เปิดประโยชน์ “แซลมอน” ของดีที่นอร์เวย์นำเข้ามาญี่ปุ่น สู่วัฒนธรรมกินแซลมอนดิบ

Food Story อาหาร

แซลมอนเป็นปลาที่อุดมไปด้วยไขมัน มีกรดไขมันโอเมกา-3 สูง การรับประทานแซลมอนในปริมาณมากไม่ได้ทำให้อ้วนหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพ เว้นแต่จะทานพร้อมกับครีมและมันบดฉ่ำเนย ที่จริงแล้วกรดไขมันโอเมกา-3 ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจอย่างยิ่ง งานวิจัยเปิดเผยว่า ผู้ที่บริโภคแซลมอนสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ จะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจลงเกือบครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่รับประทานแซลมอน

และนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจแล้ว กรดไขมันโอเมกา-3 ในแซลมอนยังช่วยลดความดันโลหิตและเพิ่มปริมาณไขมันดี (HDL) ในร่างกายอีกด้วย สรุปได้ว่าการทานบุฟเฟ่ต์แซลมอนสัปดาห์ละสองครั้งนั้นนอกจากจะทำให้หัวใจแข็งแรงแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับแซลมอน: รู้หรือไม่ว่าซาชิมิแซลมอนไม่ใช่อาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่น? นอร์เวย์เริ่มนำเข้าแซลมอนมายังญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษที่ 1980 วัฒนธรรมการบริโภคแซลมอนดิบจึงถือกำเนิดขึ้น ทำให้ซาชิมิแซลมอนกลายเป็นอาหารยอดนิยมตั้งแต่นั้นมา

แซลมอนเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในไทย แม้ว่าในประเทศเองจะไม่สามารถผลิตแซลมอนทั้งจากการทำฟาร์มเลี้ยงหรือการจับจากแหล่งน้ำได้ เพราะปลาเนื้อสีส้มชนิดนี้ไม่สามารถดำรงชีพอยู่ท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุแห่งสยามประเทศได้ ทุกๆ วันแซลมอนปริมาณมหาศาลจะถูกส่งตรงทางเครื่องบินมาจากนอร์เวย์ ซึ่งเป็นประเทศผู้บุกเบิกและเชี่ยวชาญด้านการผลิตแซลมอนเป็นอันดับหนึ่งของโลก กระแสน้ำอันเย็นเฉียบและสะอาดบริสุทธิ์ของนอร์เวย์ส่งผลให้แซลมอนมีความอ้วนท้วน เต็มไปด้วยไขมันดีและมีรสชาติอร่อย เพียงแค่ 48 ชั่วโมง แซลมอนที่ว่ายน้ำอยู่ในทะเลก็จะถูกส่งตรงสู่จานอาหารของคุณ กลายเป็นซาชิมิที่สดที่สุดในร้านอาหารญี่ปุ่นของไทย

แซลมอน…กินแล้วฟิน (จริงๆ นะ)

ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าการกินจะสร้างความสุขให้กับเราได้หรือไม่ ทว่าอาหารบางชนิด (เช่นแซลมอน) ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำให้ผู้บริโภคมีอารมณ์ดี และนอนหลับได้ง่ายขึ้น

แซลมอนมีกรดอมิโนทริปโตเฟนที่ช่วยให้ร่างกายผลิตเซโรโทนินหรือ “สารแห่งความสุข” มีคุณสมบัติทำให้รู้สึกอารมณ์ดี เพราะฉะนั้นแม้เงินจะซื้อความสุขให้คุณไม่ได้ แต่เราก็ใช้เงินซื้อแซลมอนได้! และถ้าการได้ทานซาชิมิจานโปรดยังทำให้คุณมีความสุขไม่ได้ รับรองว่าเซโรโทนินจะช่วยได้แน่นอน จึงไม่น่าแปลกใจว่านอร์เวย์ ประเทศผู้ริเริ่มการผลิตและส่งออกแซลมอนจะเป็นชาติที่ประชาชนมีความสุขเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

แซลมอนนอร์เวย์ดำรงชีวิตโดยสามารถว่ายน้ำภายในกระชังขนาดใหญ่มหึมาได้อย่างอิสระ ส่งผลให้เนื้อปลามีความสด รสชาติอร่อย มีชั้นไขมันแทรกอยู่ในเนื้อปลา สิ่งสำคัญที่สุดคือปลอดภัยต่อการบริโภค

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับแซลมอน: แซลมอนนอร์เวย์อาศัยอยู่ในกระแสน้ำอันเย็นเฉียบและสะอาดบริสุทธิ์ ปลาเหล่านี้อาศัยอยู่ในกระชังขนาดใหญ่มหึมา ส่งผลให้ปลาว่ายน้ำได้อย่างอิสระและมีสุขภาพแข็งแรงไม่ต่างจากปลาที่อยู่ตามธรรมชาติ แซลมอนถูกเลี้ยงด้วยอาหารปลาซึ่งมีส่วนประกอบจากแหล่งธรรมชาติได้แก่ส่วนประกอบจากพืชคิดเป็นร้อยละ 70 และส่วนประกอบจากท้องทะเลคิดเป็นร้อยละ 30 ปัจจัยสำคัญต่างๆ รวมถึงน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของนอร์เวย์ ทำให้แซลมอนนอร์เวย์ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่ปลอดภัยที่สุดในโลก

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด แซลมอนทานแล้วสวยขึ้นกล้อง

กล่าวกันว่าดัชนีชี้วัดความสุขแห่งยุคโซเชียลคืออินสตาแกรม และแซลมอนก็คือกุญแจสู่การชนะใจทั้งตัวคุณและฟอลโลเวอร์ เพราะปลาสีส้มสดแทรกด้วยชั้นไขมันดีอันแสนอร่อยนี้ นอกจากจะถ่ายรูปออกมาได้สวยสด ดูดีมีราคาเวลาอยู่บนจานอาหารแล้ว ยิ่งทานหน้าและผิวจะยิ่งเปล่งประกาย ดูมีสุขภาพดีจากภายใน พร้อมให้คุณถ่ายช็อตเด็ดลงสตอรี่แบบไม่พึ่งฟิลเตอร์ สารอาหารต่างๆ รวมถึงกรดไขมันโอเมกา-3 ที่อยู่ในแซลมอนช่วยส่งเสริมการมองเห็นและช่วยป้องกันภาวะตาแห้ง นอกจากนี้แซลมอนยังมีวิตามินบีหลายชนิดที่ช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอ และยังมีวิตามินดีที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตและสร้างเซลผิวหนัง ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์ โชคดีที่ไทยเป็นผู้นำเข้าแซลมอนนอร์เวย์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงทำให้อาหาร “ซุปเปอร์ฟู้ด” มากประโยชน์นี้มีให้เราได้เลือกทานได้ทั่วไป