คอลัมน์ เคี้ยวตุ้ย..ตะลุยกิน : ‘เจแปนนีส ชีสเค้ก-ชิฟฟ่อนมัทฉะ’ ฝึกทำเค้กสไตล์ญี่ปุ่น สูตรนี้ใจละลาย

ปลุกไอเดียสร้างอาชีพ

ฉบับนี้จู่ๆ ก็มีลาภปากได้ชิมขนมจากเชฟยอดฝีมือที่เดินทางมาทำเค้กสไตล์ญี่ปุ่นให้ลิ้มลองถึงถิ่นเลยค่ะ

เรื่องของเรื่องก็คือ มติชน อคาเดมี เปิดสอนคอร์สขนมในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563 ที่จะถึงนี้ มิตรสหายเลยโทรตามให้มาชิมด้วยกัน

เห็นรูปร่างหน้าตาแล้วต้องรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมาแชะๆ ก็เจ้าขนมสองก้อนสุดแสนจะน่ารัก เรียบง่ายสไตล์มินิมอล และน่ากินขนาดนั้นนี่คะ

อย่างแรก คือ “เจแปนนีส ชีสเค้ก” หรือ “ชีสเค้กนุ่มสไตล์ญี่ปุ่น” อย่างที่สอง คือ “มัทฉะ อะซูกิ แซนด์วิช ครีมเค้ก” หรือ “ชิฟฟ่อนชาเขียวสอดไส้ถั่วแดงญี่ปุ่นและครีมเค้ก” นั่นเอง

ตัวเจแปนนีส ชีสเค้ก เป็นเทรนด์มาหลายปีแล้ว แต่ความนิยมยังไม่หยุดง่ายๆ เราจะเห็นเมนูนี้อยู่ในคาเฟ่แทบทุกแห่ง แล้วแต่จะครีเอตหลากสไตล์ต่างกันไป

สำหรับสูตรที่จะสอนที่มติชน อคาเดมี เป็นชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่น คือ มีความนุ่มเนียนกริบ แต่งหน้าเรียบง่ายด้วยผลไม้สดอย่างสตรอเบอรี่ ตัดแบ่งเป็นก้อนเสิร์ฟ ขอบอกว่าตัวนี้ตอนยกออกจากเตาใหม่ๆ ถือส่ายไปมาเนื้อเค้กเด้งดึ๋งๆ ยั่วน้ำลายสุดสุด ล่ะค่ะ

อีกตัวก็ว้าวไม่แพ้กัน “มัทฉะ อะซูกิ แซนด์วิช ครีมเค้ก” สูตรนี้เชฟครีเอตเค้กชิฟฟ่อนให้เป็นทรงสี่เหลี่ยม ปาดครีมเค้กหนาๆ ขั้นกลางด้วยถั่วแดง วางชิฟฟ่อนประกอบอีกด้าน ท็อปปิ้งด้วยผลไม้รสฉ่ำเปรี้ยวหลายชนิด ทั้งส้ม กีวี สตรอเบอรี่ และ ถั่ว

ลำพังเค้กชิฟฟ่อนก็นุ่มแสนนุ่ม ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นและรสชาติชาเขียวเข้มข้น กัดไปเจอความหวานของถั่วแดงและความมันของครีมเค้ก ผสมกับรสเปรี้ยวนิดของผลไม้ ตายๆๆ กินไป 2 ชิ้นรวดไม่รู้ตัวค่ะ

เอาเป็นว่าชอบทั้ง 2 เมนูเลย ดีงามทั้งรสชาติและหน้าตา ใครที่หาคอร์สเบเกอรี่เก๋ๆ แบบนี้อยู่ ก็อยากจะชวนให้มาเรียนกัน เอาไปต่อยอดคาเฟ่ตัวเองก็ได้ หรือ ไว้ทำเป็นงานอดิเรกให้คนที่บ้านกินกันก็เริ่ดค่ะ

กินเสร็จได้คุยกับเชฟพอหอมปากหอมคอ เชฟชื่อ “เชฟโต้ง-วรดนย์ ประสม” อายุ 27 ปี เป็นเชฟหนุ่มไฟแรงเฟร่อร์ โปรไฟล์ไม่ธรรมดา

เชฟโต้งเป็นเด็กหนุ่มจากเชียงราย พออายุ 15 ปี มีโอกาสเข้ามาอยู่กับอาที่กรุงเทพฯ เพื่อเข้าเรียนอาชีวะ อาถามว่าอยากเรียนอะไรระหว่างช่างตัดผม หรือ ทำอาหาร เชฟโต้งตัดสินใจเรียนด้านอาหาร เพราะคิดว่าเอาไปต่อยอดได้มากกว่า ไปสมัครเรียนที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา หลักสูตรอาหารและโภชนาการ เรียนจนจบ ปวช. ได้โควต้าเข้าเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต คณะโรงเรียนการเรือน อุตสาหกรรมอาหาร

เพิ่งจะอยู่ชั้นปีที่ 1 เทอม 2 เชฟโต้งได้รู้จักกับบรรดาเชฟ TCA (Thailand Culinary Academy) ได้เข้าร่วมทีมเพื่อไปแข่งขันทำอาหารเริ่มจากรายการในประเทศก็ขยับไปต่างประเทศ

เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อยๆ จากทำอาหารคาว ก็เริ่มทำขนมหวาน ครั้งหนึ่งไปคว้าเหรียญทองแดงการทำขนมมาได้จากผู้แข่งขันหลายสิบประเทศ ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับเชฟโต้งในการทำขนม

เชฟโต้ง-วรดนย์ ประสม

“ตั้งแต่เริ่มแข่งขันก็จะเจอขนมมากขึ้น รู้สึกว่ามันสวย ไม่ร้อนเหมือนทำอาหารคาว ที่หน้าเตาผ่าวร้อนใจเราก็ร้อน แต่พออยู่กับขนมใจเริ่มเย็นลง เรามีความลงดีเทล มีรายละเอียดมากขึ้น” เชฟโต้ง เล่าจุดที่ทำให้มาสนใจทำขนมจริงจัง

แต่ถ้าถามว่าจุดที่พัฒนาฝีมือแบบเห็นได้ชัด คือ หลังจากที่ฝึกงานโรงแรมเสร็จได้มีโอกาสไปทำงานที่ร้านขนมของสองเชฟรุ่นพี่ คือ เชฟนัท และ เชฟพลอย ที่ A Baketime Story เป็นร้านขนมชื่อดังย่านเกษตรนวมินทร์

“ตอนนั้นรุ่นพี่ทาบทามให้ไปทำ เราไปเป็นลูกน้องเขา เป็นคาเฟ่ทำขนมเองหมดเลย ที่นี่เป็นแหล่งความรู้ของเราจริงๆ เพราะว่าเขาสอนทุกอย่าง แต่อยู่ประมาณเกือบ 2 ปี ชอบที่นี่ เขาดูแลเราเป็นน้องเลย แต่มาซักพักที่บ้านถามเราอยากให้ทำงานบริษัท ก็ตัดสินใจเข้าเบทาโกร แต่ก็มองว่าในอนาคตเราอาจจะมีโอกาสได้ร่วมกันอีกก็ได้”

ระหว่างที่ทำงานประจำ เชฟโต้งยังใช้เวลาวันเสาร์-อาทิตย์ในการสอนทำขนม แม้จะเหนื่อยแต่เชฟโต้งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเช่นกัน

“ความยากง่ายของการทำขนม ขึ้นอยู่ที่เบสิกแต่ละคนมากน้อยแค่ไหน และความเข้าใจว่ามีแค่ไหน เราเลยต้องถามตลอดว่าเข้าใจไหมครับ ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องพยายามทวนจนเข้าใจขั้นตอนการทำ เช่น เวลาที่คนก็ต้องคน เวลาตีต้องตี พักก็คือพักเก็บไม่ให้โดนอากาศ เพราะจะมีขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ที่ถ้าเราละเลย หรือ สักแต่จะทำมันไม่ได้ แล้วถ้าสอนคนทำไม่เป็นเลย ก็ต้องใช้อินเนอร์เราบิวท์ให้เขาทำ ก็ใช้พลังเยอะ แต่การพูดเวลาสอนก็มีผลดี คือ มันจะเป็นสกิลติดตัวเรา”

ในยุคสมัยที่ออนไลน์เข้ามามีบทบาทสูง เชฟโต้งก็ยอมรับว่าเคยไปลงเรียนออนไลน์เช่นกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องเอามาปรับเองต่ออีกที เนื่องจากไม่ได้เจอครูโดยตรง เวลาถามใช้การอินบอกซ์ ทำให้มันไม่เต็มที่

“บางอย่างมันถูกกั้น ถูกกั๊กไว้อยู่ ก็มาปรับเอง”

ในฐานะที่เคยอยู่ในแวดวงคาเฟ่ เชฟโต้งยืนยันว่า คาเฟ่ได้กลายเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นชินไปแล้ว ชาวออฟฟิศนิยมไปนั่งเพื่อผ่อนคลาย ถ่ายรูปลงโซเชียล กลายเป็นเทรนด์ในการไปนั่งคาเฟ่ ยิ่งเจอขนมหน้าตาน่ารัก มีสตอรี่ การไปถ่ายรูปลงโซเชียลมันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง

สุดท้าย เชฟโต้งฝากบอกว่า เมนูสองอย่างนี้เหมาะกับทุกกลุ่ม จะนำไปทำเป็นงานอดิเรกก็ได้ หรือถ้าทำคาเฟ่อยู่แล้ว สามารถเอาไปต่อยอดได้เลย มาเรียนในชั้นเรียนรับรองว่าเข้าใจ และ ได้รับความเพลิดเพลินแน่นอน

ใครที่สนใจแล้ว ติดต่อเลยที่ มติชน อคาเดมี โทร 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 มือถือ 08-2993-9097, 08-2993-9105 หรือ Inbox Facebook : คลิกที่นี่ m.me/Matichon.Academy.Thailand หรือ line : @matichonacademy คลิก https://line.me/R/ti/p/%40matichonacademy

 

 

 

ที่มาอาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน
ผู้เขียนชม นำพา [email protected]