“ไทยเทพรส x มติชนอคาเดมี” เปิดเวิร์กช็อปเมนูสตรีตฟู้ด+การตลาดออนไลน์

ยืนหนึ่งซอสคู่ใจ อยู่คู่ครัวไทยมาตลาด 72 ปี ล่าสุด บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซอสปรุงรสชั้นนำภายใต้แบรนด์ภูเขาทองและซอสพริกศรีราชาพานิช ร่วมกับ มติชนอคาเดมี ผู้บุกเบิกด้านการฝึกอบรมอาชีพมานานกว่า 30 ปี  จัดโครงการ “ครัวทำเงิน กับซอสคู่ใจ By ไทยเทพรส” ภายใต้แนวคิด “ปั้นเมนูสตรีทฟู้ด สร้างรายได้สู่สังคม” เปิดเวิร์กช็อปครบสูตร ทั้งการปรุงอาหาร 4 เมนูสร้างสรรค์ พร้อมมอบความรู้การตลาดดิจิทัล เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่ผู้ที่สนใจในอาชีพด้านอาหาร รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อย ให้นำองค์ความรู้ไปต่อยอดเป็นโอกาสทางธุรกิจในอนาคตได้จริง 

ภายในงานคึกคักไปด้วยเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหารมืออาชีพและมือใหม่ กว่า 40 ราย มาร่วมเสริมทักษะใหม่ๆ กับเชฟโอ๊ต – คุณสุพรรษพงษ์ กุลชนะรมย์ เจ้าของร้าน “คั่วไก่ ไอ้เครา” ที่มาสาธิต 4 เมนูสตรีทฟู้ดทำเงิน ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของไทยเทพรสในการสร้างสรรค์ ได้แก่ หมูทอดหมักซอสลุงหนวด, ผัดหมี่งานวัด ด้วยซอสปรุงรสอาหาร(ซอสลุงหนวด) ตราภูเขาทอง และ บาร์บีคิว, ไก่ทอดซอสบาร์บีคิว ด้วยซอสบาร์บีคิว ตราอีซี่ พร้อมเสริมทักษะด้านการตลาดดิจิทัล จาก คุณอาร์ม – กานต์ชนิต สุรินทร์สภานนท์ เจ้าของร้าน Goodsunday Coffee Bar และครีเอเตอร์ชื่อดัง ที่มาแบ่งปันประสบการณ์จริง โดยมี คุณนิวัติ วงศ์พรหมปรีดา, คุณสุทัศน์ ภูเจริญชัยกิจ, คุณสุรพล ทิยาสกุล มาร่วมงาน ณ มติชนอคาเดมี เมื่อวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2568

คุณวิมล อัครเบญจาศรี รองผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 72 ปี ไทยเทพรสยึดมั่นในปรัชญาการดำเนินธุรกิจว่า “ผลิตเครื่องปรุงรสด้วยความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ และภักดีต่อตราสินค้า” โดยเรามุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อส่งมอบซอสปรุงรสที่เป็น ‘ซอสคู่ใจ’ ของคนไทยภายใต้แบรนด์ภูเขาทองและศรีราชาพานิชในทุกยุคทุกสมัย โดยมุ่งหวังที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม

คุณศุภาวีร์ อภิไชยสิทธิ์ ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์ฯ เปิดเผยว่า “แม้ตลาดซอสปรุงรสจะมีการแข่งขันสูง แต่จุดแข็งของไทยเทพรส คือคุณภาพ รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ความหลากหลายของสูตร และราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถตอบโจทย์ได้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ประกอบการมือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพ ตลอดจนคนทำครัวในบ้าน ทำให้ยอดขายของเรายังเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้อย่างไรก็ตามด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาสูตรที่ตรงกับการใช้งานจริง และการรักษามาตรฐานด้านคุณภาพ ความสะอาด และความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ซอสของไทยเทพรสจึงไม่ใช่แค่ “เครื่องปรุง” แต่เป็น “เครื่องมือสร้างสรรค์อาชีพ” ที่สามารถต่อยอดสู่รายได้และความสำเร็จของผู้ใช้ในทุกระดับ

สำหรับโครงการ “ครัวทำเงิน กับซอสคู่ใจ By ไทยเทพรส” จัดเวิร์กช็อปให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้สนใจภายใต้แนวคิด “ปั้นเมนูสตรีทฟู้ด สร้างรายได้สู่สังคม” เพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพด้านอาหาร พร้อมเติมเต็มความรู้ด้านการตลาดออนไลน์อย่างรอบด้าน โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจจำนวน 40 คนเข้าร่วม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเรียนรู้การสร้างอาชีพด้วยเมนูง่ายๆ ต้นทุนต่ำ พร้อมต่อยอดสู่ธุรกิจอาหารที่เติบโตได้จริง ซึ่งมีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 300 คน

เชฟโอ๊ต – คุณสุพรรษพงษ์ กุลชนะรมย์ แนะนำผู้ประกอบการมือใหม่ว่า “ใครที่อยากหารายได้ด้วยการขายอาหารแต่ไม่รู้จะขายอะไรดี อยากให้ถามตัวเองก่อนว่าชอบอาหารประเภทไหน และสำรวจตลาดว่าในบริเวณใกล้เคียงมีคู่แข่งมากน้อย จากนั้นทดลองสูตรจนได้สูตรที่ถูกปากตัวเองและคนรอบตัว อย่ามองข้ามเรื่องต้นทุนวัตถุดิบ และควรทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างจริงจัง เพื่อควบคุมต้นทุนและคำนวณกำไรได้อย่างแม่นยำ สิ่งสำคัญคือ ‘ความอดทน’ เพราะการทำธุรกิจของตัวเองไม่มีวันหยุด และต้องหมั่นติดตามเทรนด์ตลาดอยู่เสมอ เพื่อปรับตัวให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภค”

คุณอาร์ม – กานต์ชนิต สุรินทร์สภานนท์ เผยถึงแนวทางสร้างตัวตนให้จดจำได้ง่าย ดังนี้

  1. เริ่มจากความจริงใจ เปิดเผยตัวตนอย่างเป็นธรรมชาติ ให้คนรู้สึกเชื่อมโยงและเข้าถึงได้
  2. หาสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียง วิธีเล่าเรื่อง หรือการนำเสนอ ต้องไม่เหมือนใคร
  3. เล่าเรื่องจริงที่มีคุณค่า เพราะความจริงใจจะทำให้ผู้ชมอินและจดจำ
  4. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย เข้าใจว่าแต่ละกลุ่มมีรสนิยม การใช้ภาษา และความสนใจที่แตกต่างกัน
  5. สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า คนจะติดตามสิ่งที่ให้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นสาระหรือแรงบันดาลใจ

คุณชนิกานต์ เลิศวสุธากุล นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า ดีใจที่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ เนื่องจากที่บ้านทำร้านเฮียโส่ย นครสวรรค์ ขายข้าวหมูกรอบ ข้าวหมูเเดง ข้าวมันไก่ เลยสนใจที่อยากหาความรู้ใหม่ เพื่อนำไปต่อยอดกิจกรรมการที่บ้าน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้ฟังเคล็ดลับการทำอาหารจากเชฟชื่อดัง และยังได้เรียนเรื่องการตลาดออนไลน์ ซึ่งปกติทำคลิปใน TikTok อยู่แล้วก็จะนำความรู้นี้ไปปรับใช้ในอนาคต อย่าง ซอสบาร์บีคิวอิซี่ สามารถนำไปทำได้หลายเมนู รวมถึงเป็นน้ำจิ้มได้ 

คุณพิชญพงค์ อรุณรัตนพงศ์ เจ้าของร้านอาหารห้องครัวหัวหมี และ ฮังเกอร์แบร์ จังหวัดนครสวรรค์ เผยว่า ต้องขอบคุณซอสภูเขาทองที่จัดโครงการที่มีประโยชน์ต่อผู้ประกอบการร้านอาหาร ได้เปิดโลกความรู้จากเซเลบริตี้เชฟที่มากประสบการณ์ และการใช้สื่อออนไลน์ในการโปรโมตร้าน อย่างวันนี้ทำให้ได้รู้จักซอสปรุงรสลุงหนวด ผลิตภัณฑ์ใหม่จากภูเขาทอง ที่พัฒนามาให้ปรุงอาหารครบจบในขวดเดียว ทำให้สามารถลดต้นทุนในเรื่องเครื่องปรุงได้ 

โก โฮลเซลล์ จับมือ พรีเมี่ยม บีฟ จัดเวิร์กช้อป “รู้เรื่องเนื้อวัว” เชื่อมโยงผู้ประกอบการร้านอาหาร ต่อยอดไอเดีย ปั้นเมนูสร้างรายได้

ในบรรดาวัตถุดิบที่มีแนวโน้มการบริโภคสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น “เนื้อวัว” นับเป็นวัตถุดิบโปรตีนสูงที่กลายเป็นกระแสนิยมของผู้บริโภค  และบรรดาร้านอาหารทุกระดับ ซึ่งต่างก็หลงใหลในรสชาติเนื้อคุณภาพจนขอนำไปสร้างสรรค์เมนูฮิตมากมาย

โก โฮลเซลล์ จึงร่วมกับ บริษัท พรีเมี่ยม บีฟ จำกัด ผู้ผลิตเนื้อวัวคุณภาพ จัดเวิร์กช้อป “รู้เรื่องเนื้อวัว” ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารที่สนใจ โดยมีผู้ถ่ายทอดคือ นายสุริยศักดิ์ ภูธิปฐิติพงศ์ ประธานบริษัท พรีเมี่ยม บีฟ จำกัด ซึ่งในคอร์สนี้ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และคณะ เข้าร่วมสังเกตการณ์ ณ ห้องเวิร์กช้อป  โก โฮลเซลล์ สาขารังสิต ด้วย

นายสุริยศักดิ์ กล่าวว่า  “5 ปีที่แล้ว เนื้อวัวยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคคนไทยมากนัก มีการบริโภควัวเพียง 6 – 8 แสนตัวต่อปี จากอุตสาหกรรมโคขุนที่ขณะนั้นอยู่ที่ 6 ล้านตัว ไม่รวมการนำเข้า แต่ปัจจุบันการบริโภคเนื้อวัวมีความต้องการมากขึ้น ทำให้ทะลุ ล้านตัว ไปแล้ว รวมถึงยังมีส่วนนำเข้าอีกไม่น้อยเช่นกัน”

ไม่แปลก หากเนื้อวัวคุณภาพในยุคนี้จะมีราคาที่ผู้ประกอบการทุกระดับเลือกนำไปใช้ได้ตามความต้องการ และเป็นผลดีต่อผู้บริโภค ซึ่งเนื้อวัวได้ชื่อว่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ประกอบกับเป็นพระเอกสำคัญของเมนูฮิตในกระแสนิยม ไม่ว่าจะเป็น โอมากาเสะ ชาบู สเต๊ก แฮมเบอร์เกอร์ ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ข้าวหน้าเนื้อ หรือแม้แต่  ผัดกระเพรา ก็กลับมาขึ้นแท่นเป็นเมนูหลักของหลายร้าน จนเกิดกระแสการพูดถึงในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลาย เกิดกลุ่มคนรักเนื้อในแทบทุกพื้นที่

นายสุริยศักดิ์ บอกอีกว่า “แม้การบริโภคเนื้อวัวจะเพิ่มขึ้นมาก  แต่ก็ยังมีช่องว่างให้ผู้ประกอบการสร้างสรรค์เมนูได้อีก เนื่องจาก คนยังรู้จักชิ้นส่วนของเนื้อวัวน้อย ส่วนใหญ่จะนิยม สันนอก สันใน สันแหลม แต่ว่ายังมีชิ้นส่วนอื่นๆ ที่นำมาปรุงอาหารได้อร่อยไม่แพ้กัน”

ไม่ว่าจะเป็น  “พิคานย่า” (Picana) เนื้อส่วนสะโพกด้านบน แม้ไม่ค่อยมีลายไขมันแทรก แต่มีจุดเด่นอยู่ตรงชั้นไขมันหนาด้านบน เมื่อโดนไฟจะส่งกลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นมากกว่าส่วนอื่นๆ  จึงนิยมนำมาทำเป็นสเต๊ก บาร์บีคิว, “เนื้อลูกมะพร้าว” เป็นเนื้อช่วงโคนขาหลังบริเวณสะโพก มีก้อนใหญ่คล้ายกับลูกมะพร้าว มีความนุ่มพอควร มันน้อย นำไปปรุงได้ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด, “เนื้อรักบี้” (Chuck Arm) เนื้อที่อยู่ค่อนไปทางด้านท้อง ลักษณะนุ่มปานกลาง, “เนื้อส่วนปลาช่อน” (Chuck tender) สันในเทียม หรือปั้นแหลม บริเวณส่วนหัวไหล่ ค่อนไปท้อง เนื้อจะมีลักษณะนุ่มปานกลาง,“เนื้อใบพาย” (Oyster blade) มันแทรกสวย เนื้อนุ่ม ละลายในปาก เป็นที่ชื่นชอบของสายชาบู ปิ้งย่าง เอามากๆ   

1208703
1208705

พรีเมียม บีฟ ยังสาธิตการทำเมนูข้าวหน้าเนื้อ โดยใช้เนื้อซี่โครงหั่นเต๋า และสเต๊กเนื้อ ที่ใช้เนื้อส่วนสันแหลม กับสันนอก พร้อมสอนเทคนิคความอร่อย เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมเวิร์กช้อปได้ลงมือทำ  จะได้มองเห็นโอกาสและการต่อยอด

“กิจกรรม Workshop ของ โก โฮลเซลล์ ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ  ระหว่างผู้ผลิต โมเดิร์น เทรด และผู้ประกอบการร้านอาหาร  นับว่าเป็นการสร้างเครือข่ายคนทำอาชีพอาหารให้แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ”  นายสุริยศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช้อปดีๆ กับ โก โฮลเซลล์ หรือต้องการเนื้อวัวคุณภาพดีจากแหล่งต่างๆ ทั่วไทยและทั่วโลก ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อรับข่าวสารและสิทธิประโยชน์ได้ที่ เว็บไซต์ : www.centralfoodwholesale.co.th  

เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/gowholesaleth/ Line : @gowholesale

LinkedIn : https://www.linkedin.com/company/gowholesaleth ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น GO Wholesale และสมัครสมาชิกฟรี ที่   https://gowholesale.onelink.me/dVTJ/8sqvueew

เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “Wanderlust-Küche: – A Culinary Dialogue” ณ สถาบันเกอเธ่ประเทศไทย ถนนสาทร ซึ่งเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับอาหารและวัฒนธรรมของประเทศเยอรมัน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจ และปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่ออาหารเยอรมันที่ไม่ได้มีดีแค่เมนูขาหมูเยอรมันเท่านั้น แต่มีอะไรมากกว่าที่ทุกคนคิด โดยภายในงานมีกิจกรรมให้ผู้ชื่นชอบอาหารได้เข้าร่วมมากมาย เช่น การบรรยายในหัวข้อสุดสร้างสรรค์อย่างเรื่องไส้กรอก ในแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับศาสนา การละคร และสงคราม การฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับอาหาร การจัดแสดงหนังสือตำราอาหาร ตลอดจนกิจกรรมเวิร์กชอปสุดพิเศษ อย่างเวิร์กชอปถ่ายภาพอาหารที่ได้ช่างภาพอาหารมืออาชีพมาเผยเคล็ดลับการถ่ายภาพอาหารให้น่ารับประทาน ทั้งยังมีเวิร์กชอปสาธิตการทำอาหารที่จะทำให้ผู้ร่วมงาน ได้รู้จักกับเมนูอาหารเยอรมันที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารของโครงการ Wanderlust-Küche: – A Culinary Dialogue ได้ทาง http://www.goethe.de/wanderlustkueche