ใครที่ไหนไม่รู้บอกว่า “กินเรื่องใหญ่ ตายเรื่องกลาง ตะรางเรื่องเล็ก” ช่างเป็นวลีที่เข้าถึงสัจธรรมแห่งชีวิตเสียนี่กระไร เรื่องกินนั้นมันเรื่องใหญ่จริงๆ ไม่เชื่อลองดู ตั้งแต่ “กินเปลี่ยนโลกได้” เป็นการกินที่เน้นกระบวนการผลิตที่สะอาด ไม่เจือปนสารเคมีในการปลูก แปรรูป ไม่สร้างมลพิษให้สิ่งแวดล้อม ให้คนปลูก คนกิน “กินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น” เป็นการรับประทานอาหารแต่ละอย่างในปริมาณที่เหมาะสม จึงเป็นคำตอบของการสร้างสุขภาพที่ดี และก็ยังมี “กินเปลี่ยนโรค” ความหมายบอกตรงตัวอยู่แล้ว และยังมีกินอื่นๆ อีกมากมาย

กินเรื่องใหญ่ที่กำลังจะกล่าวถึง เป็นการไปกินของอร่อย เมนูธรรมดา แต่รสชาติขั้นเทพ เป็นความพิเศษที่เหล่านักกิน นักชิม ไปจนถึงชาวบ้านคนธรรมดาต้องถวิลหา เพราะนี่เป็นงานความอร่อยเทรนด์ใหม่สายโลคอล สตรีทฟู้ดของไทย ที่มารวมตัวกันที่นี่ที่เดียว ประชันกระทะ ตะหลิว ให้ได้ลิ้มรสกันที่งาน “Mega Food Tastival 2019” โดยความร่วมมือของศูนย์อาชีพและธุรกิจ “มติชนอคาเดมี” จับมือกับห้างยักษ์ใหญ่ซีกกรุงเทพฯ ตะวันออก “เมกา บางนา” ระหว่างวันที่ 8-12 สิงหาคม 2562 ช่วงเทศกาลวันแม่แห่งชาติ ที่บริเวณฟู้ดวอล์ก พลาซ่า (Food Walk Plaza) ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกา บางนา

เป็นแนวคิดที่อยากให้นักกิน นักชิมทั้งหลาย ได้รู้จักอาหารโลคัลของไทย เมนูง่ายๆ แต่ได้ความฟิน ทั้งอิ่มทั้งอร่อย ในราคาสบายกระเป๋า โดยรวบรวมกว่า 30 ร้านดังรับประกันความฟินมาไว้ภายในงาน ชนิดได้ยินชื่อแล้วร้อง ว้าว !!!! อยากไปกินในทันใด มีเจ้าไหนบ้างนับนิ้วกันดูได้

พระเอกแรกของงานไม่ใช่ใครที่ไหน “เฮียจก โต๊ะเดียว” แห่งเยาวราช ปัจจุบันได้มิชลิน ไกด์ มาประดับข้างฝา เจ้าของเมนู “เกี๊ยวกุ้ง” อันลือลั่น มางานนี้ไม่ต้องจองถึงปีก็ได้กินแน่นอน เกี๊ยวกุ้งของเฮียจกใครๆ ก็รู้ว่าเป็นหนึ่งในปฐพี แต่จะกินไม่ได้ง่าย มางานนี้เฮียจกเปิดขายให้คนทั่วไปมีโอกาสกินได้อย่างไม่อั้น “…กุ้งที่นำมาทำเกี๊ยวรับรองว่าสุดยอดเขาเรียกกุ้งโอวคัก หาไม่ค่อยได้ส่วนมากมีเท่าไหร่ถูกซื้อไปหมด เนื้อกุ้งชนิดนี้จะอร่อยเด้ง ทำเกี๊ยวแล้วอร่อยมาก..” เสียงเล่าสรรพคุณเกี๊ยวของเฮียจก

จากเฮียจก เป็น “นายหมี” ราชาแห่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เจ้าของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายหมี” วัดหนามแดง-บางพลี จ.สมุทรปราการ ปัจจุบันย้ายร้านมาอยู่ที่ปากซอยลาซาล 54 แต่ความอร่อยยังเทพเหมือนเดิม “นายหมี-อำนาจ พิทยาธร” ปรุงก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรไหหลำกับน้ำซุปรสเด็ด แบบไม่มีผงชูรส และการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างดีในการทำก๋วยเตี๋ยววันละ 100 กิโลกรัม รู้แล้วอย่าเพิ่งเชื่อ แต่อยากให้ไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง

ขึ้นแท่นความอร่อยแบบไม่เลิกรา เป็นเมนู “ขาหมูเยอรมัน By ChefDay” สำหรับคนชอบกินขาหมูทอดแบบกรอบๆ จะกินเป็นกับข้าว หรือกินแกล้มเครื่องดื่ม ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด “เชฟเดย์” เป็นชื่อของร้าน แต่คนทำอาหารคือ “เชฟแจ็ค” หรือ “จักรภัทร กีรพัฒนพิบูลย์” อธิบายขยายความว่า เชฟเดย์ตัวจริงคือชื่อของลูกชายที่หมายมั่นปั้นมือจะให้สืบทอดธุรกิจต่อในอนาคต ขาหมูของเชฟเดย์เลือกใช้เฉพาะขาหลัง เพราะเนื้อมาก กระดูกเล็ก ทอดในเตาที่สั่งทำโดยเฉพาะ เป็นขาหมูที่ส่วนหนังกรอบฟู และกรอบอยู่นานถึง 8 ชั่วโมง กินกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่เจ้าของคิดขึ้นเอง ไม่ใช้น้ำส้มสายชู ไม่ใส่ผงชูรส ใครกินแล้วน้ำตาไหล เพราะความอร่อยที่เพิ่งค้นพบนั่นเอง

เกี๊ยวกุ้ง เฮียจก โต๊ะเดียว
เกี๊ยวกุ้ง เฮียจก โต๊ะเดียว
นายหมี-อำนาจ พิทยาธร
ขาหมูเยอรมัน By ChefDay
ขาหมูเยอรมัน By ChefDay

เทรนด์ใหม่มาแรงสำหรับคนยุคนี้ เป็นอาหารจานหอยของร้าน “ถนัดหอย” เปิดขายอยู่ที่ ฟู้ดวิลล่า มาร์เก็ต ย่านราชพฤกษ์ เจ้าของ “ออมสิน จันทร์ทองใบ” อยากประลองความอร่อยท้าพิสูจน์กับคนชอบกินหอย จึงยกร้านพร้อมน้ำจิ้มแซ่บสูตรโบราณมาร่วมแจม ขายหอยแครงของไทยชนิดไม่เคยหากินได้ที่ไหนมาก่อน เป็นหอยแครงลวกกันสดๆ ทุกวัน จะเอาแบบแรร์, มีเดียม หรือกำลังกิน เลือกได้ตามใจ “แบงค์-ออมสิน” เจ้าของร้านบอกว่าเราไม่ได้ขายอย่างเดียว แต่เน้นคุณภาพ ความสด สะอาด ของหอย อยากให้คนกินของดี กินได้ทุกตัว กว่าจะทำเมนูออกมาได้ต้องศึกษาเรื่องหอยอยู่หลายปี เพื่อให้สมกับชื่อร้านถนัดหอย จึงอยากชวนไปกินหอยแกล้มผักบุ้งดอง เป็นเจ้าเดียวในประเทศไทย

เมนูเด็ดร้านถนัดหอย

นอกจากนี้ ยังเอาใจคนรักอาหารใต้ ด้วยเมนูข้าวเเกงปักษ์ใต้รสเด็ด จาก “ร้านพริกไทยสด” เจ้าของร้านเป็นวัยรุ่นคุณพ่อลูกหนึ่ง รับสืบทอดวรยุทธ์จากพ่อจนฝีมือฉกาจ เปิดร้านเอาใจคนชอบอาหารไทยแกล้มไวน์ ที่ สนามกอล์ฟกรุงเทพ กรีฑา เมนูชวนน้ำลายหก มีตั้งแต่ แกงเหลืองหน่อไม้ปลากะพง, ใบเหลียงผัดไข่, ยำใบเหลียงทอดกรอบ, หมูคั่วเคย, แกงไตปลา, พริกขิงปลาดุกฟู, แกงไก่ใบยี่หร่า ฯลฯ รับรองความอร่อยทุกเมนู “พลุ-กฤติพันธ์ พงษ์จีน” ปกติไม่ชอบไปออกร้านที่ไหน แต่เพื่อพี่ๆ งานนี้เสียหน้าไม่ได้

เมนูที่ไม่ต้องรอให้ชวนก็ควรไปกิน เป็นฝีมือของนักข่าวสาวที่ผันตัวมาเปิดร้านขายขนมจีน ชื่อ “ขนมจีนบ้านพี่เเยม-ฐปณีย์ เอียดศรีชัย” นักข่าวสาวชื่อดังฝึกปรือจับทัพพีจนได้ดีกรีระดับ 5 ดาว มาเปิดหม้อน้ำยาปักษ์ใต้ขายขนมจีน ใครไม่เชื่อก็ต้องซื้อไปลอง แล้วจะรู้ว่าขนมจีนบ้านพี่แยม เด็ด เผ็ด ดุ ยิ่งกว่าการเจาะข่าวเป็นไหนๆ

เสร็จจากของคาว วกเข้าของหวาน ต้องยกนิ้วให้ “ขนมไทยป้าเยาว์ เจ้าเก่าติวานนท์” “ป้าเยาว์-พะเยาว์ กฤษแก้ว” อาจารย์สอนทำขนมไทย ประจำการอยู่ที่ “มติชนอคาเดมี” ฝีมือระดับปรมาจารย์ ไม่ว่าขนมไทยชนิดไหน ทั้งขนมหม้อ ขนมถาด ขนมนึ่ง ไม่มีคำว่าไม่อร่อย จนได้ฉายา “ป้าเยาว์ขนมไทยร้อยหม้อ” และด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู “ป้าเยาว์” บอกไว้ว่าการทำขนมใช่ว่าจะคิดแต่กำไร-ขาดทุน แต่ต้องคิดถึงลูกค้า คนกิน ต้องให้เขาได้กินของดีมีคุณภาพ ใส่ใจทุกเรื่องรายละเอียด ทุกขั้นตอน และวัตถุดิบต้องสด ใหม่ อย่าไปขี้เหนียว ขนมหวานป้าเยาว์จึงเป็นเมนูห้ามพลาดในชาตินี้

ที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างเรียกน้ำย่อยแค่ 1 ใน 3 ของงาน วันจริง ของจริง ยังมีเมนูจากร้านคุณภาพที่คัดสรรมางานนี้โดยเฉพาะ ไม่มีมั่ว รับรองคุณภาพเน้นๆ ออกชื่อได้แบบไม่ลังเล อาทิ ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเส้นปลาโกอ่าง” ร้าน “ซี่โครงปราณ” สูตรโบราณจาก อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปูเเน่นๆ กับร้าน “Viya Crab” ชาเย็นเเก้วยักษ์สุดฮิปสเตอร์ โดยร้านพิเศษเเห่งภูเก็ต กาเเฟไข่ไก่อารมณ์ดี GrÜn cafe&Eatery, เบเกอรี่ฝีมือเชฟญี่ปุ่น ร้าน “Brainwake” เครื่องดื่มละมุนจากร้าน “In.Vi.Tation Café” ย้อนยุคไปชิมขนมไทยต้นตำรับกับร้าน “ขนมบ้านคุณยาย” อื่นๆ อีกมากมาย..อีกมากมาย

กินอิ่มแล้วยังมีกิจกรรมให้เพลิดเพลิน ชมการสาธิตสูตรอาหารจากร้านระดับตำนาน และเชฟดังร้านอร่อย สนุกสนานกับการทำเวิร์กช็อปพิเศษต้อนรับวันแม่ อาทิ Tea Blending การทำโปสการ์ดร้อยรักแม่-ลูกผูกพัน การทำเจลลี่ดอกไม้ และการทำช่อดอกมะลิ ไม่พลาดมินิคอนเสิร์ตสบายอารมณ์ เเถมร่วมใจรักษ์โลกรวมพลังรียูสกับ ZeroMoment Refillery ร้านเเนวใหม่ สไตล์ Zero Waste และ Refund Machine สำหรับนักกิน นักช้อปยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งเเวดล้อม เชิญชวนตามลายแทงความอร่อยในงานเมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019 วันที่ 8-12 สิงหาคม 2562 เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. 5 วันเต็ม

ขนมจีนบ้านพี่แยม
ขนมจีนบ้านพี่แยม
ขนมไทยป้าเยาว์
ดีว่ะแหนมเนือง
ดีว่ะแหนมเนือง
ซี่โครงปราณ
ซี่โครงปราณ

ลายแทงความอร่อยร้านดัง เตรียมพุงให้พร้อม

JOK โต๊ะเดียว, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายหมี, ขาหมูเยอรมัน By Chef Day, ขนมหวานร้อยหม้อป้าเยาว์, กาแฟไข่ GrÜn cafe&Eatery, ถนัดหอย, ดีว่ะแหนมเนือง Deva namnueng, ไก่ทอดเกาหลี By Matichon Academy, ร้านปู Viya Crab, ชาเย็นแก้วยักษ์ ร้านพิเศษ Piset Cafe, กิฟท์ ซาลาเปาทับหลี, ซี่โครงปราณ Sikrongpran จาก อ.ปราณบุรี, กาแฟสดรสละมุน อิน.วิ.เทชั่น คาเฟ่ In. Vi. Tation Café, นมปังโกเบจาก BRAINWAKE CAFE, ข้าวแกงปักษ์ใต้ร้านพริกไทยสด, ขนมจีนบ้านพี่แยม Baan P’Yam, Farmhouse รอยัลเบรด ปังเย็น, หมึกย่างต่อเเถว, ขนมบ้านคุณยาย Baankhunyai, เผ๊ดดเผ็ด!! (น้ำพริก&ปูดอง), ก๋วยเตี๋ยวโกอ่างเส้นปลา, หมูปิ้งนมสดรวยเป็นล้าน, เมี่ยงกลีบบัวบ้านสวน, น้ำสมุนไพรเเฟนซี

ผู้เขียน : กรรณิการ์ ฉิมสร้อย

 

ของอร่อยที่จะชวนไปชิมในสัปดาห์นี้อยู่แถวๆ ถนนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ชื่อร้าน SAME SAME By Chef Bob เจ้าของร้านคือคุณอนันตยา ธัญญผล หรือคุณเอ็กซ์

เชฟใหญ่ของร้าน ชื่อเชฟบ๊อบ ไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นสามีของคุณเอ็กซ์นั่นเอง เชฟบ๊อบมีชื่อจริงว่าคุณพงษ์ประพันธ์ นามภักดี เป็นชาวจังหวัดศรีสะเกษ เริ่มทำงานในร้านอาหารมาตั้งแต่ตำแหน่งพนักงานล้างจาน

ค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์การทำงานมาเรื่อยๆ มาเป็นผู้ช่วยเตรียมวัตถุดิบในร้านอาหารสไตล์อเมริกัน แล้วย้ายไปทำงานร้านอาหารอิตาเลียนในตำแหน่งผู้ช่วยกุ๊ก เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นกุ๊ก เป็นซูเชฟ จากนั้นมาเป็นเชฟ ประจำอยู่ที่ร้านอาหารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง นานถึงสิบสองปี

เมื่อมีโอกาสฤกษ์งามยามดี ในช่วงปลายปี พ.ศ.2561 จึงลาออกมาทำกิจการของตัวเองกับภรรยา โดยใช้ชื่อร้านว่า SAME SAME By Chef Bob

รายการอาหารของทางร้าน มีหลากหลาย ทั้งพิซซ่า สปาเกตตี สเต๊ก และกับข้าวแบบไทยๆ ถ้าได้เปิดเมนูดู จะเห็นว่ามีให้เลือกมากมาย สุดแท้แต่ใครจะชอบแนวไหน

ของอร่อยที่อยากชวนให้ลองชิม ได้แก่ พิซซ่าแป้งบางกรอบ มีให้เลือกหลายหน้า เช่น แซลมอนรมควัน แฮมชีส คาโบนาร่า ทะเล ไส้กรอกอิตาเลียน จะสั่งแบบสองหน้าในถาดเดียว เชฟก็จัดให้ได้

เปาะเปี๊ยะแฮมชีส ทอดมันกุ้ง ยำถั่วพูปูนิ่ม ยำมะเขือยาวทะเล หมูมะนาว ขาหมูเยอรมันทอด มันบดกับผักโขมเบคอนราดซอสเกรวี่ ปลาแซลมอนย่างซอสพริกไทยดำ สปาเกตตีปูนิ่มคั่วเกลือ ปลากะพงนึ่งผักน้ำพริก สะตอผัดกะปิกุ้ง ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ ซี่โครงหมูนึ่งเต้าเจี้ยว ไข่ตุ๋นทะเลหม้อไฟ

ของหวานแนะนำ ไอศกรีมทีรามิสุ เครปซูเซทกับไอศกรีม พานาคอตต้า กล้วยอบน้ำผึ้งทอดกับซอสวานิลลา

เครื่องดื่ม มีน้ำมะพร้าวเกล็ดน้ำแข็ง น้ำส้มสด น้ำเสาวรส น้ำตะไคร้

2
4

SAME SAME By Chef Bob อยู่ใกล้สี่แยกท่าอิฐ-ไทรม้า ถ้าไปจากสี่แยกแคราย ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ลงสะพานไปแล้วใช้ช่องทางด้านซ้าย เพื่อเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกท่าอิฐ ตรงเข้าไปนิดเดียว จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปจอดในลานจอดรถได้เลย

ที่นั่งในร้าน มีทั้งในห้องปรับอากาศ และบริเวณรับลมธรรมชาติใต้ร่มไม้

เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 น. ถึง 23.00 น. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-7059-3653

เมื่อไม่กี่วันก่อน ได้ไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารอีสานแถบเชิงสะพานอรุณอมรินทร์ ฝั่งธนบุรี กับรุ่นพี่ที่เคารพนับถือ แล้วมีคนสั่งแกงแบบลาวๆ ชามหนึ่งมากินกัน พอได้กิน ก็ระลึกชาติขึ้นมา ว่าเราไม่ได้ทำแกงนี้กินมานานแค่ไหนแล้วนะ ทั้งๆ เป็นของอร่อย ทำง่าย แถมมีประโยชน์มากๆ

สำรับที่ว่านี้ก็คือ แกงเห็ดรวมŽ ครับ เหมาะกับช่วงต้นถึงกลางฤดูฝน เพราะตอนนี้ตลาดสดบ้านๆ ยังพอมีเห็ดป่าเห็ดทุ่งหลายชนิดขายให้กินอยู่ หรือแม้แต่กรณีคนเมือง เดี๋ยวนี้ผมก็เห็นว่า ไม่ว่าจะตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือรถพุ่มพวงที่วิ่งเข้าออกขายกับข้าวสดตามหมู่บ้านจัดสรร มักมีเห็ดขายทั้งแบบแยกชนิดและแบบรวมหลายอย่างในแพคเดียว นับว่าสะดวกแก่การทำแกงนี้มากเลย

คนที่ชอบอาหารอีสาน แล้วชอบแกงอีสานรสอ่อน โปร่ง เบา อยากกินผักกินเห็ดเยอะๆ รับรองว่าไม่ผิดหวัง สูตรที่จะชวนทำวันนี้นับว่าพื้นฐานที่สุดแล้วล่ะครับ

น้ำแกงหลักเราใช้น้ำคั้นใบย่านาง ซึ่งแม้เดี๋ยวนี้เริ่มมีขายสำเร็จเป็นถุงๆ แต่หากเลือกได้ ผมอยากให้หาซื้อใบสดมาล้างให้สะอาด ใส่กะละมัง เติมน้ำ แล้วขยำคั้นด้วยมือไปจนน้ำข้นเขียวอื๋อ ค่อยกรองเอาใบยุ่ยๆ ที่กลายเป็นกากสีขาวซีดๆ นั้นทิ้งไป

ข้นกว่า เขียวกว่า หอมกว่าเยอะครับ ไม่เชื่อก็ลองดู

ของอื่นๆ ก็มีพริกแกง ซึ่งใช้แค่หอมแดง พริกขี้หนูอีสาน (พริกโพน) กับตะไคร้หั่นท่อน เอาลงตำรวมในครกพอแตกๆ ก็ได้แล้ว

เห็ดอะไรที่อยากกิน เอามาล้าง หั่นเป็นชิ้นๆ ตามใจชอบ

ความหอมของน้ำแกง นอกจากตะไคร้ในพริกแกงแล้ว เราใช้ต้นหอม ใบแมงลัก และยอดชะอม

รสหวานแบบธรรมชาติๆ มาจากฟักทองมันๆ หน่อไม้ต้ม และบวบหอมครับ

หม้อนี้ ผมปรุงเค็มด้วยเกลือและน้ำปลา แต่ลูกอีสานตัวจริงเสียงจริงคงพึงใจน้ำปลาร้ามากกว่า ก็เลือกใช้ได้ตามชอบ

ไม่ต้องใส่เนื้อสัตว์อะไรหรอกนะครับ เห็ด ฯลฯ และผักหญ้าสดๆ ขนาดนี้ย่อมจะให้รสหวานโปร่งๆ แบบที่หากเรากินจนคุ้นลิ้นไปสักพัก ทีนี้ต่อไปจะโหยหาเลยเชียวแหละ

เริ่มทำโดยยกหม้อน้ำคั้นใบย่านางเขียวอื๋อนั้นตั้งไฟ ใส่พริกแกง หน่อไม้ เกลือ น้ำปลา ต้มเคี่ยวไฟอ่อนไปสัก 10 นาที จึงเริ่มใส่ฟักทอง กับเห็ดที่เนื้อไม่เละ อย่างเช่นเห็ดหูหนู เห็ดฟาง

ดูว่าชิ้นฟักทองเริ่มสุกไล่จากผิวเข้าไปได้สักครึ่งหนึ่ง จึงใส่บวบหอม ยอดชะอม และต้นหอม

พอบวบเริ่มนุ่ม ซึ่งหมายความว่าฟักทองใกล้สุกเต็มที่ ใส่เห็ดดอกอ่อนที่เหลือ และใบแมงลัก ชิมรสให้เค็มอ่อนๆ โดยเติมเกลือหรือน้ำปลา

1
3

ถ้าเพิ่งทำครั้งแรกอาจแปลกใจ ทำไมรสหวานมันมาจากไหน ก็มาจากเห็ด หน่อไม้ บวบ และโดยเฉพาะฟักทองนั่นเองครับ เมื่อไม่มีเนื้อสัตว์อะไรมาชิงรส แกงนี้จะออกโปร่งๆ รสอ่อนๆ และทำให้ลิ้นเรารับรู้รสผักและเห็ดสดๆ ได้อย่างเต็มที่

ไม่กี่อึดใจหลังใส่ใบแมงลัก กลิ่นหอมอบอวลอันเป็นเอกลักษณ์ของแกงอีสานจะโชยขึ้นมาจนแทบอดใจไม่ไหว ยกลงกินได้เลยครับ

แกงที่เราลงมือคั้นใบย่านางเองจะน้ำเขียวอื๋อ หอมหวาน ได้ความสดใหม่จริงๆ สูตรที่ทำนี้เป็นแบบง่ายที่สุด บางคนอาจเพิ่มข้าวเบือ (ข้าวเหนียวแช่น้ำจนพอง) โขลกในพริกแกงนิดหน่อย หรือละลายน้ำแป้งข้าวเหนียวใส่ตอนใกล้เสร็จ เพื่อเพิ่มความข้นของน้ำแกงได้

ใครจะเพิ่ม จะลด สลับสับเปลี่ยนผักสดหรื อเห็ดก็คงสนุกดี แต่ขอให้ลองคิดถึงรส กลิ่น และความ เบาŽ อันเป็นเอกลักษณ์ของแกงเห็ดรวมนี้ไว้สักหน่อย เพราะถ้าเราใช้ผักกลิ่นแรงๆ บางทีมันก็อาจ หนักŽ เกินไปสำหรับแกงที่ไม่ได้ปรุงใส่เนื้อสัตว์น่ะครับ

อย่างไรก็ดี ทัพพีเมื่ออยู่ในมือเรา เดี๋ยวเราก็รู้เองแหละครับ ว่าเราชอบกินรสอะไรยังไงแบบไหน

ที่มาเสาร์ประชาชื่น มติชนรายวัน
ผู้เขียนกฤช เหลือลมัย

หนึ่งในเมนูขวัญใจสายเฮลท์ตี้ ต้องแหนมเนือง ที่อุดมไปด้วยผักสารพัดประโยชน์ กินคู่กับหมูและน้ำจิ้มรสเด็ด

มองหาร้านแหนมเนืองอร่อยๆ แหนมเนืองสูตรคลีน หมูยอใช้เนื้อหมูล้วน100% ไม่ผสมแป้ง ไม่ใส่สารกันบูด ผักปลอดสาร แนะนำร้าน DEVA Namnueng แหนมเนืองสูตรโบราณ ร้านที่เห็นชื่อแล้วเหมือนนักร้องดังสาย DEVA แต่จริงๆแล้ว เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย คือ ร้านดีว่ะแหนมเนือง มีคุณพัทธนันท์ นิติไชยโรจน์ และคุณชาญชัย เอกไพศาลกุล หนุ่มสาวรุ่นใหม่วัยเพียง30เศษ เป็นผู้ดำเนินกิจการ พิกัดอยู่ที่ ฟู้ดวิลล่าราชพฤกษ์ ล๊อคe044

ที่นี่ประทับใจตรงที่ไม่หวงเครื่อง จัดหนัก จัดเต็มทุกอย่าง!!

            

ผักใบเขียวสดๆล้างสะอาดน่ารับประทาน ทั้งผักแพรว ใบสะระแหน่ ใบโหระพา ผักกาดหอม รวมถึงกล้วยน้ำว้าดิบ มะเฟืองหวาน กระเทียม พริก โดยผักทั้งหมดเป็นผักปลอดสารพิษที่ส่งตรงจากสวน นำมาล้างหั่นและฝานเอาไว้ให้พอดีคำคาราวานมากันครบเซ็ต

ส่วนหมูที่กินคู่กับแหนมเนือง อย่างที่บอกเขาใช้หมูล้วนจริงๆ กินแล้วรู้เลยว่าไร้แป้ง และกลิ่นหอมกว่าหมูยอทั่วไป ถามไปถามมาได้ความว่าทางร้านใช้พริกไทยดำเป็นส่วนผสมจึงทำให้หอมเย้ายวนมากขึ้น พอราดด้วยน้ำจิ้มรสหวานเปรี้ยว ตัดกับรสเค็มนิดๆของหมู มันโดนมากอ่ะ อร่อยจนหยุดไม่อยู่จริงๆ

นอกจากนี้ ร้านดีว่ะแหนมเนือง ยังขายหมูยอที่ทำเองด้วย มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งหมูยอเนื้อล้วน และหมูยอเนื้อผสมหนัง รวมทั้งยังมีหมูยอที่ทางร้านคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน คือ หมูยอแหนมใบมะยม เนื้อหมูยอจะหอมใบมะยมและมีรสเปรี้ยวอ่อนๆ สูตรนี้เลิฟเลย ดีต่อใจมากมาย อยากให้ได้ลิ้มลอง

สำหรับคนที่จะซื้อแหนมเนือง ทางร้านขายราคาชุดละ180บาทมีหมู4ไม้และผักครบเซ็ต โดยผักจะล้างและฝานไว้ให้พร้อมรับประทาน หรือใครอยากกินเป็นคำ ก็มีแหนมเนืองโรลพร้อมกินห่อไว้ให้สำเร็จ ขายกล่องละ90บาท

และถ้าใครอยากซื้อแหนมเนืองแพ็คส่งพัสดุไปให้ญาติพี่น้องแต่กลัวจะเสียก่อนถึงผู้รับ หายห่วงจ้า เพราะหมูที่กินกับแหนมเนือง หลังจากย่างแล้วทางร้านจัดทำแพ็คเกจอย่างดี ซิลเป็นสุญญากาศ ถ้าเข้าตู้เย็นช่องฟรีซ เก็บได้นานถึง3สัปดาห์ ถ้าแช่ไว้ในตู้เย็นปกติอยู่ได้นาน7วัน

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูปอเปี๊ยะทอด เนื้อหมูแน่นทะลัก ฟินเว่อร์ ขายกล่องละ60บาท เป็นเมนูเด็ดด้วย

4

ใครสนใจแวะมาลิ้มลองได้ที่ร้านดีว่ะแหนมเนือง ฟู้ดวิลล่าราชพฤกษ์ ล๊อคe044

ล่าสุดทางร้านจะไปออกบูธในงาน เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019” ( Mega Food Tastival 2019 )

จัดโดยมติชนอคาเดมี วันที่ 8-12 สิงหาคมนี้

ณ เมกา ฟู้ดวอล์ค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา

สายคลีนห้ามพลาดนะจ๊ะ!!

ขาหมูอะไรยิ่งอุ่นยิ่งฟูกรอบ

คำตอบเดียวเลย คือ ขาหมูกรอบ by Chef Day ขาหมูกรอบเกรดพรีเมียมไร้มัน ไม่มีสารปนเปื้อน ที่คุณแจ็ค จักรภัทร กีรพัฒนพิบูลย์ หรือที่ใครๆรู้จักในชื่อเชฟเดย์ ปลุกปั้นมากับมือ ด้วยสไตล์การเฉาะขาหมูแบบคล่องแคล่วทะมัดทะแมง โดยคุณแจ็คกล้าการันตีว่า ขาหมูกรอบ by Chef Day เป็นขาหมูเกรดพรีเมียมที่มีหนึ่งเดียวในเอเชีย

แล้วขาหมูกรอบหนึ่งเดียวในเอเชีย เป็นยังไง?

คุณแจ็ค เผยว่า ขาหมูกรอบ by Chef Day จะเน้นวัตถุดิบชั้นดีนำก่อนเป็นอันดับแรก เราจะใช้ขาหมูเกรดพรีเมียมไม่มีมัน ขอบหนังจะมีแต่คอลลาเจนเท่านั้น จึงทำให้เวลานำมาอุ่น จะฟูกรอบ ต่างจากขาหมูเยอรมันทั่วไปที่มีมันติดอยู่ เวลาอุ่นจะแข็งขึ้น ที่สำคัญวัตถุดิบทุกอย่าง เราเฟ้นหาแต่วัตถุดิบชั้นดีจากในประเทศไทย ซึ่งต่างประเทศไม่มี จึงมั่นใจว่าขาหมูกรอบของเรามีหนึ่งเดียวในเอเชีย และปัจจุบันชาวต่างชาติสนใจมาซื้อมากขึ้น ผมเคยไปออกบูธที่ห้างดังแห่งหนึ่ง

กลางกรุง มีชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาซื้อเยอะเลย โดยขาหมูกรอบของเราอยู่นอกตู้เย็นได้ 2-3 วัน ถ้าเก็บในฟรีซ อยู่ได้นาน 1 ปี

“นอกจากนี้ในส่วนของน้ำจิ้มขาหมูกรอบ เราจะไม่ใช่ส่วนผสมที่มาจากการหมักเลย ไม่มีสารปนเปื้อน ไม่ใส่น้ำส้มสายชู ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สารกันบูด โดยรสเปรี้ยวจะใช้มะนาวสดและน้ำมะขามแทน ส่วนความหวานเราจะใช้น้ำตาลปี๊บ ไม่ใช้น้ำตาลทราย โดยใช้เวลาเคี่ยวน้ำจิ้มด้วยไฟต่ำนาน 12 ชั่วโมง น้ำจิ้มของเราสามารถเก็บในฟรีซได้นาน 6 เดือนเป็นอย่างน้อย”คุณแจ็คเผย

สำหรับผู้สนใจ ติดต่อสั่งซื้อได้ทาง เพจเฟซบุ๊ก ขาหมูกรอบ บายเชฟเดย์ Thailand , Line ID : by-chefday หรือ โทร 0923897222 ทางร้านจัดส่งแบบโฟรเซน ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ขาหมูกรอบ by Chef Day จะมาออกบูธให้ได้ลิ้มลอง ที่งาน เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019 (Mega Food Tastival 2019) จัดโดยมติชนอคาเดมี วันที่ 8-12 สิงหาคมนี้ ณ เมกา ฟู้ดวอล์ค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา

เหล่านักชิม นักรีวิว ห้ามพลาด!! เพราะนอกจาก ขาหมูกรอบ by Chef Day แล้ว ยังมีอีก 30 ร้านอร่อยทุกทิศทั่วไป มารวมตัวประชันของดีเด็ดโดน งานนี้งานเดียวเท่านั้น ไปอิ่มพุงกางด้วยกันนะคะ

1
3

กาแฟไข่เวียดนาม แค่เอ่ยชื่อหลายคนคงตั้งคำถามว่ากินเข้าไปแล้วจะมีกลิ่นคาวไข่หรือไม่ ชงยังไง ใส่อะไรบ้าง รสชาติเป็นอย่างไร?

ของมันต้องลองค่ะ เราตรงดิ่งมาที่ร้าน Grün cafe’& Eatery ของคุณกัญนิกา พร้อมเพรียง หรือพี่ไก่ ได้ยินชื่อเสียงว่าร้านนี้มีกาแฟไข่สูตรหอมมันกลมกล่อม ใช้ชื่อว่า “กาแฟไข่อารมณ์ดี” เป็นเมนู recommend

คุณกัญนิกา เล่าว่า กาแฟไข่อารมณ์ดี เป็นกาแฟร้อน ทำจากไข่แดง จากไข่ไก่อารมณ์ดี ทำอะไรก็ดี ทำอะไรก็อร่อย ในแก้วจะมีเลเยอร์ ชั้นล่างเป็นกาแฟดำ ชั้นบนเหมือนฟองนม แต่จริงๆแล้วเป็นไข่แดงที่ตีผสมกับไซรัปจนเข้าที่ ท็อปด้วยผงโกโก้เป็นรูปหัวใจ

แก้วนี้จิบแรกก็รักเลย กลิ่นหอมของกาแฟสด ลอยขึ้นมาพร้อมๆกับกลิ่นหอมของวานิลลาและโกโก้ และที่เซอร์ไพร์สมากก็คือไม่มีกลิ่นของไข่ หรือกลิ่นคาวไข่เลยสักนิ๊สสสสส

และเสน่ห์ที่น่ารักของกาแฟไข่อีกอย่างก็คือ จะมีฟองติดอยู่ด้านบนปาก ใครเห็นเป็นต้องอมยิ้ม 😉

คุณกัญนิกา เจ้าของร้าน Grün cafe’& Eatery เล่าว่า เริ่มต้นทำกาแฟไข่ขาย เพราะสนใจว่ากาแฟไข่เวียดนามเป็นยังไง เลยศึกษาและคิดสูตรขึ้นมา

“ส่วนผสมจะมีไข่แดง จากไข่ไก่ แต่ของทางร้านจะมีความพิเศษตรงที่ใช้ไข่ไก่จากฟาร์มเปิดธรรมชาติ ที่ส่งตรงมาจากจ.ราชบุรี เป็นไข่จากไก่อารมณ์ดี ไข่แดงเป็นสีแดงสด เนื่องจากเลี้ยงด้วยฟักข้าวและกระถิน เวลานำมาทำกาแฟไข่จะไม่เหม็นคาว ตรงนี้ต่างจากไข่ไก่ที่ขายตามตลาดทั่วไปโดยไข่ไก่ตามตลาดสีจะไม่แดงสด และมีกลิ่นคาวไข่ด้วย

“แต่ละแก้วจะนำไข่มาผสมกับไซรัปเพื่อให้มีความหอมและหวาน อาทิ น้ำผึ้ง น้ำอ้อย วานิลลา ฯลฯ ลูกค้าชอบหวานมากหรือหวานน้อยเราสามารถกำหนดสัดส่วนได้ ในการชงกาแฟไข่อารมณ์ดีแต่ละแก้วเราจะพิถีพิถันมาก ชงให้เห็นเลเยอร์ชัดเจน จะต่างจากกาแฟไข่เวียดนามที่ไม่พิถีพิถันเท่านี้”คุณกัญนิกาเผย

กระซิบให้ฟังนิดนึงค่ะ ใครอยากลิ้มลองกาแฟไข่อารมณ์ดี ตอนนี้ ร้าน Grün cafe’& Eatery จับมือกับ บ้านกล้วยไม้คุณนายแพร&บัวดิน ร้าน Fongkum Art & Cuisine ที่ไชน่าทาวน์ ศาลายา เป็นการรวมตัวอย่างกลมกลืน ของดอกไม้ อาหาร และเครื่องดื่ม เน้นรสชาติธรรมชาติ เพื่อสุขภาพ กายดี ใจสุข

โดยเพิ่มเมนูอร่อย ทั้งอาหารคาว หวาน กาแฟ ขนม เบเกอรี่ ไอศกรีม ที่สำคัญมีเมนูกาแฟไข่อารมณ์ดี ให้ได้ลิ้มลองกันด้วย

13410
13884

ทั้ง3ร้าน ปักหมุดโลเกชั่น ที่ร้าน Fongkum Art & Cuisine ไชน่าทาวน์ ศาลายา

นอกจากนี้ กาแฟไข่อารมณ์ดี ของร้าน Grün cafe’& Eatery จะมาออกบูธให้ได้ลิ้มลอง ที่งาน เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019” (Mega Food Tastival 2019) จัดโดยมติชนอคาเดมี วันที่ 8-12 สิงหาคมนี้ ณ เมกา ฟู้ดวอล์ค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา

ในงานนี้ นอกจากกาแฟไข่อารมณ์ดีแล้ว คุณกัญนิกา ยังมีขนมปังสังขยา ขนม Scone และซอฟท์คุกกี้ แสนอร่อย มาให้กินคู่กับกาแฟด้วย ฟินนาเล่แน่นอนจ้า

S__5939274

เป็นกันมั้ยคะ เวลาเห็นงานออกบูธอาหารในห้าง แม้ไม่หิวก็ต้องเดินเข้าไปดูให้ทั่ว และในที่สุดก็จะได้อะไรติดมือกลับมาจนได้เพราะเดี๋ยวนี้อาหารตามบูธที่มาออกร้านดูแล้วน่ากินทั้งนั้น

แว่วข่าวล่าจากเพื่อนในแวดวงออร์แกไนซ์ บอกว่า ช่วงเดือนสิงหาคม ระดับตำนานที่ยังมีลมหายใจอย่าง “เฮียจก โต๊ะเดียว” ก็ยังตกปากรับคำจะไปออกบูธกับเขาเหมือนกัน ที่งาน “MEGA Food Tastival 2019” จัดที่ ลาน Foodwalk Plaza ศูนย์การค้าเมกา บางนา ระหว่างวันที่ 8-12 สิงหาคม 2562 นี้

ได้ยินแบบนี้ก็หูผึ่งเลยล่ะค่ะ เพราะอาหารของเฮียจกไม่ใช่คิดเมื่อไหร่แล้วจะได้กินทันที ต้องจองโต๊ะกันนานเป็นเดือน แต่งานนี้เฮียจกมาเอง เปิดบูธขายกัน 5 วันเต็มๆ แล้วมิตรรักแฟนเพลงจะพลาดได้อย่างไร

เฮียจกมีฝีมือปรุงอาหารชั้นครู มีคติประจำใจอยู่ 4 ข้อ คือ วัตถุดี เทคนิคดี เครื่องปรุงดี และอัธยาศัยดี มี 4 อย่างนี้คือจบปิ้ง

ที่น่าทึ่งที่สุด คือ ลิ้นระดับเทพที่สามารถแยกแยะได้ว่าที่กินไปนั้นปรุงด้วยอะไร ปรุงแบบไหน ดังนั้น หากเฮียจกอยากจะได้สูตรอาหารเมนูไหน ขอแค่ได้กินเท่านั้น รับรองว่าไม่ใช่แค่เหมือน แต่เฮียจกยังปรับปรุงให้จี๊ดจ๊าดขึ้นไปอีก เพื่อนพ้องต่างยกย่องหาคนเทียบยาก

ร้านเฮียจกหลักๆ จะเป็นเมนูซีฟู้ด แต่งานนี้คัดเลือกแบบที่กินง่ายขายคล่องมาให้ชิมกัน คือ “เกี๊ยวกุ้งลวกราดกระเทียมเจียว” ตัวนี้ดูเผินๆ เหมือนเมนูธรรมดาทั่วไป แต่รสชาติระดับเสิร์ฟฮ่องเต้ กินแล้วรับรองเลยว่าต้องคิดถึงคนที่รักอยากซื้อไปฝากให้ได้กินของอร่อยด้วยอย่างแน่นอน

เรื่องเกี๊ยวกุ้งนี้มีที่มา คือ เมื่อหลายสิบปีก่อนพ่อของเฮียจกเสียชีวิต เฮียซึ่งตอนนั้นอยู่ในวัยที่กำลังโลดแล่นทำงานตามต่างประเทศ ก็ต้องกลับมาบวชให้พ่อ ตกดึกมาเกิดหิวเหลือบไปเห็นของไหว้กงเต๊ก มีจานเกี๊ยววางอยู่ หยิบมากินก็รู้สึกว่าอร่อยมาก ไม่เคยกินเกี๊ยวที่ไหนอร่อยเท่านี้มาก่อน ถามหาจนได้ร้าน เทียวไล้เทียวขื่อ บวกกับพรสวรรค์ในการแยกรสชาติ ไม่นานนักสูตรเกี๊ยวแสนอร่อยก็ตกเป็นของเฮียจกในที่สุด

“เกี๊ยวกุ้งผมใช้กุ้งธรรมชาติ โอคั่ก เปลือกดำ พันธุ์ตัวเล็ก เนื้อจะมีคุณสมบัติ หวาน กรอบ เด้ง เวลาลวกใช้ไฟแดงให้เกี๊ยวเด้ง”

เฮียจกแนะว่า แค่จิ้มกับจิ๊กโฉ่ดีๆ ก็เลิศแล้ว ใครอยากกินต้องมาลอง ในราคากล่องละ 100 บาท มี 10 ตัวใหญ่ๆ เต็มปากเต็มคำ

ใช้กุ้งโอคั่กรสชาติดี หวาน เด้ง กรอบ
ใช้กุ้งโอคั่กรสชาติดี หวาน เด้ง กรอบ
เกี๊ยวกุ้ง
โฉมหน้าเกี๊ยวกุ้งราดกระเทียมเจียว
โฉมหน้าเกี๊ยวกุ้งราดกระเทียมเจียว

อีกเมนูของเฮียจกที่ยังยืนหนึ่งในยุทธจักร “กระเพาะปลาน้ำแดง” เมนูนี้เด็ดที่น้ำซุปกับเครื่องเทศ ที่เฮียจกลงมือเคี่ยวเองเกือบ 1 วันเต็มๆ จนได้รสชาติที่กลมกล่อม

นอกจากร้านเฮียจกโต๊ะเดียว ที่น่าสนใจในงานเดียวกันอีกร้าน คือ วิยะแครบ (Viya Crab) ร้านนี้เด่นเรื่อง ปู สินค้ามีตั้งแต่ปูแช่แข็ง เนื้อปูพาสเจอไรซ์ ไปถึงอาหารที่ใช้ปูเป็นวัตถุดิบ อย่างปูจ๋า จ๊อปู ปูดองน้ำปลา ไปถึงซาลาปู

งานนี้จัดเต็มขนมาให้ลิ้มลองเพียบ ตั้งแต่เนื้อปูพาสเจอไรซ์ จ๊อปู ปูดองน้ำปลา และซาลาปู ใช่ค่ะ ซาลาปู ไม่ใช่ซาลาเปา เจ้าของร้านเขาเล่นคำจากซาลาเปาไส้ปู มีให้เลือก 2 ไส้ คือ ไส้ปูผัดผงกะหรี่ กับไข่ปูลาวา

กระเพาะปลาน้ำแดง

ซาลาปูของวิยะแครบอาจราคาสูงกว่าท้องตลาด คือ ลูกละ 50 บาท แต่ใครได้กินรับรองว่าคุ้มค่าเงินที่จ่าย แป้งที่ใช้ทำเป็นแป้งหมั่นโถ กว่าจะได้สูตรที่ลงตัวก็ต้องตระเวนไปชิมตามที่ต่างๆ ชอบใจแบบไหนก็ลองมาทำจนได้สูตรแป้งที่ลงตัวส่วนไส้ปูที่เป็นปูผัดผงกะหรี่จะเน้นเนื้อปูที่สด เมื่ออุ่นร้อนกัดลงไปจะฉ่ำชุ่มอร่อยมาก ส่วนไส้ลาวาจะผสมไข่เค็มด้วย ได้รสชาติเข้มข้น หอมหวานมันเค็ม

“มารียา เล่าเจริญ” ผู้ช่วยผู้จัดการ วัย 26 ปี ลูกสาวของคุณวิยะเจ้าของบริษัท บอกว่า หลังเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ก็เข้ามาช่วยธุรกิจ “วิยะแครบ” ของคุณแม่ทันที

วิยะแครบ เริ่มแรกจากแพปู โดยคุณแม่วิยะ เริ่มต้นพนักงาน 10 คน ปัจจุบันกว่า 400 คน มีโรงงานอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันนี้ส่งออกไปยังทั่วโลกถึง 70% โดยชื่อเสียงปูม้าสุราษฎร์ฯ รู้กันดีทั้งคนไทยและต่างชาติเรื่องรสชาติมันหวานที่สุด

ซาลาปู
เนื้อปูพาสเจอไรซ์
เนื้อปูพาสเจอไรซ์

“ปูสุราษฎร์ฯชาวต่างชาติยอมรับว่าหวานอร่อยที่สุด ตัวใหญ่สีสวย ปู้ม้าที่อื่นใหญ่สุด 5 ตัวต่อกิโลกรัม แต่ของสุราษฎร์ฯ 2-3 ตัวต่อกิโลกรัม”

มารียาบอกว่า จุดเด่นของวิยะแครบ คือ เนื้อปูพาสเจอไรซ์ ที่จะเน้นความสด รับปูจากเรือใหม่ๆ ในตอนเช้า ก็จะนำไปสตรีมไอน้ำ วิธีนี้เป็นวิธีที่คนไม่ค่อยทำเพราะต้นทุนสูง เราจะใช้บอยเลอร์คงอุณหภูมิ ไม่ให้เกิน 80-90% ปูจะเสียน้ำน้อย จะคงรสชาติที่หวานไว้มากที่สุด ต่างกับวิธีการต้มที่จะสูญเสียน้ำเยอะ

ในงานนอกจากเนื้อปูสดรสดีแล้ว ยังมีปูม้าดองน้ำปลาก็เด็ดไม่แพ้กัน ปูดี ดองน้ำปลาอย่างดี ราดน้ำจิ้มแซ่บๆ แค่คิดก็น้ำลายสอขึ้นมาเลย ในงานใครซื้อปูดองน้ำปลาจะมีบริการยำให้ฟรีด้วย ที่สำคัญทุกอย่างในร้านได้มาตรฐานฮาลาล กินได้สบายใจทุกชาติทุกภาษา

เอาจริงๆ เพียงแค่ 2 ร้านนี้ ก็ควรค่าแก่การไปชิมแล้ว เดี๋ยวฉบับหน้าจะมาแนะนำว่าอีก 22 ร้านที่เหลือมีอะไรบ้าง บอกไปน้ำลายหกแน่นอน

จ๊อปู
ปูดองน้ำปลา
ยำปูม้าดอง
ที่มาอาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน
ผู้เขียนชม นำพา [email protected]

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ห้องโถง มติชนอคาเดมี หมู่บ้านประชานิเวศน์1 นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ในเครือมติชน จัดเสวนาหัวข้อ “แผนยึดล้านนา” โดย รศ.ดร.เนื้ออ่อน ขรัวทองเขียว อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิตและผู้เขียน “เปิดแผน ยึดล้านนา” นำเสวนา และ เอกภัทร เชิดธรรมธร เป็นผู้ดำเนินการเสวนา

รศ.ดร.เนื้ออ่อน กล่าวว่า เดิมทีล้านนาเป็นอาณาจักรคู่ขนาน ไล่มาตั้งแต่ สุโขทัย อยุธยา มีอิสระและมีระบบการปกครองเป็นของตัวเอง วันหนึ่งที่อยุธยาตกเป็นของพม่า ล้านนาก็ตกเป็นของพม่าเช่นเดียวกัน ตกเป็นของพม่าประมาณ 200 กว่าปี ตระกูลเจ้ากาวิละและพี่น้องได้ร่วมกันรบกับกองทัพสยามจนสามารถขับไล่พม่าออกจากล้านนาได้สำเร็จ ใน พ.ศ. 2347

ล้านนาตะวันออก กับล้านนาตะวันตกแทบจะแยกจากกันโดยเด็ดขาด ความเป็นไปของล้านนาที่เมืองน่าแทบจะไม่รู้เลยว่าอีกฝั่งหนึ่งเป็นอย่างไร เพราะมีกฎหมายของเมืองแยกเป็น 2 กลุ่ม แบ่งพื้นที่ตามลุ่มน้ำ มีระบบการปกครอง กฎหมาย เศรษฐกิจเป็นของตัวเอง

“กลุ่มที่อยู่ล้านนาตะวันตก ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แต่ไม่มีเชียงรายกับแม่ฮ่องสอน เพราะคือเชียงใหม่ที่แยกออกมา พ.ศ. 2368 อังกฤษยึดพม่าตอนใต้ ตั้งโรงเรื่อยไม้ที่มะละเหม่ง ขยายธุรกิจการค้าไม้สักเข้ามาในล้านนา ซึ่งไม้ส่วนมากมาจากเชียงใหม่ การขยายตัวเข้ามาของอังกฤษในพม่า จึงเป็นที่หมายตาของอาณานิคมตะวันตก เมื่อมีคนเข้ามาเยอะก็มีเรื่องของความขัดแย้งกับคนพื้นเมือง เช่น ซื้อวัว ซื้อควาย เอาเงินไปแต่ไม่ให้ของ ขึ้นศาลไทยก็ไม่ได้เพราะเป็นคนต่างชาติ จึงสร้างปัญหาเรื่อยมา พอเริ่มมีการเข้ามาของอังกฤษในเรื่องไม้ จึงเป็นสาเหตุที่คิดว่าจะเอาอย่างไรดีกับล้านนา

สาเหตุของการรวมล้านนาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสยาม อาณานิคมการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป ค.ศ.ที่ 18 คือ 1. เศรษฐกิจ วัตถุดิบและตลาดระบายสินค้า 2. ทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ล ดาร์วิน กล่าวว่า คนที่อยู่รอดคือคนที่เข้มแข็ง คนที่แข็งแกร่งกว่าคือคนที่อยู่รอด 3. ยุทธศาสตร์การป้องกันผลประโยชน์ 4.การนำความเจริญไปสู่กลุ่มชนที่ล้าหลัง (พวกที่ไม่ใช่ฝรั่งทั้งหมด) วิธีคิดเหล่านี้มีผลกระทบเข้ามาตั้งแต่รัชกาลที่ 4 พม่าแม้จะมียุทธวิธีและกองทัพแต่ก็ยังพ่ายแพ้ เสียเงิน เสียดินแดน ดังนั้นทางรอดก็คือสยามต้องปรับตัวรศ.ดร.เนื้ออ่อนกล่าว

รศ.ดร.เนื้ออ่อน กล่าวต่อว่า ประเทศราชล้านนามีความล้าหลังที่ต้องปรับเปลี่ยนคือ ป้องกันข้าศึก ขยายพระราชอาณาเขต และถวายบรรณาการ พ.ศ. 2417 รัชกาลที่ 5ให้ทำสนธิสัญญาสยามกับล้านนา มี 2 ฉบับ คือ สนธิสัญญาเชียงใหม่ 2417 และสนธิสัญญา เชียงใหม่ 2427 ข้าหลวงที่ถูกส่งเข้าไปคือ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นพิชิตปรีชากร

2

ทรงเริ่มวางระบบเสนา 6 ตำแหน่ง แทนระบบการบริหารเดิม ช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยน เช่น พระยาไกรโกษา สยามยกดินแดนหัวเมืองเงี้ยวและหัวเมืองกระเหรี่ยงทั้ง 13 เมืองให้อังกฤษ  พ.ศ. 2435 สยามเสียสิทธิเหนือดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง สยามปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2440 พระเจ้าอินทวิชยานนท์พิราลัย พระยาทรงสุรเดชถือโอกาสรวบอำนาจการคลัง

พ.ศ. 2445 เกิดกบฏเงี้ยวเมืองแพร่ ซึ่งในการปราบกบฏเงี้ยวเมืองแพร่ ล้านนาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสยาม แต่ไม่ใช่ว่าล้านนาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสยามอย่างเรียบร้อยและง่ายดาย คนยังไม่ภักดีเพราะมีหลายชาติพันธุ์มาก สิ่งนี้คือสิ่งที่รัฐควรเร่งปลูกฝังถึงขนาดแจกธงชาติไปประดับตามบ้าน เด็กตัวเล็กๆที่เข้าโรงเรียนคือเครื่องมืออย่างหนึ่งในการส่งผ่านความคิดนี้ จินตนาการความรู้ในหนังสือจะเป็นตัวหล่อหลอมให้เรารู้ว่าเราเป็นใคร บ้านอยู่ไหน ต้องภักดีกับใคร ความรู้เรื่องนี้ถูกส่งผ่านในหนังสือภูมิศาสตร์สยาม ความรู้ชุดนี้ถูกตอกย้ำไปเรื่อยๆ และวันหนึ่งก็ทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากจนทำให้จินตนาการที่เรามี ว่าเราเป็นคนชาติเดียวกัน เราเป็นคนกลุ่มเดียวกัน เกิดขึ้นจริงๆ การที่คนล้านนามองว่า เราคือสยาม คือตัวชี้วัดแล้วว่าสิ่งที่สยามทำมาทั้งหมดตั้งแต่ตอนต้นสำเร็จแล้วรศ.ดร.เนื้ออ่อน กล่าว

4

กว่า30ร้านดังมาเสิร์ฟให้คุณแล้ว ที่งานเมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019” (Mega Food Tastival 2019)

ภายใต้คอนเซ็ปต์แนวคิด “Eat Like A Local” จัดโดยมติชนอคาเดมี ที่เมกา ฟู้ดวอล์ค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา 5วันเต็ม 8-12 สิงหาคมนี้เวลา10.00-21.00 น.

“เฮียจกโต๊ะเดียว” ชื่อเสียงลือลั่น ต้องจองคิวนานข้ามเดือนถึงจะได้กิน แต่ถ้ามางานนี้พิเศษเหนือใคร ได้กินเลยไม่ต้องจอง!!

“ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวนายหมี” วัดหนามแดง-บางพลี จ.สมุทรปราการ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรไหหลำ น้ำซุปรสเด็ด เคี่ยวเนื้อแต่ละวันกว่า 100 กิโลกรัม ไม่ใส่ผงชูรส เนื้อทั้งเปื่อยทั้งนุ่ม สายเนื้อห้ามพลาด!!

รวมทั้งสารพัดสุดยอดเมนู อย่างขาหมูกรอบ ByChefDay , ขนมไทยป้าเยาว์เจ้าเก่าติวานนท์ , ชาเย็นเเก้วยักษ์สุดฮิปเตอร์ โดยร้านพิเศษเเห่งภูเก็ต , ซี่โครงปราณ สูตรโบราณจากปราณบุรี , คุณภาพเน้นๆกับร้านก๋วยเตี๋ยวเส้นปลาโกอ่าง ,สุดยอดเเห่งความสดเเละความเเซ่บจากร้านถนัดหอย

ชิมปูเเน่นๆ กับ Viya Crab , กาเเฟไข่ไก่อารมณ์ดี Grün cafe’& Eatery, ข้าวเเกงปักษ์ใต้สูตรเด็ดกับร้านพริกไทยสด , ขนมจีนบ้านพี่เเยม ฐปณีย์ นักข่าวสาวชื่อดัง , เบเกอรี่จากเชฟญี่ปุ่นของ Brainwake เเละร้านอร่อยอีกมากมาย ที่คุณจะต้องอยากกินไปซะทุกอย่าง

นอกจากนี้ เหล่าเชฟคนดังจากร้านอร่อย จะมาสาธิตการปรุงเมนูเลิศรสให้ชมกันจะจะอีกด้วย ทั้ง เฮียจก -สมชาย ตั้งสินพูลชัย และ เชฟแจ็ค – จักรภัทร กีรพัฒนพิบูลย์ จากร้านขาหมูกรอบ บาย เชฟเดย์

อีกทั้งภายในงานยังมีกิจกรรมเวิร์คช้อปพิเศษต้อนรับเทศกาลวันแม่ อาทิ เวิร์คช้อปการชงชาเฉพาะบุคคล อย่าง Tea Blending , การทำโปสการ์ดแม่-ลูก , การทำเจลลี่ดอกไม้ และการทำซุ้มดอกมะลิ รวมทั้งมินิคอนเสิร์ต เรียกว่ามางานเดียวทั้งอิ่มท้อง อิ่มใจ ในงานMega Food Tastival 2019

อย่าลืมนะคะ อยากกินของอร่อย ต้องมางาน Mega Food Tastival 2019 วันที่ 8-12 สิงหาคมนี้ เวลา10.00-21.00 น. ที่เมกา ฟู้ดวอล์ค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา

เมนูธรรมดาที่รสชาติไม่ธรรมดา คือความพิเศษที่เหล่านักชิมกำลังมองหา

เมนูธรรมดาที่รสชาติไม่ธรรมดา คือความพิเศษที่เหล่านักชิมกำลังมองหา ด้วยเทรนด์ใหม่สายโลคอล สตรีทฟู้ดของไทยที่โด่งดังระดับโลกเเต่ทว่าร้านขึ้นชื่อกลับไม่ได้หากินได้ง่ายนัก จะดีเเค่ไหนถ้าเหล่าร้านในตำนานมารวมตัวกันให้เราได้ไปตระเวนชิมได้ที่เดียว

เตรียมพบกับปรากฎการณ์ความอร่อยกับเมนูพิเศษที่เหล่านักชิมต้องห้ามพลาดในงาน “เมกา ฟู้ด เทสติวัล 2019” ( Mega Food Tastival 2019 ) จัดโดยมติชนอคาเดมี ระหว่างวันที่ 8-12 สิงหาคมนี้ ณ เมกา ฟู้ดวอล์ค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Eat Like A Local” โดยรวบรวมกว่า 30 ร้านอร่อยมาไว้ภายในงานแห่งเดียว

สายชิมสายช็อปต้องร้องว้าวกับความเอ็กซ์คูลซีฟที่จะได้ลิ้มลอง “เกี๊ยวกุ้ง”อันลือลั่นของต้นตำรับ “เฮียจกโต๊ะเดียว” ไม่ต้องจองกันถึง 2 เดือนอีกต่อไป

ต่อด้วยความเข้มข้นสุดบรรยายของ “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวนายหมี” วัดหนามแดง-บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยนายหมี – อำนาจ พิทยาธร ที่ปรุงก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรไหหลำ กับน้ำซุปรสเด็ด และการคัดเลือกวัตถุดิบ ใช้น้ำซุปเคี่ยวเนื้อแต่ละวันกว่า 100 กิโลกรัม ไม่ใส่ผงชูรส

พร้อมฟินไปกับขาหมูเยอรมัน ByChefDay , ขนมไทยป้าเยาว์เจ้าเก่าติวานนท์ , ชาเย็นเเก้วยักษ์สุดฮิปเตอร์ โดยร้านพิเศษเเห่งภูเก็ต , ซี่โครงปราณ สูตรโบราณจากปราณบุรี , คุณภาพเน้นๆกับร้านก๋วยเตี๋ยวเส้นปลาโกอ่าง

สุดยอดเเห่งความสดเเละความเเซ่บจากร้านถนัดหอย, ชิมปูเเน่นๆ กับ Viya Crab , กาเเฟไข่ไก่อารมณ์ดี Grün cafe’& Eatery, ข้าวเเกงปักษ์ใต้สูตรเด็ดกับร้านพริกไทยสด , ขนมจีนบ้านพี่เเยม ฐปณีย์ นักข่าวสาวชื่อดัง , เบเกอรี่จากเชฟญี่ปุ่นของ Brainwake , เครื่องดื่มสุดละมุนจาก In. Vi.Tation Café ย้อนยุคไปชิมขนมไทยต้นตำรับกับร้าน ขนมบ้านคุณยาย , ซาลาเปาสูตรทับหลี เเละร้านอร่อยอีกมากมาย

นอกจากนี้ ร้านอาหารระดับตำนานของนักชิมที่พร้อมใจกันมาร่วมเปิดร้านภายในงานเดียวกันแล้ว เหล่าเชฟคนดังจากร้านอร่อย ยังพร้อมมาสาธิตแนะนำวิธีการปรุงอาหารเมนูอร่อยอีกด้วย อาทิ เชฟเฮียจก -สมชาย ตั้งสินพูลชัย และ เชฟแจ็ค – จักรภัทร กีรพัฒนพิบูลย์ จากร้านขาหมูกรอบ บาย เชฟเดย์ เป็นต้น

ความบันเทิงยังไม่หมดเท่านี้ ภายในงานยังมีความสนุกสนานอีกเพียบกับเวิร์คช้อปพิเศษต้อนรับเทศกาลวันแม่ อาทิ เวิร์คช้อปการชงชาเฉพาะบุคคล อย่าง Tea Blending , การทำโปสการ์ดแม่-ลูก , การทำเจลลี่ดอกไม้ และการทำซุ้มดอกมะลิ รวมทั้งมินิคอนเสิร์ตฟังเพลินๆ อิ่มเอมสบายอารมณ์ยิ่งนัก

เเถมร่วมใจรักษ์โลก รวมพลังรียูสกับ ZeroMoment Refillery ร้านเเนวใหม่ สไตล์ Zero Waste , Refund Machine ตักตวงได้ตามใจเเถมไร้ขยะ เมื่อความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ใส่ใจสิ่งเเวดล้อม “อยากซื้อเท่าที่อยากได้ เเละใส่ภาชนะของตัวเอง” จึงเกิดธุรกิจใหม่ที่มาตอบโจทย์นี้ มาดูกันว่าน่าสนใจเเค่ไหน

เกี๊ยวกุ้ง เฮียจกโต๊ะเดียว
เกี๊ยวกุ้ง เฮียจกโต๊ะเดียว

ตามรอยอร่อยในสไตล์ Eat Like A Local ฟินไปด้วยกันที่งาน Mega Food Tastival 2019 ณ ลาน FoodWalk Plaza ศูนย์การค้าเมกาบางนา 8-12 สิงหาคม เวลา 10.00-21.00 น. ศึกอาหารครั้งนี้ต้องลุย !