7 เหตุผลทำไมต้องมาเรียน คอร์ส ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำโบราณ เจริญพุงโภชนา

1. ร้านเจริญพุงโภชนา เป็นโมเดลต้นแบบธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยว รสชาติเทียบชั้นตำนาน ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
2. เรียนกับ คุณอาร์ต-ภาคภูมิ สุวรรณเตมีย์ เจ้าของร้านเจริญพุงโภชนา นักชิม และนักการตลาด
3. ได้สูตรอาหารถึง 3 เมนู ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำโบราณ ข้าวต้มแห้ง หมูสามชั้นทอดน้ำปลา
4. สอนตั้งแต่การเริ่มเปิดร้าน ต้องเริ่มต้นยังไง ต้องมีทุนเท่าไหร่
5. เปิดแล้ว บริหารจัดการร้านอย่างไร 
6. การบริหารวัตถุดิบให้คุ้มค่า
7. แนะนำการสร้างเบรนด์ ทำอย่างไรให้ร้านเราอยู่ได้ และเป็นที่จดจำ

เอ่ยถึง Top 10 ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำในกรุงเทพฯ แซ่บ เข้มข้น รสเด็ด เชื่อขนมกินได้เลยว่า หนึ่งในนั้นต้องมี “ร้านเจริญพุงโภชนา” รวมอยู่ด้วย เพราะลูกค้าต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำร้านเจริญพุงโภชนา รสชาติจี๊ดจ๊าดจัดจ้านอร่อยระดับตำนาน

อีกจุดเด่นของก๋วยเตี๋ยวร้านเจริญพุงโภชนา คือ เครื่องแน่นมาก ทุกชามจะฟูฟ่องด้วยเครื่องเครา กลบเส้นที่อยู่ในน้ำซุปเลิศรสจนเกือบมิด ไล่เรียงตั้งแต่ ไส้นุ่มๆ ตับ กระเพาะหมูหั่นเป็นเส้นยาวๆเล็กๆ หัวใจ เลือดชิ้นเล็กๆ หั่นเต๋า หมูสับหมักและเนื้อหมูหมักนุ่มๆ หอมน้ำมันงาเต้าหู้ทอดกรอบๆ ชิ้นเล็กๆ แผ่นเกี๊ยวทอดกรอบ ผักชี ต้นหอม ถั่วงอก ถั่วลิสงคั่ว ถั่วฝักยาวหั่นแฉลบชิ้นเล็กๆ และกุ้งแห้งตัวเล็กๆ โดยทุกอย่างรวมกันอยู่ในชามอย่างลงตัว

นอกจากรสชาติอร่อยเหาะแล้ว การเลือกทำเลในย่านชุมชน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร้านเจริญพุงโภชนาเป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็ว

การเติบโตในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปีของ ร้านเจริญพุงโภชนา จึงเป็นต้นแบบทำธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ

คุณอาร์ต-ภาคภูมิ สุวรรณเตมีย์ เจ้าของร้านเจริญพุงโภชนา เล่าที่มาที่ไปของการเริ่มเปิดร้านเจริญพุงโภชนาว่า เรียนจบสาธิตประสานมิตร แล้วไปเรียนถ่ายรูปต่างประเทศหลายปี พอกลับมาได้ช่วยพี่ชายทำร้านพวกกินดื่มกลางคืน แต่ร้านพวกนี้ทำให้สุขภาพแย่ไปด้วย จึงหันไปทำงานเกี่ยวกับรถยนต์กับเพื่อนที่เป็นเจ้าของโชว์รูมรถยนต์ เราไปทำเป็น General Manager จากนั้นย้ายไปอยู่บริษัททำผักผลไม้แช่แข็ง ทำได้สักพักจึงเริ่มคิดอยากสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง
“ด้วยความที่เป็นคนชอบกิน เลยคิดว่าทำก๋วยเตี๋ยวดีกว่า เพราะการจัดการบริหารง่าย ซึ่งเรามีความรู้และประสบการณ์ด้านการตลาดมาแล้ว จึงใช้มุมมองธุรกิจมาใช้กับการต่อยอดเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวและขยายสาขา

LINE_ALBUM_เชฟอาร์ท 12 เชฟเจริญพุง_๒๓๐๓๐๘_69

ชื่อ ร้านเจริญพุงโภชนา มาจากตอนแรกคิดว่าจะทำยังไงให้ชื่อติดหู น่ากิน น่ารัก ตอนแรกคิดชื่อหลากหลายมาก ทั้ง หนึ่งในดวงใจ เซ็งลี้ฮ้อ รุ่งเรือง โชคดี โดยคนจีนเขาจะมีคำพวกนี้ทำให้กิจการเจริญรุ่งเรือง จนชื่อเจริญพุงเข้ามาในหัว ตอนแรกจะตั้งชื่อเจริญพุงเฉยๆ แต่เสิร์ชดูดวงจากอินเตอร์เน็ต บวกลบคูณหาร บอกว่าชื่อยังไม่ดี เลยเติมคำว่า “โภชนา” เข้าไป เป็น “เจริญพุงโภชนา” ปรากฏว่าชื่อนี้เป็นมงคล จะทำให้กิจการเจริญรุ่งเรือง ถูกโฉลก จึงเลือกชื่อนี้

หลังจากได้ชื่อร้านแล้ว คุณอาร์ตบอกว่า เราต้องหาเอกลักษณ์ของร้านด้วย หนึ่งในนั้นที่ทำให้ลูกค้าเกิดภาพจำติดตา คือ จานและชามกระเบื้องสีขาวที่มีลายดอกไม้อยู่ขอบชาม 
ด้านรสชาติ จัดเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ร้านเจริญพุงโภชนาประสบความสำเร็จ โดยคุณอาร์ต ทุ่มเทและใส่ใจมาก เจ้าตัวบอกว่า ก๋วยเตี๋ยวบางร้าน น้ำซุปไม่อร่อย ปรุงให้ตายยังไงก็ไม่อร่อย อย่างต้มยำกุ้งที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่ทำไมแต่ละที่รสชาติไม่เหมือนกัน ร้านก๋วยเตี๋ยวก็เช่นกัน มีร้านมากมาย แต่ละร้านจะมีเคล็ดลับต่างกัน 

“จะบริหารวัตถุดิบยังไง ต้องเข้าใจในวัตถุดิบ เพื่อทำให้ศักยภาพวัตถุดิบออกมารสชาติดีที่สุด ยกตัวอย่าง เช่น การแต่งเครื่องก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ทุกคนรู้ว่าเราต้องใส่น้ำตาล น้ำปลา มะนาว ถั่ว นี่คือวัตถุดิบหลัก อย่างน้ำตาล ใช้ยี่ห้ออะไร ปริมาณเท่าไหร่ ในตอนตั้งสูตรครั้งแรก คุณก็ต้องใช้ยี่ห้อและปริมาณเท่านั้นตลอด ถ้าไม่มีจริงๆ ค่อยหาน้ำตาลที่รสชาติใกล้เคียงกันมากที่สุดมาแทน  

คอร์ส ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำโบราณ เจริญพุงโภชนา  สอน 30 มิ.ย. วันเดียว  พลาดแล้วพลาดเลย 1 ปีเปิดสอนครั้งเดียว
ณ มติชนอคาเดมี ประชานิเวศน์1
.
คอร์สสอน 3 แมนู #สุดคุ้ม
⭐️ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำโบราณ
⭐️ข้าวต้มแห้งพร้อมเครื่อง
⭐️หมูสามชั้นทอดน้ำปลา

วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2567 เวลา 9.00 น. – 15.00 น.
ท่านละ 2,999,-
.
สมัครด่วนก่อนเต็ม‼️
☎️ 08-2993-9097
☎️ 08-2993-9105
.
สมัครเรียนคลิก 👉🏻 https://forms.gle/XxYFZXWqok7kiH3T6
เปิดสอนที่ มติชนอคาเดมี ประชานิเวศน์ 1 เส้นทาง https://goo.gl/maps/PjeD4qFyHPK5AjZU7
.
✳️line : @matichonacademy คลิก https://line.me/R/ti/p/%40matichonacademy

“ปีที่ 2”

“ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพ” ปีที่ 2 ไทยประกันชีวิต ร่วมกับ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน #มติชนอคาเดมี จัดอบรมอาชีพ แบบเรียนรู้ง่าย ต้นทุนน้อย ภายใต้แนวคิด “สอนให้รู้ สู่อาชีพที่ยั่งยืน”

กับเมนู แซนด์วิชเกาหลี แซนด์วิชโบราณ แฮมเบอร์เกอร์ พร้อมทั้ง เติมเต็มความรู้กับการวางแผนการเงิน เพื่อเพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงทางการเงิน ในหัวข้อ “หลังขายดี มีเงินทอง ต้องจัดการ” เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2567 ณ วิสาหกิจชุมชนเพาะเลี้ยงและแปรรูปชันโรงตำบลบางน้ำผึ้ง จ.สมุทรปราการ

ปี 2567 นี้ ไทยประกันชีวิตขยายพื้นที่อบรมแก่ชุมชนรอบสาขาใน 10 จังหวัด เพื่อให้ความรู้ ปูทางสู่การหารายได้และการสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน

“ส่งต่อความรู้ และโอกาสสร้างรายได้”

ประเดิมจัดอบรมเป็นที่แรกที่สาขาไทยประกันชีวิต จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 กับโครงการ “ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพ” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดย ไทยประกันชีวิตร่วมกับ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) จัดอบรมอาชีพแบบเรียนรู้ง่าย ต้นทุนน้อย ภายใต้แนวคิด “สอนให้รู้ สู่อาชีพที่ยั่งยืน” ในปีนี้ขยายพื้นที่เป็น 10 ชุมชนรอบสาขาใน 10 จังหวัด

งานนี้ไทยประกันชีวิต จัดใหญ่จัดเต็มทั้งทักษะความรู้เพื่อนำไปประกอบอาชีพ การบริหารจัดการการเงิน และการออม ที่สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้อย่างยั่งยืน โดยมี “เชฟหน่า – คุณชุติพันธุ์  สุรนาทชยานันท์”  เชฟจากมติชนอคาเดมี เจ้าของช่อง YouTube และ Facebook “เรียนทำแซนวิชกับพี่หน่า” ซึ่งมียอด Follower มากกว่า 3 แสนคน! มาถ่ายทอดเทคนิคและเคล็ดลับความสำเร็จในการขายแซนด์วิช จนก่อร่างสร้างตัวจากความรู้และสิ่งที่ทำจนเป็นกิจการที่มั่นคง ซึ่งแน่นอนว่าเชฟหน่าไม่ได้แค่สอนสูตรทำแซนด์วิช แต่ยังแนะนำวิธีการเลือกใช้วัตถุดิบ เทคนิคการทำธุรกิจที่ยั่งยืน คือความซื่อสัตย์กับลูกค้า ความสม่ำเสมอและคุณภาพที่คงที่ ลงลึกไปถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดในทุกคำที่ลูกค้ารับประทาน

เรียกได้ว่าบรรยากาศในวันอบรมนอกจากอัดแน่นไปด้วยความรู้แล้ว ยังเต็มไปด้วยสีสันและความสนุกจากความเป็นกันเองของเชฟหน่า ซึ่งเป็นชาวจังหวัดเลย ที่ข้ามเขตมาสอนที่ จ.อุบลราชธานี มีการสื่อสารกันด้วยภาษาถิ่นที่เข้าใจง่าย เรียกเสียงหัวเราะสนุกสนานตลอดช่วงกิจกรรม การอบรมในครั้งนี้ ไทยประกันชีวิตได้คัดสรรเมนูแซนด์วิชเกาหลี แซนด์วิชโบราณ และสลัดโรล  ให้เชฟหน่าสอนผู้เข้าอบรม ซึ่งเป็นเมนูที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ใช้เงินลงทุนน้อย วางขายได้ทุกที่ ไม่เว้นแม้ในช่องทางออนไลน์ สามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเองและคนในครอบครัว ซึ่งนอกจากการให้ความรู้แล้ว ไทยประกันชีวิตยังได้มอบอุปกรณ์ทำแซนด์วิช และวัตถุดิบคุณภาพดีให้กลับไปทดลองทำที่บ้านกันต่ออีกด้วย  

1

นอกจากกิจกรรมอบรมส่งเสริมทักษะด้านอาชีพแล้ว ยังมีวิทยากรคนรุ่นใหม่ ที่มองเห็นโอกาสและรู้จักวิธีการวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ คุณเนตรนภิส  เทพบุญตา ผู้จัดการภาค บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  สาขาอุบลราชธานี มาบรรยายในหัวข้อ “หลังขายดี มีเงินทอง ต้องจัดการ” เน้นการสร้างความเข้าใจด้านบริหารจัดการการเงินและการออม ด้วยการสื่อสารที่ทำให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจได้ง่าย เพื่อนำไปต่อยอดวางแผนด้านการเงินให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคง

พิธีเปิดโครงการ “ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพ” ปีที่ 2 มี คุณวราภรณ์  ลีกุลนิมิต  ผู้อำนวยการสายงาน สายงานกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคม คุณบุญยงค์ หันตพงศ์  ผู้อำนวยการทั่วไป (ฝ่ายกิจการตัวแทน)  และ คุณธนกร นิยมศรี ผู้จัดการฝ่ายขยายงานภูมิภาค 118 สาขาอุบลราชธานี บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมทำพิธีเปิด โดยกิจกรรมที่แรกจบลงไปด้วยความเรียบร้อย สนุกสนาน ผู้เข้าอบรมต่างได้รับความสุขและเต็มอิ่มกับความรู้กันอย่างถ้วนหน้า

 

“สอนให้รู้ สู่อาชีพที่ยั่งยืน”

ถือเป็นงานอบรมอาชีพที่สนุก และได้ความรู้เพียบ กับโครงการ “ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ที่ ไทยประกันชีวิต ร่วมกับ ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชน อคาเดมี) จัดอบรมอาชีพแบบเรียนรู้ง่าย ต้นทุนน้อย ภายใต้แนวคิด “สอนให้รู้ สู่อาชีพที่ยั่งยืน” ในปีนี้ขยายพื้นที่ ชุมชนรอบสาขาไทยประกันชีวิตใน 10 จังหวัด

ประเดิมจัดอบรมที่แรกใน จ.อุบลราชธานี  บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข ความสนุก แต่แฝงด้วยความรู้ กับการอบรมทำแซนด์วิชเกาหลี  แซนด์วิชโบราณ และสลัดโรล สอนโดย “เชฟหน่า – คุณชุติพันธุ์  สุรนาทชยานันท์”  เชฟจากมติชนอคาเดมี เจ้าของช่อง YouTube และ Facebook “เรียนทำแซนวิชกับพี่หน่า” ซึ่งมียอด Follower มากกว่า 3 แสนคน!  ซึ่งแน่นอนว่าเชฟหน่าไม่ได้แค่สอนสูตรทำแซนด์วิช แต่ยังแนะนำวิธีการเลือกใช้วัตถุดิบ เทคนิคการทำธุรกิจที่ยั่งยืน คือความซื่อสัตย์กับลูกค้า ความสม่ำเสมอและคุณภาพที่คงที่ ลงลึกไปถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดในทุกคำที่ลูกค้ารับประทาน

นอกจากกิจกรรมอบรมส่งเสริมทักษะด้านอาชีพแล้ว ยังมีวิทยากรคนรุ่นใหม่ ที่มองเห็นโอกาสและรู้จักวิธีการวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ คุณเนตรนภิส  เทพบุญตา ผู้จัดการภาค บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  สาขาอุบลราชธานี มาบรรยายในหัวข้อ “หลังขายดี มีเงินทอง ต้องจัดการ” เน้นการสร้างความเข้าใจด้านบริหารจัดการการเงินและการออม ด้วยการสื่อสารที่ทำให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจได้ง่าย เพื่อนำไปต่อยอดวางแผนด้านการเงินให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคง

LINE_ALBUM_2024.5.10_๒๔๐๕๑๐_107

กำเนิด‘ก๋วยเตี๋ยว’เมนูเส้นแสนอร่อยในไทย..เริ่มยุคไหน??

ในยุคกรุงศรีอยุธยาประเทศไทยหรือประเทศสยามมีการติดต่อกับชาวต่างชาติมากมาย ทำให้มีการนำอาหารสัญชาติจีนและฝรั่งเข้ามา ‘ก๋วยเตี๋ยว’ ก็เช่นกัน สันนิษฐานว่าประเทศไทยมีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยชาวจีนนำเข้ามาเป็นอาหารกินกันในเรือ มีการต้มน้ำซุป ใส่หมู ใส่ผัก และเครื่องปรุงเพื่อความอร่อย แต่สำหรับคนไทยแล้วถือว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ในยุคนั้น

ก๋วยเตี๋ยวเป็นที่รู้จักแพร่หลายในยุคไหน??
เริ่มจากเมื่อตอนน้ำท่วมกรุงเทพฯ พ.ศ.2485 ข้าราชการไม่สามารถออกไปกินข้าวกลางวันข้างนอกได้ จนต้องให้ก๋วยเตี๋ยวเรือพายเข้าไปขายในทำเนียบ ครั้งนั้น จอมพลป.พิบูลย์สงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และได้กินก๋วยเตี๋ยว จึงเริ่มส่งเสริมให้คนไทยหันมากินก๋วยเตี๋ยว โดยเห็นว่าหากประชาชนหันมาร่วมกันบริโภคก๋วยเตี๋ยวจะแก้ไขเศรษฐกิจของชาติ มีเงินหมุนเวียนในประเทศ

หากพี่น้องชาวไทยกินก๋วยเตี๋ยวคนละหนึ่งชาม วันหนึ่งจะมีคนกินก๋วยเตี๋ยวสิบแปดล้านชาม ค่าก๋วยเตี๋ยวของชาติไทยเท่ากับเก้าสิบล้านสตางค์เท่ากับเก้าแสนบาทต่อวัน เป็นจำนวนเงินหมุนเวียนมากพอใช้ เงินเก้าแสนบาทนั้นก็จะไหลไปสู่ชาวไร่ ชาวนา ชาวทะเลทั่วกัน ไม่ตกไปอยู่ในมือใครคนหนึ่งคนใดเพียงคนเดียว

ความนิยมในการขายก๋วยเตี๋ยวมีมากขึ้น อย่าง จ.ปทุมธานีเรื่องของก๋วยเตี๋ยวโดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวเรือที่รังสิตไม่เคยเป็นรองใครและโด่งดังไปทั่ว สังเกตได้จากช่วงสะพานข้ามคลองรังสิตจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นทิว

เดชา กลิ่นกุสุม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองรังสิต เล่าไว้ในบทความเรื่อง ประวัติก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิต สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี ว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตแบ่งออกเป็น 3 ยุค

ยุคแรก พายเรือสำปั้นขายตามคลองรังสิต และคลองแยกเช่นคลองหนึ่ง คลองสอง และคลองสาม ฯลฯ
ยุคที่สอง เริ่มประมาณปี พ.ศ.2501 ยกเรือขึ้นบก แต่นั่งขายอยู่ในเรือตามเพิงหน้าร้านค้า ใช้เรือสำปั้นและอุปกรณ์เดิมๆ พบเห็นในตลาดรังสิต ริมถนนพหลโยธิน และบริเวณตลาดเซียร์ตรงสะพาน3 ปัจจุบันสะพานไม่มีแล้ว โดยมีหลายเจ้าด้วยกัน
ยุคที่สาม ราว พ.ศ.2537 ขายในแพ หรือใช้เรือต่อขนาดใหญ่(เรือเอี้ยมจุ้น) จอดลอยลำในคลองรังสิต ทอดสะพานให้คนเดินจากริมคลองเข้าไปในเรือ และแพ ขายทั้งกลางวันและกลางคืน มีจำนวนหลายสิบเจ้า

แต่ละร้านจะมีลูกค้ามาอุดหนุนมากน้อยแค่ไหน วัดกันที่รสชาติจริงๆ ค่ะ

LINE_ALBUM_ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา 710 66 เเละ 41166_๒๓๑๑๐๙_20

ส่วนใครอยากได้สูตรเด็ดก๋วยเตี๋ยวเรือ เรามีคอร์สออนไลน์มาแนะนำ สูตรต้นตำรับอ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ดินแดนก๋วยเตี๋ยวเรือ สอนโดย อ.โอฬาร ศรีสวรรค์

สมัครที่มติชนอคาเดมี      โทร  08-2993-9097  /  08-2993-9105

Inbox Facebook : Matichon Academy – มติชนอคาเดมี คลิก m.me/Matichon.Academy.Thailand

line : @matichonacademy คลิก https://line.me/R/ti/p/%40matichonacademy

“กะเพราเขย่าโลก ! “กะเพรากายละเอียด” ร้านจิตสดชื่น”

พามารู้จัก ‘เมนูผัดกะเพรากายละเอียด’ จิตสดชื่น ร้านอาหารเล็ก ๆ ใน ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี แต่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ “มหกรรมกะเพราเขย่าโลก”  World Kaphrao Thailand Grand Prix 2023

คุณปภากร นิยมทรัพย์ หรือคุณแบงค์ เจ้าของร้านจิตสดชื่น เล่าว่าเมนูที่ได้รับรางวัลคือ “กะเพรากายละเอียด” เกิดจากที่ตนอยากจะทำเมนูอาหารง่าย ๆ อย่างผัดกะเพราให้มีความพิเศษและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ด้วยการนำใบกะเพรามาสับละเอียด เพื่อให้ได้กลิ่นหอมกะเพราชัดเจนขึ้น ก่อนลงไปผัดกับส่วนผสมสำคัญคือพริกถึง 5 ชนิด ประกอบด้วย พริกชี้ฟ้าแดง พริกชี้ฟ้าเหลือง พริกกะเหรี่ยง พริกขี้หนูสวน และ พริกไทย มาโขลกจนละเอียดร่วมกับกระเทียม 

ส่วนที่ต้องใช้พริก 5 ชนิด เพราะพริกแต่ละชนิดมีรสชาติความเผ็ดและกลิ่นหอมที่แตกต่าง ทำให้เมนูผัดกะเพรา จะให้มิติของความเผ็ดที่แตกต่างจากเมนูผัดกะเพราทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พริกกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นพริกพื้นถิ่นของกาญจนบุรี และเป็นพริกที่ได้ชื่อว่ามีความเผ็ดและมีความหอมเป็นเอกลักษณ์ติดอันดับต้นของประเทศ

เมื่อนำมาผัดกับส่วนผสมที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี อย่างเนื้อวากิว จากประเทศออสเตรเลีย ยิ่งทำให้เมนูกะเพรากายละเอียดมีความอร่อยไม่เหมือนใคร จนสามารถคว้าอันดับ 2 ในการประกวดเวทีระดับโลกในครั้งนี้มาได้

สำหรับ ร้านจิตสดชื่น ตั้งอยู่ภายในซอยอินเดีย ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ร้านเปิดให้บริการทุกวัน จันทร์-พฤหัสบดี เปิดตั้งแต่ 11.30-22.00 น. ส่วนวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ร้านจะเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-24.00 น.


S__42197048_0
S__42197046_0

ข่าวดี!! คุณแบงค์ จิตสดชื่น ผัดกระเพราระดับโลก ตกปากรับคำมาร่วมแคมเปญ 12 เชฟ 12 เดือน กับมติชนอคาเดมี เป็นการเปิดสอนที่แรก !! วันที่ 25 ก.พ.67 ราคา 2,999 บาท เปิดสูตรเด็ดไม่มีกั๊ก สอนผัด /สอนทำเครื่องตำ  สอบถามเพิ่มเติม 082-993-9097 , 082-993-9105  หากไม่ยากพลาดคอร์สเรียนที่น่าใจ add line : @matichonacademy คลิก https://line.me/R/ti/p/%40matichonacademy

ร้านก๋วยเตี๋ยวรสดีเด็ด ซอยจุฬาฯ9 ถนนพระราม4  ร้านดังเมนูเด็ดสำหรับคนรักเส้น ขึ้นชื่อความอร่อยทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น หมูตุ๋นมาตั้งแต่รุ่นพ่อที่เดิมเปิดอยู่ท่าพระจันทร์ ก่อนมาปักหลักที่ซอยจุฬาฯ9

มติชนอคาเดมี เปิดหลักสูตรพิเศษ 1 ปีมีครั้งเดียว กับ ก๋วยเตี๋ยวรสดีเด็ด สอนโดย คุณนพ-สิทธิฉันท์ วุฒิพรกุล ทายาทรุ่นที่ 2 ของร้าน  ที่รับไม้ต่อจากรุ่นพ่อ สอนทำก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น, ไก่ตุ๋น ,พริกน้ำส้ม ฉบับรสดีเด็ด ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน

ที่ผ่านมา ก๋วยเตี๋ยวรสดีเด็ด สร้างชื่อไปไกลถึงต่างแดน เปิดสาขาที่ประเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และกัมพูชา ให้ทั้งชาวไทยในต่างแดนและชาวต่างชาติลิ้มลองความเด็ดแบบต้นฉบับ โดย คุณนพ-สิทธิฉันท์ เป็นหัวเรือใหญ่ในการขยายแฟรนไชส์ในต่างแดน

นับเป็นข่าวดีที่ คุณนพ-สิทธิฉันท์ ตอบรับการมาสอนที่มติชนอคาเดมี ถ้าได้เห็นลีลาสะบัดตะกร้อลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวจะรู้เลยว่าขั้นเทพ

สูตรน้ำซุปที่นี่ เห็นโกยใส่ ตั้งแต่ข่าทุบ กระเทียม รากผักชีโขลกหยาบ อบเชย โป้ยกั๊ก ฮ่วยซัว เก๋ากี้ น้ำตาลปี๊บ หรือ จะใช้น้ำตาลกรวดก็ได้ หากต้องการความหอมหวาน ผงพะโล้ พริกไทยป่น ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย แถมด้วยผงชูรส (ใส่ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้ แล้วแต่ชอบ)

เมื่อน้ำเดือดได้ที่ก็มาครบทั้งรสและกลิ่นหมูตุ๋นนั้นเปื่อยดี เคล็ดลับใช้ไฟน้อย แต่ต้องนาน ส่วนหมูสดใช้สันคอเท่านั้น ไม่ต้องหมัก ใช้วิธีการลวกแบบ “อาบน้ำหมู” เพื่อดึงรสชาติออกมาให้ถึงที่สุด แถมยังนุ่มอย่างน่าอัศจรรย์

เด็ดสุดท้าย “พริกน้ำส้ม” ออริจินอลของร้านจะใช้แค่พริกขี้หนูสวนแท้ๆ บดใส่ถ้วย แล้วเติมน้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรดเท่านั้น

แต่สูตรพริกน้ำส้มที่สอนให้มติชนอคาเดมี ปรับจากดั้งเดิม เพิ่มเติมพริกกะเหรี่ยงและกระเทียม เอาไปคั่วจนฉุน เติมกระเทียมดอง น้ำตาล เกลือ แล้วปั่นให้เข้ากัน ก็ได้พริกน้ำส้มรสเด็ด ใส่ก๋วยเตี๋ยวยังไงก็อร่อย

เป็นเพียงแค่เคล็ดลับความเด็ดส่วนหนึ่งเท่านั้น ทุกกระบวนการยังมีเทคนิค สัดส่วนของวัตถุดิบอีกเพียบ

ใครสนใจเรียน มีสอนวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2563 นี้ ที่ “มติชนอคาเดมี” ที่เดียว รับรองรู้ทุกเคล็ดลับ ราคา 2,999 บาท

สนใจติดต่อ มติชนอคาเดมี  

Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124                            

Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105

Inbox Facebook : Matichon Academy – มติชนอคาเดมี

line : @matichonacademy

ส้นหมี่พันกุ้งซอสไข่เค็ม  เมนูนี้มาทั้งกุ้งทั้งเส้นเน้นๆ กันเลยทีเดียว บอกเลยเมนูนี้ฟินสุดๆ ถ้าได้ลองชิมสักคำ รับรองติดใจแน่นอน คอนเฟิร์ม!! ใครอยากรู้ต้องเข้าครัวไปลองทำกันดูนะคะ อร่อยชัวร์

วัตถุดิบ
– เส้นหมี่
– กุ้งสด
– ไข่เค็ม (เอาแต่ไข่แดง)
– น้ำมันพืช
– กระเทียมสับ
– น้ำมันหอย
– น้ำพริกเผา
– ต้นหอม
– ขึ้นฉ่าย
– หัวหอมใหญ่
– พริกชี้ฟ้า (สำหรับตกแต่ง)

วิธีการทำ
– นำหอมใหญ่, ขึ้นฉ่าย, พริกชี้ฟ้า, กระเทียมมาหั่นเตรียมไว้
– นำเส้นหมี่มาพันกุ้งสดที่แกะเปลือกแล้ว มาพันเตรียมไว้
– นำกระทะตั้งน้ำมันให้ร้อน แล้วนำกุ้งลงไปทอดให้เหลืองกรอบ
มาทำน้ำซอสราดกันค่ะ
– นำไข่แดง (ไข่เค็ม) มาปั่นรวมกับน้ำมันพืช
– นำซอสไข่แดงมาผัดให้ร้อน ใส่กระเทียม, หอมใหญ่, พริกเผา, น้ำมันหอยลงไปแล้วผัดให้เข้ากัน
– จากนั้นตามด้วยขึ้นฉ่าย พริกชี้ฟ้า แล้วผัดให้เข้ากันอีกที
– จัดจาน นำกุ้งที่ทอดเสร็จไว้แล้วนำมาราดน้ำซอส พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า

สูตรทำ "เส้นหมี่พันกุ้งซอสไข่เค็ม"

"เส้นหมี่พันกุ้งซอสไข่เค็ม" อร่อย น่าทาน ทำไม่ยาก!Matichon Academy – ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน

โพสต์โดย Khaosod – ข่าวสด เมื่อ วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2017

สนใจเรียนทำอาหาร
ดูได้ที่ www.matichonacademy.com
หรือดูตารางเรียนประจำเดือนได้ที่นี่ >ตารางเรียน

หรือติดตามอัพเดทเรื่องราวอาหารและไลฟ์สไตล์สนุกๆได้ที่
Facebook : MatichonAcademy