Tour Story : เรื่องราวระหว่างทัวร์

เฉลยปริศนา”ตัวเลข” ที่…วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

วัดพระศรีมหาธาตุ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 18 ตำบลอนุสาวรีย์ (เดิมชื่อตำบลกูบแดง) อำเภอบางเขน กรุงเทพมหานคร

“วัดพระศรีมหาธาตุ”  บางเขน ได้ชื่อว่าเป็นวัดสัญลักษณ์ของ “ประชาธิปไตย” ซึ่งก่อนหน้านี้มี “ตัวเลข” ที่เกี่ยวข้องกับวัดแห่งนี้ ตั้งแต่ เลข 6-24-112 และ 2475 !!

ทำไม? ความหมายของตัวเลขเหล่านี้คืออะไร?

แรกเริ่มเดิมที “หลวงพิบูลสงคราม” หรือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น เสนอต่อที่ประชุมว่าจะขออนุมัติเงินสร้างวัดเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งการปกครองในระบบประชาธิปไตย

การสร้างวัดครั้งนี้ รัฐบาลเห็นว่าควรให้เป็นงานกุศลของชาติที่ประชาชนและรัฐบาลร่วมกัน จึงติดประกาศเชิญชวนได้รับเงินบริจาค 336,535 บาท จากงบที่ประมาณไว้ 400,000 บาท

ส่วนที่ให้ชื่อว่า “วัดประชาธิปไตย” เนื่องจากทำเลที่ตั้งของวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บน “ถนนพหลโยธิน” ซึ่งเป็นถนนที่ตัดขึ้นใหม่มีชื่อเดิมว่า “ถนนประชาธิปัตย์”

บริเวณใกล้ๆ กันนั้น เดิมมี  “อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ”  ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในเหตุการณ์ “กบฏบวรเดช”

ความต้องการของรัฐบาลในขณะนั้น คือต้องการสร้างให้วัดประชาธิปไตยนี้ เป็นวัดตัวอย่างที่มีความสมบูรณ์เป็นมาตรฐานของสถาปัตยกรรมไทย และเป็นวัดที่รวมเอา “มหานิกาย” และ “ธรรมยุตินิกาย” เข้าไว้ด้วยกัน

เพื่อให้วัดพระศรีมหาธาตุเป็นวัดที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของชาติไทยในสมัยประชาธิปไตย

สิ่งที่สำคัญยิ่งประการหนึ่ง คือการอัญเชิญ “พระพุทธสิหิงค์” พระพุทธรูปสำคัญองค์ที่ 3 ของประเทศไทย รองจากพระแก้วมรกต และ พระพุทธชินราชที่พิษณุโลกมาเป็นพระประธานของวัด

เมื่อสร้างเสร็จ วัดพระศรีมหาธาตุ มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการถวายเป็นเสนาสนะ เมื่อวันที่  24 มิถุนายน พ.ศ. 2485  เป็นการกำหนดให้ตรงกับวันเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตยเมื่อ 10 ปีก่อน(เลข 24)

พระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นบุคคลแรกที่ทำพิธีอุปสมบทในวัดพระศรีมหาธาตุแห่งนี้

ต่อมารัฐบาลได้ส่งคณะทูตพิเศษนำโดย “นาวาเอก หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์”  เดินทางไปประเทศอินเดีย เพื่อติดต่อขอพระบรมสารีริกธาตุ  ดินสังเวชนียสถานทั้งสี่ และกิ่งพระศรีมหาโพธิ 5 กิ่ง เพื่อนำมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้   จากนั้นจึงตกลงเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น “วัดพระศรีมหาธาตุ”

สัญลักษสัญลักษณ์สำคัญที่สุดที่สะท้อนความหมายของประชาธิปไตยและคณะราษฎร คือ “พระธาตุเจดีย์” หน้าพระอุโบสถ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย

สภาพบริเวณวัดพระศรีมหาธาตุในอดีต ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนาข้าว
อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญในอดีต ที่เคยตั้งอยู่บริเวณวงเวียนหลักสี่ อนุสรณ์การปราบปรามกบฏบวรเดช
สมรภูมิ "ทุ่งบางเขน" ในเหตุการณ์ปราบ "กบฏบวรเดช" เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2476 ที่มาของอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ บริเวณวงเวียนหลักสี่ ที่ปัจจุบันถูกรื้อถอนหายไปหมดแล้ว
สมรภูมิ "ทุ่งบางเขน" ในเหตุการณ์ปราบ "กบฏบวรเดช" เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2476 ที่มาของอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ บริเวณวงเวียนหลักสี่ ที่ปัจจุบันถูกรื้อถอนหายไปหมดแล้ว

เจดีย์องค์นี้สร้างเป็นเจดีย์ 2 ชั้น ชั้นนอกเป็นเจดีย์ใหญ่สูง 38 เมตร ชั้นในทำเป็นเจดีย์องค์เล็กตั้งอยู่ตรงกลาง (บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมา) มีพื้นที่ระหว่างผนังทั้ง 2 ชั้นราว 2 เมตรครึ่ง สำหรับให้เข้าไปนมัสการได้

แต่ลักษณะพิเศษแตกต่างจากพระธาตุเจดีย์ทั่วไปคือ ส่วนที่เป็นผนังด้านในของเจดีย์องค์ใหญ่ ออกแบบให้เป็นช่องจำนวน 112 ช่อง (เลข 112)

หลวงวิจิตรวาทการเสนอความเห็นในการสร้างช่องทั้ง 112 นี้ ว่าควรใช้บรรจุอัฐิของคณะราษฎร หรือบุคคลอื่นที่ทำคุณงามความดีแก่ชาติบ้านเมือง โดยยกตัวอย่าง Pantheon ในประเทศฝรั่งเศสมาเปรียบเทียบ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกับข้อเสนอใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของผู้ที่ทำประโยชน์แก่ชาติ โดยมิได้กล่าวเจาะจงเฉพาะว่าเป็นอัฐิของคณะราษฎร

อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติจริง ภายในช่องบรรจุอัฐิในพระเจดีย์ ก็ล้วนแต่บรรจุอัฐิของบุคคลที่เป็นคณะผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองทั้งสิ้น

พิธีบรรจุอัฐิจอมพล ป. พิบูลสงคราม

อาทิ จอมพล ป. พิบูลสงคราม, พระยาพหลพลพยุหเสนา, ปรีดี พนมยงค์, พลโทประยูร ภมรมนตรี, นาวาเอก หลวงศุภชลาศัย, นาวาเอก หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ฯลฯ

และในหลายช่องก็ได้ใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของภรรยาคณะผู้ก่อการฯ ด้วย เช่น ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม เป็นต้น

นอกจากนี้ พระธาตุเจดีย์ ยังออกแบบส่วนยอดให้ไม่มีบัลลังก์ และมีจำนวนบัวกลุ่มที่ยอด 6 ชั้น (เลข 6)  ซึ่งมิใช่ระเบียบโดยทั่วไปขององค์ประกอบเจดีย์

เพราะหากทำยอดเป็นบัวกลุ่ม มักจะออกแบบให้ชั้นบัวกลุ่มนี้เป็นเลขคี่ และเลขคี่ที่นิยมคือ 5, 7, 9 และ 11 การทำบัวกลุ่ม 6 ชั้น อาจจะสื่อความหมายถึง “หลัก 6 ประการ” ของคณะราษฎร

อัพเดตเรื่องราวทัวร์ศิลปวัฒนธรรม ได้ที่ เพจเฟซบุ๊กทัวร์มติชนอคาเดมี

หน้าบันด้านหน้าของวัดพระศรีมหาธาตุ ทำเป็นรูป "อรุณเทพบุตร" ซึ่งมีหน้าที่เป็นสารถีขับรถให้กับพระอาทิตย์ หมายถึง "แสงตะวันเมื่อแรกขึ้น" ซึ่งที่ผ่านมาไม่พบว่าเทพองค์นี้เคยนำมาใช้เป็นลายหน้าบันหลักของอาคารใดๆ เลย ดังนั้น ความหมายของอรุณเทพบุตร ที่เป็นนสัญลักษณ์แห่ง "แสงแรกของตะวัน" น่าจะเข้าใจได้ว่าสื่อถึงการเกิดขึ้นของ "ระบอบประชาธิปไตย" ในประเทศไทย
เจดีย์องค์เล็กตั้งอยู่ตรงกลาง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากอินเดีย มีพื้นที่ระหว่างผนังทั้ง 2 ชั้นราว 2 เมตรครึ่ง สำหรับให้เข้าไปนมัสการได้
แผ่นจารึกที่มาของชื่อ "วัดประชาธิปไตย" บริเวณพระธาตุเจดีย์ที่ฐานล่างองค์พระธาตุ
ช่องบรรจุอีฐิภายในองค์พระธาตุเจดีย์มีจำนวน 112 ช่อง
พระอุโบสถ วัดพระศรีมหาธาตุ ที่สร้างเลียนแบบมาจากวัดเบญจมบพิตร
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่ นาวาเอก หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ เดินทางไปประเทศอินเดีย เพื่อติดต่อขอกิ่งพระศรีมหาโพธิ 5 กิ่ง นำมาประดิษฐานที่วัดพระศรีมหาธาตุ
27 ธันวาคม พ.ศ. 2561 มีการย้ายอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญออกจากพื้นที่อย่างเงียบๆ โดยไม่มีใครทราบว่าปัจจุบันได้นำไปเก็บไว้ที่ไหน
พระประธานเดิมของวัดในพระอุโบสถก่อนหน้านี้ คือ พระพุทธสิหิงค์
พระประธานในพระอุโบสถปัจจุบันคือ พระศรีสัมพุทธมุนี
ความต้องการของรัฐบาลในขณะนั้น คือต้องการให้วัดแห่งนี้ เป็นวัดตัวอย่างที่มีความสมบูรณ์ของสถาปัตยกรรมไทย