มติชนอคาเดมี พาเที่ยว-ชิม-ช๊อป ใน 1 วัน !!! กับหลักสูตร “อบรม-ชมฟาร์มปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์”

The Project

 

มติชนอคาเดมี พาเที่ยว-ชิม-ช๊อป ใน 1 วัน !!!

กับหลักสูตร “อบรม-ชมฟาร์มปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์”


alt

 

หลังจากผ่านพ้น เทศกาลกินเจ มาได้ไม่นานเท่าไหร่ แต่กระแสความนิยมในการบริโภคอาหารประเภทพืชผัก-ผลไม้ ก็ยังคงแรงดีไม่มีตก เนื่องมาจากเทรนด์อาหาร เพื่อสุขภาพที่กำลังฮอตโดนใจหนุ่มสาวยุคใหม่ หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุที่เริ่มหันกลับมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยสภาวะโรคภัยไข้เจ็บที่มีมากมายในปัจจุบัน จึงทำให้ธุรกิจด้านการเกษตรเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน  และหนึ่งในธุรกิจที่น่าจับตามอง ณ เวลานี้ คงต้องพูดถึง “การปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์”

alt

                ไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics) เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน นับเป็นวิธีการใหม่ในการปลูกพืช โดยเฉพาะการปลูกผัก และพืชที่ใช้เป็นอาหาร เนื่องจากประหยัดพื้นที่ และไม่ปนเปื้อนกับสารเคมีต่างๆ ในดิน ทำให้ได้พืชผักที่สะอาดเป็นอาหาร ปัจจุบันนี้ในเทคนิคการปลูกพืชแบบไร้ดินมีหลายแบบด้วยกัน

                โดยทั่วไปการปลูกพืชไม่ใช้ดินอาจแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ การปลูกพืชโดยให้ส่วนของรากแช่อยู่ในสารละลายธาตุอาหารที่จําเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยตรง หรือปลูกบนวัสดุอื่นที่ไม่ใช้ดิน และรดด้วยสารละลายธาตุอาหารหรือนํ้าปุ๋ย วัสดุที่ใช้ปลูกพืชอาจจะเป็นสารอนินทรีย์ เช่น กรวด ทราย หิน ที่ได้ จากธรรมชาติหรือที่มนุษย์ทําขึ้นมา เช่น เพอร์ไลท์ (Perlite) เวอร์มิคิวไลท์ (Vermiculite) ร็อกวูล (Rockwool) หรือสารอินทรีย์  เช่น  พีท (peat)  มอส (moss) ขี้เลื่อย, เปลือกไม้, เปลือกมะพร้าวสับ, ขุยมะพร้าว , แกลบสดและถ่านแกลบ เป็นต้น  โดยพืชจะดูดซึมสารอาหารมาเป็นไอออนในน้ำ ซึ่งมีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ในสภาพตามธรรมชาตินั้น ดินจะทำหน้าที่เป็นแหล่งสารอาหาร แต่ดินเองนั้นไม่จำเป็นต่อการเติบโตของพืช เมื่อสารอาหารในดินละลายไปกับน้ำ รากของพืชก็จะสามารถดูดซึมสารอาหารนั้นได้ เมื่อใส่สารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชไว้ในแหล่งน้ำที่สร้างขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ดิน เพื่อเป็นแหล่งอาหารของพืชอีกต่อไป ซึ่งพืชส่วนใหญ่จะเติบโตด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ได้ แต่เติบโตได้ดีมากน้อยแตกต่างกัน การปลูกพืชไร้ดินนี้ทำได้ง่าย สะดวก และประหยัดพื้นที่ แต่ต้องมีอุปกรณ์สที่จำเป็นเพิ่มเติม ก็คือ สารอาหารสำหรับพืชที่ละลายอยู่ในน้ำแล้วนั่นเอง

                สำหรับประโยชน์หลักของการปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปรนิกส์  ประการแรก คือ ช่วยให้มีสิ่งแวดล้อมที่ควบคุมได้มากขึ้นสำหรับการเติบโตของพืช แทนที่จะเป็นการใช้ดินอย่างเดิม ทำให้กำจัดตัวแปรที่ไม่ทราบออกไปจากการทดลองได้จำนวนมาก ประการที่สองก็คือ พืชหลายชนิดจะให้ผลผลิตได้มากในเวลาที่น้อยกว่าเดิม และบางครั้งก็มีคุณภาพที่ดีกว่าเดิมด้วย นอกจากนี้การปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์จะให้ผลกำไรแก่เกษตรกรได้มากขึ้น และด้วยการปลูกที่ไม่ใช้ดิน จึงทำให้พืชไม่มีโรคที่เกิดในดิน ไม่มีวัชพืช และไม่ต้องจัดการดิน และยังสามารถปลูกพืชใกล้กันมากได้ ด้วยเหตุนี้พืชจึงให้ผลผลิตในปริมาณที่มากกว่าเดิม ขณะที่ใช้พื้นที่จำกัด นอกจากนี้ยังมีการใช้น้ำน้อยมาก เพราะมีการใช้ภาชนะหรือระบบวนน้ำแบบปิด เพื่อหมุนเวียนน้ำ เมื่อเทียบกับการเกษตรแบบเดิมแล้ว นับว่าใช้น้ำเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้น

alt

 

                หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในหลักสูตร “การปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์เบื้องต้น”ที่ได้ อ. ปกรณ์ พิสุทธิ์ชาน (อ.เอก)  วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์แถวหน้าของเมืองไทย มาร่วมจัดอบรม จนได้รับกระแสตอบกลับอย่างดีจากผู้เรียนหลากหลายรุ่น ทำให้มติชนอคาเดมีไม่รอช้า เตรียมพาแฟนานุแฟนพันธุ์แท้ไปอบรม-ชม-ชิม และช๊อปปิ้งแบบเอ็กซ์คลูซีฟกันต่อ ในหลักสูตร “อบรม-ชมฟาร์มปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์”  ซึ่งจะพาผู้สนใจไปเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ การปลูกผักไร้ดินเชิงการค้า อย่างครบวงจร ตั้งแต่การเลือกพื้นที่, รูปแบบการปลูกผักไร้ดินให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่, การเตรียมแปลงปลูกเพาะต้นกล้า, การดูแลจัดการแปลงผัก การเก็บเกี่ยวผลผลิต และเรียนรู้เทคนิคการพัฒนาตลาดให้ขายดิบขายดี นอกจากนี้ ยังมีการพาไปดูงานที่ฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์ชื่อดังอย่าง “ฟาร์ม K Organic Landพร้อมพุดคุย และร่วมแชร์ประสบการณ์จริงจาก คุณธนัตศ์นันท์  ลีอำนวยโชค (คุณก้อง) เจ้าของฟาร์มหน้าใหม่ไฟแรง ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ พร้อมลองลิ้มชิมรสชาติความอร่อย สดใหม่ ของผักไฮโดรโปนิกส์หลากชนิด ก่อนจะปิดท้ายด้วย แวะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากฟาร์มที่น่าสนใจกลับบ้านได้อีกด้วย

alt

            อ.ปกรณ์  พิสุทธิ์ชาน (อ.เอก)  นักธุรกิจคนเก่งที่ประสบความสำเร็จ ในกิจการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ (ผักไร้ดิน) ภายใต้ชื่อ ไฮโดร ฮ็อบบี้กล่าวว่าหลังจากคอร์สเรียนที่ผ่านมา เราได้แนะนำวิธีการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ในขั้นต้น จนสามารถปลูกรับประทานภายในครัวเรือนได้แล้ว  ในคอร์สเรียนใหม่นี้ ผมอยากจะเน้น เรื่องการทำธุรกิจ การทำการตลาด และการลงทุนทำฟาร์มแบบครบวงจร  รวมถึงการชี้ช่องให้เห็นโอกาสทางธุรกิจ ปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งผู้เข้าอบรมจะได้ความรู้ทุกอย่างครบถ้วน  ที่สำคัญผมมีแนวคิดที่จะพาผู้เรียนออกไปดูงานนอกสถานที่บ้าง ก็จะทำให้การจัดอบรมมีกิจกรรมที่น่าสนใจเพิ่มเติม และดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น   โดยเลือกเฟ้นหาฟาร์มที่มีระบบการจัดการแบบครบวงจร มีโรงเรือนที่ปลูกผักให้ได้เยี่ยมชม มีผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้ลองชิม และเลือกซื้อกลับบ้านได้ด้วย ซึ่งก็มาลงตัวที่ “ฟาร์ม K Organic Landที่มีเจ้าของเป็นหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง อย่าง คุณธนัตศ์นันท์  ลีอำนวยโชค (คุณก้อง)ซึ่งภายในฟาร์มนอกจากจะมีระบบการจัดการฟาร์มที่น่าสนใจแล้ว แนวคิดของคุณก้องเอง ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กันอีกด้วย

alt

                คุณธนัตศ์นันท์  ลีอำนวยโชค (คุณก้อง)เจ้าของฟาร์ม K Organic Landกล่าวว่า “สำหรับการบริหารจัดการฟาร์มของเราจะเน้นที่การดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด ควบคู่ไปกับการเก็บเกี่ยว และรักษาคุณภาพของผักไฮโดรโปนิกส์ให้ดีเยี่ยม  พร้อมจำหน่ายให้กับผู้บริโภค  ซึ่งจุดนี้ เราไม่ได้เน้นว่าจะต้องได้กำไรมากมาย แต่คุณภาพและการบริการจะต้องมาเหนือสิ่งอื่นใดก่อนเสมอ  ซึ่งในเวลานี้ตลาดของผักไฮโดรโปนิกส์บ้านเรา ก็กำลังไปได้สวยทีเดียว เพราะของกิน เทรนด์อาหารสุขภาพกำลังมาแรง โดยเฉพาะอาหารจานสลัด หรือแม้แต่เมนูอาหารต่างๆ ภายในร้านอาหาร หรือโรงแรม ก็ต้องใช้ผักเหล่านี้ในการตกแต่งจาน และรับประทานคู่กัน  สำหรับคอร์สอบรมครั้งนี้ วันที่มาเยี่ยมชม เราคงจะได้ดูบรรยากาศการทำงานจริงๆ ภายในฟาร์ม เช่น การเพาะเมล็ด, การดูแลรักษา, ระบบการจัดการภายในฟาร์ม รวมไปถึงการวางแผนทำธุรกิจ ซึ่งทุกคำถามเราคงได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในวันนั้น ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ฟาร์มเราจะนำมาให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเลือกชม  จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราผลิตเองทั้งหมด อย่าง น้ำสลัด เราก็คิดค้นสูตรเอง หรืออย่างพวกสบู่, แชมพู และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคเหล่านี้ ผมก็คิดค้นและทำเองหมด แถมลองใช้เองก่อนด้วย  ซึ่งผมบอกได้เลยดีกับตัวเรามากๆ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีเจือปน  ซึ่งผมว่ามันดีกับตัวเรา และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงอีกด้วย

                 alt         alt
                คุณก้อง กล่าวทิ้งท้ายว่า  “ สุดท้ายอยากให้ถามว่า เรารักในสิ่งที่เราทำหรือไม่ เพราะถ้าเรารักในสิ่งที่เราทำ ตื่นเช้าขึ้นมาเราก็จะมีพลังงานที่จะทำงานได้อย่างมีความสุขยั่งยืน และมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก จากนั้นถ้าใจรักแล้วก็ต้องลองเข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง เมื่อรู้แล้วก็ต้องรู้ให้จริง  ซึ่งเราต้องศึกษาทุกอย่างให้ถ่องแท้ และมีเวลา เหมือนดังคำกล่าวของคนในวงการไฮโดรโปนิกส์ที่ว่า
“ปุ๋ยที่ดีที่สุดของผักไฮโดร คือ เงาของเจ้าของ”

            มติชนอคาเดมีจะพาทุกท่านไปชม-ชิม และช๊อปปิ้งแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ในหลักสูตร “อบรม-ชมฟาร์มปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์” วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556  โดยกิจกรรมในวันงาน จะแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงเช้า เป็นการอบรมเสวนาและฟังบรรยายเกี่ยวกับการทำธุรกิจการปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์แบบมืออาชีพ กับ อ.ปกรณ์ พิสุทธิ์ชาน (อ.เอก) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์แถวหน้าของเมืองไทย ส่วนช่วงบ่าย ออกเดินทางไปชมสวนผักไฮโดรโปนิกส์ชื่อดังอย่าง “ฟาร์มK Organic Landพร้อมพุดคุย และร่วมแชร์ประสบการณ์จริงจาก คุณธนัตศ์นันท์  ลีอำนวยโชค (คุณก้อง) เจ้าของฟาร์มหน้าใหม่ไฟแรง ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ พร้อมกับลิ้มรสความอร่อย สดใหม่ ของผักไฮโดรโปนิกส์ พร้อมลองชิม น้ำสลัดโฮมเมดของฟาร์ม K Organic Land ที่อร่อยเด็ดไม่เหมือนใคร  ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายในฟาร์ม K Organic Land อาทิเช่น ผักไฮโดรโปนิกส์, น้ำสลัดโฮมเมด และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคอื่นๆ หลากชนิด  ซึ่งการอบรมครั้งนี้ น่าจะช่วยทำให้ผู้ที่สนใจจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ เกี่ยวกับการปลูกผักไร้ดินที่อยู่นอกเหนือตำรา เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้จะเป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้สำหรับคนรุ่นใหม่หลายคนที่สนใจอยากทำอาชีพอิสระเป็นเจ้าของฟาร์มผัก ได้มีโอกาสเรียนรู้ตนเองว่า สนใจปลูกผักไร้ดินแบบไหน จะพัฒนาตลาดอย่างไร ที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด…เชื่อว่าทุกคนที่มุ่งมั่นทำงานด้วยใจรัก จะมีชัยชนะไปแล้วกว่าครึ่งทาง

         สำหรับท่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2954-3977-85 ต่อ 2123, 2124 แฟกซ์ : (02) 954-3971  (จันทร์-ศุกร์) 0-82993-9097, 0-82993-9105 (เสาร์-อาทิตย์) หรือhttps://www.matichonacademy.com