คุณอาจชอบทานปลาแซลมอน แต่คุณอาจยังไม่ทราบว่าเนื้อปลาสีส้มสดที่กระตุ้นต่อมอยากของคุณ ที่ทำให้คุณอิ่มท้องและทำให้คุณอิ่มเอมใจตอนที่นั่งรับประทานอยู่ในภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นที่คุณโปรดปราน หรือเนื้อปลาที่คุณซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านค้าชั้นนำของประเทศนั้นเป็น “ปลาแซลมอนนอร์เวย์”

อะไรที่ทำให้นอร์เวย์เป็น “ประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิด” ปลาแซลมอนและอาหารทะเลแถวหน้าของโลก? แพ็คกระเป๋าแล้วไปดูการเดินทางอันน่าทึ่งของปลาแซลมอนกันเถอะ เริ่มตั้งแต่จุดกำเนิดในประเทศนอร์เวย์จนกระทั่งมาจบที่ประเทศไทย

การเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนที่ดีที่สุดในโลก

ปลาแซลมอนนอร์เวย์สามารถส่งมอบรสชาติและรสสัมผัสที่อ่อนนุ่มละมุนละไมซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการเจริญเติบโตตามธรรมชาติ รวมทั้งกฏระเบียบต่างๆ ที่ถูกนำมาปฏิบัติเพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลผลิต รวมถึงความยั่งยืนของระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ นับตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ชาวประมงท้องถิ่นตลอดแนวชายฝั่งของนอร์เวย์ได้เริ่มเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนจากธรรมชาติอย่างใส่ใจ แซลมอนเหล่านี้ถูกเลี้ยงในกระชังขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “pens” ซึ่งบรรจุปลาไว้เพียง 2.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปริมาตรน้ำ 97.5 เปอร์เซ็นต์ทำให้ปลามีพื้นที่ว่ายน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อที่แซลมอนเหล่านี้จะได้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

วงจรชีวิตของปลาแซลมอนเริ่มจากไข่ปลา ฟักเป็นตัวอ่อน พัฒนาเป็นลูกปลาที่เริ่มมีเกล็ดและครีบ แล้วเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นที่เกล็ดจะเปลี่ยนเป็นสีเงินยวง จนกระทั่งโตเต็มวัย ชาวประมงในนอร์เวย์ใช้ระยะเวลาประมาณสองปีครึ่งถึงสามปีในการฟูมฟักเลี้ยงดูปลาแซลมอนเหล่านี้ภายใต้มาตรฐานที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป โดยอาหารที่ใช้เลี้ยงปลาแซลมอนต้องผ่านกระบวนการให้ความร้อน มีคุณค่าทางสารอาหารสูง และจะต้องมีส่วนประกอบที่เป็นพืช 70 เปอร์เซ็นต์ บวกกับวัตถุดิบจากทะเล เช่นปลาจากธรรมชาติ อีก 30 เปอร์เซ็นต์ โดยทั้งหมดมาจากแหล่งการผลิตที่ยั่งยืน รวมทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ อีกด้วย

คุณค่าทางโภชนาการสูง…จากธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ของนอร์เวย์

ท้องทะเลตลอดแนวชายฝั่งของนอร์เวย์ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาที่มีหิมะปกคลุม ซึ่งก่อให้เกิดกระแสน้ำเย็นที่ใสสะอาดและมีอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเพาะเลี้ยงปลาแซลมอน เนื่องจากแซลมอนมักอาศัยและเจริญเติบโตในน้ำที่มีอุณหภูมิราว 6-15 องศาเซลเซียส ไขมันของปลาแซลมอนอุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและบำรุงสายตา และยังมีวิตามินบีที่ช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอ รวมทั้งมีวิตามินดีที่ช่วยทำให้สุขภาพผิวดี

นอร์เวย์: “ประเทศแห่งอาหารทะเล”

ผู้คนนับล้านทั่วโลกนิยมบริโภคอาหารทะเลที่มีต้นกำเนิดมาจากน้ำเย็นที่ใสสะอาดของประเทศนอร์เวย์อยู่เป็นประจำ ปัจจุบัน นอร์เวย์เป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่อันดับสองของโลก ในแต่ละวัน นอร์เวย์ผลิตอาหารทะเลได้มากถึง 37 ล้านมื้อสำหรับผู้บริโภคในกว่า 146 ประเทศทั่วโลก ความจริง คุณอาจเป็นหนึ่งในผู้บริโภคอาหารทะเลจากนอร์เวย์อยู่แล้วโดยที่ยังไม่ทราบข้อมูลนี้

การเก็บเกี่ยวผลิตผลจากทะเลไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งรายได้หลักสำหรับชาวนอร์เวย์มาหลายชั่วอายุเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นวิถีชีวิตของพวกเขาอีกด้วย เนื่องจากประเทศนอร์เวย์มีชายฝั่งทะเลทอดยาว ชาวนอร์เวย์จึงมักอาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่ง และเพื่อแสดงความเคารพต่อท้องทะเลที่พวกเขาพึ่งพาอาศัย ชาวนอร์เวย์จะไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นแหล่งรายได้ของพวกเขาอย่างสิ้นเปลือง ในทางตรงข้าม พวกเขาได้คิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและการทำฟาร์มแซลมอนที่ยั่งยืน และด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายทศวรรษรวมเข้ากับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า จึงมั่นใจได้ว่าปลาและสัตว์น้ำที่ถูกเลี้ยงในนอร์เวย์จะมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงและปลอดภัย ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนของการเพาะเลี้ยงในกระชังที่อาจมีอายุการใช้งานได้นานถึง 50 ปีตามสภาพธรรมชาติ โดยที่ปลาทุกตัวจะถูกสอดส่องอย่างใกล้ชิดผ่านกล้องวิดีโอตลอด 24 ชั่วโมงทุกๆ วัน

การันตีความสด จากนอร์เวย์ถึงประเทศไทย

ปลาแซลมอนนอร์เวย์ขึ้นเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสจากสถานีปลายทางในการขนส่งปลาแซลมอนที่สนามบินออสโลเพื่อเดินทางมายังประเทศไทยหลายเที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 48 ชั่วโมง คุณจึงมั่นใจในเรื่องรสชาติ คุณภาพ และความสดใหม่ที่สุดของปลาแซลมอนจากนอร์เวย์ ซึ่งเห็นได้จากเนื้อสีส้มสดมันวาวเหมือนลายหินอ่อนชั้นดีที่อยู่ตรงหน้าคุณ ตามกฏข้อบังคับของสหภาพยุโรปอาหารทะเลแบบสดต้องได้รับการแช่แข็งก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อป้องกันพยาธิในลำไส้ที่อาจเหลือตกค้างในอาหารทะเล ดังนั้น สิ่งที่ทำให้ปลาแซลมอนจากนอร์เวย์พิเศษกว่าแหล่งผลิตในที่ใดๆ ในโลกคือ ปลาแซลมอนนอร์เวย์ไม่มีพยาธิในลำไส้ และได้รับการยกเว้นจากกฎข้อบังคับนี้ สามารถตอบโจทย์ผู้ที่รักในการรับประทานซูชิและซาชิมิเป็นชีวิตจิตใจ

แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าปลาแซลมอนนอร์เวย์นั้นสดจริงหรือไม่? ลองดูที่เนื้อปลาสีส้มสดสลับกับแถบเนื้อสีขาวและกลิ่นหอมหวานที่ให้ความรู้สึกราวกับว่ามันเพิ่งถูกจับมาจากทะเลนั่นสิ!

แซลมอนเป็นปลาที่อุดมไปด้วยไขมัน มีกรดไขมันโอเมกา-3 สูง การรับประทานแซลมอนในปริมาณมากไม่ได้ทำให้อ้วนหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพ เว้นแต่จะทานพร้อมกับครีมและมันบดฉ่ำเนย ที่จริงแล้วกรดไขมันโอเมกา-3 ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจอย่างยิ่ง งานวิจัยเปิดเผยว่า ผู้ที่บริโภคแซลมอนสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ จะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจลงเกือบครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่รับประทานแซลมอน

และนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจแล้ว กรดไขมันโอเมกา-3 ในแซลมอนยังช่วยลดความดันโลหิตและเพิ่มปริมาณไขมันดี (HDL) ในร่างกายอีกด้วย สรุปได้ว่าการทานบุฟเฟ่ต์แซลมอนสัปดาห์ละสองครั้งนั้นนอกจากจะทำให้หัวใจแข็งแรงแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับแซลมอน: รู้หรือไม่ว่าซาชิมิแซลมอนไม่ใช่อาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่น? นอร์เวย์เริ่มนำเข้าแซลมอนมายังญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษที่ 1980 วัฒนธรรมการบริโภคแซลมอนดิบจึงถือกำเนิดขึ้น ทำให้ซาชิมิแซลมอนกลายเป็นอาหารยอดนิยมตั้งแต่นั้นมา

แซลมอนเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในไทย แม้ว่าในประเทศเองจะไม่สามารถผลิตแซลมอนทั้งจากการทำฟาร์มเลี้ยงหรือการจับจากแหล่งน้ำได้ เพราะปลาเนื้อสีส้มชนิดนี้ไม่สามารถดำรงชีพอยู่ท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุแห่งสยามประเทศได้ ทุกๆ วันแซลมอนปริมาณมหาศาลจะถูกส่งตรงทางเครื่องบินมาจากนอร์เวย์ ซึ่งเป็นประเทศผู้บุกเบิกและเชี่ยวชาญด้านการผลิตแซลมอนเป็นอันดับหนึ่งของโลก กระแสน้ำอันเย็นเฉียบและสะอาดบริสุทธิ์ของนอร์เวย์ส่งผลให้แซลมอนมีความอ้วนท้วน เต็มไปด้วยไขมันดีและมีรสชาติอร่อย เพียงแค่ 48 ชั่วโมง แซลมอนที่ว่ายน้ำอยู่ในทะเลก็จะถูกส่งตรงสู่จานอาหารของคุณ กลายเป็นซาชิมิที่สดที่สุดในร้านอาหารญี่ปุ่นของไทย

แซลมอน…กินแล้วฟิน (จริงๆ นะ)

ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าการกินจะสร้างความสุขให้กับเราได้หรือไม่ ทว่าอาหารบางชนิด (เช่นแซลมอน) ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำให้ผู้บริโภคมีอารมณ์ดี และนอนหลับได้ง่ายขึ้น

แซลมอนมีกรดอมิโนทริปโตเฟนที่ช่วยให้ร่างกายผลิตเซโรโทนินหรือ “สารแห่งความสุข” มีคุณสมบัติทำให้รู้สึกอารมณ์ดี เพราะฉะนั้นแม้เงินจะซื้อความสุขให้คุณไม่ได้ แต่เราก็ใช้เงินซื้อแซลมอนได้! และถ้าการได้ทานซาชิมิจานโปรดยังทำให้คุณมีความสุขไม่ได้ รับรองว่าเซโรโทนินจะช่วยได้แน่นอน จึงไม่น่าแปลกใจว่านอร์เวย์ ประเทศผู้ริเริ่มการผลิตและส่งออกแซลมอนจะเป็นชาติที่ประชาชนมีความสุขเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

แซลมอนนอร์เวย์ดำรงชีวิตโดยสามารถว่ายน้ำภายในกระชังขนาดใหญ่มหึมาได้อย่างอิสระ ส่งผลให้เนื้อปลามีความสด รสชาติอร่อย มีชั้นไขมันแทรกอยู่ในเนื้อปลา สิ่งสำคัญที่สุดคือปลอดภัยต่อการบริโภค

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับแซลมอน: แซลมอนนอร์เวย์อาศัยอยู่ในกระแสน้ำอันเย็นเฉียบและสะอาดบริสุทธิ์ ปลาเหล่านี้อาศัยอยู่ในกระชังขนาดใหญ่มหึมา ส่งผลให้ปลาว่ายน้ำได้อย่างอิสระและมีสุขภาพแข็งแรงไม่ต่างจากปลาที่อยู่ตามธรรมชาติ แซลมอนถูกเลี้ยงด้วยอาหารปลาซึ่งมีส่วนประกอบจากแหล่งธรรมชาติได้แก่ส่วนประกอบจากพืชคิดเป็นร้อยละ 70 และส่วนประกอบจากท้องทะเลคิดเป็นร้อยละ 30 ปัจจัยสำคัญต่างๆ รวมถึงน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ทำให้แซลมอนนอร์เวย์ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่ปลอดภัยที่สุดในโลก

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด แซลมอนทานแล้วสวยขึ้นกล้อง

กล่าวกันว่าดัชนีชี้วัดความสุขแห่งยุคโซเชียลคืออินสตาแกรม และแซลมอนก็คือกุญแจสู่การชนะใจทั้งตัวคุณและฟอลโลเวอร์ เพราะปลาสีส้มสดแทรกด้วยชั้นไขมันดีอันแสนอร่อยนี้ นอกจากจะถ่ายรูปออกมาได้สวยสด ดูดีมีราคาเวลาอยู่บนจานอาหารแล้ว ยิ่งทานหน้าและผิวจะยิ่งเปล่งประกาย ดูมีสุขภาพดีจากภายใน พร้อมให้คุณถ่ายช็อตเด็ดลงสตอรี่แบบไม่พึ่งฟิลเตอร์ สารอาหารต่างๆ รวมถึงกรดไขมันโอเมกา-3 ที่อยู่ในแซลมอนช่วยส่งเสริมการมองเห็นและช่วยป้องกันภาวะตาแห้ง นอกจากนี้แซลมอนยังมีวิตามินบีหลายชนิดที่ช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอ และยังมีวิตามินดีที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตและสร้างเซลผิวหนัง ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์ โชคดีที่ไทยเป็นผู้นำเข้าแซลมอนนอร์เวย์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงทำให้อาหาร “ซุปเปอร์ฟู้ด” มากประโยชน์นี้มีให้เราได้เลือกทานได้ทั่วไป

สร้างสรรค์ 3 เมนูซูชิสไตล์โมเดิร์น ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของมหานครโตเกียว

ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ภายใต้เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป เปิดตัวแคมเปญ Tokyo Creation” สร้างสรรค์ 3 เมนูใหม่สุดพิเศษ ในรูปแบบซูชิสไตล์โมเดิร์น ที่โดดเด่นทั้งรสชาติและวัตถุดิบที่สดใหม่อยู่เสมอตามแบบฉบับเซ็น ผ่านการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว โดยผูกเรื่องราวไปกับเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของมหานครโตเกียวที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งความสนุกสนานและวัฒนธรรมร่วมสมัย เมนูใหม่ทั้งสามนี้พร้อมให้ทุกท่านมาลิ้มลองแล้วที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็นทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2561

ประเดิมเมนูแรกด้วย “แซลมอนทาวเวอร์” (Salmon Tower) ราคา 360 บาท* ครั้งแรกในประเทศไทยกับข้าวปั้นห่อด้วยเนื้อปลาแซลมอนสดชิ้นใหญ่เต็มคำถึง 3 ชั้น คุณภาพคัดสรรพิเศษส่งตรงจากประเทศนอร์เวย์ ท็อปปิ้งด้วยซอสอะโวคาโด และไข่ปลาแซลมอน ได้รับแรงบันดาลใจจากโตเกียว ทาวเวอร์ แลนมาร์กอันดับหนึ่งใจกลางเมืองโตเกียว

เอาใจคนรักชีสกับเมนูซูชิฟิวชั่นอย่าง “ซูชีส” (Su Cheese) ราคา 220 บาท* อีกหนึ่งเมนูที่สะท้อนถึงการรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาผสมผสานกับญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ซูชิแซลมอนโรลขนาดพอดีคำ อัดแน่นด้วยแซลมอนเนื้อนุ่ม เด้ง คลุกเคล้าด้วยไข่กุ้ง จิ้มซอสชีสรสชาติเข้มข้นกลิ่นหอมมันสูตรเฉพาะจากเซ็น ที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น จึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพและความอร่อย

ปิดท้ายด้วยเมนู “มากิภูเขาไฟ” (Volcano Maki) ราคา 320 บาท* เมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทัศนียภาพที่น่าหลงใหลของภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยหิมะ ถ่ายทอดออกมาเป็นอาหารเมนูพิเศษจานนี้ เนื้อปลาแซลมอนและทูน่าสดใหม่หั่นชิ้นลูกเต๋า คลุกเคล้าด้วยสไปซี่ซอสรสชาติเข้มข้น ราดบนซูชิโรลชิ้นใหญ่ พร้อมไข่กุ้งฉ่ำๆ เม็ดกลมโตที่ช่วยเสริมความกรุบกรอบ ทำให้เมนูจานนี้มีรสชาติจัดจ้าน ราวกับว่าภูเขาไฟกำลังจะปะทุขึ้นอีกครั้ง

เมนูใหม่ทั้งสามนี้ได้ถ่ายทอดความพิถีพิถันผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ของร้านอาหารเซ็น ในการนำเอาเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นมาประยุกต์เข้ากับซูชิ เกิดเป็นประสบการณ์การรับประทานอาหารที่พิเศษ ไม่ต้องไปไกลถึงโตเกียว ก็สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายและลิ้มลองรสชาติอาหารจากประเทศญี่ปุ่นแท้ๆ ได้จากเมนูสุดพิเศษทั้งสามนี้ ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็นทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2561 เท่านั้น

 

ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นและกิจกรรมสุดสนุกจากร้านอาหารเซ็นได้ที่เฟซบุ๊ก Zenjapaneserestaurant หรืออินสตาแกรม @Zen_restaurant

 

*ตามข้อกำหนดและเงื่อนไข

*ราคาสำหรับสาขาเซ็นทรัลสมุย, เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต และเซ็นทรัลพัทยาบีช – แซลมอนทาวเวอร์ ราคา 400 บาท, ซูชีส ราคา 250 บาท, มากิภูเขาไฟ ราคา 350 บาท

ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ขยายระยะเวลาความสด ให้คนรักแซลมอนได้อร่อยกันแบบจุใจกับโปรโมชั่น “ดับเบิ้ล เฟรช” (Double Fresh) ด้วยแซลมอนซาชิมิ 1 แถม 1 ในราคาเพียง 320 บาท ถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ*)

 

*สาขาที่ร่วมรายการ ได้แก่ ออลซีซั่นเพลส, BEEHIVE ไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์ เมืองทอง, Bluport หัวหิน, คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ รามอินทรา, เซ็นทรัลแอร์พอร์ต เชียงใหม่, เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น, เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา, เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัลพลาซา ระยอง, เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย, เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์, ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, THE JAS วังหิน, เดอะมอลล์ บางแค, เดอะมอลล์ บางกะปิ, MEGA บางนา, ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ, เพลินนารี่ วัชรพล, เดอะพาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก, เดอะพาซิโอ มอลล์ ลาดกระบัง, เดอะพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง, โรบินสัน สมุทรปราการ, สยามเซ็นเตอร์, สวนเพลิน มาร์เก็ต, สยามสแควร์วัน และ ZPELL