เปิดตำรา “ข้าวแช่ชาววัง”
ต้นตำรับรัชกาลที่๕ สู่ มติชนอคาเดมี
ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ประสบปัญหาเดียวกับคนนับล้าน ที่ว่าอากาศร้อนระอุเช่นนี้ จะรับประทานอาหารอะไรดีให้ช่วยขับความร้อนออกจากร่างกาย วันนี้เราขอนำเสนอ 1 ในเมนูดับร้อน ที่หาทานได้ไม่ง่ายนักในปัจจุบัน และวิธีการทำที่แท้จริงไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด
“ข้าวแช่ชาววัง” เมนูที่มีความเป็นมาอย่างยาวนาน ถ้าให้ว่าความกันคงจะเริ่มเข้าสู่ราชอาณาจักรช่วงรัชกาลที่ 4 ถึงห้า โดยมีที่มาจากการเสด็จประพาสต้นที่จังหวัดเพชรบุรี ว่ากันด้วยความโดดเด่นของข้าวแช่ชาว ของคาวดับร้อน ในเรื่องของความหอมน้ำลอยดอกมะลิ รวมทั้งน้ำกลิ่งของเทียนอบจะมีความหอมเฉพาะ เพราะสูตรนี้ได้ผ่านกระบวนการต้มน้ำแล้วทิ้งน้ำให้เย็นถึงจะนำมาอบน้ำลอยดอกมะลิ กลิ่นที่ได้ก็จะทั้งคงหอมและนุ่มควบคู่กัน อีกทั้งกลิ่นควันเทียนที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ให้ความหอมอยู่ในเกณฑ์ที่พอดีไม่ฉุนเกินไป ในส่วนของเม็ดข้าวจะใช้เป็นข้าวหอมมะลิกลางปี ไม่แฉะเกินไปหรือแข็งเกินไป ที่ขาดไม่ได้คือ เครื่องเคียงว่าด้วยในตำราของข้าวแช่ชาววัง
มีอย่างต่ำอยู่ 5 อย่าง ประกอบไปด้วย…
ลูกกะปิทอด จากการคัดสรรกะปิที่ดีและมีคุณภาพ ผลที่ได้ตัวกะปิจะมีรสทีไม่เค็มมากมีความหอมของกะปิ ความหอมของตัวเครื่องที่ปรุง ไม่ว่าจะเป็นตะไคร้หรือกระชาย โดยจะใช้ปลากรอบเป็นตัวที่จะมาใช้ทำลูกกะปิกลิ่นที่ได้จะเข้ากัน บวกกับการที่ปั่นเป็นก้อนผัดพอเข้ากันไม่แห้งและแฉะเกินไป กับการทอดพอดีแป้งจะกรอบทำให้ลูกกะปิไม่ขม ต่อด้วย
ปลาผัดและหัวผักกาดเค็มผัดหวานตัวนี้จะมีรสชาติออกหวานเค็มจะทำให้กับกินกับข้าวแช่เข้ากันได้อย่างพอดิบพอดี
ตัวพริกหยวกสอดไส้กับตัวหัวหอมสอดไส้ ลักษณะของต้นหอม รากผักชี กระเทียม พริกไทยแล้วก็บรรจุในตัวพริกกับพริกหยวก จานนั้นเราก็จะใช้ไข่ที่เป็นตะข่ายหุ้มที่พริกหยวกนำไปนึ่งให้สุกก็พอ ลูกหอมโทนที่เราสอดไส้เราก็นำไปชุปกับลูกกะปิทอด แป้งลูกกะปิทอดก็จะทำให้ดูน่ากินมากขึ้น
รวมทั้งห้าตัวนี้เมื่อนำมาทานกับข้าวแช่ก็จะเข้ากันพอดี ประกอบกับการกินควบคู่กับไปหมูฝอยเนื้อฝอยก็จะเข้ากันดียิ่งขึ้น หรือนอกจากทานคู่ของคาวแล้ว ยังเสริมของเปรี้ยวอาทิเช่น มะม่วงดิบที่จะให้ความเปรี้ยวแก้เลี่ยน ต้นหอม กระชายที่ทำเป็นดอกจำปี แตงกวาที่แกะเป็นใบสวยงาม ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จะเป็นชุดข้าวแช่ที่สมบูรณ์แบบสมัยรัชกาลที่4 และ 5 ที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
สนใจเรียนหลักสูตร “ข้าวแช่ชาววัง” (พริกหวานสอดไส้หมูสับ, ลูกกะปิทอด, หมูฝอย) กับ ผศ. พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม กูรูอาหารไทยต้นตำรับ ในวันที่ 31 มีนาคม 2556 ราคา 2,999.- ผู้ที่สนใจสามารถสำรองได้ที่ 02- 954-3977-84ต่อ2114,2115,2123,2124โทรสาร02-954-3971ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.matichonacademy.com ติดต่อสอบถาม E-mail: [email protected]
