเป็นสุญญากาศ ถ้าเข้าตู้เย็นช่องฟรีซ เก็บได้นานถึง3สัปดาห์ ถ้าแช่ไว้ในตู้เย็นปกติอยู่ได้นาน7วัน

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูปอเปี๊ยะทอด เนื้อหมูแน่นทะลัก ฟินเว่อร์ ขายกล่องละ60บาท เป็นเมนูเด็ดด้วย

4

ใครสนใจแวะมาลิ้มลองได้ที่ร้านดีว่ะแหนมเนือง ฟู้ดวิลล่าราชพฤกษ์ ล๊อคe044

ล่าสุดทางร้านจะไปออกบูธในงาน เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019” ( Mega Food Tastival 2019 )

จัดโดยมติชนอคาเดมี วันที่ 8-12 สิงหาคมนี้

ณ เมกา ฟู้ดวอล์ค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา

สายคลีนห้ามพลาดนะจ๊ะ!!

ขาหมูอะไรยิ่งอุ่นยิ่งฟูกรอบ

คำตอบเดียวเลย คือ ขาหมูกรอบ by Chef Day ขาหมูกรอบเกรดพรีเมียมไร้มัน ไม่มีสารปนเปื้อน ที่คุณแจ็ค จักรภัทร กีรพัฒนพิบูลย์ หรือที่ใครๆรู้จักในชื่อเชฟเดย์ ปลุกปั้นมากับมือ ด้วยสไตล์การเฉาะขาหมูแบบคล่องแคล่วทะมัดทะแมง โดยคุณแจ็คกล้าการันตีว่า ขาหมูกรอบ by Chef Day เป็นขาหมูเกรดพรีเมียมที่มีหนึ่งเดียวในเอเชีย

แล้วขาหมูกรอบหนึ่งเดียวในเอเชีย เป็นยังไง?

คุณแจ็ค เผยว่า ขาหมูกรอบ by Chef Day จะเน้นวัตถุดิบชั้นดีนำก่อนเป็นอันดับแรก เราจะใช้ขาหมูเกรดพรีเมียมไม่มีมัน ขอบหนังจะมีแต่คอลลาเจนเท่านั้น จึงทำให้เวลานำมาอุ่น จะฟูกรอบ ต่างจากขาหมูเยอรมันทั่วไปที่มีมันติดอยู่ เวลาอุ่นจะแข็งขึ้น ที่สำคัญวัตถุดิบทุกอย่าง เราเฟ้นหาแต่วัตถุดิบชั้นดีจากในประเทศไทย ซึ่งต่างประเทศไม่มี จึงมั่นใจว่าขาหมูกรอบของเรามีหนึ่งเดียวในเอเชีย และปัจจุบันชาวต่างชาติสนใจมาซื้อมากขึ้น ผมเคยไปออกบูธที่ห้างดังแห่งหนึ่ง

กลางกรุง มีชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาซื้อเยอะเลย โดยขาหมูกรอบของเราอยู่นอกตู้เย็นได้ 2-3 วัน ถ้าเก็บในฟรีซ อยู่ได้นาน 1 ปี

“นอกจากนี้ในส่วนของน้ำจิ้มขาหมูกรอบ เราจะไม่ใช่ส่วนผสมที่มาจากการหมักเลย ไม่มีสารปนเปื้อน ไม่ใส่น้ำส้มสายชู ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สารกันบูด โดยรสเปรี้ยวจะใช้มะนาวสดและน้ำมะขามแทน ส่วนความหวานเราจะใช้น้ำตาลปี๊บ ไม่ใช้น้ำตาลทราย โดยใช้เวลาเคี่ยวน้ำจิ้มด้วยไฟต่ำนาน 12 ชั่วโมง น้ำจิ้มของเราสามารถเก็บในฟรีซได้นาน 6 เดือนเป็นอย่างน้อย”คุณแจ็คเผย

สำหรับผู้สนใจ ติดต่อสั่งซื้อได้ทาง เพจเฟซบุ๊ก ขาหมูกรอบ บายเชฟเดย์ Thailand , Line ID : by-chefday หรือ โทร 0923897222 ทางร้านจัดส่งแบบโฟรเซน ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ขาหมูกรอบ by Chef Day จะมาออกบูธให้ได้ลิ้มลอง ที่งาน เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019 (Mega Food Tastival 2019) จัดโดยมติชนอคาเดมี วันที่ 8-12 สิงหาคมนี้ ณ เมกา ฟู้ดวอล์ค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา

เหล่านักชิม นักรีวิว ห้ามพลาด!! เพราะนอกจาก ขาหมูกรอบ by Chef Day แล้ว ยังมีอีก 30 ร้านอร่อยทุกทิศทั่วไป มารวมตัวประชันของดีเด็ดโดน งานนี้งานเดียวเท่านั้น ไปอิ่มพุงกางด้วยกันนะคะ

1
3

กาแฟไข่เวียดนาม แค่เอ่ยชื่อหลายคนคงตั้งคำถามว่ากินเข้าไปแล้วจะมีกลิ่นคาวไข่หรือไม่ ชงยังไง ใส่อะไรบ้าง รสชาติเป็นอย่างไร?

ของมันต้องลองค่ะ เราตรงดิ่งมาที่ร้าน Grün cafe’& Eatery ของคุณกัญนิกา พร้อมเพรียง หรือพี่ไก่ ได้ยินชื่อเสียงว่าร้านนี้มีกาแฟไข่สูตรหอมมันกลมกล่อม ใช้ชื่อว่า “กาแฟไข่อารมณ์ดี” เป็นเมนู recommend

คุณกัญนิกา เล่าว่า กาแฟไข่อารมณ์ดี เป็นกาแฟร้อน ทำจากไข่แดง จากไข่ไก่อารมณ์ดี ทำอะไรก็ดี ทำอะไรก็อร่อย ในแก้วจะมีเลเยอร์ ชั้นล่างเป็นกาแฟดำ ชั้นบนเหมือนฟองนม แต่จริงๆแล้วเป็นไข่แดงที่ตีผสมกับไซรัปจนเข้าที่ ท็อปด้วยผงโกโก้เป็นรูปหัวใจ

แก้วนี้จิบแรกก็รักเลย กลิ่นหอมของกาแฟสด ลอยขึ้นมาพร้อมๆกับกลิ่นหอมของวานิลลาและโกโก้ และที่เซอร์ไพร์สมากก็คือไม่มีกลิ่นของไข่ หรือกลิ่นคาวไข่เลยสักนิ๊สสสสส

และเสน่ห์ที่น่ารักของกาแฟไข่อีกอย่างก็คือ จะมีฟองติดอยู่ด้านบนปาก ใครเห็นเป็นต้องอมยิ้ม 😉

คุณกัญนิกา เจ้าของร้าน Grün cafe’& Eatery เล่าว่า เริ่มต้นทำกาแฟไข่ขาย เพราะสนใจว่ากาแฟไข่เวียดนามเป็นยังไง เลยศึกษาและคิดสูตรขึ้นมา

“ส่วนผสมจะมีไข่แดง จากไข่ไก่ แต่ของทางร้านจะมีความพิเศษตรงที่ใช้ไข่ไก่จากฟาร์มเปิดธรรมชาติ ที่ส่งตรงมาจากจ.ราชบุรี เป็นไข่จากไก่อารมณ์ดี ไข่แดงเป็นสีแดงสด เนื่องจากเลี้ยงด้วยฟักข้าวและกระถิน เวลานำมาทำกาแฟไข่จะไม่เหม็นคาว ตรงนี้ต่างจากไข่ไก่ที่ขายตามตลาดทั่วไปโดยไข่ไก่ตามตลาดสีจะไม่แดงสด และมีกลิ่นคาวไข่ด้วย

“แต่ละแก้วจะนำไข่มาผสมกับไซรัปเพื่อให้มีความหอมและหวาน อาทิ น้ำผึ้ง น้ำอ้อย วานิลลา ฯลฯ ลูกค้าชอบหวานมากหรือหวานน้อยเราสามารถกำหนดสัดส่วนได้ ในการชงกาแฟไข่อารมณ์ดีแต่ละแก้วเราจะพิถีพิถันมาก ชงให้เห็นเลเยอร์ชัดเจน จะต่างจากกาแฟไข่เวียดนามที่ไม่พิถีพิถันเท่านี้”คุณกัญนิกาเผย

กระซิบให้ฟังนิดนึงค่ะ ใครอยากลิ้มลองกาแฟไข่อารมณ์ดี ตอนนี้ ร้าน Grün cafe’& Eatery จับมือกับ บ้านกล้วยไม้คุณนายแพร&บัวดิน ร้าน Fongkum Art & Cuisine ที่ไชน่าทาวน์ ศาลายา เป็นการรวมตัวอย่างกลมกลืน ของดอกไม้ อาหาร และเครื่องดื่ม เน้นรสชาติธรรมชาติ เพื่อสุขภาพ กายดี ใจสุข

โดยเพิ่มเมนูอร่อย ทั้งอาหารคาว หวาน กาแฟ ขนม เบเกอรี่ ไอศกรีม ที่สำคัญมีเมนูกาแฟไข่อารมณ์ดี ให้ได้ลิ้มลองกันด้วย

13410
13884

ทั้ง3ร้าน ปักหมุดโลเกชั่น ที่ร้าน Fongkum Art & Cuisine ไชน่าทาวน์ ศาลายา

นอกจากนี้ กาแฟไข่อารมณ์ดี ของร้าน Grün cafe’& Eatery จะมาออกบูธให้ได้ลิ้มลอง ที่งาน เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019” (Mega Food Tastival 2019) จัดโดยมติชนอคาเดมี วันที่ 8-12 สิงหาคมนี้ ณ เมกา ฟู้ดวอล์ค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา

ในงานนี้ นอกจากกาแฟไข่อารมณ์ดีแล้ว คุณกัญนิกา ยังมีขนมปังสังขยา ขนม Scone และซอฟท์คุกกี้ แสนอร่อย มาให้กินคู่กับกาแฟด้วย ฟินนาเล่แน่นอนจ้า

S__5939274