ไอศกรีมยุคนี้ไม่ได้เป็นแค่ไอศกรีมธรรมดาๆ บอกชื่อรสชาติตรงๆ อีกต่อไปแล้ว เพราะไอศกรีม Guss Damn Good (อ่านว่า กั๊สส์ แดมน์ กู๊ด) ก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่ง เป็น คราฟต์ไอศกรีม (Craft Ice Cream) รสชาติแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร แทนที่จะบอกรสชาติ กลับตั้งชื่อตามอารมณ์ความรู้สึกและเรื่องราวเบื้องหลัง ใช้ของดีจากธรรมชาติคุณภาพสูง ส่วนผสมวิธีการทำไม่เหมือนใคร สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนชิม จนตอนนี้มีสาวกแฟนคลับมากมาย

Guss Damn Good เกิดขึ้นได้ด้วยน้ำมือของหนุ่มสาวความคิดกว้างไกล 2 คน คือคุณระริน ธรรมวัฒนะ และคุณนที จรัสสุริยงค์ ฝ่ายชายเรียนวิศวะ ส่วนฝ่ายหญิงจบบัญชีไฟแนนซ์ แต่กลับสร้างสรรค์ไอศกรีมได้อย่างล้ำลึก

ตอนเรียนปริญญาโทอยู่ที่บอสตัน เกิดแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมการกินไอศกรีมสไตล์ปาร์ตี้สนุกสนานของคนเมืองนั้น จึงตระเวนชิมเข้าออกร้านหรือบาร์ไอศกรีมเป็นว่าเล่น นำตำรามาศึกษาอย่างถ่องแท้ ทดลองทำคิดสูตรไอศกรีม จนกลับมาเปิดร้านที่เมืองไทย เริ่มออกงานในปี 2558 และมีร้านไอศกรีมเล็กๆ เพียง 7 ตารางเมตรอีก 1 ปีถัดมา

ปัจจุบัน Guss Damn Good มีหน้าร้านทั้งหมด 9 สาขา ที่ศาลาแดงในอาคาร Wolf Pack ที่เพลินจิต Bar Storia del Caffe มหาทุนพลาซ่า ที่ The Commons ศาลาแดง (สาขานี้ทำเป็น บาร์ไอศกรีมซันเดย์ ย้อนวัย) The Commons ทองหล่อ (สาขานี้มีเมนู มิลค์เชค และ Affogato ราดซอสต่างๆ ด้วย) Eight ทองหล่อ (หน้าฟู้ดแลนด์) Emquartier (ทำเป็น คุกกี้บาร์) ชั้น G หน้า Gourmet Market เซ็นทรัลเวิลด์ชั้น 3 เมกา บางนาชั้น 2 ฝั่งอิเกีย และสามย่านมิตรทาวน์

ไอศกรีมของ Guss Damn Good มีความเนียนนุ่มเหนียว มีปริมาณไขมันมากกว่าไอศกรีมเจลาโต้ แต่เนื้อแน่นน้อยกว่าไอศกรีมอเมริกัน การตั้งชื่อไอศกรีมตามเรื่องราวและความรู้สึกนั้น ทำให้เราไม่สามารถคาดเดาถึงรสชาติได้ อีกทั้งจะไม่เติมสี จึงอาจจะเห็นรสชาติสีขาวเรียงรายอยู่ในตู้ถึง 5 ชนิด ก่อให้เกิดวัฒนธรรมที่ให้ลูกค้าทดลองชิมก่อนในช้อนเล็กๆ ได้อย่างเต็มที่ ชิมไปเถอะไม่ต้องเหนียมอาย เพราะพนักงานขายจะคะยั้นคะยอให้เราชิมได้ตามสบายจนพอใจ แค่นี้ก็รู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการชิมมาก

ปัจจุบันนี้ไอศกรีม Guss Damn Good แบ่งหมวดหมู่ใหม่ง่ายๆ เป็น 3 ประเภท คือไอศกรีมซอร์เบต์ (Sorbet) ทำจากผลไม้ไม่ใส่นม และไอศกรีมทำจากนมเรียกว่า แดรี่ (Dairy) ปิดท้ายด้วยทิปซี่ (Tipsy) ที่แปลว่าโซเซ เป็นไอศกรีมผสมเหล้า (แต่ไม่ได้ผสมเยอะ) มีหมุนเวียนเปลี่ยนไปถึงกว่า 60 รสชาติ ทั้งไอศกรีมแบบตักเป็นสกู๊ป (สกู๊ปละ 85-95 บาท) และเป็นถ้วยๆ

โดยคุณระรินเสริมว่า รสชาติที่ต้องยืนพื้นเพราะลูกค้าถามหาตลอด คือ Don”t Give Up #18 ที่ทดลองทำลองผิดลองถูกมากกว่า 18 ครั้ง กว่าจะลงตัวรสชาติถูกใจ เป็นไอศกรีมสีขาวที่หอมนมมากๆ มีส่วนผสมของนมสดจากฟาร์มโคนมลพบุรี และครีมนำเข้าจากฝรั่งเศส

ต่อด้วยรสชาติที่ต้องมีตลอดคือ Here”s Your Damn Good Chocolate Ice Cream ดาร์กช็อกโกแลตเข้มข้น 70% จากเบลเยียม รสเข้มๆ และที่ประทับใจมากๆ เช่นกันคือ Maine Rocky Coast ไอศกรีมซีซอลต์ (Sea salt) รสเค็มๆ หอมๆ สอดแทรกด้วยอัลมอนด์บริทเทิล (almond brittle) ชิ้นเล็กๆ กรุบๆ ให้อารมณ์เหมือนอยู่ริมชายหาดโขดหินในรัฐเมน อร่อยเพลินหยุดไม่ได้จริงๆ อีกรสชาติที่ทำให้ผมตกหลุมรัก Guss Damn Good เป็นครั้งแรกก็คือ Bonfire ไอศกรีมคาราเมลไหม้ๆ นิดๆ รสเข้มๆ ทำจากคาราเมลที่นำน้ำ น้ำตาล และครีมมาเคี่ยวเท่านั้น คนรักก็รักลุ่มหลงเลย ส่วนคนที่ไม่ชอบก็มีบ้าง ดังนั้น จึงควรลองชิมก่อนว่าถูกใจหรือไม่

รสยอดนิยม Naugthy Honey และ In Good Hands

หรือถ้าชอบแนวผลไม้สดชื่น ก็มี Tokyo Mist ไอศกรีมยูสึ (Yuzu) รสเปรี้ยวหอมที่ทำจากยูสึถึง 3 ชนิด และที่กำลังมาแรงคือ In Good Hands เป็นไอศกรีม burnt vanilla ทำจากนมผสมวานิลลาชั้นเลิศแกะจากฝักของมาดาร์กัสการ์ หอมวานิลลาและมีกลิ่นรสเข้มๆ อร่อยเกินคำบรรยาย ใส่ถั่วพิสตาชิโอ้ (pistachio) แคนดี้เคี้ยวกรุบๆ ห้ามพลาดเลย

ซึ่งไอศกรีมบางรสชาตินั้นจะมีการคอลลาโบเรชั่น (collaboration) หรือเรียกสั้นๆ ว่า คอลแล็บ กับแบรนด์หรือพาร์ตเนอร์อื่นๆ เพื่อสื่อสารถึงคาแร็กเตอร์ของแบรนด์นั้นๆ ผ่านการชิมไอศกรีม ดังเช่น In Good Hands ที่ร่วมกับบริษัทตรวจสอบบัญชี Deloitte สื่อให้เห็นความเป็นมืออาชีพแต่มีความผ่อนคลายซุกซ่อนอยู่ในตัวด้วย

หรืออย่างเช่นรสชาติ A GOOD DAY ที่คอลแล็บกับ x Carnation Plus ออกรสชาติย้อนวัยที่คุ้นเคย รสนมเย็นผสมถั่วแมคคาเดเมีย และรสชาติ RISE AND SHINE ไอศกรีมนมผสมวานิลลาโอ๊ตมีลและคุกกี้โดกับนมข้นหวาน เปรียบเสมือนเด็กที่โตเป็นสาวไลฟ์สไตล์คนเมือง

การคอลแล็บนั้นไม่จำกัดอยู่แค่กับแบรนด์ต่างๆ มีแม้กระทั่งคู่บ่าวสาวขอให้ทำ รสชาติ Make a Toast ไปฉลองในงานแต่งงาน คือ ไอศกรีม Sorbet สตรอเบอรีผสมแชมเปญ คู่รักคู่นี้มองว่าการฉลองเกิดขึ้นได้ทุกวันเวลา จะเห็นได้ว่า Guss Damn Good เก่งมากในการเล่าเรื่องราวผ่านไอศกรีม ซึ่งรสชาติเหล่านี้จะมีขายที่ร้านตลอดไป นับเป็นเสน่ห์ของการทำตลาดที่ทันสมัยมาก

แต่ละรสชาติก็จะมีเสน่ห์ดึงดูดใจไปคนละแบบ เช่น Frozen Fenway ไอศกรีมมินต์คุกกี้ชิปส์สีขาว (เพราะไม่ผสมสี) ซึ่งมีขายเฉพาะเป็นถ้วยเท่านั้น ไม่มีตักขายเป็นสกู๊ป มิฉะนั้นกลิ่นมินต์หอมๆ จะแทรกไปอยู่ในไอศกรีมรสชาติอื่นๆ ทั้งตู้

ต่อด้วย Virgin Umeshu ไอศกรีมรสชาติเหล้าบ๊วยที่ไม่ได้ผสมเหล้าเลย Why Can”t Coffee Be White? ไอศกรีมรสกาแฟหอมๆ ที่ออกมาเป็นสีขาว ไม่ใช่สีกาแฟ B-Cube ไอศกรีม B ยกกำลังสาม คือไอศกรีม brown butter กับ brown sugar ใส่บราวนี่ (Brownie) ชิ้นเล็กๆ ให้ความหนึบหอมหวานมัน PB Jelly ไอศกรีมรสเนยถั่วแทรกด้วยเยลลีสตรอเบอรี Naughty Honey ไอศกรีมรสน้ำผึ้งที่หอมถูกใจมากๆ ทำจากน้ำผึ้งดอกลำไยผสม Honey comb แคนดี้หนึบๆ ที่ทำจากน้ำผึ้งตัวเดียวกัน

อีกไม่นาน Guss Damn Good จะออกไอศกรีมกาแฟรสชาติใหม่ ชื่อว่า Intro to Coffee สำหรับผู้เริ่มหัดกินรสกาแฟ คือ ไอศกรีมคาราเมลมัคคิอาโต้ (Caramel Macchiato) และรส Afternoon Kick เป็นไอศกรีมคอฟฟี่ซอร์เบต์ผสมซิตรัสหอมๆ กินแล้วปลุกให้ตื่น

เรื่องการขายนั้นที่ร้านพิถีพิถันมาก ถ้าสั่งไอศกรีม 2 ลูก พนักงานจะทราบเลยว่ารสไหนต้องอยู่ด้านล่าง รสไหนต้องอยู่บน เพราะควรจะกินก่อนรสชาติเบาๆ ข้างบนก่อน นอกจากนี้ ยังมีบริการส่งถึงบ้านหรือที่ทำงานด้วย ซึ่งน้องระรินจะถามย้ำเสมอว่าจะกินจริงกี่โมง เพราะต้องกะเวลาในการส่งด้วยการใส่น้ำแข็งแห้ง (ไม่ควรนานเกิน 2 ชั่วโมง) ให้ไม่ละลาย

ในปีนี้ (2563) จะไม่ขยายสาขาแต่เน้นอบรมพนักงานให้รู้จักวัฒนธรรมองค์กรอย่างเข้มข้นเพื่อการบริการที่ดียิ่งขึ้น สำหรับใครที่ชื่นชอบการกินไอศกรีมและยังไม่เคยลิ้มลอง Guss Damn Good ควรรีบตามไปชิม รับรองว่าจะได้ประสบการณ์แปลกใหม่ตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน

ข้อมูลร้าน

Guss Damn Good

โดย คุณระริน ธรรมวัฒนะ และคุณนที จรัสสุริยงค์

โทร 0-2121-7138

ที่ตั้ง มี 9 สาขา

อาคาร Wolf Pack ศาลาแดง 10.00-22.00 น.

Bar Storia del Caff มหาทุนพลาซ่า 10.00-21.00 น.

The Commons ศาลาแดง 10.00-20.00 น.

The Commons ทองหล่อ 10.00-20.00 น.

Eight ทองหล่อ หน้า Foodland 10.00-21.00 น.

Emquartier ชั้น G หน้า Gourmet Market 10.00-21.00 น.

เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 10.00-21.00 น. และ 11.00-21.00 น.

เมกา บางนา ชั้น 2 ฝั่งอิเกีย 10.00-21.00 น.

สามย่านมิตรทาวน์ 10.00-21.00 น.

แนะนำ ไอศกรีม Guss Damn Good ทุกรสชาติ

IG : GussDamnGood

Line : @GussDamnGood

Facebook Guss Damn Good

ที่มา : คอลัมน์ตามรอยพ่อไปชิม มติชนรายวัน

เป็นอีกหนึ่งศูนย์การค้าที่ครบเครื่องไปเสียทุกสิ่งเลยจริงๆ สำหรับ “เมกา บางนา” ที่เพียบพร้อมทั้งของใช้ สินค้าแฟชั่น ไปจนถึง “อาหาร” ที่มีให้เลือกกินสารพัดร้าน หลากเมนู ชนิดที่คนโซนกรุงเทพฯตะวันออกไม่ต้องเข้าเมืองกันเลยทีเดียว

ที่พลาดไม่ได้เห็นจะเป็นบรรดา “ของหวาน” ที่แต่ละร้านมีเมนูยั่วยวนชวนเพิ่มน้ำตาลให้ชีวิตเสียจริงๆ งานนี้ “มติชนอคาเดมี” เลยขอพาไปชิมของหวาน 5 ร้าน ที่หากไปเมกา บางนา แล้วบอกเลยว่าพลาดไม่ได้!!

1.ร้าน White day

พิกัด : ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกา บางนา

พูดถึงของหวานแนวเค้ก ขนม เบเกอรี่แล้ว White day คงเป็นร้านในอันดับต้นๆ ที่หลายคนนึกถึง เมนูเด่นที่ไปแล้วต้องโดนเลย Strawberry Dome (สตรอเบอรี่โดม) ราคา 205 บาท แค่เห็นยกมาเสิร์ฟตรงหน้าก็อยากจะกรีดร้องให้กับโดมช็อกโกแลตก้อนโตชวนฟินแล้ว

Strawberry Dome

โดยสตรอเบอรี่โดมนี้เป็นขนมที่มีต้นแบบมาจากแนวคิดการให้ของขวัญของประเทศญี่ปุ่น ข้างในโดมเป็นสตรอเบอรี่ พุดดิ้งเครป, สตรอเบอรี่ มูส, ไอศกรีมวานิลา, สตรอเบอรี่สดสับ และวานิลาครัมเบิ้ล ราดด้วยซอสสตรอเบอรี่หวานอมเปรี้ยวชื่นใจ

อีกเมนูแนะนำที่อยากให้ลองกินกันดูคือ Fruit Puff Parfait (ฟรุ๊ต พัฟ พาเฟ่ต์) ราคา 215 บาท ความอร่อยอยู่ที่แป้งพัฟกรอบนุ่ม เสิร์ฟพร้อมมินิไอศกรีม 3 รสชาติ ราดด้วยซอสเบอรี่ ตกแต่งด้วย กีวี่, พีช และคาราเมลอัลมอนด์

Fruit Puff Parfait

และสำหรับใครที่ไม่อยากทานหวานมากเกินไป ที่นี่ยังมีเมนูของหวานเพื่อสุขภาพอย่าง TOFU BUALOY KAKIGORI ราคา 219 บาท เป็นน้ำแข็งไสรสน้ำเต้าหู้ ราดด้วยเฉาก๊วย แปะก๊วย ปาท่องโก๋กรอบ เสิร์ฟพร้อมบัวลอย ดีงามแบบไม่ต้องกลัวเบาหวานกันเลยจ้า

TOFU BUALOY KAKIGORI

หรือสำหรับใครที่ชอบสไตล์เค้ก ที่นี่ก็มีเค้กให้เลือกละลานตาไปหมด หนึ่งในตัวที่ขายดีก็คือ White Day Shortcake ราคา 125 บาท ตัวเค้กเนื้อนุ่มๆ กับครีมรสละมุน และสตรอเบอรี่ลูกโต อร่อยจนต้องเทใจให้ไปเลย

White Day Shortcake

2.ร้าน Farm Design

พิกัด : ชั้น 2 ศูนย์การค้าเมกา บางนา

หากจะพูดถึงร้านเครื่องดื่มและขนมที่ขึ้นชื่อเรื่อง “นม” และ “ชีส” ก็คงต้องยกให้ Farm Design เขาเลยล่ะ โดยเมนูเครื่องดื่มที่อยากจะบอกว่าอร่อยต้องลองเลยก็คือ สตรอเบอรี่ ชีสเค้ก เฟรปเป้, โอริโอ มิ้นท์ ชีสเค้ก เฟรปเป้ และ ไวท์มอลต์ ชีสเค้ก เฟรปเป้ ราคาเมนูละ 125 บาท

ส่วนเค้กก็ดีงามไม่แพ้กันเลย โดยเฉพาะ 3 เมนูนี้ คลาสสิค ชีสเค้ก ราคา 110 บาท, ช็อกโก มู ราคา 115 บาท และ ดับเบิ้ล มัทฉะ ชีสเค้ก ราคา 125 บาท

คลาสสิค ชีสเค้ก
ช็อกโก มู
ดับเบิ้ล มัทฉะ ชีสเค้ก

3.ร้าน IHOP

พิกัด : เมกา ฟู้ดวอล์ก โซนใหม่ ชั้น L1

ร้านแพนเค้กอันโด่งดังจากสหรัฐอเมริกาที่มาเปิดในไทยเมื่อไม่นานมานี้ และที่เมกา บางนา เป็นสาขาที่ 3 หากไม่ลองกินก็กลัวจะคุยกับใครเขาไม่รู้เรื่อง

Berries & Cream Waffle

ประเดิมด้วยเมนู Berries & Cream Waffle ราคา 195 บาท เบลเยี่ยมวาฟเฟิลกรอบนิดๆ ราดด้วยครีมวานิลา, บลูเบอรี่, สตรอเบอรี่เกลช และชูก้าร์พาวเดอร์ ดีงามเกินห้ามใจสุดๆ

สำหรับคนรักชีสเค้ก ขอแนะนำ New York Cheesecake ราคา 195 บาท บัตเตอร์มิลค์แพนเค้ก ราดด้วยสตรอเบอรี่เกลช และชีสเค้กไบท์

New York Cheesecake

และอีกเมนูน่ากิ๊นน่ากินจนต้องขอลองสั่งมาชิมดู Strawberries & Cream Crepes ราคา 195 บาท เป็นเครปพับ ราดด้วยสตรอเบอรี่เกลช และครีมวานิลา

Strawberries & Cream Crepes

ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ สีสันสดใสสไตล์แคลิฟอร์เนียสุดๆ อย่าง BLUESPLASHER ราคา 85 บาท ซึ่งเป็นน้ำบลูเบอรรี่ผสมน้ำอัดลม และ SPLASHER ราคา 85 บาท น้ำส้มด้านล่างแก้วมีซอส และเนื้อสตรอเบอรี่

4.ร้านซอลบิง Sulbing

พิกัด : เมกา ฟู้ดวอล์ก โซนใหม่

ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับร้านน้ำแข็งไสจากเกาหลีร้านนี้ “Sulbing” กับของดีของเด็ดก็คือ “บิงซู” แสนอร่อยนั่นเอง

ที่ฮิตสุดๆ ใครไปเป็นต้องสั่งก็คือ “โยเกิร์ตเมล่อน” ราคา 395 บาท เมนูนี้ว้าวมากเพราะเขาเสิร์ฟเมล่อนมาเลยครึ่งลูก ด้านในเป็นน้ำแข็งไส รสชาติโยเกิร์ต พร้อมชีสเค้ก ราดด้วยน้ำข้นหวาน

ส่วนสาวกช็อกโกแลตต้องเมนูนี้เลย “ช็อคโกแลตสตรอเบอรี่” ราคา 385 บาท เป็นน้ำแข็งไสท้อปปิ้งด้วยไอศกรีมช็อคโกแลต, บราวนี่เข้มข้น ช่วยตัดความเปรี้ยวของสตรอเบอรี่ได้เป็นอย่างดี ราดด้วยน้ำข้นหวาน และซอสสตรอเบอรี่ เข้ากันสุดๆ

ปิดท้ายด้วยเมนูที่กำลังมาแรงในตอนนี้อย่าง “ซอลบิงซูเฟล่เค้ก” ราคา 255 บาท ซูเฟล่ ฟูนุ่ม ราดด้วยเนยร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมวิปครีมตีขึ้นเองใหม่ๆ และสตรอเบอรี่สดๆ ราดด้วยน้ำผึ้ง อร่อยยอมใจจริงๆ

5.ร้าน Guss Damn Good

บอกเล่าเรื่องราวของไอศครีมที่แตกต่างด้วย ‘ความคราฟต์’ และการตั้งชื่อรสชาติแบบมีสตอรี่ อาทิ Sleepy Potion ที่ต้องสื่อว่า ไอศกรีมรสกาแฟนี้เปรียบเสมือนยาพิษของความง่วง และ Dragon on Cloud ไอศกรีมรสชาร์โคลผสมชีสเค้กฮอกไกโด นอกจากนี้ยังมีรสชาติอื่นๆ อีกมายอีกกว่า 31 รสชาติ ปัจจุบันมีทั้งหมด 6 สาขา ไปลองไปตำกันได้จ้า

นี่แค่ตัวอย่างเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วเมกา บางนา ยังมีร้านอร่อยอีกเพียบ จนเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักกินที่คุณไม่ควรพลาด!