Tour Story : เรื่องราวระหว่างทัวร์

“Hee ผี” หรือ “โยนีปีศาจ” ระหว่างทาง เที่ยวปราสาทปลายบัด บุรีรัมย์

"โยนีปีศาจ" หรือต้น "Heeผี" หรือ "กระนูย ขะม็อจ" ในภาษาเขมร กะนูย แปลว่าอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง ส่วน ขะม็อจ คือ ผี รวมความแล้วก็แปลกันได้ทุกคน ที่จริงแล้วโยนีปีศาจ ก็คือต้น "มะกอกโคก" นั่นเอง

Hee ผี

“อภินันท์ บัวหภักดี” อดีตบรรณาธิการนิตยสาร อ.ส.ท. ในสังกัดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แบ่งปันความรู้ระหว่างเดินทางท่องไปยังแดนดินถิ่นอีสานเที่ยว “ปราสาทเขาปลายบัด” จังหวัดบุรีรัมย์ ด้วยเรื่องราวของ “โยนีปีศาจ” หรือต้น “Hee ผี” หรือ “กระนูย ขะม็อจ” ในภาษาเขมร

กะนูย แปลว่าอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง ส่วน ขะม็อจ คือ ผี  รวมความแล้วก็แปลกันได้ทุกคน

ที่จริงแล้วโยนีปีศาจ ก็คือต้น “มะกอกโคก” นั่นเอง  หรือชื่อบ้านๆ ว่า Heeผี  สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “โยนีปีศาจ”

โยนีปีศาจ หรือ  “มะกอกโคก” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Schrebera swietenioides Roxb  เป็นไม้ยืนต้น ลักษณะไม้เปลือกแข็ง ลำต้นสูงใหญ่ใบเลี้ยงคู่ออกดอกเป็นช่อๆ สีขาวแกมเหลืองเล็กน้อยคล้ายๆ ดอกพวง

พยอม  แต่ไม่มีกลิ่นหอม  จะเริ่มออกดอกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม  ส่วนผลลักษณะคล้ายลูกมะกอก ขนาดประมาณ 3-5 เซนติเมตร เมื่อสุกประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะหล่นลงมาและแตกออกเป็นสองซีก

เมื่อนำไปกดกับดินทรายดูจะปรากฏรอยคล้ายอวัยวะเพศหญิง มีเฉพาะในประเทศไทย การขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ดและปักชำ แต่ทำได้ยาก

ถือว่าต้นโยนีปีศาจเป็นต้นไม้ประจำถิ่นเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของเขากระโดง เพราะจะเกิดขึ้นเฉพาะในดินภูเขาไฟ จึงมีต้นอยู่เฉพาะบางที่เท่านั้น เช่น ที่ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ เขาพนมสวาย จังหวัดสุรินทร์

และที่ปราสาทปลายบัด อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ การเติบโตเฉพาะที่ของต้นไม้พันธุ์แปลกนี้เลยทำให้กลายเป็นต้นไม้หายากมาก เช่นนี้จึงมีสรรพคุณทางไสยศาสตร์ด้วย โดยใช้เป็นเครื่องป้องกันเสนียดจัญไรร้ายแรงทั้งปวง

ทำไมจึงชื่อต้น Heeผี

เรื่องนี้มีตำนาน ตามท้องเรื่องเล่าว่าสมัยหนึ่งพระโพธิสัตว์จุติจากเทวโลกลงมาเกิดเป็นโอรสของท้าวมหาธรรมราชา กับนางสุวรรณเทวี แห่งเมืองพรหมพันธ์ ชื่อ ปาจิตต์กุมาร

เมื่อพระชนม์ได้ 16 พรรษา พระราชบิดาทรงคิดจะให้อภิเษกสมรส ได้หาพระธิดาของกษัตริย์เมืองขึ้นต่างๆ มาให้เลือก แต่ท้าวปาจิตต์ไม่ถูกพระทัย โหรทำนายว่าเนื้อคู่ของพระองค์ยังอยู่ในครรภ์หญิงม่ายนางหนึ่ง

ให้ท้าวปาจิตต์เดินทางไปทางทิศตะวันออกจะได้พานพบหญิงม่ายผู้นั้น โดยสังเกตแสงตะวันทรงกลดเป็นเงากั้นบนศีรษะ เพราะบุญญาธิการของทาริกาที่อยู่ในครรภ์

ท้าวปาจิตต์เดินทางไปตามที่โหรบอกจนไปพบนางบัว ชาวบ้านสัมฤทธิ์ซึ่งกำลังตั้งครรภ์และมีลักษณะตรงกับคำทำนาย ท้าวปาจิตต์จึงขอฝากตัวเป็นคนรับใช่้ รอจนนางบัวคลอดบุตรเป็นหญิงลักษณะถูกต้องตรงตามคำทำนายชื่อว่า อรพิม  เมื่อนางอรพิมเติบใหญ่เป็นสาว ท้าวปาจิตต์ยกขบวนขันหมากมาสู่ขอ ระหว่างเดินทางมาถึงบ้านกงรถ ท้าวปาจิตต์ได้ข่าวว่านางอรพิมถูกท้าวพรหมทัตกุมาร แห่งเมืองพาราณสีฉุดไปเป็นชายา แต่อรพิมไม่ยินยอมจึงถูกขังไว้ในปราสาท  ท้าวปาจิตต์จึงเดินทางไปตามหาจนได้พบอรพิมและช่วยให้ออกมาจากที่คุมขัง  ระหว่างทางท้าวปาจิตต์ถูกนายพรานฆ่าตายและชิงตัวอรพิมไป แต่นางอรพิมก็ฆ่านายพรานนั้นเสีย แล้วกลับมารักษาท้าวปาจิตต์ ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาได้ด้วยสมุนไพร ทั้งสองเดินทางล่องเรือผ่านแม่น้ำสายหนึ่ง มีสามเณรรูปหนึ่งพายเรือให้ เณรออกอุบายลวงให้ท้าวปาจิตต์ขึ่้นฝั่งก่อน แล้วเณรก็พานางอรพิมพายเรือหนีไป เมื่อถึงฝั่งนางอรพิมออกอุบายให้เณรขึ้นต้นมะเดื่อแล้วเอาหนามตรึงเณรไว้

ก่อนจะพายเรือกลับมาหาท้าวปาจิตต์ แต่ไม่พบ  นางตามหาท้าวปาจิตต์ ระหว่างทางได้อธิษฐานจิตขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แปลงร่างให้เป็นชาย โดยขอให้บางส่วนที่เป็นหญิงหลุดหายไปจากร่าง  นางอรพิมนำปทุมถันของนางไปฝากไว้ที่ต้นงิ้ว  ส่วนโยนี ไปฝากไว้ที่ต้นมะกอกโคก จึงกลายเป็นต้น Heeผี จนทุกวันนี้

ส่วน “ปราสาทเขาปลายบัด” มี 2 หลัง คือ ปราสาทเขาปลายบัด 1 และ ปราสาทเขาปลายบัด 2  อยู่ห่างกันระยะทางประมาณกิโลเมตรเศษๆ  

ปราสาทเขาปลายบัด หรือไปรบัด 1 ตั้งอยู่บนยอดเขาปลายบัด/ไปรบัด ซึ่งเป็นภูเขาไฟเก่า อยู่ห่างจากปราสาทเมืองต่ำไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ในเขตบ้านโคกเมือง ต.จรเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ห่างจากจังหวัดบุรีรัมย์ประมาณ 62 กิโลเมตร มีลักษณะปราสาทก่อด้วยอิฐขัดเรียบไม่สอปูน มีประตูอยู่ด้านทิศตะวันออก อีกสามด้านเป็นประตูหลอก พอจะสันนิษฐานรูปร่างได้ว่าอาคารหนึ่งเป็นรูปปรางค์ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงก่อหินทราย ใช้หินทรายเป็นเสากรอบประตู ส่วนผนังใช้อิฐก่อเป็นแนว  ประติมากรรมถูกลอบนำออกไปขายนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม สันนิษฐานว่าเป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์ในพุทธ ศาสนา ในพุทธศตวรรษที่ 15

เห็นกันชัดๆ ว่าเหมือนหรือไม่เหมือน! แต่..เมื่อนำไปกดกับดินทรายดู จะปรากฏรอยคล้ายอวัยวะเพศหญิง ต้นไม้แปลกนี้มีเฉพาะในประเทศไทย
ผลของต้นโยนีปีศาจ
ปราสาทเขาปลายบัดที่กรมศิลปากรบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ หลังถูกคนร้ายนำระเบิดไประเบิดทั้งหลังเพื่อหาสมบัติ
ปราสาทเขาปลายบัดที่กรมศิลปากรบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ หลังถูกคนร้ายนำระเบิดไประเบิดทั้งหลังเพื่อหาสมบัติ

ปราสาทเขาปลายบัด 2 นับเป็น “สุดยอดของปราสาทหิน” ที่กรมศิลปากรบูรณะปฏิสังขรณ์ และเป็นปราสาทที่มีความสำคัญมาก พบจารึกที่นี่กล่าวถึงภูเขาปลายบัดที่แต่ก่อนเรียก “พนมกัดโตน”

พระมหากษัตริย์เมืองพระนครจะมาทำบุญทุกปี ปราสาทแห่งนี้จึงสำคัญมากถึงแม้จะมีขนาดเล็ก จากอดีตที่ผ่านมา ปราสาทหลังนี้ถูกคนร้ายนำระเบิดมาหย่อนลงตรงกลางปราสาท เพื่อระเบิดเอาทับหลัง และต้องการขุดหาสมับตินำไปขาย ซึ่งจากการขุดค้นและสำรวจจากหลักฐานของกรมศิลปากรพบว่ามีปฏิมากรรมเทวรูปตั้งแต่มีความสูงเป็นเมตร เป็นศอกและเป็นคืบถูกนำออกไปนอกประเทศทั้งหมด

ปฏิมากรรมที่พบในต่างประเทศและระบุว่ามาจากปราสาทเขาปลายบัด 2 อาทิ พระพุทธรูปหน้าตาแบบทวาราวดี  เทวรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปฏิมากรรมพระศรีอาริยเมตไตรย จำนวนร้อยกว่าองค์ในกรุถูกลักลอบนำออกไปขายต่างประเทศ

ก้อนศิลแลงที่เป็นส่วนของกำแพงแก้วและตัวปราสาทกระเด็นกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่ด้วยแรงระเบิด

ปัจจุบันสามารถสืบทราบเทวรูปเหล่านี้ได้มากพอสมควร และมีความพยายามติดตามทวงคืน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะการจะได้คืนเป็นเรื่องที่ยากมาก ในการหาหลักฐานและพิสูจน์ทราบ

สำหรับตัวตัวปราสาทพังไปหมดด้วยแรงระเบิด กรมศิลปากรได้บูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ตามแบบของเดิม ซึ่งเป็นปราสาทอิฐหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีประตูทางเข้าด้านเดียว นอกนั้นเป็นประตูหลอก จากยอดเขาปลายบัดที่ปราสาทตั้งอยู่สามารถมองเห็นปราสาทเขาพนมรุ้ง

ดังนั้น ปราสาททั้งหมดในย่านนี้เป็นความน่าทึ่งของคนโบราณที่จะต้องไปดูให้ได้ในครั้งหนึ่งของชีวิต !!

อัพเดตเรื่องราวทัวร์ศิลปวัฒนธรรม ได้ที่ เพจเฟซบุ๊กทัวร์มติชนอคาเดมี

ลักษณะของต้น Heeผี หรือโยนีปีศาจ ต้นไม้เฉพาะถิ่นสัญลักษณ์ของเขากระโดง
ภาพเทวรูปทั้งหมดของปราสาทปลายบัดที่ถูกลักลอบออกไปขายต่างประเทศ
ฐานล่างของปราสาทยังเป็นของเดิมพุทธศตวรรษที่ 15 หรือประมาณ 1500 ปีมาแล้ว
ฐานล่างของปราสาทยังเป็นของเดิมพุทธศตวรรษที่ 15 หรือประมาณ 1500 ปีมาแล้ว
ห้องภายในปราสาทที่บูรณะขึ้นมาใหม่ให้คงรูปแบบเดิมๆ
ห้องภายในปราสาทที่บูรณะขึ้นมาใหม่ให้คงรูปแบบเดิมๆ