เชฟเยาวชนไทยคว้ารางวัล

The Project

เชฟเยาวชนไทยคว้า 6 รางวัล เวทีอาหารโลกฮ่องกง

ทีเด็ดนำ”ยำหัวปลี-คอหมูย่าง”ขึ้นประชัน

alt

เชฟเยาวชนไทยโชว์ฝีมือเทียบชั้นเชฟอาชีพ คว้า 6 รางวัล 1 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง เวทีแข่งขันทำอาหาร “HOFEX 2013 ”ที่ฮ่องกง เผยนำเมนูอาหารไทยยำคอหมูย่าง”- “ยำหัวปลีอวดโฉมบุปเฟต์ประยุกต์พอคำเทียบชั้นจานอาหารยุโรปชนะใจกรรมการ

 การเดินทาง เพื่อไปเพิ่มพูนประสบการณ์ และตามล่ารางวัลของเหล่าเชฟไทย ทั้งระดับอาชีพ และระดับเยาวชน ในนาม ไทยแลนด์ คัลลินารี อคาเดมี” (Thailand Culinary Academy หรือ TC Academy ) จากเวทีการแข่งขันทำอาหารระดับนานาชาติเริ่มต้นขึ้นแล้วในปีนี้

                นายวิวเมนต์ ลีออง เชฟสิงคโปร์หัวใจไทย ประธานผู้ก่อตั้งไทยแลนด์ คัลลินารี อคาเดมี่ และกรรมการสมาคมเชฟโลก กล่าวภายหลังการเดินทางกลับจากจากเวทีการแข่งขันทำอาหารรายการ “HOFEX 2013 ”ที่ประเทศฮ่องกง จัดขี้นระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2556 ซึ่งเหล่าเชฟไทยทั้งระดับอาชีพ และระดับเยาวชน รวม 15 คน ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อคืนวานนี้(11 พ.ค.56) ว่า  การแข่งขันอาหารรายการ “HOFEX 2013 ”ที่ประเทศฮ่องกงจัดขึ้นทุก 2 ปี ครั้งนี้ได้ส่งเชฟระดับอาชีพ และระดับเยาวชนไทยลงแข่งขันทั้งหมด 11 รายการ โดยการแข่งขันหลายประเภทเป็นการแข่งขันระดับมืออาชีพ แต่ได้ตัดสินใจให้เชฟระดับเยาวชนลงแข่งขัน เพื่อให้ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ 

alt

                โดยเชฟ 1 คนจะลงแข่งขันหลายรายการ ซึ่งไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะสามารถคว้าเหรียญรางวัลทั้งประเภททีม และประเภทเดี่ยวมาได้ทั้งหมด 6 รางวัล แบ่งเป็น 1 เหรีญทอง 4 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง  ที่สำคัญการแข่งขันครั้งนี้มีการนำเมนูอาหารไทยเข้าร่วมการแข่งขันผสมผสาน กับเมนูอาหารยุโรป เช่น ยำคอหมูย่าง และยำหัวปลี เป็นต้น

                เชฟทุกคนตั้งใจกันเต็มที่ แต่การแข่งขันเวทีนี้โอกาสที่จะได้เหรียญทองค่อนข้างยาก เพราะเป็นเวทีการแข่งขันที่ใช้มาตรฐานกฎกติกาการแข่งขันที่สูงมาก ใกล้เคียงกับการแข่งขันโอลิมปิกอาหาร โดยมีกรรมการจากสมาคมเชฟโลกกว่า 30 คนจากทั่วโลกมาเป็นผู้ตัดสิน และการให้คะแนนาของการแข่งขันทำอาหารจะแตกต่างจากการแข่งขันกีฬา

alt

ยกตัวอย่าง การแข่งขันทำอาหารจานหลักโชว์ 4 จาน จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 20 คน มีเชฟเยาวชนไทยเพียง 1 คนที่ได้เหรียญทองแดง  อีก 19 คนจากประเทศต่าง ๆ ไม่มีใครได้เหรียญรางวัลเลย เพราะกรรมการถือว่าไม่มีใครทำคะแนนได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้นายวิวเมนต์ กล่าวและว่า

นอกจากนี้ เชฟไทยมีข้อจำกัดในการฝึกซ้อม  เนื่องจากเงินในการจัดซื้อวัตถุดิบมาฝึกซ้อมแต่ละครั้งต้องใช้อย่างจำกัด เพราะต้องเฉลี่ยเงินใช้ในการเดินทางไปแข่งขันด้วย ขณะที่วัตถุดิบของอาหารยุโรปหลายตัวมีราคาค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพยายามสอนให้เชฟประยุกต์ ใช้วัตถุดิบของไทยที่มีคุณภาพดีมาทดแทนเสริมเข้าไป และราคาถูกกว่ามาก

alt
 

สำหรับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากหน่วยงานของภาครัฐจนถึงวันนี้ผ่าน มา 3 ปีแล้ว นายวิวเมน์ กล่าวว่า การช่วยเหลือเงินจากภาครัฐมีปัญหาที่ว่า ทางไทยแลนด์ คัลลินารี อคาเดมี มีปัญหาเรื่องระเบียบของหน่วยราชการไทย ต้องหาเงินก้อนมาจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปก่อนล่วงหน้า  แล้วถึงสามารถมาขอเบิกเงินย้อนหลังจากหน่วยราชการได้ ซึ่งทางไทยแลนด์ คัลลินารี ไม่มีเงินก้อนมากมายที่จะนำมาใช้จ่ายล่วงหน้า เพราะเชฟส่วนใหญ่ทำงานกินเงินเดือน 

ทุกวันนี้ได้รับความช่วยเหลือเงินสปอร์นเซอร์จากบริษัทเอกชน ต่างกับในหลายประเทศรัฐบาลกลางจะมีงบประมาณจัดสรรมาให้การสนับสนุน และถือว่าอาชีพเชฟเป็นหนึ่งในอาชีพที่สำคัญ เช่น ไต้หวันในการเดินทางไปแข่งขันที่ฮ่องกงจะมีงบประมาณให้เชฟ 60,000 บาทต่อคนต่อการแข่งขัน และหากได้เหรียญรางวัลมีเงินพิเศษเป็นกำลังใจให้อีก ขณะที่รัฐบาลไทยยังไม่ให้การยอมรับอาชีพเชฟ ทั้งที่เชฟไทยมีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก

                อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 14-16 เมษายน 2556 ทางไทยแลนด์ คัลลินารี ได้ประเดิมเวทีการแข่งขันแรกของปีนี้ในเวทีแข่งขัน  Australia Culinary  Federation  2013 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ไทยแลนด์ คัลลินารี อคาเดมีได้จัดส่งเชฟระดับอาชีพ และเชฟระดับเยาวชน จำนวน 21 คนเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งหมด 17 ประเภท ทั้งอาหารคาวยุโรป หวานยุโรป และการแกะสลักโชว์ช็อคโกแลต และเทียน  โดยมีคู่แข่งจากหลากหลายประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน โดยเฉพาะคู่แข่งที่ฝีมือฉกาจอย่างออสเตรเลีย , ฮ่องกง , สิงคโปร์ และเยอรมัน สำหรับแผนการแข่งขันในปี 2556 มีการปรับแผนเล็กน้อย จากเดิมวางแผนไว้ 6 ประเทศ ซึ่งแข่งขันไปแล้ว 2 ประเทศคือ ออสเตรเลีย และฮ่องกง ที่เหลืออีก 3 ประเทศ ได้แก่ 1)ระหว่างวันที่ 12-15 มิถุนายน 2556 การแข่งขัน รายการ “The Penang Chef Challenge 2012”เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย  2)วันที่ 18-20 มิถุนายน 2556 การแข่งขันรายการ”Costa Rica”ที่ประเทศคอสตาริกา  และ 3)วันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2556 การแข่งขันรายการ  “FHC CHINA”ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้ปรับแผนเพิ่มเติมอีก 2 ประเทศ ได้แก่ ดูไบ และเกาหลีใต้ โดยทั้งสองประเทศเพิ่งจะทำหนังสือเชิญให้เชฟไทยไปเข้าร่วมการแข่งขัน  ทั้งนี้ การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ต้องพยายามหาสปอร์นเซอร์เพิ่มขึ้นให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งตอนนี้ยังขาดอีกประมาณ 1 ล้านกว่าบาท

alt

สำหรับทีมเชฟที่เดินทางไปแข่งขันที่ประเทศฮ่องกงครั้งนี้ มีเชฟศักดิ์ชัย  ดิษฐสกุล ผู้ช่วยเชฟใหญ่ โรงแรมโฟร์ซีซั่น เป็นหัวหน้าทีม นางสาวพัทธนันท์   ธงทอง ลงแข่งขัน 2 ประเภท ได้รับ 2 รางวัล เหรียญทองจากการแข่งขันรายการ western hot cooking professoinal sustaunable fish atlantic cod  และเหรียญเงินรายการ western hot cooking professoinal lamb loin นายวัฒนศักดิ์   ช่างเก็บ  ลงแข่งขัน 2 ประเภท ได้รับ 2 รางวัล เหรียญเงินจากการแข่งขันรายการ western hot cooking professoinal plate main dishes display. เหรียญทองแดงรายการ western hot cooking professoinal sous vide main course.
 นายสุรกิจ   เข็มแก้ว ลงแข่งขัน 2 ประเภท ได้รับเหรียญเงินทั้ง 2 รายการ จากการแข่งขันรายการ western hot cooking professoinal atlantic cod class. และรายการ western hot cooking professoinal lamb loin class. นายปรัชญา   ชอบงาม ได้รางวัลที่ 3 ในการแข่งขันรายการชิงแชมป์เชฟเยาวชนของสมาคมเชฟ โลก เพื่อคัดเลือกเชฟเยาวชนตัวแทนของทวีปเอเชียไปแข่งขันที่นอร์เวย์ Hans bueschkens youngchefs challenge ได้ที่ 3 ของเอเชีย โดยที่ 1 เป็นของอินโดนีเซีย และที่ 2 เป็นของฮ่องกง นายจารึก  ศรีอรุณ ได้รางวัลที่ 5 ของเอเชีย ในการแข่งขันรายการชิงแชมป์เชฟอาชีพของสมาคมเชฟโลก รายการ global chefs challenge  เพื่อคัดเลือกเป็นตัวแทนของทวีปเอเชียไปแข่งขันที่นอร์เวย์

การแข่งขันประเภททีม 5 คน รายการ gourmet team challenge ทีมไทยได้เหรียญเงิน แบ่งเป็นเชฟเยาวชนเข้าแข่งขัน 4 คน ได้แก่ นายปรีชาพล  อภิบาลวรกุล , นายสุภกิณห์   บูชา , นายนิล   สองเมือง , นางสาวสุธานิธ์  แก้วเก้า , นางสาวนันทวรรณ  ฟักเขียว โดยมีนายจตุพร  จึงมีสุข  เป็นผู้จัดการทีม