รู้หรือไม่กะหรี่ปั๊บดั้งเดิม ฉบับออริจินอลเป็นยังไง?!!

อ.อรรถ ขันสี อาจารย์สอนหลักสูตรกะหรี่ปั๊บสูตรแป้งหมัก กรอบนอกนุ่มใน พร้อมไส้สูตรลับ ของมติชนอคาเดมี เผยว่า กะหรี่ปั๊บดั้งเดิมต้องกรอบนอกนุ่มใน ไม่แข็งกระด้าง กินคู่กับน้ำอาจาดจะลงตัว สมัยก่อนกินกะหรี่ปั๊บต้องจุ่มน้ำอาจาดหรือตักน้ำอาจาดใส่ เป็นวิธีกินที่ถูกต้อง กะหรี่ปั๊บจะได้นุ่มอร่อย ออริจินอลต้องมีอาจาด จะคล้ายๆแกงกะหรี่ไก่มาห่อใส่ไส้พายและกินกับน้ำอาจาด เป็นสูตรดั้งเดิม ปกติเวลากินกับน้ำอาจาดจะนิยมกินกับไส้ไก่

อ.อรรถ เล่าว่า กะหรี่ปั๊บเป็นอาหารมุสลิม คนไทยนำมาดัดแปลงทำเป็นขนม เมื่อก่อนก็คือแกงกะหรี่นี่เอง เอามาผัดให้แห้งแล้วใส่ไส้เหมือนไส้ขนม เดี๋ยวนี้มีไส้ออกมามาก ไส้ปลา ไส้ไก่ ไส้กุ้ง ฯลฯ อย่างที่นิยมซื้อจากจ.สระบุรี เป็นการเอามาประยุกต์อีกที เป็นของฝากจำที่จะต้องทำให้แห้งหน่อย เป็นของกินเล่น

“ที่มาสอนที่มติชนอคาเดมี จะมีน้ำอาจาดด้วย รสเด็ดอยู่ที่น้ำอาจาดกับไส้ ไส้ของเราจะชุ่มฉ่ำ กินแล้วนุ่มนวล ต้องทำเสร็จแล้วกินเลย เอกลักษณ์ของขนมกะหรี่ปั๊บคือทำสดใหม่แล้วก็กินเลยจะอร่อย แต่ที่เขาทำเป็นของฝากต้องไส้แห้งเพื่อเก็บขายได้นาน

“สอนทั้งหมด4ไส้ คือ 1.กะหรี่ปั๊บไก่เป็นไส้ดั้งเดิม 2.ไส้หมูแดงของเราจะเหมือนกับพายฮ่องกงยี่ห้อดังๆที่อยู่ในห้าง เป็นไส้ที่ผมคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง  3.ไส้หมูเห็ดหอมเราประยุกต์มาจากไส้ที่เป็นปั้นสิบไส้หมู เอามาเติมเห็ดหอมเข้าไปเพื่อเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้กับไส้ 4.ไส้เผือกจะคล้ายไส้โอนีแปะก๊วย จะมีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ

“แต่ละไส้ของเราจะเน้นความนุ่มฉ่ำ ขายความสดๆใหม่ๆ ถ้าต้องการประยุกต์เป็นไส้อื่นๆก็ทำได้ เช่น ไส้สับปะรดมันแห้งอยู่แล้ว จะเหมือนกินพายสับปะรด หรือจะทำเป็นไส้ทุเรียน ไส้ถั่วกวน ก็ได้”อ.อรรถเผย

จัดเป็นกะหรี่ปั๊บ4ไส้ ที่ทุกคนต้องถามถึง เป็นสูตรที่อ.อรรถ คิดค้นขึ้นมาเอง ถ้ามาเรียนที่มติชนอคาเดมี จะได้ไส้ใหม่และอร่อย ลิสต์ติดดาวเป็นซิกเนเจอร์ของร้านได้เลย รวมถึงทีเด็ดน้ำอาจาดเข้มข้นไม่เหมือนใคร!!

 

 

หลักสูตร กะหรี่ปั๊บสูตรแป้งหมัก กรอบนอกนุ่มใน พร้อมไส้สูตรลับ สอนโดย อ.อรรถ ขันสี ราคา 2,140 บาท

สนใจติดต่อ มติชนอคาเดมี
Inbox : Facebook Matichon Academy 
Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105
line : @matichonacademy

ฉบับนี้จู่ๆ ก็มีลาภปากได้ชิมขนมจากเชฟยอดฝีมือที่เดินทางมาทำเค้กสไตล์ญี่ปุ่นให้ลิ้มลองถึงถิ่นเลยค่ะ

เรื่องของเรื่องก็คือ มติชน อคาเดมี เปิดสอนคอร์สขนมในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563 ที่จะถึงนี้ มิตรสหายเลยโทรตามให้มาชิมด้วยกัน

เห็นรูปร่างหน้าตาแล้วต้องรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมาแชะๆ ก็เจ้าขนมสองก้อนสุดแสนจะน่ารัก เรียบง่ายสไตล์มินิมอล และน่ากินขนาดนั้นนี่คะ

อย่างแรก คือ “เจแปนนีส ชีสเค้ก” หรือ “ชีสเค้กนุ่มสไตล์ญี่ปุ่น” อย่างที่สอง คือ “มัทฉะ อะซูกิ แซนด์วิช ครีมเค้ก” หรือ “ชิฟฟ่อนชาเขียวสอดไส้ถั่วแดงญี่ปุ่นและครีมเค้ก” นั่นเอง

ตัวเจแปนนีส ชีสเค้ก เป็นเทรนด์มาหลายปีแล้ว แต่ความนิยมยังไม่หยุดง่ายๆ เราจะเห็นเมนูนี้อยู่ในคาเฟ่แทบทุกแห่ง แล้วแต่จะครีเอตหลากสไตล์ต่างกันไป

สำหรับสูตรที่จะสอนที่มติชน อคาเดมี เป็นชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่น คือ มีความนุ่มเนียนกริบ แต่งหน้าเรียบง่ายด้วยผลไม้สดอย่างสตรอเบอรี่ ตัดแบ่งเป็นก้อนเสิร์ฟ ขอบอกว่าตัวนี้ตอนยกออกจากเตาใหม่ๆ ถือส่ายไปมาเนื้อเค้กเด้งดึ๋งๆ ยั่วน้ำลายสุดสุด ล่ะค่ะ

อีกตัวก็ว้าวไม่แพ้กัน “มัทฉะ อะซูกิ แซนด์วิช ครีมเค้ก” สูตรนี้เชฟครีเอตเค้กชิฟฟ่อนให้เป็นทรงสี่เหลี่ยม ปาดครีมเค้กหนาๆ ขั้นกลางด้วยถั่วแดง วางชิฟฟ่อนประกอบอีกด้าน ท็อปปิ้งด้วยผลไม้รสฉ่ำเปรี้ยวหลายชนิด ทั้งส้ม กีวี สตรอเบอรี่ และ ถั่ว

ลำพังเค้กชิฟฟ่อนก็นุ่มแสนนุ่ม ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นและรสชาติชาเขียวเข้มข้น กัดไปเจอความหวานของถั่วแดงและความมันของครีมเค้ก ผสมกับรสเปรี้ยวนิดของผลไม้ ตายๆๆ กินไป 2 ชิ้นรวดไม่รู้ตัวค่ะ

เอาเป็นว่าชอบทั้ง 2 เมนูเลย ดีงามทั้งรสชาติและหน้าตา ใครที่หาคอร์สเบเกอรี่เก๋ๆ แบบนี้อยู่ ก็อยากจะชวนให้มาเรียนกัน เอาไปต่อยอดคาเฟ่ตัวเองก็ได้ หรือ ไว้ทำเป็นงานอดิเรกให้คนที่บ้านกินกันก็เริ่ดค่ะ

กินเสร็จได้คุยกับเชฟพอหอมปากหอมคอ เชฟชื่อ “เชฟโต้ง-วรดนย์ ประสม” อายุ 27 ปี เป็นเชฟหนุ่มไฟแรงเฟร่อร์ โปรไฟล์ไม่ธรรมดา

เชฟโต้งเป็นเด็กหนุ่มจากเชียงราย พออายุ 15 ปี มีโอกาสเข้ามาอยู่กับอาที่กรุงเทพฯ เพื่อเข้าเรียนอาชีวะ อาถามว่าอยากเรียนอะไรระหว่างช่างตัดผม หรือ ทำอาหาร เชฟโต้งตัดสินใจเรียนด้านอาหาร เพราะคิดว่าเอาไปต่อยอดได้มากกว่า ไปสมัครเรียนที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา หลักสูตรอาหารและโภชนาการ เรียนจนจบ ปวช. ได้โควต้าเข้าเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต คณะโรงเรียนการเรือน อุตสาหกรรมอาหาร

เพิ่งจะอยู่ชั้นปีที่ 1 เทอม 2 เชฟโต้งได้รู้จักกับบรรดาเชฟ TCA (Thailand Culinary Academy) ได้เข้าร่วมทีมเพื่อไปแข่งขันทำอาหารเริ่มจากรายการในประเทศก็ขยับไปต่างประเทศ

เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อยๆ จากทำอาหารคาว ก็เริ่มทำขนมหวาน ครั้งหนึ่งไปคว้าเหรียญทองแดงการทำขนมมาได้จากผู้แข่งขันหลายสิบประเทศ ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับเชฟโต้งในการทำขนม

เชฟโต้ง-วรดนย์ ประสม

“ตั้งแต่เริ่มแข่งขันก็จะเจอขนมมากขึ้น รู้สึกว่ามันสวย ไม่ร้อนเหมือนทำอาหารคาว ที่หน้าเตาผ่าวร้อนใจเราก็ร้อน แต่พออยู่กับขนมใจเริ่มเย็นลง เรามีความลงดีเทล มีรายละเอียดมากขึ้น” เชฟโต้ง เล่าจุดที่ทำให้มาสนใจทำขนมจริงจัง

แต่ถ้าถามว่าจุดที่พัฒนาฝีมือแบบเห็นได้ชัด คือ หลังจากที่ฝึกงานโรงแรมเสร็จได้มีโอกาสไปทำงานที่ร้านขนมของสองเชฟรุ่นพี่ คือ เชฟนัท และ เชฟพลอย ที่ A Baketime Story เป็นร้านขนมชื่อดังย่านเกษตรนวมินทร์

“ตอนนั้นรุ่นพี่ทาบทามให้ไปทำ เราไปเป็นลูกน้องเขา เป็นคาเฟ่ทำขนมเองหมดเลย ที่นี่เป็นแหล่งความรู้ของเราจริงๆ เพราะว่าเขาสอนทุกอย่าง แต่อยู่ประมาณเกือบ 2 ปี ชอบที่นี่ เขาดูแลเราเป็นน้องเลย แต่มาซักพักที่บ้านถามเราอยากให้ทำงานบริษัท ก็ตัดสินใจเข้าเบทาโกร แต่ก็มองว่าในอนาคตเราอาจจะมีโอกาสได้ร่วมกันอีกก็ได้”

ระหว่างที่ทำงานประจำ เชฟโต้งยังใช้เวลาวันเสาร์-อาทิตย์ในการสอนทำขนม แม้จะเหนื่อยแต่เชฟโต้งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเช่นกัน

“ความยากง่ายของการทำขนม ขึ้นอยู่ที่เบสิกแต่ละคนมากน้อยแค่ไหน และความเข้าใจว่ามีแค่ไหน เราเลยต้องถามตลอดว่าเข้าใจไหมครับ ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องพยายามทวนจนเข้าใจขั้นตอนการทำ เช่น เวลาที่คนก็ต้องคน เวลาตีต้องตี พักก็คือพักเก็บไม่ให้โดนอากาศ เพราะจะมีขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ที่ถ้าเราละเลย หรือ สักแต่จะทำมันไม่ได้ แล้วถ้าสอนคนทำไม่เป็นเลย ก็ต้องใช้อินเนอร์เราบิวท์ให้เขาทำ ก็ใช้พลังเยอะ แต่การพูดเวลาสอนก็มีผลดี คือ มันจะเป็นสกิลติดตัวเรา”

ในยุคสมัยที่ออนไลน์เข้ามามีบทบาทสูง เชฟโต้งก็ยอมรับว่าเคยไปลงเรียนออนไลน์เช่นกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องเอามาปรับเองต่ออีกที เนื่องจากไม่ได้เจอครูโดยตรง เวลาถามใช้การอินบอกซ์ ทำให้มันไม่เต็มที่

“บางอย่างมันถูกกั้น ถูกกั๊กไว้อยู่ ก็มาปรับเอง”

ในฐานะที่เคยอยู่ในแวดวงคาเฟ่ เชฟโต้งยืนยันว่า คาเฟ่ได้กลายเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นชินไปแล้ว ชาวออฟฟิศนิยมไปนั่งเพื่อผ่อนคลาย ถ่ายรูปลงโซเชียล กลายเป็นเทรนด์ในการไปนั่งคาเฟ่ ยิ่งเจอขนมหน้าตาน่ารัก มีสตอรี่ การไปถ่ายรูปลงโซเชียลมันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง

สุดท้าย เชฟโต้งฝากบอกว่า เมนูสองอย่างนี้เหมาะกับทุกกลุ่ม จะนำไปทำเป็นงานอดิเรกก็ได้ หรือถ้าทำคาเฟ่อยู่แล้ว สามารถเอาไปต่อยอดได้เลย มาเรียนในชั้นเรียนรับรองว่าเข้าใจ และ ได้รับความเพลิดเพลินแน่นอน

ใครที่สนใจแล้ว ติดต่อเลยที่ มติชน อคาเดมี โทร 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 มือถือ 08-2993-9097, 08-2993-9105 หรือ Inbox Facebook : คลิกที่นี่ m.me/Matichon.Academy.Thailand หรือ line : @matichonacademy คลิก https://line.me/R/ti/p/%40matichonacademy

 

 

 

ที่มาอาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน
ผู้เขียนชม นำพา [email protected]
รศ.พิชญา สุ่มจินดา(ซ้าย) อ.ปริญญา สัญญะเดช (ขวา)

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 กันยายน ที่ห้องโถง ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน(มติชนอคาเดมี) มติชนอคาเดมี จัดเสวนา “ไขปริศนา เศียรใหญ่” ศิลปะหลังรัฐประหารสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยวิทยากร รศ.พิชญา สุ่มจินดา อาจารย์ภาควิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในประเด็น “ไขปริศนา เศียรใหญ่” ศิลปะหลังรัฐประหารสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และ อ.ปริญญา สัญญะเดช ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธไทยโบราณ ในประเด็น เศียรใหญ่ไม่ได้ถูกเผา แต่ถูกยิงด้วยปืนใหญ่

โดย รศ.พิชญา นำเสนอข้อสันนิษฐานใน 5 ประเด็น คือ 1.เศียรใหญ่ เคยประดิษฐานที่วัดพระศรีสรรเพชญหรือไม่ โดยมีข้อสันนิษฐานว่า เป็นไปได้ที่เศียรใหญ่อาจเคยประดิษฐานที่วัดพระศรีสรรเพชญ แต่ไม่รู้ว่าวิหารไหน โดยประเมินจากพระอุณาโลม 2.เศียรใหญ่ เคยเป็นพระพุทธรูปยืนหรือประทับและมีขนาดเท่าใด สันนิษฐานว่า เศียรใหญ่ถ้าเป็นพระยืน จะสูงไม่เกิน 8 เมตร หรือสูงสุดๆไม่เกิน 9 เมตร ถ้าเป็นพระนั่ง จะสูงไม่เกิน 5.52 เมตร เพราะฉะนั้นเศียรใหญ่ไม่มีทางเป็นพระศรีสรรเพชญได้เลย

3.เศียรใหญ่ มีพระพักตร์สอดคล้องกับพระพุทธรูปในช่วงที่สร้างพระศรีสรรเพชญหรือไม่ สันนิษฐานว่าพระพุทธรูปปีใกล้เคียงกับช่วงที่หล่อพระศรีสรรเพชญหน้าตาไม่ใกล้เคียงกับเศียรใหญ่เลย 4.เศียรใหญ่ มีพระพักตร์สอดคล้องกับพระพุทธรูปในช่วงเวลาใด สันนิษฐานว่า เศียรใหญ่มีพระพักตร์ไม่สอดคล้องกับพระพุทธรูปที่สร้างช่วงเวลาเดียวกับพระศรีสรรเพชญ แต่สอดคลอ้งกับพระพุทธรูปที่สร้างใกล้รัชกาลพระเจ้าปราสาททอง อาทิ หลวงพ่อยอ มีจารึกพ.ศ. 2198 จึงเป็นไปได้ที่จะเป็นเศียรวัดป่าเลไลยก์ ช่วงพระเจ้าปราสาททอง

และ 5. เศียรใหญ่ เคยประดิษฐานที่ใดในวัดพระศรีสรรเพชญ สันนิษฐานว่า จากขนาดและความแข็งแรงของฐาน น่าจะอยู่ที่วิหารพระปาลิไลยก์

ด้าน อ.ปริญญา กล่าวว่า จากการศึกษาร่อยรอยที่เกิดจากกระสุนปืนใหญ่ พบว่าบริเวณหน้าพระอุโบสถและหน้าวิหารปาลิไลยก์ มีใบเสมาล้ม และร่องรอยจากกระสุนปืนใหญ่ ใบเสมาแตก หินแตกจากการปะทะ โดยเศียรใหญ่ที่พระศรีสรรเพชญ มีรอยบุบและกระแทกจากด้านซ้ายอย่างแรงและเร็ว วิถีกระสุนปืนใหญ่เข้ามาทางด้านข้าง แนวกระสุนเป็นวิถีโค้งมาจากวัดหน้าเมรุ ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานหนึ่งของพม่า ในสงครามยิงปืนใหญ่กันเป็นพันเป็นหมื่นลูก บ่งชี้ว่าเศียรใหญ่ถูกยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่ ซึ่งความยิ่งใหญ่ของอยุธยาเริ่มจากดินปืนและกระบอกปืน และจบด้วยดินปืนและกระบอกปืน

ทั้งนี้ หลังจากฟังเสวนา“ไขปริศนา เศียรใหญ่” ศิลปะหลังรัฐประหารสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง แล้ว ในวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563 ทัวร์มติชนอคาเดมี จะพาไป ทัวร์ ศิลปะหลังรัฐประหาร ของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง จ.พระนครศรีอยุธยา นำชมโดย รศ.พิชญา สุ่มจินดา

ทริปนี้ คณะทัวร์จะได้ชม ศิลปะ วัด วัง ที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สร้างขึ้น ประกอบด้วย ปราสาทนครหลวง พระราชมณเฑียรที่ประทับในฤดูร้อน เดิมเชื่อว่าสร้างเลียนแบบปราสาทนครวัด แต่ปัจจุบันเชื่อว่าถ่ายจำลองและปรับปรุงแบบจากปราสาทบาปวนใกล้กับพระราชวังหลวง เมืองพระนคร ร่วมค้นหาว่าเหตุใดพระองค์จึงเลือกจำลองปราสาทบาปวนแทนที่จะจำลองปราสาทนครวัดที่ใหญ่โตและน่าจะมีความสำคัญมากกว่า

วัดหน้าพระเมรุ สันนิษฐานว่าสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างเป็นพระอารามขนาดใหญ่ ชมความงดงามของ พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ พระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ขนาดใหญ่ที่สุดในศิลปะอยุธยา ปางมารวิชัย ภายในพระอุโบสถ ที่น่าจะมีนัยสื่อถึงสมเด็จพระเจ้าปราสาททองในฐานะที่ทรงเป็นทั้งพระอนาคตพุทธเจ้าและพระเจ้าจักรพรรดิราช พร้อมชม พระพุทธรูปประทับห้อยพระบาทสลักศิลา ภายในพระวิหารน้อย ซึ่งอัญเชิญมาจากวัดพระเมรุ จ.นครปฐม แต่เดิมเคยประดิษฐานที่วัดมหาธาตุ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นต้นแบบให้กับการสร้างพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ในรัชกาลของพระองค์ซึ่งเริ่มสร้างเป็นพระพุทธรูปประทับห้อยพระบาทเช่นกัน

วัดไชยวัฒนาราม พระอารามสำคัญอันเปรียบได้กับเพชรยอดมงกุฎแห่งรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ทรงสถาปนาเมื่อปลายรัชกาลบนสถานที่ถวายพระเพลิงสมเด็จพระราชชนนี พระอารามแห่งนี้มีความหมายถึง ‘ความรุ่งเรืองแห่งชัยชนะ’ พุทธสถาปัตยกรรมของที่นี่รวมความหมายทั้งคติจักรวาลตามคัมภีร์โลกศาสตร์พุทธศาสนา, คติทักษาตามคัมภีร์โหราศาสตร์และตำราพิชัยสงครามเข้าไว้ด้วยกัน

อ.ปริญญา สัญญะเดช

ชมปรางค์ประธานขนาดใหญ่ที่เคยหุ้มทองจังโกทั้งองค์ ล้อมรอบด้วยปรางค์มุมบริวารทั้ง 4 มุม และระเบียงคดที่เชื่อมเมรุทิศ ทั้ง 8 เข้าด้วยกัน พร้อมชมการวางตำแหน่งของพระอุโบสถ ที่สื่อถึงชมพูทวีปที่ตั้งของพระมหาโพธิบัลลังก์ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงมีชัยเหนือพญามาราธิราช และตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหินทราย 3 องค์ เพื่อสื่อความหมายถึงพระอดีตพุทธเจ้า พระปัจจุบันพุทธเจ้า และพระอนาคตพุทธเจ้า ที่น่าจะหมายถึงพระองค์เองในอนาคต ซึ่งได้ตรัสรู้หรือจะมาตรัสรู้บนพระมหาโพธิบัลลังก์ศูนย์กลางแห่งชมพูทวีปดุจเดียวกัน

พระราชวังหลวง หรือพระราชวังโบราณ อยุธยา ชมร่องรอย พระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์ ที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างและพระราชทานนามไว้ว่า พระที่นั่งศิริยศโสธรพิมานบรรยงก์ ให้สอดคล้องกับนามของเมืองพระนคร หรือยโศธรปุระ อดีตราชธานีของกัมพูชา

วัดพระศรีสรรเพชญ์ อดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ อยุธยา ชมปูนปั้นครุฑแบก สิงห์แบก ที่ฐานชุกชีในพระวิหารหลวง และที่ฐานของพระมณฑปหลังกลางระหว่างพระเจดีย์ประธานสามองค์ อันเป็นประจักษ์พยานของงานช่างตามแบบอย่างศิลปะกัมพูชา ก่อนจะถูกครอบไว้ด้วยฐานใหม่ในสมัยต่อมา จากนั้นชมพระวิหารพระปาลิไลยก์ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าปราสาททองได้เคยทรงสร้างเป็นมณฑปเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ด้วยความเชื่อว่าพระองค์เคยเสวยพระชาติเป็นช้างปาลิไลยก์ปรนนิบัติพระพุทธเจ้า

วิหารพระมงคลบพิตร แต่ก่อนมีนามเดิมว่า วัดสุมงคลบพิตร เข้านมัสการ พระมงคลบพิตร หรือพระนามอย่างเป็นทางการว่า พระสยมภูวญาณโมลี ภายในพระวิหาร ซึ่งแต่เดิมเป็นพระมณฑปที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างถวาย หลังจากชะลอพระพุทธรูปองค์นี้มาจากวัดพระชีเชียงของสมเด็จพระชัยราชาธิราช เพื่อสร้างความหมายใหม่ให้กับพระพุทธรูปองค์นี้ว่าเปรียบได้กับพระอนาคตพุทธเจ้า ในฐานะที่พระองค์จะทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตพระนามว่า พระสุมังคลพุทธเจ้า

บางครั้งการลองผิดลองถูกก็เป็นเรื่องที่ท้าทายและสนุกดี แต่บางเรื่องเราไม่จำเป็นต้องลองผิดลองถูกให้เสียเวลา โดยเฉพาะการทำอาหารที่เป็นศาสตร์และศิลป์มีการเขียนตำราไว้มากมายเต็มไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สู้ได้เรียนกับครูจริงๆ เพราะเราจะได้เห็นทุกกลเม็ดเคล็ดลับแบบจะจะ คล้ายกับที่แม่เราเรียนจากตายาย ลูกก็เรียนรู้จากพ่อแม่นั่นเอง

เกริ่นมาแบบนี้เพื่อที่จะขายของแน่นอนค่ะ (ฮา) มิตรของเราเช่นเคย “มติชน อคาเดมี” ศูนย์อาชีพธุรกิจมติชน ที่ตอนนี้ขาข้างนึงปรับมาสอนออนไลน์เรียบร้อยแล้ว โดย 2 เชฟคนหนุ่มสาวที่ทยอยจัดสูตรลับอาหารคาวหวานรสชาติเยี่ยมให้ได้มาเรียนกันในราคาสุดแสนจะมิตรภาพ

ไปเยี่ยมเยียนชาวมติชน อคาเดมี วันก่อน ได้มีโอกาสชิมสูตรเด็ด 3 เมนูรวดเลยค่ะ เป็นเมนูที่เปิดสอนไปแล้ว 1 คอร์ส คือ “น้ำสลัดตั้งตัว 5 สไตล์” 599 บาท อันประกอบไปด้วย มายองเนส น้ำสลัดซีซ่า น้ำสลัดงาญี่ปุ่น น้ำสลัดบัลซามิก และ น้ำสลัดส้ม ที่นอกจากจะทำเป็นน้ำใส่สลัดแล้ว เชฟยังปรับไปทำเมนูหลากหลาย เช่น สลัดโรล แซนด์วิช ได้น่าสนใจมากๆ

เชฟเต็ม-เต็มสิริ รังหอม เชฟสาวไฟแรงที่ผ่านประสบการณ์ร้านอาหารทั้งสไตล์ไทยและฝรั่งเศส ไล่มาตั้งแต่ร้าน FATBIRD ร้านสยามชาร์มมิ้ง ร้าน Aldo’s Bistro และ ร้าน Coal Bistro พูดถึงคอร์สน้ำสลัดว่า เป็นหลักสูตรที่เน้นไปที่ทำกินเองที่บ้าน ด้วยวัตถุดิบที่เลือกใช้มีราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าเอาไปขายก็สามารถประยุกต์ได้

“การเรียนน้ำสลัดมองว่าโอกาสตั้งตัวมีสูง เพราะว่าเดี๋ยวนี้คนรักสุขภาพมากขึ้น เลือกทานน้ำสลัดที่ไม่ได้มาจากน้ำมันอย่างเดียว”

ถึงแม้ว่าคอร์สน้ำสลัดจะผ่านไปแล้ว แต่เชฟเต็มบอกว่ายังสมัครเข้ามาเรียนได้ตลอด จะมีการดึงเข้ากลุ่มสามารถดูได้ไม่จำกัดครั้ง มีคำถามก็สามารถพิมพ์ทิ้งไว้เช่นกัน

แต่ที่กำลังจะเปิด และน่าสนใจมากตอนนี้คือ “หมูปลาร้า” เป็นเมนูที่ยังฮอตไม่เลิก ที่จะเปิดสอน วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคมนี้ ราคา 599 บาท

เชฟเต็ม บอกว่า ตอนนี้เมนูหมูปลาร้าเป็นที่นิยมมาก จุดเริ่มต้นอยู่ที่ร้านที่ราชดำเนิน เป็นกระแสโซเชียล คนเริ่มฮิตทำกินที่บ้าน บางคนทำเป็นธุรกิจตั้งตัวได้เลย

“มันเริ่มจากแค่เป็นเนื้อหมูหมักกับน้ำปลาร้า ย่างให้มีกลิ่นหอม เสร็จแล้วตัวปลาร้าบอง หรือ น้ำจิ้มแจ่ว ถ้าทำเป็นธุรกิจคือขึ้นหม้อใหญ่ เราก็สามารถทำขายได้ตลอด เก็บไว้ได้ด้วย ย่างหมูอาจจะย่างหน้าร้าน แต่เราหมักแช่ตู้เย็นไว้ ในคลาสจะบอกหมดว่าเตรียมหมูยังไง หมักหมูยังไง เก็บหมูไว้ได้นานเท่าไหร่ ทำยังไงให้หมูนิ่ม อันนี้สำคัญมาก เพราะตอนนี้จุดขายของหมูปลาร้าส่วนมากคืออยู่ที่หมูนิ่มไหม ปลาร้าบองอร่อยไหม สูตรเรารับรองว่าอร่อยแน่นอน”

จบจากของคาว มาต่อกันที่ของหวานกันบ้าง กับ เชฟต่อ-กฤษณะ ยุคะลัง เชฟหนุ่มที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานในครัวเบเกอรี่จากโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน และสยาม เคมปินสกี้

เชฟต่อ เล่าประสบการณ์การอยู่ในครัวเบเกอรี่ว่า ได้เห็นการทำเบเกอรี่คุณภาพเยี่ยมหลายรูปแบบ อย่างช่วงเทศกาล เช่น ออคโทเบอร์เฟส จะมีเพลสเซลที่เป็นออริจินอลที่เอาไปชุบด่างโซดา โรยด้วยร็อคซอลต์แล้วเอาไปอบ หรือ ช่วงคริสต์มาส จะมีจินเจอร์เบรด และได้ลงมือทำเบเกอรี่ที่ต้องใช้ทักษะสูงอย่างครัวซองค์ด้วยเช่นกัน

เชฟเต็ม-เต็มสิริ

ด้วยเสน่ห์ไม่รู้จบของเบเกอรี่นี่เองที่ทำให้เชฟต่อหลงใหลในการทำเบเกอรี่อย่างมาก ฝึกฝนจนฝีมือเข้าที่ชนิดว่าทำอะไรมาให้ชิมก็อร่อยไปหมด

สำหรับคอร์สออนไลน์ที่เชฟต่อสอนไปแล้ว คือ “ขนมปังไส้ทะลัก” 599 บาท สูตรนี้แป้งนิ่มหอมกรุ่นจากเตา ไส้รสละมุนอีก 5 แบบ และเช่นกันใครสนใจยังสามารถติดต่อเรียนได้ไม่จำกัดเวลา สมัครเข้ามาเมื่อไหร่ทีมแอดมินก็จะดึงเข้ากลุ่มดูได้ทันที

“ขนมปังไส้ทะลักสูตรนี้ ตัวขนมปังจะมีความฟูนุ่ม สามารถเก็บเข้าตู้เย็นได้ เวลาจะทานให้เอามาคลายเย็น เข้าไมโครเวฟ 20-30 วินาที ก็นุ่มเหมือนเดิม ขนมปังตัวนี้ถ้าจะไม่ทำใส่ไส้ก็ได้ จะทำเป็นขนมปังแพแพคเป็นถุงใหญ่สำหรับร้านขายไอศกรีมก็ทำได้เช่นกัน”

เชฟต่อ-กฤษณะ

สำหรับคนที่คิดว่าการทำเบเกอรี่ยากเกินไป เชฟต่อ บอกว่า ขึ้นชื่อว่าทำอาหารก็มีความยากง่ายต่างกัน เพียงแต่ว่าอาหารคาวบางอย่างถ้าลืมบางขั้นตอนเราแก้ไขตอนนั้นได้ แต่เบเกอรี่จะมีความยาก คือ เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปจนกว่าเราจะทำมันเสร็จออกมา เลยทำให้คนรู้สึกว่ายาก ดังนั้นการทำเบเกอรี่ทุกอย่างต้องเป๊ะ ต้องชั่งตวงวัดที่ถูกต้อง ดังนั้นการทำตามยูทูบอาจทำไม่ได้เสมอไป มองว่าคนที่จะดูยูทูบแล้วทำตามคือคนที่ต้องมีพื้นฐานมาก่อนระดับหนึ่ง

“ในคอร์สเราอธิบายละเอียดมาก อยากให้คนไม่มีพื้นฐานเลยเข้าใจ เราพยายามปิดเพนพอยส์ที่คนมองว่ายาก เราอยากให้เข้าใจถึงแก่นการทำเบเกอรี่ว่าต้องเริ่มจากอะไร ต้องชั่งตวงวัดที่ถูกต้องก่อน แล้วปลายทางก็จะถูกต้องแน่นอน”

อีกหนึ่งข้อที่คนมองว่าธุรกิจเบเกอรี่ปราบเซียน เชฟต่อ บอกว่า จริงๆ เบเกอรี่ถ้าทำขายจะรู้ว่าต้นทุนจริงๆ มันต่ำมาก ที่เห็นเค้ก 70-80 บาท ต้นทุน 20-30 บาทเท่านั้น คำว่าปราบเซียน จริงๆ แล้วถ้าเราจับทิศได้ว่าจะทำเค้กแบบไหน ตั้งราคาเท่าไหร่ ธุรกิจไปได้อยู่แล้ว เพราะต้นทุนไม่ได้สูงเลย

ใครที่อยากเรียนกับเชฟต่อ กำลังจะเปิดวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ คือ “บัตเตอร์เค้ก” 599 บาทเท่านั้น

บัตเตอร์เค้ก เค้กสุดคลาสสิกนี้หลายคนอาจจะมองข้าม แต่ในความเป็นจริงต้องยอมรับเลยว่าเมื่อชงกาแฟซักแก้วยามเช้า หลายคนยังนึกถึงบัตเตอร์เค้กมากินคู่กัน

“เสน่ห์ของบัตเตอร์เค้ก คือ กลิ่นหอมและความชุ่มฉ่ำของเนย กินได้เรื่อยๆ โอกาสทำขายก็ได้เสมอ จะทำแบบโฟรเซนไว้ก็ได้ ไม่ต้องขึ้นรูปใหญ่มาก พออบออกมาแพคใส่ถุงซีลไว้แล้วแช่ฟรีซ เวลาจะรับประทานก็เอาออกมาสไลซ์ซักชิ้นสองชิ้น แล้วเข้าเวฟ 20-30 วินาที จากนั้นหันมาชงกาแฟกินกับบัตเตอร์เค้กนุ่มๆ เท่านี้ก็เพอร์เฟกต์แล้ว”

หลังจากนี้เชฟต่อจะมีสูตรเบเกอรี่อร่อยๆ ออกมาสอนเรื่อยๆ ล่าสุดเห็นขลุกอยู่กับการทำขนมปังสุขภาพ ใครสนใจลองติดตามกันดูค่ะ ส่วนใครอยากเรียนแล้วสมัครได้เลยที่มติชน อคาเดมี โทร 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 หรือ มือถือ 08-2993-9097, 08-2993-9105 หรือ เข้าไปดูในเพจ Matichon Academy

ที่มาอาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน
ผู้เขียนชม นำพา [email protected]
บัตเตอร์เค้ก2แบบ

ในโลกยุคดิจิตอล การทำธุรกิจ การสื่อสาร ตลอดจนการศึกษาต่างปรับตัวเข้าสู่ระบบออนไลน์ การเรียนทำอาหารก็เช่นกัน ปรากฏคลิปสอนทำอาหารเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียจำนวนมาก ทำให้แม่บ้านในยุคนี้เสริมเสน่ห์ปลายจวักได้ง่ายๆที่บ้าน แต่เคยไหมที่ต้ม ผัด แกง ทอด อยู่แล้วเกิดข้อสงสัยแต่ไม่รู้จะถามใคร ก็ต้องคลำๆไปตามเรื่องตามราว

ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน หรือมติชนอคาเดมี สถาบันอบรมหลักสูตรต่างๆ ทั้งด้านอาหาร งานช่างและงานฝีมือ เข้าใจถึงปัญหาต่างๆของคุณแม่บ้านดี เราจึงเปิดคอร์สสอนทำอาหารออนไลน์ขึ้น สอนโดยเชฟและอาจารย์มืออาชีพ โดยจะมีอาจารย์คอยตอบทุกคำถามที่สงสัย ทั้งเรื่องการปรุงอาหารและการขาย ตามคอนเซ็ปต์ “ทำกินก็ได้ ทำขายก็เริ่ด”

แต่ละคอร์สสอนทำอาหารออนไลน์ของมติชนอคาเดมีนั้น ให้ความสำคัญเรื่องการสอน ต้องเข้าใจง่าย ทำได้ในวันเดียว เรียกได้ว่าสอนละเอียดยิบ บอกหมดทุกขั้นตอน เคล็ดลับ และรายละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ สัดส่วนของวัตถุดิบ ขั้นตอนการปรุงอย่างละเอียด ครบจบปิ๊งในคลิปเดียว

ด้านรสชาติ บอกเลยว่าหายห่วง เพราะทุกเมนูอาหาร ผ่านการเทสต์ส่วนผสม สัดส่วนและรสชาติ มาก่อนแล้ว อร่อยชัวร์ไม่มั่วนิ่ม เหมือนการสอนจริงในห้องเรียนครัวสาธิตและครัวปฏิบัติ ของสถาบันเราเอง

คอร์สแรกที่มติชนอคาเดมี คัดเลือกมาสอนออนไลน์ คือ “แหนม-หม่ำเงินล้าน” สูตรเด็ดขอนแก่น สอนโดย อ.ยุวนิจ สำราญบำรุง คอร์สนี้นอกจากการสอนทำอาหารแล้ว เรายังต้องการสื่อถึงเรื่องการถนอมอาหารเพื่อเก็บเอาไว้กินได้นาน ในยามที่ไวรัสโควิด-19 ระบาด ไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านบ่อยๆ สามารถนำมาเข้าไมโครเวฟ ทอด หรือ ย่าง ก็รับประทานได้

ในคอร์ส“แหนม-หม่ำเงินล้าน” สูตรเด็ดขอนแก่น เป็นการเรียนการสอน สูตรการทำแหนมหมู และ แหนมเนื้อ สอนตั้งแต่การเลือกใช้เนื้อส่วนไหนเพื่อให้รสชาติดีที่สุด เทคนิคต่างๆ ตั้งแต่วิธีทำให้น้ำในเนื้อเหลือน้อยที่สุด การนวดแหนม การเลือกใช้ข้าวในการนำมาผสม พร้อมแนะนำราคาขาย การเก็บรักษา

ที่สำคัญสูตรที่สอนนี้ เป็นสูตรธรรมชาติปราศจากสารกันบูดและสารเคมี เป็นแหนมหม่ำสูตรคลีน ที่มีเทคนิคการยืดอายุได้นาน

นอกจากนี้ ในคอร์สยังสอนสูตรทำแหนมเห็ด เป็นแหนมเพื่อสุขภาพ โดยใช้เห็ด 3 อย่าง ในการสอนจะเผยถึงเทคนิคการเลือกใช้เห็ดให้เหมาะสม การเตรียมเห็ดที่ถูกต้อง

ส่วน หม่ำรสเด็ด เป็นสูตรเฉพาะจากขอนแก่น ใช้เนื้อวัวผสมตับวัว สอนเทคนิคการทำตับอย่างไรให้อร่อย เทคนิคการใช้สมุนไพรดับคาว พร้อมสูตรเครื่องปรุงเฉพาะ และ วิธีนำหม่ำไปยัดไส้ พร้อมคำแนะนำว่าใช้ไส้แบบถึงจะไหนอร่อยที่สุด รวมถึงวิธีการทำความสะอาดไส้

คุณจะได้เรียนสูตรเด็ดทั้งหมดนี้ ในราคาเพียง 799 บาทเท่านั้น ถูกและดีต้องที่มติชนอคาเดมี

สนใจเรียนคอร์สออนไลน์ “แหนม-หม่ำเงินล้าน” สูตรเด็ดขอนแก่น

ทางไลฟ์สด เฟซบุ๊กมติชนอคาเดมี กลุ่มปิด

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563 เวลา 17.00 น.

ราคา 799 บาท

ติดต่อ มติชนอคาเดมี

Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124

Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105

Inbox Facebook : Matichon Academy – มติชนอคาเดมี

line : @matichonacademy

🌈ชวนไปค้นหาร่อยรอยในอดีตก่อนกำเนิดกรุงศรีอยุธยา บริเวณบางบาลและคลองมหาพราหมณ์ กับ รศ.ดร.ปรีดี พิศภูมิวิถี อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในทัวร์ “ยลวัดเก่านอกเกาะเมือง เล่าเรื่องก่อนกำเนิดกรุงศรีฯ” จ.พระนครศรีอยุธยา จัดโดยมติชนอคาเดมี 

🌅การเกิดกรุงศรีอยุธยา อาจมีทฤษฎีของนักประวัติศาสตร์ได้หลายทฤษฎี บางทฤษฎีบอกว่าพระเจ้าอู่ทองหรือสมเด็จพระรามาธิบดีที่1อาจจะมีที่มาจากหลายๆเมือง ตั้งแต่หัวเมืองเชียงแสนเป็นต้นมา และมักจะเชื่อกันว่าบริเวณฝั่งตะวันออกของอยุธยาที่เรียกว่า อโยธยา เป็นที่มาของการเกิดกรุงศรีอยุธยา ในปี พ.ศ.1893  

🌠ในทางกลับกันบางทฤษฎีให้ความสำคัญกับโบราณสถาน เช่น พระเจดีย์หรือพระอุโบสถพระวิหาร ว่าถ้าเป็นพระเจดีย์ขนาดใหญ่ก็มีร่องรอยของศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น หรือมักจะเรียกกันว่าสมัยอโยธยา 

🌄ในทางทิศตะวันตกของอยุธยาก็มีวัดต่างๆที่สำคัญ เช่น วัดขนอน วัดเก้าห้อง วัดกลาง หรือวัดอีกมากมายแถบคลองมหาพราหมณ์ ซึ่งวัดจำนวนมากแถบนี้มีสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง ที่มติชนอคาเดมีจะพาทุกท่านมาชมคือ กลุ่มของใบเสมาขนาดใหญ่ ที่ทำด้วยหินทรายสีแดงและเชื่อกันว่ามีอายุเก่าถึงสมัยอยุธยาตอนต้นหรือก่อนกรุงศรีอยุธยา  

📚📒นักประวัติศาสตร์ศิลป์ เช่น น.ณ ปากน้ำ จะกำหนดอายุใบเสมาพวกนี้เป็นกลุ่มอู่ทอง-อโยธยา ทำให้เราตั้งข้อสันนิษฐานว่าฝั่งตะวันตกของเกาะเมืองอยุธยา แถบแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นมาที่อ.บางบาล และแถบคลองมหาพราหมณ์ซึ่งเป็นคลองสำคัญ เป็นกลุ่มของพื้นที่ที่อาจจะเป็นไปได้ ถึงการเกิดขึ้นก่อนของกรุงศรีอยุธยา ในปีพ.ศ. 1893 

🚌 ทัวร์ “ยลวัดเก่านอกเกาะเมือง เล่าเรื่องก่อนกำเนิดกรุงศรีฯ” จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางวันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2563 ราคา 2,000 บาท 

☎ สอบถามรายละเอียดหรือสำรองที่นั่งได้ที่ Inbox เฟซบุ๊กเพจมติชนอคาเดมี คลิก m.me/Matichon.Academy.Thailand 

โทร 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105 

line : @matichon-tour คลิก http://line.me/ti/p/%40matichon-tour line : @matichonacademy คลิก https://line.me/R/ti/p/%40matichonacademy 

#ทัวร์ศิลปวัฒนธรรม #มติชนอคาเดมี #ทัวร์มติชนอคาเดมี

มติชนอดาเดมี เปิดให้เช่าสถานที่ ในราคาสุดพิเศษแบบ FREE Style ทั้ง ห้องประชุม ลานกิจกรรม ครัวสาธิต รองรับการจัดงานทุกรูปแบบ ทั้งประชุม สัมมนา อบรม งานช่าง งานครัว

✅ ไม่ว่าคุณต้องการจัดสถานที่แบบไหน เราจัดให้ได้ตามใจคุณ

✅ ปรับเปลี่ยนสถานที่ได้หลากหลายรูปแบบตามวัตถุประสงค์ของงาน

✅ จัดได้ทั้งงานเล็กและงานใหญ่ ในราคาประหยัด

 

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

🔻 พื้นที่ติดแอร์เย็นสบาย

🔻 มีพื้นที่จอดรถ

🔻 ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ในราคาย่อมเยา (ทั้งอาหารเบรค อาหารกลางวัน)

🔻 มีระบบเครื่องเสียงแบบ Full Option ให้เลือกได้

ลานอเนกประสงค์ ขนาด 289 ตร.ม. รองรับ 150 คน ราคา 35,000 บาท/วัน เหลือ 17,500 บาท/วัน

ครัวสาธิต1 ขนาด 51 ตร.ม. รองรับ 24 คน ราคา 7,000 บาท/วัน เหลือ 3,500 บาท/วัน

ครัวสาธิต2 ขนาด 48 ตร.ม. รองรับ 24 คน ราคา 7,000 บาท/วัน เหลือ 3,500 บาท/วัน

ห้องออดิทอเรียม2 ขนาด84 ตร.ม. รองรับ Classroom30คน/Theatre50คน ราคา 7,000 บาท/วัน เหลือ3,500 บาท/วัน

ห้องปฏิบัติการ ขนาด 157 ตร.ม. รองรับ 24 คน ราคา 25,000 บาท/วัน เหลือ12,500บาท/วัน

ห้องทฤษฎี ขนาด 40 ตร.ม. รองรับ 24 คน ราคา 5,000 บาท/วัน เหลือ2,500 บาท/วัน

ครัวเบเกอรี่ ขนาด 60 ตร.ม. รองรับ 16 คน ราคา 15,000 บาท เหลือ 7,500 บาท

บริการเสริม อาหาร+เครื่องดื่ม ราคา 100-350 บาท คอฟฟี่เบรค ราคา 30-150 บาท

💥 ราคานี้ถึงเดือนมีนาคม 2563 นี้เท่านั้น 💥

 

ที่ตั้งศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (Matichon Academy)

🔻 เลขที่ 40/1 ถ.เทศบาลนิมิตใต้ ซ.12 ประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

สนใจติดต่อ

☎ Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124

📱 Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105

📧 E-mail : [email protected]

📲 Line : @MatichonAcademy

เมื่อวันที่ 18 มกราคม ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร มติชนอคาเดมีจัดสอนหลักสูตรก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นรสดีเด็ด by คุณนพ หรือ คุณสิทธิฉันท์ วุฒิพรกุล ทายาทรุ่นที่สองของร้านก๋วยเตี๋ยวรสดีเด็ด โดยหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรพิเศษเปิดสอนเพียงปีละ 1 ครั้ง และมีผู้สนใจมาเรียนจนแน่นห้องโถงใหญ่ของมติชนอคาเดมี กว่า 80 คน

ในการเรียนการสอน คุณนพ ได้เปิดเผยเทคนิคเคล็ดลับในการทำก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น โดยจุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปที่มีความหอมหวานและหมูตุ๋นที่เปื่อยกำลังดีเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน ด้วยเทคนิคใช้ไฟน้อย แต่ใช้เวลานาน และการเลือกใช้หมูสันคอ ตับสด เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร

รวมถึงเคล็ดลับที่ไม่ต้องหมักหมูให้เสียเวลา แต่ใช้เป็นการอาบน้ำหมู เพื่อดึงรสชาติออกมาให้ได้มากที่สุด แถมยังนุ่ม ไม่มีกลิ่นคาวอย่างน่าอัศจรรย์ อีกทั้งยังแง้มสูตรลับการตุ๋นเนื้อ ตุ๋นไก่ สูตรอร่อยโด่งดังของทางร้านที่ใครๆก็รู้จัก ตลอดจนแนะนำการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จด้วย

โดยผู้เรียนต่างชื่นชมและชื่นชอบในรสชาติและเคล็ดลับวิชาที่ คุณนพ ถ่ายทอด ได้อย่างน่าสนใจ และนำไปทำได้จริง

ปู-รินดา ขจรกิตติศักดิ์ ผู้เข้าอบรม ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวไม่ชอบก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นแต่เมื่อทราบว่าคุณนพมาสอนจึงตามมาเรียนเพราะตัวเองเป็นแฟนพันธุ์แท้ก๋วยเตี๋ยวเนื้อมานานกว่า 30 ปี ส่วนตัวหลงรักจุดเด่นของก๋วยเตี๋ยวรสดีเด็ดที่มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่ไม่มีสามารถหาได้จากร้านไหน และเมื่อชิมก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นแล้วอร่อยมากกว่าที่คิดไว้จนไม่ทำให้ผิดหวังเลย บรรยากาศการเรียนการสอนก็สนุกสนานสังเกตได้ว่าเพื่อนๆ ถูกใจกับหลักสูตรมากค่ะ

ปู-รินดา ขจรกิตติศักดิ์
เหมียว-ปุริตา นิ่มเนียม
ตี๋-ฐกลพัชร์ ทยาภัทร

ด้าน เหมียว-ปุริตา นิ่มเนียม ผู้เข้าอบรม บอกว่า ส่วนตัวไม่เคยมาเรียนที่มติชนอคาเดมีเลย มาเรียนหลักสูตรก๋วยเตี๋ยวรสดีเด็ดเป็นครั้งแรก และไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวรสดีเด็ด แต่เมื่อชิมแล้วมีรสชาติอร่อยหอมเครื่องเทศไม่ผิดหวังเลยค่ะ

ขณะที่ ตี๋-ฐกลพัชร์ ทยาภัทร ผู้เข้าอบรม เผยว่า มาเรียนที่มติชนอคาเดมีเป็นครั้งแรก สนใจมาเรียนเพราะอยากได้ความรู้เพิ่มเติมไว้เป็นความรู้คู่กาย และเมื่อได้ชิมแล้วรสชาติก็โอเคเพราะเคยไปทานที่ร้านมาแล้ว คิดว่าซิกเนอเจอร์ของทางร้านคือการตุ๋นเนื้อที่มีรสชาติมากกว่าน้ำซุป และครั้งหน้าเมื่อมีหลักสูตรที่ผมสนใจ จะกลับมาเรียนใหม่ครับ

นอกจากคอร์สพิเศษก๋วยเตี๋ยวรสดีเด็ดนี้แล้ว ทางมติชนอคาเดมียังมีคอร์สพิเศษให้เลือกเรียนในแต่ละเดือน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง www.matichonacademy.com เพจเฟซบุ๊ก Matichon Academy – มติชนอคาเดมี หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 08-2993-9097, 08-2993-9105

คณะประชาสัมพันธ์จากเรือนลดา ท่องเที่ยววิถีไทย จ.นนทบุรี อวยพรปีใหม่ มติชนอคาเดมี ที่อาคารสถาบันมติชนอคาเดมี โดยมีสกุณา ประยูรศุข ผู้อำนวยการให้การต้อนรับ เมื่อไม่นาน

[ภาพบรรยากาศ] ทางศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชนได้เดินสายไปสวัสดีปีใหม่ 2562 ทางลูกค้าและสปอนเซอร์ เพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนที่ดีแบบนี้ตลอดไปในทุกๆ ปีนะคะ

กลุ่มบริษัทน้ำตาลไทยรุ่งเรือง (ลิน)
บริษัท เคอรี่ ฟลาวมิลล์ จำกัด (KFM)
บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น จำกัด
บริษัท ยูนิ-ท้อป เทรดดิ้ง (1988) จำกัด (โพลีไบร์ท)
บจก. ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช (น้ำมันพืชกุ๊ก)
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) (ฟาร์มเฮ้าส์)