เมื่อเวลา 16.00น. วันที่ 29 ตุลาคม ที่เบเนดิกต์ สตูดิโอ ซอยโยธิน พัฒนา3 บริษัทเลกาซี่ คอร์ป จำกัด แถลงข่าวการสร้างสถิติใหม่ยอด ขายสินค้าสูงสุดถึง 2,000 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียงแค่10เดือนในปี 2563 พร้อมทั้งเปิดตัว Millionaire 10 รหัส และจัดงาน Legacy 2 Billion Celebration เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและขอบคุณเหล่านักธุรกิจ เครือข่ายที่ช่วยกันสร้างปรากฏการณ์ใหม่

โดย คุณวรรณ โชติกะวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลกาซี่ คอร์ป จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ ทาง บริษัท เลกาซี่ คอร์ป จำกัด สามารถสร้าง ยอดขายทะลุถึง 2,000 ล้านบาท ภายใน 10 เดือนเท่านั้น ตนมองเห็น ถึงความพยายามและความตั้งใจของนักธุรกิจเลกาซี ที่ได้มีความ พยายาม อดทด ต่อสู้กับวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาในช่วงต้นปี รู้สึก ขอบคุณอย่างยิ่ง จึงได้จัดงาน “Legacy 2 Billion Celebration” ขึ้น เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและขอบคุณเหล่านักธุรกิจเครือข่ายที่ได้ช่วยกัน สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในครั้งนี้

คุณวรรณ ให้สัมภาษณ์ถึงเคล็ดลับในการทำยอดขาย 2,000 บาท ภายใน 10 เดือน นับเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด ว่า เลกาซี มีเป้า หมายที่จะเป็นบริษัท 100 ปี ดังนั้นเราจึงเน้นเรื่องการวางพื้นฐาน รากฐานทางด้านของสินค้า คุณภาพสินค้าที่ต้องส่งเสริมคุณภาพชีวิต ของนักธุรกิจและผู้บริโภค เราเน้นเรื่องของการเป็นบริษัทที่มีความ ซื่อสัตย์โปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ และมีความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค นัก ธุรกิจของเรา รวมทั้งพาร์ทเนอร์ของเราด้วย

ในช่วงที่ผ่านมา เราเน้นเรื่องการปรับตัวเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับ สถานการณ์ ในส่วนของบริษัทเรามีการปรับตัวจ่ายค่าคอมมิชชั่นเร็วขึ้น มีกระบวนการพัฒนาเรื่องการจัดส่งและการให้บริการต่างๆ ในส่วนของ นักธุรกิจของเราเก่งมาก สามารถพัฒนาและปรับเปลี่ยน ปรับปรุง ปรับ ตัวเรื่องการสื่อสาร เรื่องการฝึกอบรม เรื่องการขยายธุรกิจ ทำให้ธุรกิจ เลกาซีง่ายมากๆ จริงๆแล้วในช่วงที่ผ่านมา เราเติบโต เรียกว่าเกินจาก ความคาดหมายเยอะ จนนักธุรกิจระดับ Millionaire เกิดขึ้นมา 10 รหัส นอกจากนั้นเลกาซียังโชคดีที่มีผู้นำที่ดีมากๆ เรามีผู้นำที่มีความทุ่มเท ตั้งใจเสียสละสามัคคีกัน ซึ่งอันนี้ผมถือว่าเลกาซีโชคดี

และเมื่อเรามีเป้าหมายเป็นบริษัท 100 ปี เราต้องเน้นเรื่องของคุณธรรม จรรยาบรรณที่เข้มแข็งมากๆ เราโฟกัสเรื่องนี้มากจริงๆ ผมคิดว่าบริษัท จะยั่งยืนได้จะต้องเข้มแข็งเรื่องของจรรยาบรรณและคุณธรรมในการ ดำเนินธุรกิจมากๆ และเรื่องของการลงทุนกับการควบคุมมาตรฐาน คุณภาพสินค้าของเราและผลลัพธ์ที่สินค้าของเราจะส่งไปด้วย ดังนั้นจะ เห็นว่าวันนี้เลกาซีมีผู้นำที่มีแต่คนหุ่นดี สุขภาพดี รวมทั้งคนที่มาทำธุรกิจ เลกาซีมีรายได้ที่ดี หลายๆคนเข้ามาเริ่มทำเลกาซีอาจคิดว่าทำเป็น อาชีพเสริม แต่พอทำไปทำมามีรายได้ที่ดีมากกว่ารายได้หลักด้วยซ้ำ อันนี้เป็นสิ่งที่เลกาซีภูมิใจ

เมื่อถามถึงช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ เลกาซี ทำได้ยังไงถึงไม่ได้รับผลกระทบเลย คุณวรรณ กล่าวว่า ช่วงโควิด-19 มันเป็นวิกฤตที่ทำให้คนให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น พอเลกาซีโฟกัสเรื่องคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า เราก็เลยเป็น ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ดีกับผู้บริโภค รวมทั้งปัจจุบันพอมีวิกฤตเกิดขึ้น อาจจะมีคนที่เขาอยากมองหาอะไรทำเพิ่ม เลกาซีก็เป็นทางเลือกที่ดีให้ กับคนที่กำลังมองหาอะไรทำเพิ่ม เราคิดว่าสิ่งที่เราโฟกัสมันก็เกิด ผลลัพธ์ขึ้นมาจนมาเป็นวันนี้

ต่อข้อถามว่า เลกาซีจะต่อยอดยังไงกับการเติบโตครั้งนี้ให้ประสบความ สำเร็จมากขึ้นอีก คุณวรรณ กล่าวว่า เลกาซีเราเรียนรู้และพัฒนาอย่าง ไม่หยุดยั้ง สิ่งที่สำคัญของเราทั้งฝั่งของบริษัทและนักธุรกิจคือการเรียนรู้ บริษัทที่จะอยู่ได้ยั่งยืน 100 ปีนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องไม่หยุดที่จะ พัฒนา ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ เราจะเน้นเรื่องสินค้า ทำให้สินค้าเรามี คุณภาพที่ดี ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของนักธุรกิจและผู้บริโภค เราเน้นเรื่อง ผลลัพธ์เชิงสุขภาพ ผู้บริโภคสินค้าของเราต้องได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จากสินค้าที่มีคุณภาพมากที่สุด รวมทั้งผลลัพธ์ในเชิงธุรกิจด้วยว่าใคร มาทำธุรกิจเลกาซี ผมคิดว่าอัตราที่เขาประสบความสำเร็จจะต้องสูงที่สุด ซึ่งวันนี้เรามีความภูมิใจที่เรามีผู้ที่เป็น Millionaire ถึง 10 รหัส เป็นสิ่งที่ บริษัทก็ยังคงเดินตามเส้นทางนี้ นอกจากนั้นยังมีผู้นำในระดับ Diamond Director และสูงขึ้นไป ซึ่งกำลังจะก้าวสู่ระดับ Millionaire ใน เร็วๆ นี้

เมื่อถามถึง Key Success ของเลกาซี คุณวรรณ บอกว่า อาจจะเกิดจาก การที่เรามีเป้าหมายเป็นบริษัท 100 ปี เน้นเรื่องของคุณภาพสินค้าเป็น หลัก มาตรฐานในการผลิตอันนี้เราเน้นมากๆ ความซื่อสัตย์ และ คุณธรรมในการดำเนินธุรกิจ เน้นเรื่องการพัฒนาไปข้างหน้า และที่ สำคัญคือ เรามีผู้นำที่มีความตั้งใจ ทุ่มเทเสียสละและสามัคคี ผมว่าอันนี้ คือ Key Success ของเลกาซี

นอกจากนั้นในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า จะได้เห็นสิ่งที่เป็น Ecosystem ของเลกาซี เป็นระบบนิเวศน์ เช่น เราพบว่านักธุรกิจของเราเป็นกลุ่มของ คนรักสุขภาพ เราก็จะมีเรื่องของHealthy Food เข้ามาด้วย ซึ่งจะตอบ โจทย์ตรงเป็น Healthy Food ในราคาที่จับต้องได้ และเป็น Healthy Food ที่ถูกคิดค้นโดยนักวิชาการ นักโภชนาการ เราส่งตรวจคุณค่าทาง สารอาหารระดับนานาชาติ รวมทั้งเราพบว่านักธุรกิจของเราสิ่งที่เขาทำ ทุกวันคือไปฟิตเนส เลกาซีก็จะทำฟิตเนสของเราเอง เริ่มจากที่กรุงเทพฯ ที่สาทร และที่หาดใหญ่ จ.สงขลา

รวมทั้งเราพบว่าในชีวิตประจำวันของนักธุรกิจเลกาซีส่วนใหญ่จะไปนั่ง ตามร้านกาแฟ ไปคุยงานกัน ในปีหน้าเลกาซีจะทำร้านกาแฟระดับ มาตรฐานสากล เพื่อให้เป็น privileged สำหรับนักธุรกิจของเรา โดย คนนอกก็เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกหรือเข้ามาใช้บริการได้ นอกจากนั้น ในปีหน้าเราจะเห็นเรื่องของการศึกษาที่เป็นระบบนิเวศน์หรือ Ecosystem ของเลกาซีมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าว ได้มีการเปิดตัว Millionaire 9 รหัส จาก 10 รหัส ประกอบด้วย คุณทอม – ธเนศ ลีลาภรณ์ CROWN AMBASSADOR PRESIDENT คุณนุ๊ก – ธนะสิทธิ์ พรสิริ กุลนันท์ และคุณธัณย์ชยา พัชรกุลไพสิฐ CROWN AMBASSADOR PRESIDENT คุณจอย – ธารีย์ทิพย์ ชัยกาญจนกิจ และคุณเอริค กา ราคาเนี่ยน ชาวอังกฤษ CROWN DOUBLE DIAMOND PRESIDENT

คุณเต๊ะ – ธีรกรณ์ พันธุ์วิกย์การ และคุณเบส – จิภัสร์ญดา อรัญดร CROWN DOUBLE DIAMOND PRESIDENT  คุณซัน – รัชชสิทธิ์ อัครวัฒนะเลิศ และคุณแตง – อิสรีย์ อัครวัฒนะเลิศ CROWN DOUBLE DIAMOND PRESIDENT 6.คุณจา – ชีวาวัชญ์ จรัสนิรัติศัย BLACK DIAMOND DIRECTOR คุณโตโต้ – คุณธรรม เสงี่ยมเนตร CROWN DIAMOND PRESIDENT 8.คุณตี๋ – สุวิทชัย แซ่ตั้ง และคุณริน – รินทร์จิรา รัตนพันธ วีร์ CROWN DOUBLE DIAMOND PRESIDENT และคุณเต้-อร่าม ชวเจริญพันธ์ และคุณอ่าย – อดิศรา วรรธนาศิรกุล CROWN DIAMOND PRESIDENT

คุณนุ๊ก – ธนะสิทธิ์ พรสิริกุลนันท์ กล่าวว่า เรียนจบเภสัชกร มาร่วมงาน กับเลกาซี เห็นว่าธุรกิจเลกาซี การขยายสาขาไม่ต้องใช้เงินลงทุน เรา ลงทุนเริ่มต้น 500 บาท เราสามารถทำเงินได้หลักหมื่น หลักแสน หลัก ล้าน การขยายสาขาไม่ต้องใช้เงินลงทุน เราใช้การทำงานที่เรียกว่าเปิด โอกาสให้ผู้คน แต่ถ้าเปิดร้านขายยาจะทำเงินได้มากเท่านี้อาจต้องเปิด สัก 20 สาขา และใช้เงินลงทุนจำนวนมาก รวมทั้งมีความยุ่งยากในการ ดูแลระบบ คงต้องเอาเวลาทั้งชีวิตเราไป แต่เราทำเลกาซีทำให้เรามี อิสรภาพทางชีวิตและการเงิน

ด้าน คุณจอย – ธารีย์ทิพย์ ชัยกาญจนกิจ เล่าว่า ที่บ้านทำธุรกิจค้าส่ง ดิ วกับร้านขายอาหารในมาเลเซียและสิงคโปร์ ถามว่าทำไมถึงไม่ทำธุรกิจ กับที่บ้าน ทำไมถึงตัดสินใจมาฝากชีวิตกับธุรกิจเลกาซี เพราะมองว่า ความมั่นคงต้องถึงพร้อม3อย่าง 1.บริษัทเลกาซีมองว่าเราเป็นพาร์ทเนอ ร์ ซึ่งสำคัญมาก เขาเข้าใจผู้บริโภคทุกคน เปิดใจรับฟังนักธุรกิจ 2.การ ผลิตสินค้าและทีมซัพพอร์ต เลกาซีถ้าเปรียบเหมือนทีมฟุตบอล มันคือ ทีมซุปเปอร์สตาฟ เขาทำระบบการจัดการให้ทุกอย่าง มีระบบการเรียน การสอน ทำให้นักธุรกิจทำงานได้ง่ายขึ้น และ3.ตัวเราและเพื่อนๆของ เราสำคัญ ไม่ว่าจะอยู่กลุ่มไหน แต่เราทำธุรกิจร่วมกันมีอคาเดมีร่วมกัน ซึ่งสิ่งนี้จะหาได้ยากจากธุรกิจอื่นๆ แต่ธุรกิจเลกาซีคุณวรรณเป็นตัวอย่าง ให้เรามีความสามัคคีและทำงานร่วมกัน นี่จึงเป็นหลักฐานที่ว่าทำไม ธุรกิจเลกาซีถึงเติบโตและมีความมั่นคง

ขณะที่ คุณเอริค การาคาเนี่ยน ซึ่งเคยทำงานบริษัทใหญ่ในอังกฤษ บอก ว่า สิ่งที่เห็นชัดๆคือความสำเร็จของเลกาซีก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ โควิด-19และหลังจากประเทศไทยควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19ได้ คือบทพิสูจน์ความมั่นคงและความสำเร็จที่มากขึ้นอย่าง มากมาย ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19ที่ผ่านมา รู้สึกตกใจว่าหลาย บริษัทที่อังกฤษยอดตก หลายแห่งปิดตัวลง แต่เลกาซีกลับมียอด New high ทุกเดือนทำให้รู้สึกสะพรึงมากๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เลกาซี เป็นหนึ่งในธุรกิจเครือข่ายที่น่าจับตามอง กับการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่เคยสร้างปรากฏการณ์กวาดรายได้ 1,000 ล้านบาท ต่อเนื่องมา 4 ปี ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งธุรกิจเครือข่าย โดย ในปีนี้ เลกาซี ได้สร้างความน่าตื่นตาอีกครั้ง โดยได้สร้างสถิติใหม่ยอด ขายสินค้าสูงถึง 2,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 10 เดือน เท่านั้น ถึงแม้จะต้องเผชิญเจอกับปัญหาวิกฤตการณ์ระบาดของไวรัส โค วิด-19 ก็ตาม

โดย “เครือข่ายเลกาซี” เป็นการรวมตัวกันของผู้บริโภคเพื่อสร้างช่อง ทางการจัดจำหน่าย (Consumer Distribution Channels) โดยมี “บริษัท เลกาซี่ คอร์ป จำกัด” เป็นผู้คอยดูแลให้บริการจัดสรรผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพ และสนับสนุนกิจการของนักธุรกิจเจ้าของเครือข่ายด้วย บุคลากรมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในด้านการบริการและด้านธุรกิจ เครือข่าย พร้อมปกป้องธุรกิจด้วยคุณธรรมและจรรยาบรรณอย่างเข้ม แข็ง โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ การสร้างคุณภาพชีวิตและความสำเร็จ ของนักธุรกิจที่ยั่งยืน

การดำเนินธุรกิจ “เลกาซี” ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมาได้ดำเนินธุรกิจ ภายใต้การบริการแบบ Extreme Service ที่ดูแลด้วยเอาใส่ใจทั้งต่อ นักธุรกิจและผู้บริโภค โดยการคัดสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์และได้ มาตรฐาน ออกมาจัดจำหน่าย เพื่อให้นักธุรกิจและผู้บริโภคได้ใช้ ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน

เลกาซี ธุรกิจที่ให้นิยามของคำว่า สังคมคนหุ่นดี สุขภาพดี ได้ตอบโจทย์ และเห็นเด่นชัดดีที่สุดในห้วงเวลานี้ก็ว่าได้  หลังเปิดตัว 101  Reborn Idol หรือกลุ่มนักธุรกิจเลกาซี ที่เป็นผู้มีรูปร่างและสุขภาพที่ดี จากผลลัพธ์การเข้าโปรแกรมโภชนาการหรือ รีบอร์น (REBORN) กับโปรเจ็ก Reborn Idol Assemble 2020  ซึ่งเป็นการรวมพล Reborn Idol Gen 1-5 มาอยู่ในเฟรมเดียวกันกับคอนเซ็ปต์ Sport Looks Fashion ที่ลั่นชัตเตอร์โดยฝีมือช่างภาพแฟชั่นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย “หรั่ง-สุรศักดิ์ อิทธิฤทธิ์” และยังได้ “กานดา สายทุ้ม” บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง มาเป็นร่วมเป็นโปรดิวเซอร์ในแฟชั่นเซ็ตนี้ให้ นับเป็นมิติใหม่ของธุรกิจเครือข่าย ที่เปลี่ยนคนธรรมดา ให้กลายเป็นนายแบบ นางแบบ ประหนึ่งมืออาชีพในชั่วข้ามวัน

โค้ชซิง หรือ ปริญ จารุกุลวนิช หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Reborn Academy  และยังเป็น Reborn Idol Gen 1 เผยว่า เทรนด์รักสุขภาพมีมานานแล้ว แต่พอมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทำให้คนให้สำคัญกับเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น จะเห็นว่าไม่เพียงฟิตเนสที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ปัจจุบันยังมีศาสตร์ของการดูแลสุขภาพให้เลือกมากมาย ตั้งแต่คีโตเจนิค,ไอเอฟ, พาเลโอ ไดเอต ,วีแกน ไปจนถึงเมดิเตอร์เรนียน ไดเอท สุดแต่ความชอบ

“เรื่องโภชนาการมันจำเป็นแต่คนส่วนมากไม่รู้” โค้ชซิงบอก

“ผมเคยหนักประมาณร้อยนิดๆ แรกๆ ผมอยากดูแลตัวเองก่อน แต่ทำอย่างไรก็ลดไม่ได้สักที จึงไปหาคอร์สเกี่ยวกับโภชนาการเรียน พอน้ำหนักลดลง (ปัจจุบันหนัก 66 กิโลกรัม) ก็มีคนมาทักมาถามกันเยอะ จึงอยากแบ่งปันความรู้ ไม่ใช่แค่ขายโปรดักส์ ที่เป็นการให้อาหารเสริม

เป็นที่มาของการก่อตั้ง Reborn Academy ร่วมกับเพื่อนๆ อีก 2 คนคือ โค้ชตี๋เบิร์ด กฤษฎี ธรรมาภิวันท์ และโค้ชชมพู่ พิมพ์ปภัค โล่ห์มหิรัญกุล

จากคนกลุ่มเล็กๆ ชั่วเวลาเพียง 3 ปีมีสมาชิกเกือบ 2,000 คน ขณะเดียวกันก็มีการจัดกิจกรรมเฟ้นหา “Reborn Idol” ภายใต้เงื่อนไขคือ ต้องเป็นนักธุรกิจเลกาซี (Legacy) ผู้ชายต้องมีค่าไขมันในร่างกาย (Fat)  ต่ำกว่า 15% ถ้าผู้หญิงต้องต่ำกว่า 20%

“เพราะเราอยากสร้างสังคมหุ่นดีที่เป็นนักธุรกิจของเรา” โค้ชซิงบอก ซึ่งคำว่า “หุ่นดี” นั้นไม่เกี่ยงเพศและวัย ขอเพียงต้องลีน สุขภาพดี และสมส่วน โดยเชิญเทรนเนอร์ชื่อดัง และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพมาช่วยในการตัดสิน เช่น ซีซันล่าสุด  เราก็ได้คนอายุ 67 ปี มาเป็น Reborn Idol Gen 5 ด้วย ซึ่งเขามีกล้าม มีซิกแพคไม่แพ้หนุ่มๆ  มาร่วมอยู่ด้วย

ทางด้าน โค้ชตี๋เบิร์ด- กฤษฎี ธรรมาภิวันท์ อีกหนึ่งผู้ร่วมก่อตั้ง Reborn Academy บอกว่าก่อนหน้านี้ตนเองและโค้ชชมพู่ ปั้นหุ่นดูแลสุขภาพด้วยกัน โดยมีโค้ชซิงเป็นผู้ให้คำแนะนำ เห็นว่าโปรดักส์มันดีมาก ใช้รีบอร์นไม่กี่เดือนก็ให้ผลลัพธ์แล้ว จึงคิดว่าในเมื่อเรามีองค์ความรู้ ถ้ามีคอมมูนิตี้มีสังคมที่แบ่งปันความรู้เหล่านี้น่าจะตอบโจทย์ใครหลายๆ คนที่อยากดูแลสุขภาพจึงชวนกันทำ Reborn Academy

ถามถึงคำจำกัดความของผู้ชายสมาร์ท โค้ชตี๋เบิร์ดบอกว่า นอกจากจะต้องมีมายด์เซ็ตดี มีความมั่นใจในตัวตน อีกสิ่งคือแอพเพียแรนซ์หรือรูปลักษณ์ที่จะต้องลีน คือไขมันน้อย แต่ไม่ใช่ผอม และถ้ามีมวลกล้ามเนื้อในระดับหนึ่งจะยิ่งดูดี เรื่องเหล่านี้เป็นมาตรฐานมานานแล้ว แต่ช่วงนี้เทรนด์จะเข้มข้นขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะโลกโซเชียลทำให้เรามีพื้นที่ในการอวดของมากขึ้น

สำหรับ Reborn Idol โค้ชตี๋ บอกว่า ระยะแรกอาจจะมีไอดอลที่เป็นผู้หญิงน้อย แต่เมื่อผลลัพธ์มากขึ้น ความหลากหลายก็ยิ่งมากขึ้น มีทั้งที่อายุ 50-60 ปี คุณแม่หลังคลอด หรือคนที่มีน้ำหนักมากถึงร้อยกว่ากิโล

“ไอดอลผู้หญิงมีมากขึ้น ไม่ใช่เพราะผู้หญิงลดน้ำหนักง่ายกว่า แต่เป็นเพราะโจทย์ความต้องการของผู้หญิงง่ายกว่า ผู้หญิงส่วนมากไม่ได้อยากมีกล้ามเนื้อ แค่อยากมีร่อง11 มีเอว ลดแค่ไขมันก็เห็นผลแล้ว แต่ผู้ชายคำว่า “หุ่นดี” อาจจะมี 2 โจทย์ ไขมันน้อยอาจจะดูผอมเกินไป ก็ต้องใช้เวลาในการสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมา” พร้อมกับย้ำถึงความสำคัญของโภชนาการว่า

อาหารส่งผลต่อรูปร่างของเราประมาณ 70-80% ออกกำลังกายแค่ 20-30% ฉะนั้นเราจะโฟกัสโจทย์ที่ใหญ่กว่าก่อน บางคนขยันเข้าฟิตเนส แต่คุมอาหารไม่เป็น บางทีก็ไม่ตอบโจทย์สุขภาพเหมือนกัน”

“จะเห็นว่าปัจจุบันมีศาสตร์ใหม่ๆ มาเรื่อยๆ คีโตเจนิค ไอเอฟ เมดิเตอร์เรเนียน ไดเอท ฯลฯ ผมไม่ฟันธงว่าแบบไหนดีที่สุด ซึ่งสำหรับ รีบอร์น (สินค้าของเลกาซีกลุ่มดูแลรูปร่างและลดไขมัน) เป็น “บาลานซิ่ง ไดเอท” เน้นการให้สารอาหารดีๆ อย่างครบถ้วนตามหลักโภชนาการ โดยสามารถปรับวิธีกินตามเป้าหมาย ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนนั้นๆ เพื่อจะสามารถดูแลสุขภาพกันไปได้ยาวๆ นี่คือศาสตร์ของรีบอร์น” โค้ชตี๋เบิร์ด ผู้ที่ก็เป็น Reborn Idol Gen 1 กล่าว

ส่วนอีกสาวสวยหุ่นเซี๊ยะ ไม่บอกไม่มีใครเชื่อว่าเธอเป็นคุณแม่ลูกสาม โค้ชชมพู่พิมพ์ปภัค โล่มหิรัญกุล อีกผู้หนึ่งร่วมก่อตั้ง Reborn Academy  และเธอก็เป็น Reborn Idol Gen 1  อีกเช่นกัน เล่าถึงการก้าวเข้าสู่วงการดูแลสุขภาพและลดไขมันว่า เมื่อแรกที่ใช้รีบอร์นไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องมีซิกแพค เพราะเป็นคนไม่ได้อ้วนมาก แต่มีปัญหาที่หน้าท้องย้วย

โค้ชชมพู่บอกว่า ความที่ตนเองคลอดลูกโดยใช้วิธีการผ่าหน้าท้อง และมีพฤติกรรมการกินที่ไม่ค่อยดี ทำให้มีพุงห้อย ใส่เสื้อผ้าไม่สวย พอชั่งน้ำหนักประเมินองค์ประกอบของร่างกายต้องตกใจเมื่อพบว่ามี Body Fat เยอะ สัญญานบ่งบอกว่ามีคลอเรสเตอรอลสูง จึงตัดสินใจว่าถ้าตัวเองจะทำการตลาดสินค้ากลุ่มรีบอร์นเราต้องเป็นผลลัพธ์ดี คือเราต้องได้ผลเองก่อน จึงลองตั้งใจดูแลสุขภาพตัวเองอย่างจริงจังสักตั้ง

หลังจากเข้าโปรแกรมรีบอร์นราว 3-4 เดือน Fat ลดลงไปประมาณ 9% แต่น้ำหนักไม่ลง เพราะสิ่งที่หายไปคือไขมัน แต่สิ่งที่ได้เพิ่มมาคือกล้ามเนื้อ ทำให้เราดูเอวเล็กลง พุงกระชับขึ้น มีซิกแพค

“ผู้หญิงที่จะสวยสมาร์ทประกอบด้วยหลายอย่าง นอกจากบุคลิกภาพ ต้องสมส่วน ไม่ใช่ว่าผอมมาก ไม่ย้อยย้วย แต่งตัวแล้วดูดี ส่วนซิกแพคนั้นเป็นความชอบส่วนตัว และเป็นเหมือนกึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่ามีรูปร่างสมส่วน ซึ่งบางคนก็ไม่ได้อยากมีซิกแพค ถ้ามีร่อง 11 สักนิดนึงจะดูดี”

รีบอร์นนั้นผลลัพธ์ที่เราเห็นด้วยตาจะเป็นเรื่องของรูปร่าง แต่ในความเป็นจริง คนที่เริ่มทาน ก่อนที่จะหุ่นดี สุขภาพดีไปแล้ว ไขมันในเส้นเลือดดี ฮอร์โมนสมดุล ลำไส้สะอาด นอนหลับสนิท หุ่นเป็นเพียงผลพลอยได้ ซึ่งบางคนอาจจะนำมาเป็นผลตั้งต้นที่อยากได้ แต่ผลลัพธ์จริงที่เราได้อย่างแรกคือ เรื่องสุขภาพ

ระยะเวลา 3-4 เดือนที่เข้าโปรแกรมรีบอร์นรับประกันว่าได้ผลแน่นอน โค้ชชมพู่ยืนยันด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า ถ้าซื้อไปแล้วกินอย่างมีวินัย เวลาคุยกับโค้ชที่ดูแลต้องบอกหมด รับรองกระบวนการปั้นหุ่นได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์

การรวมพล Reborn Idol Gen 1-5 ภายใต้โปรเจ็ค Reborn Idol Assemble ของเลกาซี จึงถือเป็นกิจกรรมรวมคนหุ่นดีที่เป็นนักธุรกิจ ครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นอยากมีสุขภาพดีบ้าง ซึ่งตอนนี้ เลกาซี ได้สร้างสังคมคนหุ่นดี สุขภาพดีได้อย่างแท้จริง จากผลลัพธ์ของผู้ที่ใช้โปรแกรมรีบอร์นและมีความสุขกับรูปร่างใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป ราวกับเกิดใหม่ได้เลยจริงๆ

เป็นสองสามีภรรยาที่โปรไฟล์หน้าที่การงานไม่ธรรมดา แต่ยอมปล่อยมือจากงานประจำที่มั่นคงมาทำธุรกิจเครือข่าย สร้างพลังบวกจนประสบความสำเร็จได้เป็นนักธุรกิจระดับ Crown Diamond และกลายเป็นมนุษย์เงินล้านในธุรกิจเครือข่ายของเลกาซี

สำหรับ คุณเต้ – อร่าม ชวเจริญพันธุ์ อดีตวิศวกรหนุ่ม กับ คุณอ่าย อดิศรา วรรธนาศิรกุล อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านการศึกษาของประเทศอเมริกาที่ประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และทายาทธุรกิจโรงงานแปรรูปอาหารทะเล

ทำไมคุณเต้และคุณอ่าย ยอมโบกมือลาจากงานประจำ ซึ่งจัดว่ามีหน้าตาในสังคม มาทำธุรกิจเครือข่ายเลกาซีอย่างเต็มตัว และทำอย่างไรจึงประสบความสำเร็จได้เป็นมนุษย์เงินล้าน

“เลกาซี”พาสองสามีภรรยามาพบปะสื่อมวลชน ตอบทุกคำถามที่สงสัย ที่ Serealscape Studio เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา

คุณเต้ เล่าว่า เรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เอกไฟฟ้า เป็นวิศวกรฝึกหัด 2 เดือน พอได้เจอไลฟ์สไตล์งานประจำ ก็พบว่าไม่ค่อยชอบ ไม่ค่อยอิสระ เลยออกมาเป็นติวเตอร์สอนวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ม.ปลาย ต้องยอมรับว่ารายได้ดีมาก เพราะสอนทุกวัน ไม่มีวันหยุด ผ่านมา1ปี เริ่มมีปัญหาสุขภาพ เราเริ่มรู้สึกว่ามีรายได้เยอะ แต่เราไม่มีเวลาใช้เงิน และที่เสียไปเรื่อยๆคือสุขภาพ จึงเป็นโอกาสมองหาว่าเราจะทำอะไรดี ที่จะได้ทั้งเงิน สุขภาพ เวลา จนมีโอกาสมาศึกษาและได้เจอกับธุรกิจเครือข่าย

“ในตอนนั้นผมเลือกมาร่วมงานกับเลกาซี เพราะเล่นเป็นทีม ไม่มีเป็นฝั่งบริษัท ฝั่งนักธุกิจ เรามีทีมร่วมกัน ทีมวางแผนการตลาด ทีมทำกิจกรรมงาน ทีมจรรยาบรรณ พูดคุยกันตลอด ที่สำคัญคือฟังกัน เป้าหมาย แผนงาน ประเมิน ปรับปรุง ต่อยอด ไปด้วยกันจริงๆ

 “ช่วงเริ่มต้น คุณอ่ายไม่เห็นด้วย แต่เรารู้สึกว่าจากที่เราฟังมันดี ตัวผมเองมีรายได้เดือนแรก4บาท คุณอ่ายบอกว่าได้น้อยนะ พอเดือนที่2 เพิ่มมาเป็น 10,000 บาท พอเดือนที่ 3 เพิ่มเป็น 30,000 บาท ตรงนั้นอาจเป็นรายได้ที่ไม่เยอะมาก ยังน้อยกว่าเงินเดือนคุณอ่าย น้อยกว่าที่ผมสอนพิเศษ แต่สิ่งที่ผมเจอคืออัตราการเติบโตของธุรกิจไวมาก โดยประมาณเดือนที่3 คุณอ่ายก็เริ่มเห็นด้วย เอาสินค้ามาทดลองใช้

“ต้องยอมรับว่าที่เราเติบโตเร็วขึ้น คนใกล้ตัวเริ่มสนับสนุนด้วย จากตอนแรกไม่เห็นด้วยเลย จากนั้นในเดือนที่ 6 มีรายได้เข้ามา 100,000 บาท  และเดือนที่8 มีรายได้ประมาณ 130,000-140,000 บาท มันมากกว่ารายได้ของเรา2คนรวมกัน เราก็เลยมีโอกาสมาคุยกันว่าจะเอายังไงต่อ และเริ่มงานกับเลกาซีเต็มตัว กระทั่งมาถึงปีที่ 5 และได้เป็นมนุษย์เงินล้าน”

ทำไมถึงได้เป็นมนุษย์เงินล้าน คุณเต้ เผยว่า เรามีรายได้จากแผนธุรกิจในระบบ 3 ข้อ 1. จากการดูแลคนที่เราแนะนำมาบริโภคซ้ำๆทุกเดือน 2. จากการบริหาร พัฒนา ดูแล ทีมงานและผู้บริโภคทุกคนในองค์กร 3. จากลิขสิทธิ์สอนงานคนที่เราแนะนำมาทำธุรกิจเป็น จนดูแลตัวเอง ทีมงาน จนมีรายได้ โดยทั้งหมดรวมกันต้องเกิน 1,000,000 บาทต่อเดือน

“สิ่งสำคัญที่เป็นคอนเซ็ปต์ของธุรกิจเครือข่าย คือ 1.ใช้ดีแล้วบอกต่อ แสดงว่าเราต้องใช้สินค้าก่อน จนมั่นใจว่าดีและบอกต่อ 2.ศึกษาว่าสินค้าของเลกาซี ทำไมถึงใช้ดี 3.เริ่มกล้าบอกต่อคนรอบตัวด้วยความสบายใจ 4.ปลายทางคือการดูแลระยะยาว เราไม่ต้องการให้คนซื้อเดือนนี้แล้วหายไป เราไม่ต้องการให้คนที่มาซื้อสินค้าแล้วหายไปจากการดูแลไม่ดี

ถ้าสินค้าดีจริง อยู่ภายใต้การดูแลที่ดี ทุกคนจะใช้ซ้ำ เพราะฉะนั้นเราจะดูแลกันอย่างจริงใจ เน้นเรื่องการห่วงใย ไม่ห่วงยอด เราพูดเสมอว่าสินค้าทุกตัวของเลกาซีคือเครดิตชีวิตเรา จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราทำธุรกิจนี้เราได้แต่เงิน แต่ไม่ได้เครดิต คนรอบตัวไม่โอเค คนพูดถึงเราไม่ดี”

เมื่อถามว่าในช่วง3-4เดือนที่ผ่านมา เกิดสถานการณ์โรคระบาดใหญ่ไวรัสโควิด-19 มีการปรับตัวยังไง   ส่งผลให้เป็นมนุษย์เงินล้านด้วยหรือเปล่า คุณเต้ ยอมรับว่าเป็นปัจจัยสำคัญ 1.ทุกคนอยากมีสุขภาพกายดี 2.ทุกคนอยากมีสุขภาพการเงินที่ดี แต่การทำงาน มันไม่ได้2อย่างพร้อมกัน บางงานให้สุขภาพดี มีเวลาออกกำลังกายเยอะ แต่มีรายได้น้อย  แต่บางงานได้เงินเยอะมาก แต่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่ธุรกิจเครือข่ายเลกาซีในมุมของผมสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง2อย่าง

“เลกาซี่ทำให้เราสามารถเปลี่ยนการดูแลตัวเอง  กลายมาเป็นการทำเงินได้ในเวลาเดียวกัน อันนี้คือพื้นฐานซึ่งเลกาซีเป็นอยู่แล้ว พอมาในยุคโควิด-19 คนเริ่มตระหนักถึงการดูแลตัวเองมากขึ้น เมื่อก่อนคนไม่ใส่แมสก์ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องบอกทุกคนใส่หมด ทุกคนเริ่มมาคุยเรื่องของภูมิคุ้มกัน ทุกคนเริ่มคิดว่าทำยังไงไม่ให้ฉันป่วย ตรงนี้ผมว่าเป็นสิ่งที่เลกาซีมีอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันคนอยากฟังมากขึ้น พร้อมฟังมากขึ้น เมื่อก่อนคุยเรื่องภูมิคุ้มกันก็จะบอกว่าฉันแข็งแรงดีอยู่แล้ว เธออย่ามาคุยกับฉัน แต่ตอนนี้คนฟังมากขึ้น โควิดทำให้คนทั่วโลกตระหนักเรื่องของการดูแลตัวเอง

“อีกข้อคือ คนเริ่มเซฟตัวเอง ไม่กล้าใช้เงิน บางคนไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่กลัวไปก่อน ไม่กล้าใช้เงิน รู้สึกว่าอยากจะมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น อยากจะมีรายได้อีกทางหนึ่ง ตอนนี้ผมว่าปัจจุบันการมีรายได้หลายทางเป็นเรื่องปกติ การทำงานเพิ่มอีก1อาชีพเป็นค่านิยม เรียกว่าคนยุคนี้ไม่มีใครอายที่จะทำหลายๆงานในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นในสถานการณ์ปัจจุบันเลกาซีตอบโจทย์ทั้ง2เรื่อง ทั้งเรื่องสุขภาพและโอกาสทำเงินมันง่าย บางทีเริ่มต้นแค่หลักร้อยหลักพัน แต่ได้ระบบปฏิบัติการซัพพอร์ตในธุรกิจหลักล้าน ทำให้คนรู้สึกว่าเริ่มได้เลย เพราะไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจากนี้จะไปยังไง จะไปไกลแค่ไหน ไม่รู้ว่าหลังโควิดจะมีอะไรที่แย่กว่านี้ไหม ตรงนี้เลกาซีเลยตอบโจทย์

“เลกาซีทำแบบนี้อยู่แล้ว เมื่อเขามองหา เขาก็จะมองเห็น และจะได้ยินมากขึ้น ต้องยอมรับและขอบคุณเทคโนโลยีตอนนี้ด้วย โซเชียลเน็ตเวิร์ก เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม มันทำให้การกระจายเรื่องราวหรือการสื่อสารเร็ว เมื่อก่อนสมัยผมเด็กๆคนอาจจะเชื่อดารา แต่เดี๋ยวนี้พอโลกเปลี่ยน ตอนนี้มันเป็นเรื่องของนาโนอินฟลูเอ็นเซอร์ (เพจหรือบุคคลในโลกออนไลน์ที่มีผู้ติดตามหรือไลค์เพจ ตั้งแต่ 1,000 – 5,000 คน ถึงจะมีไม่มากแต่ก็เข้าถึงคนติดตามได้อย่างทั่วถึง) คนจะเริ่มเชื่อคนใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ตรงนี้เป็นปัจจัยผสม คนมองหาสุขภาพ คนมองหารายได้เพิ่ม และยุคโควิดเราต้องยอมรับว่ากระแสโซเชียลเน็ตเวิร์กแรงขึ้น เพราะคนไม่ได้ไปไหนอยู่แต่ในโซเชียล”

กว่าจะประสบความสำเร็จได้เป็นมนุษย์เงินล้าน ต้องฟันฝ่าอุปสรรคอะไรบ้าง คุณเต้ เผยว่า อุปสรรคแรกคือคนใกล้ตัว ต้องยอมรับว่าโปรไฟล์การศึกษาการงานของคุณอ่ายถือว่าดี อาจเป็นด้วยก่อนหน้านั้นเพื่อนรอบตัวของคุณอ่ายอาจรู้สึกไม่ดี มีภาพติดตาธุรกิจเครือข่ายไม่ดีมากนัก ตอนแรกคุณอ่ายบอกว่าไม่กล้าบอกเพื่อนว่าแฟนทำอะไร เขารู้สึกไม่ภาคภูมิใจในงานที่เราเลือก

นอกจากนี้ยังมีความยากในการเริ่มต้นธุรกิจเครือข่าย คือ การเรียนรู้ เปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะมาก ตอนแรกผมก็ยังสอนพิเศษอยู่ กลายเป็นว่าเวลาที่ให้คุณอ่ายหายไป พอสอนพิเศษเสร็จ เราต้องไปเรียนรู้

พัฒนาตัวเองอีก เพราะฉะนั้นอุปสรรคแรก คือคนใกล้ตัว เพราะเขาไม่เข้าใจ ต้องเคลียร์ตัวเองทุกวัน จริงๆคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้เห็นด้วยมากนัก ความยากในตอนแรก น่าจะเป็นเรื่องการพยายามให้คนใกล้ตัวเข้าใจ ส่วนเรื่องการแนะนำธุรกิจเปลี่ยนความคิดคน เป็นอุปสรรคที่ใครๆก็เจออยู่แล้ว ผมไม่ได้มองว่ามันยาก มันเป็นเงื่อนไขที่เราต้องเจอ

“สำหรับคนๆหนึ่งที่กำลังมองหาอะไรใหม่ๆเพื่อหารายได้เพิ่ม อยากให้คิดว่า เราไม่มีทางได้อะไรใหม่ๆจากการกระทำเดิมๆ เพราะสิ่งที่เราเคยทำ ถ้ามันทำให้เราประสบความสำเร็จ  ชีวิตเราอาจประสบความสำเร็จไปแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ อาจต้องมาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เพราะฉะนั้นในเรื่องแรงบันดาลใจ ผมอยากให้กำลังใจในเรื่องกล้าหาญให้มากพอที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ กล้าหาญให้มากพอที่จะยอมเปิดใจศึกษา เรียนรู้ ฟังในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยฟัง จากนั้นผมคิดว่าทุกคนมีวิจารณญาณมากพอในการตัดสินใจว่าเราจะเลือกทำอะไรหรือไม่ทำอะไร”

            ด้านมุมมองทิศทางของธุรกิจเครือข่ายในอนาคต คุณเต้ มั่นใจว่า ธุรกิจเครือข่ายยังไปได้อีกไกลมาก เพราะการตลาดที่กำลังมาแรงที่สุด คือการตลาดแบบใช้ดีแล้วบอกต่อ เป็นการพูดคุยเพื่อนบอกเพื่อน ใช้อะไรแล้วดี ทำไมสวยขึ้น ทำไมดูดีขึ้น

“เพราะฉะนั้นในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ก ธุรกิจเครือข่ายในมุมของผม อาจกลายเป็นเทรนด์ใหม่ด้วยซ้ำ ถ้าคนเริ่มเข้าใจ คนเริ่มดูเป็น คนเริ่มวิเคราะห์เป็น ผมเชื่อว่าธุรกิจเครือข่ายยังมีพื้นที่อีกเยอะมาก มีคนต้องการโอกาสอีกเยอะมาก”

ขณะที่ภาพลักษณ์ของธุรกิจเครือข่าย คุณเต้ ยืนยันว่า จริงๆแล้วตัวธุรกิจเครือข่ายดีมานานแล้ว แต่ภาพจำไม่ดีในสังคมมันเป็นเรื่องพฤติกรรมของคน มีอยู่2กลุ่ม 1.เข้ามาทำธุรกิจเครือข่าย รู้สึกว่าง่ายๆ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเยอะ ไปขายเพื่อน กดดันเพื่อน คนกลุ่มนี้จะไปสร้างภาพจำให้คนรอบตัวว่า ธุรกิจเครือข่ายต้องไปตื้อคน ไปชวนขาย ชวนซื้อ จนถึงวันนี้ก็ยังมี แต่เชื่อว่าน้อยลงเรื่อยๆ ผมว่าในยุคนี้คนที่จะทำธุรกิจเครือข่ายเริ่มมองออกแล้วว่าใครคือของจริง ใครคือคนสมัครเล่น 2.ตั้งใจทำผิดกฎหมาย แต่ใช้คำว่าธุรกิจเครือข่ายมาเป็นหน้าบ้าน สุดท้ายคนก็หลงเชื่อและเจ็บตัวโดนหลอก เขาก็เลยเป็นภาพฝังใจว่าเครือข่ายหลอกเอาเงิน โกงเงิน แต่จริงๆเขาไม่ใช่เครือข่ายตั้งแต่แรก ผมเชื่อว่าคน2กลุ่มนี้จะเริ่มหายไป ด้วยสื่อมวลชนที่มีความเข้าใจในการสื่อสาร คนจะเริ่มเข้าในมากขึ้นว่าคนทำเครือข่ายจริงๆเป็นแบบนี้ คนทำผิดกฎหมายเป็นแบบนี้

ด้านคุณอ่าย คนที่คอยเคียงข้างคุณเต้ตลอดมา เผยถึงการตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจเครือข่ายกับเลกาซี โดยการชักชวนของคุณเต้ จากคนที่ไม่เห็นด้วย กลับมาเห็นด้วยได้อย่างไร คุณอ่าย เล่าว่า จบจากภาควิชาวิทยาศาสตร์เทคโลยีการอาหาร เอก food science คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกียรตินิยมอันดับ 2 ที่บ้านทำโรงงานแปรรูปอาหารทะเล ทำธุรกิจส่วนตัว การเลือกเรียน food science เพื่อช่วยซัพพอร์ตกิจการที่บ้าน แต่พอเรียนจบอยากทำงานประจำเพื่อให้มีโอกาสเรียนรู้ชีวิต จึงมาทำหน่วยงานการศึกษาของประเทศอเมริกาที่ประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ พอหน่วยงานย้ายฐานกลับมาที่เมืองไทย ตอนนั้นเป็นแฟนกับคุณเต้ ก็เลยได้รับการชักชวนเข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายของเลกาซี

“เหตุผลที่เปลี่ยนจากงานประจำมาทำธุรกิจเครือข่าย น่าจะเป็นเรื่องของผลลัพธ์ที่เรารู้สึกว่าปลายทางของชีวิตการทำงานของเรา กับปลายทางของผลลัพธ์การประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย ค่อนข้างต่างกัน  โดยทั่วไปผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง อยากมีชีวิตครอบครัวที่ดี อยากมีความมั่นคงในชีวิต อยากมีอนาคตที่ดี อยากมีความมั่นใจในการเกษียณตัวเอง เวลาเราแก่แล้วจะมีความมั่นคง มีรายได้มากเพียงพอที่จะดูแลตัวเองและครอบครัว เลยรู้สึกว่าถ้าเรายังคงทำงานประจำ สิ่งที่เราต้องการอาจจะไม่ได้ แต่ถ้าเราลองมาทำธุรกิจเครือข่าย ผลลัพธ์ที่เขาเล่าให้เราฟังตอนนั้น แม้ว่าเรายังไม่เห็น แต่ถ้าได้จริงมันคุ้มค่าที่จะลอง เลยตัดสินใจลองทำเต็มที่ สมมุติว่าสุดท้าย เราไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายจริงๆ เราก็มั่นใจในความสามารถตัวเองว่าจะสามารถหางานที่ดีอื่นที่จะดูแลตัวเองได้

“ในปีแรกเราทำงานประจำคู่ขนานกับธุรกิจเครือข่าย เวลา08.00-17.00 น.ทำงานประจำ จากนั้นใช้เวลากับธุรกิจเครือข่าย เป็นปีที่เหนื่อยที่สุดในชีวิต เพราะเราใหม่กับธุรกิจเครือข่าย และไม่อยากให้เสียชื่อเสียงในงานประจำด้วย เรียกว่าเป็นมนุษย์ 200% ทำทั้ง2อย่างให้ดีที่สุด

พอวันหนึ่งผลลัพธ์ในธุรกิจเครือข่ายมากเพียงพอ สามารถทดแทนรายได้จากงานประจำได้  ไม่น่าเชื่อว่าจริงๆแล้วเราใช้เวลาไม่ถึง8เดือนที่มีรายได้แซงงานประจำขึ้นมา เป็นการตัดสินใจครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุ้มค่าที่สุด”คุณอ่าย กล่าวทิ้งท้าย

‘เลกาซี’ทุ่ม 2 ล้าน จัด Legacy Inspirations 11นักธุรกิจDiamondถ่ายทอดแรงบันดาลใจ ผ่านระบบ Zoom ถึง 3,000 นักธุรกิจเครือข่าย

นับเป็นมิติใหม่ของธุรกิจเครือข่าย ในงาน Legacy Inspirations ที่จัดให้มีการพบปะสื่อสารของนักธุรกิจเลกาซีผ่านหน้าจอระบบ ZOOM ระหว่างนักธุรกิจระดับ  Diamond Director  ขึ้นไป รวม 11 รหัส กับนักธุรกิจเลกาซี กว่า 3,000 คนทั่วประเทศ ผ่านรูปแบบ Virtual Event ที่บ้านริก สตูดิโอ ซอยนวมินทร์ 111 แยก12 เมื่อบ่ายวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา

คุณวรรณ โชติกะวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัทเลกาซี่ คอร์ป จำกัด เผยว่า ในการจัดงาน Legacy Inspirations ครั้งนี้ ลงทุนเกือบ 2,000,000 บาท ใช้เวลาเตรียมงานกว่า1เดือน  ใช้คนกว่า 100 คน ผมเชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้คุ้มค่ามากๆ เฉพาะการสร้างแรงบันดาลใจในวันนี้ ก็คุ้มมากแล้ว มันตอบโจทย์ที่เราต้องการ

“งาน  Legacy Inspirations เป็นเวทีสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักธุรกิจของเลกาซีหรือคนทั่วไป ให้เห็นแนวคิดของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของเรา ช่วงที่ผ่านมาเรามีผู้ประสบความสำเร็จระดับDiamond  คือ ผู้ประสบความสำเร็จระดับสูง ถึง 11 รหัส  ซึ่งไม่เคยมีแบบนี้มาก่อนตั้งแต่เราเปิดบริษัทมา ถือว่าเป็นปรากฏการณ์พิเศษ และทุกรหัสได้มาเล่าถึงแรงบันดาลใจ การสร้างแรงบันดาลใจต่างๆ  ตรงนี้เป็นอะไรที่พิเศษมากๆ เราอยากถ่ายทอดหรือส่งต่อแรงบันดาลใจที่ทุกท่านมีให้กับสังคม

“ในการจัดงานผ่านระบบ ZOOM 3,000 คนเป็นครั้งแรก ผมยังไม่เคยเห็นบริษัทอื่นจัดแบบ 3,000 คน อาจไม่ได้มาก แต่ผมว่าเป็นปรากฏการณ์ของโลกที่ไม่เคยมีธุรกิจเครือข่ายจัดแบบนี้ และ ZOOMเฉยๆ มันก็อาจธรรมดาไป มันจะมีการใช้เทคโนโลยี ที่ทันสมัยที่สุดมาใช้ในงานนี้ด้วย เป็น AR (Augmented Reality คือ เทคโนโลยีที่นำภาพเสมือน ที่เป็นรูปแบบ 3 มิติ จำลองเข้าสู่โลกจริงผ่านกล้องและการประมวลผลที่จะนำวัตถุมาทับซ้อนเข้าเป็นภาพเดียวกัน) ทุกคนจะได้เห็นว่าในขณะที่เราถ่าย มันจะไม่ได้เห็นเหมือนตาเราเห็น มันจะมีแอนนิเมชั่น มี AR เข้ามาประกอบด้วย เป็นอีกเลเยอร์หนึ่ง จะดูสนุกสนานและอลังการ”คุณวรรณเผย

นอกจากนี้ คุณวรรณ เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจเลกาซีในยุค New Normal ด้วยว่า “ผมคิดว่าช่วงโควิดทำให้คนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพมากขึ้นเป็นอย่างมาก และเลกาซีตั้งแต่เปิดบริษัทมา เราให้ความสำคัญกับคุณภาพการผลิตสินค้าตั้งแต่กระบวนการนำเข้าสารจากต่างประเทศ ไปจนถึงการเลือกโรงงาน และการคัดเลือกวัตถุดิบต่างๆ การสกรีนโรงงานทุกขั้นตอน รวมทั้งการ reject สินค้าถ้าเผื่อไม่ได้มาตรฐานด้วย อันนี้เราซีเรียสมากๆ จึงทำให้เรามั่นใจในคุณภาพสินค้าฃ ว่าเรามีสินค้าที่มีคุณภาพดีมากๆส่งถึงมือผู้บริโภคอย่างดีที่สุด

“พอเกิดภาวะวิกฤตเราเหมือนกับนักธุรกิจที่เขามีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของเรามากๆ เวลามันมีความต้องการของตลาดจึงมีความมั่นใจที่จะออกไปพูดกับตลาดได้อย่างเต็มที่ พอมีโควิดทำให้เราได้รับผลกระทบเชิงบวกมากๆ เราเติบโตอย่างไม่เคยมีมาก่อน ถือว่าเป็นโชคดีของเลกาซี

“รวมถึงอาจเป็นเพราะว่าการทำการตลาดของเราเปลี่ยนไป พอเกิดโควิดคนมาประชุมกันไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็ทำออนไลน์ เราก็ได้กลุ่มคนใหม่ๆมา ต้องบอกว่าเราได้สมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 84 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเยอะมาก และเป็นสมาชิกที่อยากจะมาร่วมธุรกิจด้วย เพราะเนื่องจากช่วงโควิดคนเล็งเห็นว่าสินค้าสำคัญและการทำอะไรเพิ่มก็สำคัญ เขาอยากมีรายได้เพิ่มขึ้น อันนี้เลกาซีจึงตอบโจทย์ได้”คุณวรรณเผย

วรรณ โชติกะวรรณ

ถามถึงการสร้างความน่าเชื่อถือที่ปรับจากออฟไลน์มาเป็นออนไลน์แตกต่างกันอย่างไร คุณวรรณ บอกว่า จริงๆแล้วออนไลน์กับออฟไลน์ตอบคนละโจทย์ ออฟไลน์มันมีความจำเป็นและสำคัญต่อการสร้างสายสัมพันธ์ ซึ่งถ้าพูดถึงสายสัมพันธ์ไม่มีอะไรดีกว่าออฟไลน์ที่เราเจอหน้ากัน จับมือกัน แต่ถ้าพูดถึงการสื่อสาร การสร้างแรงบันดาลใจ หรือการถ่ายทอดความรู้ อันนี้ออนไลน์จะดีกว่า มันเป็นโอกาสที่เราจะได้ใช้ 2 ช่องทางให้เหมาะสม โดยธุรกิจของเรายังเป็นออฟไลน์อยู่เยอะกว่า แต่เราใช้ออนไลน์ในการสื่อสาร

ส่วนแผนงานของธุรกิจเครือข่ายเลกาซีในอนาคต คุณวรรณ แง้มว่า ในปี2564 ซึ่งเข้าสู่ปีที่7ของเลกาซี จะมีเซอร์ไพรส์อีกเยอะเลย ขณะที่ในปลายปี 2563 จะได้เห็นอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยเห็นในอุตสาหกรรมเครือข่ายโลกออกมาเรื่อยๆ พอโลกเปลี่ยน เราเชื่อว่าธุรกิจมันจะเปลี่ยนไปข้างหน้า เลกาซีวางแผนไว้ข้างหน้าอีกหลายปี อยากให้ติดตามกันมากกว่า ว่าเราจะมีอะไรที่น่าตื่นเต้น ผมเชื่อว่าถ้าโควิดยังมีต่อไป การจัดงานลักษณะนี้จะทำให้ดีขึ้นด้วย

นอกจากนี้ คุณวรรณ ยังเผยถึงเทรนด์ธุรกิจเครือข่ายในอนาคตด้วยว่า ธุรกิจสุขภาพจะมีความสำคัญมากขึ้น พอยิ่งเกิดโควิด ยิ่งตอบโจทย์ให้คนตระหนักและเห็นความสำคัญของธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพ และคนตระหนักด้วยว่าต้องมีอะไรทำเพิ่มมากขึ้น คนจะมีอาชีพมากขึ้น และมีอะไรทำเสริมเป็นสิ่งที่สำคัญขึ้น คนจะมองเห็นตรงนี้มากขึ้น ผมเชื่อว่านี่คืออนาคตต่อไป

จากซ้าย ปานรดา จารุกุลวนิช ,ปริญ จารุกุลวนิช , ชีวาวัชญ์ จรัสนิรัติศัย

ด้านมุมมองของนักธุรกิจเลกาซีระดับผู้นำ ที่ประสบความสำเร็จจนขึ้นชั้น Black Diamond Director

คุณปริญ-คุณปานรดา จารุกุลวนิช นักธุรกิจระดับ Black Diamond Director ของเลกาซี โดยคุณปริญ เผยว่า มาทำธุรกิจกับเลกาซีเพราะอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง มองธุรกิจเลกาซี มีความมั่นคง สินค้าดี ทำให้การทำธุรกิจเป็นไปได้ จากเดิมเคยมองธุรกิจเครือข่ายเป็นลบ แต่พอลองศึกษา ผมอยากสุขภาพดี เพราะแต่ก่อนผมอ้วน ก็มาเห็นว่าธุรกิจเลกาซีมีความน่าเชื่อถือเพราะสินค้าดี ธุรกิจเป็นไปได้ มองว่าแต่ก่อนคนไม่ได้เกลียดธุรกิจเครือข่าย แต่เกลียดพฤติกรรมคนทำ แต่เลกาซีไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น มีความน่าเชื่อถือ จริงๆมันอยู่ที่แบรนด์ดิ้งของคน ยุคปัจจุบันคือการให้ข้อมูล เพราะโลกแคบลง เสิร์ชกูเกิลได้ พอเขารู้สึกว่ามันเป็นไปได้ เขาก็อยากทำกับเรา

ส่วนกฎที่ทำให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย คุณปริญ เผยว่า มี2ข้อ 1.Positive thinking การคิดบวก อันนี้สำคัญมากๆ เพราะจริงๆแล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้นมองได้ 2 แง่ ว่า เราจะมองแง่ลบหรือแง่บวก ถ้าเรามองในแง่บวกเสมอๆ มันทำให้เราไปต่อง่าย 2.Can do Attitude เราสามารถทำเรื่องนั้นได้ ต่อให้มันยาก หรือว่าเป็นไปไม่ได้ หรือไม่มีใครทำ ถ้าเราคิดว่ามันได้ เราก็พยายามจะหาทางไป สองสิ่งนี้มันจะทำให้เราไปได้เรื่อยๆ

เมื่อมาถึงช่วงวิกฤตโควิด คุณปริญ เผยถึงการปรับตัวของธุรกิจเครือข่ายเลกาซี ว่า แต่ก่อนเราทำเป็นแบบออฟไลน์ ตอนนี้ปรับตัวเป็นแบบออนไลน์ เรามีคลาสเพิ่มขึ้นเยอะมาก

“ผมมองว่าหลายๆคนมองหาโอกาสอยู่ และตลาดสุขภาพก็บูม เลยทำให้การทำธุรกิจเป็นไปได้ง่าย และมีการเติบโตมากขึ้น แต่ก่อนเราเรียนแบบออฟไลน์ แต่พอมีโควิดเราก็เปลี่ยนรูปแบบเป็นออนไลน์100เปอร์เซ็นต์ มันทำให้เข้าถึงง่าย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเดินทาง เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น จริงๆแล้วผมมองว่าทุกคนต้องปรับตัวหมด คือสังคมทำให้ต้องเป็นแบบนี้ มันก็เลยปรับตัวไม่ยาก

“ในการจัดงาน Legacy Inspirations เป็นแบบ Virtual ZOOM ในครั้งนี้ ผมตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นกว่าขึ้นเวทีปกติ เพราะปกติเวลาเราพูดต่อหน้าคนไม่ได้พูดยาก แต่ครั้งนี้เราพูดกับกล้อง พูดกับการเห็นหน้าคนบนZOOM เราก็ต้องปรับเทคนิคการพูด ผมว่าคนดูเขาก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะวิธีการพูดหรือการสื่อสารทำให้เขาได้เรียนรู้”คุณปริญ เผย

นอกจากนี้ คุณปริญ เผยถึงความแตกต่างในการสร้างความน่าเชื่อถือระหว่างระบบออนไลน์กับออฟไลน์ ว่า  ออนไลน์ก็มีข้อดี และออฟไลน์ก็มีข้อดี ระบบออนไลน์อาจเข้าทางหลายคน บางทีติดเรื่องระยะทาง ไม่มีเวลาเรียนรู้ แต่พอเป็นเรื่องออนไลน์กลับมาเรียนรู้ซ้ำได้ มีข้อดีมากๆเลย ในการปรับตัวเข้าสู่ระบบออนไลน์ แรกๆเราอาจจะกังวลเพราะเราไม่ชิน แต่พอเราทำจริงๆแล้วเขากลับชอบมากขึ้น เราต้องคิดว่าคนหนึ่งคนเขาต้องการข้อมูลที่เร็ว และพอมีเรื่องของออนไลน์ เรียนรู้หรือคุยกันตอนไหนก็ได้ มันตอบโจทย์คนที่เขาต้องการง่ายขึ้น เร็วขึ้น และตรงใจมากขึ้น

ด้านคุณปานรดา รหัสคู่และคู่ชีวิตของคุณปริญ กล่าวเสริมว่า วิกฤตโควิดมีผลกระทบในแง่ดีกับเลกาซี จากที่ทุกคนตระหนักเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว ทำให้ตระหนักมากขึ้น ทุกอย่างทำให้เรา คนรอบตัว สิ่งแวดล้อม ทุกคนกลับมาดูแลตัวเอง กลายเป็นว่าได้รับผลเป็นบวก ยอดขายของเลกาซีถือว่าทำตลาดได้ดีทุก Category รวมทั้งทุกคนกลับมาตระหนักมากขึ้นว่าต้องมีรายได้มากกว่าทางเดียว เพราะรายได้ที่มีอยู่อาจไม่มั่นคง อาชีพที่คิดว่าดีอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

มาถึง คุณชีวาวัชญ์ จรัสนิรัติศัย อีก1นักธุรกิจเครือข่ายเลกาซี ระดับ Black Diamond Director ซึ่งเจ้าตัวบอกว่ารู้สึกตื่นเต้นกับการ บอกเล่าแรงบันดาลใจ ผ่านระบบZOOM ให้กับนักธุรกิจเลกาซี 3,000 คนฟัง

“ในวันนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นคนละแบบกับการประชุมออฟไลน์ เพราะในการประชุมออฟไลน์คนที่ฟังเราก็คือคนที่เราเห็นอยู่ในห้องตรงนั้น แต่พอเปลี่ยนเป็นออนไลน์ทำให้คนเข้าใจธุรกิจเครือข่ายมากขึ้น จริงๆช่วงโควิด ทุกคนต้องปรับตัว ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจเลกาซี ทำให้เกิดการติดต่อสื่อสารทางออนไลน์มากขึ้น ถือว่าเป็นข้อดีของธุรกิจเลกาซีมาก ที่ทำให้เราสามารถสื่อสาร ให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนได้ทั่วประเทศ

“ในอนาคตถ้าโควิดหมดไป ผมคิดว่าเราน่าจะผสมผสาน ระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเราเห็นข้อดีของการจัดแบบออนไลน์แล้วว่าได้ในเรื่องระยะทาง การใกล้ชิดมากขึ้นเราจัดได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ตรงนี้เราจะคงรูปแบบของการประชุมที่ต้องการสื่อสารในภาพรวมไว้ แต่ถ้าเป็นเรื่องขององค์ความรู้ต่างๆที่เฉพาะเจาะจงลงไป เราอาจมีการจัดแบบออฟไลน์ในบางครั้ง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งมิติใหม่ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าหลังจากวิกฤตโควิด เลกาซีจะเป็นบริษัทที่เข้มแข็งมากๆ เพราะสามารถประยุกต์ระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว”คุณชีวาวัชญ์ เผย

นอกจากนี้ คุณชีวาวัชญ์ เผยถึงกฎที่เขายึดมาตลอดในการทำธุรกิจเครือข่าย จนประสบความสำเร็จในวันนี้ ว่า 1.ไม่ว่าเราจะทำอาชีพอะไรเราต้องเจอปัญหา เพราะฉะนั้นอยากให้เราอยู่กับปัญหาด้วยความเข้าใจ ถ้าเราเข้าใจเราจะหาทางแก้ได้ 2.ห้ามหยุดเรียนรู้ เราไม่สามารถหยุดการเรียนรู้ได้เลย ต้องบอกว่าหลักสูตรการทำธุรกิจเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จมันไม่มีสอนในระดับมหาวิทยาลัย ทุกคนเริ่มต้นนับ1ใหม่พร้อมกันหมด เพราะฉะนั้นการที่คน1คนจะไปได้ไกล บริษัทเป็นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งคือความกระวีกระวาดของคนในการที่จะรักการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง วันนี้การที่ใครจะไปได้ไกลกว่ากันมันขึ้นอยู่กับว่าตัวเขาเป็นนักเรียนที่ดีมากน้อยขนาดไหน ถ้าเรียนรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด เขาสามารถประสบความสำเร็จ แสดงว่าเข้าใจปัญหากับการเรียนรู้

“หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจตรงนี้ สำหรับผมคือเรื่องของแรงบันดาลใจ ถ้าเรามีแรงบันดาลใจ เราต้องตอบให้ได้ว่าเราทำเพื่ออะไร ถ้าเราไม่มีเป้าหมาย สิ่งที่เกิดขึ้นมันจะทำไปเรื่อยๆ ที่เสียไปคือเวลา ต้องบอกว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีค่า ถ้าเราทำโดยที่ไม่มีเป้าหมาย หรือแรงบันดาลใจ เราจะเสียเวลาฟรีๆ”คุณชีวาวัชญ์ กล่าวทิ้งท้าย

(จากซ้าย) ชีวาวัชย์ จรัสนิรัติศัย , คุณธรรม เสงี่ยมเนตร , รินทร์จิรา รัตนพันธวีร์ , ภก.สุวิทชัย แซ่ตั้ง

“ช่วงที่มีวิกฤตโควิด ยอดธุรกิจโตเกือบ 100%

เสียงประสานจาก 3 รหัสนักขายมือทอง LEGACY(เลกาซี) ธุรกิจเครือข่าย ที่ทำสถิติยอดขายหลักล้านในเดือนเดียวกัน ที่น่าสนใจคือแต่ละคนโปรไฟล์หน้าที่การงานจัดว่าไม่ธรรมดา แต่ยอมโบกมือลางานประจำที่ใครๆก็ว่ามั่นคง มาทำธุรกิจเครือข่ายกับเลกาซี ที่พวกเขาเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จ และมั่นคงมากกว่า ซึ่งในที่สุดพวกเขาก็ทำได้

ชีวาวัชญ์ จรัสนิรัติศัย หนุ่มอดีตนักข่าวสายการเมือง หนึ่งในมนุษย์เงินล้านของเลกาซี เผยว่า ทำงานเป็นนักข่าวสายการเมืองนาน 8 ปี จริงๆแล้วไม่คิดเลยว่าจะออกจากสายข่าวและมาทำธุรกิจเครือข่าย แต่อาจเป็นด้วยจังหวะของชีวิตที่เรารู้สึกว่าอยากหาอะไรทำเพิ่ม เพราะทุกวันที่เรากลับไปที่บ้าน เราเห็นพ่อกับแม่อายุมากขึ้น มีโรคคนแก่ ความดัน ปวดหัว ปวดหัวเข่า ก็เลยมาเริ่มคิดว่าเมื่อไหร่ที่เราจะให้พ่อแม่เราหยุดทำงาน เลยมองหาอะไรทำ จนกระทั่งมีพี่คนหนึ่งชวนทำธุรกิจเครือข่าย ทำควบคู่กับอาชีพผู้สื่อข่าวประมาณปีกว่าๆ ตอนนั้นมีเงินเดือนจากการเป็นผู้สื่อข่าวประมาณ 15,000 บาท เราทำธุรกิจเครือข่ายประมาณปีกว่า รายได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 60,000 บาทต่อเดือน ก็เลยคิดมาทำธุรกิจเครือข่ายเต็มเวลา

“ขนาดเราใช้เวลาหลังเลิกงานทำธุรกิจเครือข่าย ยังมีรายได้ประมาณนี้เลย ประกอบกับมีทีมงานเยอะมาก บางครั้งตอนกลางวันมีงานโทรมา แต่เรายังสัมภาษณ์นักการเมืองอยู่ หรืออยู่ในห้องประชุมรัฐสภา ไม่สะดวกรับโทรศัพท์ เลยปรึกษาพ่อว่าจะลาออก ตอนแรกพ่อทัดทานเกรงว่าจะไม่มั่นคง แต่เราก็คุยกับพ่อว่าเรามุ่งมั่นที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ เลยมาทำตรงนี้ ตอนนี้อยู่เลกาซี่มา 5 ปีกว่าตั้งแต่เริ่มเปิดใหม่ๆ

“จากเดิมเราไม่คิดว่าจะมาทำธุรกิจเครือข่าย แต่คิดว่าอาชีพนี้มีอนาคต เราก็มาดูว่าต้องใช้ทักษะอะไรถึงประสบความสำเร็จ ตอนแรกเราได้เงิน สักพักทีมงานเราได้เงินด้วย ทีมงานหลายคนเริ่มให้เงินพ่อแม่ได้ เราเริ่มรู้สึกว่าอาชีพนี้เป็นประโยชน์กับคนอื่นได้นะ”

ชีวาวัชญ์ จรัสนิรัติศัย

ชีวาวัชญ์ เผยถึงเคล็ดลับการได้เป็นมนุษย์เงินล้านของเลกาซี ว่า ต้องพัฒนาตัวเองเพื่อดูแลคนอื่นให้ประสบความสำเร็จ มีทัศนคติเชิงบวก เป็นคนดี และเป็นแบบอย่างให้คนในทีม นอกจากนี้ธุรกิจเครือข่ายจะไปได้ไกลแค่ไหนอยู่ที่หลายปัจจัย โค้ชที่ดูแลเป็นใคร มีการพัฒนาตัวเองแค่ไหน ผมโชคดีที่มีโค้ชดี และผมไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง

เมื่อถามว่าวิกฤตโควิดทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบไหม ชีวาวัชญ์ บอกว่า ได้รับผลกระทบในเชิงบวก ทุกคนอยู่บ้าน เราขายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้าน ขายวิตามินที่ทุกคนใช้ เวลาเขาออกไปนอกบ้านไม่ได้ เขาก็ต้องการโปรตีนที่มีคุณภาพ เวลาเขาไปซื้อผักผลไม้ไม่ได้ เขาก็ต้องการวิตามินและแร่ธาตุ ก็เลยทำให้เราได้รับผลกระทบเชิงบวก

“ธุรกิจของเราคือการสอนคน เพื่อให้มีความรู้ในการทำอาชีพนี้ แต่เมื่อเรามานั่งประชุมกันไม่ได้ มันเลยทำให้เรามีสกิลในเรื่องการใช้เครื่องมือออนไลน์ในการประชุม กลายเป็นว่ามีคนเข้าประชุมมากขึ้น จากเดิมประมาณ 200 คน เพิ่มเป็น 2,000-3,000 คน กลายเป็นว่าคนที่อยู่เหนือสุดใต้สุดสามารถเข้าใจธุรกิจ เลยทำให้ยอดธุรกิจช่วงที่ผ่านมา 4 เดือน เติบโตอย่างถล่มทลาย เช่นเดียวกับของผมเติบโตเกือบ100% ชีวาวัชญ์ เผย

มาถึงอดีตวิศวกรหนุ่ม คุณธรรม เสงี่ยมเนตร มนุษย์เงินล้านเลกาซีอีกคน ที่ยอมปล่อยมือจากงานประจำในบริษัทรถยนต์ มาทำธุรกิจเครือข่ายกับเลกาซี บอกเล่าจุดที่ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนได้อย่างน่าสนใจ ว่า ผมคิดว่าสำคัญที่สุดคือการมีชีวิตที่ดี เราตัดสินใจว่า วันหนึ่งเราต้องการรายได้มากกว่าเดิม  คำถามคือ ถ้าผมเป็นวิศวกร ตอนนั้นรายได้เราเกือบ 50,000 บาท เป็นกำแพงที่สูง แต่เราไม่ได้คิดแค่นั้น เขาบอกว่าจงคิดให้ไกลกว่าตัวเอง ผมคิดว่าแล้วถ้าเราอยากมีรายได้หลักแสนล่ะ เราเห็นรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน กว่าจะมีรายได้หลักแสนก็ต้องอายุ40ปีขึ้นไป

“แต่เรารอไม่ไหว เรามาบวกลบคูณหารกับอายุพ่อแม่เราแล้ว กว่าจะถึงวันนั้น ผมว่าพ่อแม่เราไปก่อน  เพราะฉะนั้นเงินเดือนที่เราได้ เราอาจจะแค่สร้างความมั่นใจ ไม่ใช่ความมั่นคงแท้จริง เงินในกระเป๋าต่างหากที่สร้างความมั่นคง ผมจึงตั้งเป้าหมายว่า ถ้างานนี้มันเวิร์กจริง มีรายได้เพิ่มขึ้น 2 เท่า ผมตัดสินใจลาออกเลย ตอนนั้นถามว่ามันสำเร็จชัวร์ไหม มันไม่ชัวร์ แต่บางทีชีวิตมันเหมือนเรือ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้จอดอยู่ที่ท่า เพราะฉะนั้นเราต้องกล้า มันต้องทำจนพร้อมก่อน ช่วงแรกทำงานประจำกับธุรกิจเครือข่ายควบคู่กัน แต่วันที่เรามีรายได้มากกว่าเดิม เราก็รู้สึกได้ว่าเราเสี่ยงได้ละ เราก็ตัดสินใจออกมา ในวันที่มีรายได้ประมาณเดือนละ 100,000 บาท”อดีตวิศวกรเผย

เมื่อถามถึงธุรกิจเครือข่ายมักถูกมองในภาพลบ คุณธรรม บอกว่า ธุรกิจเครือข่ายคือผ้าขี้ริ้วห่อทอง ผมจะเอาทองออกมาให้ได้ อธิบายให้คนอื่นเข้าใจ ด้วยเนื้อของแผนการตลาด มันเป็นเรื่องของการสร้างแฟรนไชส์ เราตัดสินสิ่งนั้นด้วยผลลัพธ์ก่อนว่าเนื้อของงานคืออะไร เราจะดูที่ผลลัพธ์หรือดูที่ภาพลักษณ์ก่อน ถ้าเกิดว่าอยากยกเก้าอี้100ตัว มีคน1คน ใช้เวลาประมาณ 100 นาที แต่สมมุติว่าผมอยากจะยกเก้าอี้ 100 ตัว ผมมีคน 100 คน ผมใช้เวลาแค่ 1 นาที นี่คือความลับที่โลกยุคปัจจุบันคนส่วนใหญ่ไม่ทราบ แต่คนรวยเท่านั้นที่จะรู้ คือใช้พลังเครือข่ายในการสร้างความสำเร็จ

“เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถเดินข้ามผ่านคนจำนวนมากที่ไม่เข้าใจได้ และเปลี่ยนให้เขาเข้าใจได้ นี่คืองานนี้ แต่เป็นงานที่มีมูลค่ามาก งานบางงานเราขยันเต็มที่เลย บางงานในกรอบความคิดเดิมๆ เราอาจจะได้หลักหมื่น แต่ถ้าเราเปลี่ยนความคิดใหม่ มานั่งฝั่งตรงข้าม มองเห็นเลข 6กับมองเห็นเลข9 คนมองคนละมุมเท่านั้นเอง หน้าที่ของเราคือการไปนั่งฝั่งเขาและอธิบายให้เข้าใจว่าธุรกิจเครือข่ายคือช่องทางจำหน่าย ที่วันนี้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ได้ ดังนั้นสิ่งที่มันไม่ชอบ มันก็ไม่มี พอเขาเห็นมุมนี้ ธุรกิจนี้เปิดกว้างให้กับทุกคน นี่คือโอกาสสำหรับคนมากมาย” คุณธรรมกล่าว และว่า

ธุรกิจนี้มั่นคงมาก ถ้าเรามีเสาหลายต้น โครงสร้างนี้จะมั่นคงและแข็งแรง หน้าที่ของผมคือการดูแลให้ผู้บริโภคมีการซื้อซ้ำ สินค้าดี บริษัทดี เราดูแลลูกค้าดี ระบบในการดูแลลูกค้าดี แน่นอนเขาจะซื้อซ้ำ ต่อมาคือนักธุรกิจที่เขาใช้สินค้าและยังคงดูแลผู้บริโภคของเขา และเขายังมีรายได้ ก็ยิ่งทำให้มั่นคงขึ้นไปอีก ถามว่าจะดูแลยังไงให้มั่นคง ก็ต้องมีผู้นำซึ่งถูกสร้างด้วยระบบ คือจุดแข็ง ระบบของเราคือ S55

ถามถึงการเติบโตของธุรกิจเครือข่ายในช่วงวิกฤตโควิด คุณธรรม บอกว่า สำหรับผมในทุกวิกฤตมีโอกาส เศรษฐกิจยุคปัจจุบันธุรกิจอะไรที่เติบโตได้ มันคือธุรกิจที่แก้ปัญหาให้กับคนจำนวนมาก ไลน์แมน แกรป แอปเปิ้ล เพราะคนกำลังปรับตัว ดังนั้นธุรกิจเลกาซีคือธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาให้ทุกคนได้มากกว่าเดิมหรือเปล่า ในงานศพยังมีคนขายพวงหรีดเลย

คำถามคือเราเห็นอะไรจากตรงนั้น ถ้าเรายังมีความสามารถในการตกปลา ปลาแค่เปลี่ยนที่ว่าย หน้าที่ของเราคือ ใช้ความสามารถเดิมไปเปลี่ยนน่านน้ำในการจับปลา เลกาซีมีความยืดหยุ่นสูงมาก ต้องบอกว่าโครงสร้างของธุรกิจเลกาซี เป็นโครงสร้างที่มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ พอเราเปลี่ยนจากสิ่งที่เราทำเดิมๆ เชื่อไหมว่า ในช่วงที่ผ่านมา เราทำแบบออฟไลน์ประมาณ 90% ไม่เคยทำออนไลน์เลย แต่พอเกิดวิกฤตโควิด เมื่อเราตั้งรับแน่น เรารู้วิธีการแก้ปัญหา เข้าสู่ออนไลน์แบบ100% กลับกลายเป็นว่าธุรกิจ Reborn เกี่ยวกับสุขภาพ ธุรกิจความงาม ธุรกิจดีลิเวอรี่ ถูกมัดรวมกันมาทำแบบออนไลน์ จึงทำให้ทุกๆคนสามารถหาเงินเพิ่มได้หลังหน้าจอโทรศัพท์ และสุขภาพดีได้หลังหน้าจอคอมพิวเตอร์

คุณธรรม เสงี่ยมเนตร

“ช่วงวิกฤตโควิด 2-3 เดือนที่ผ่านมา มียอดเพิ่มขึ้น เฉพาะยอดธุรกิจที่ผมดูแลก่อนที่จะเจอวิกฤตโควิดประมาณ 25 ล้านบาทต่อเดือน พอเจอโควิดยอดเป็น 47 ล้านบาทต่อเดือน โตเกือบ100%ในส่วนของยอดสมัครสมาชิก ที่ผ่านมามียอดสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 1,500 คน ส่วนช่วงโควิดมียอดสมัครสมาชิกเพิ่มเดือนละเกือบ 3,000 คน คือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เอาง่ายๆเราไม่ได้มีแค่ยอดขายอย่างเดียว เรามียอดสมัคร คือมีคน2กลุ่ม 1.กลุ่มคนที่เห็นคุณค่าของการใช้สินค้า และ2.กลุ่มคนที่เจอวิกฤตและอยากหาอะไรทำเพิ่ม คน2กลุ่มนี้เพิ่มเข้ามาอย่างมีนัยยะสำคัญ เพิ่มประมาณ 100%

ส่วนมุมมองธุรกิจเครือข่ายในอนาคต คุณธรรม บอกว่า มีความท้าทายสูงมาก มันเหมือนกับพวกเราค้นพบสูตร เหมือนกับเรากดสูตรติด เราค้นพบว่า ถ้าตราบใดที่ยังมีความต้องการและบริษัทเรายังมีความยืดหยุ่น เรามีระบบในการดูแลคน เรามีการสอนงานที่ง่ายและสามารถเข้าถึงทุกคนได้ เป็น3สิ่งผนวกกัน ที่เราน่าจะสร้างยอดได้ในปีนี้ ธุรกิจเครือข่ายในปัจจุบันควรมียอดรวมประมาณแสนล้าน แต่เลกาซีหมุดแรกคือ3พันล้าน เพราะฉะนั้นในแง่ของส่วนแบ่งทางการตลาดยังไปได้อีกเป็น 10-20 เท่า ผมเป็นมนุษย์เงินล้านจากการสร้างทีมแค่ 10 จังหวัด หมายความว่ายังทำได้อีกไกลมาก และยิ่งปัจจุบันมันคือการผนวกรวมกับออนไลน์ตลาดยิ่งกว้างมากๆ

“วันนี้มันอยู่ในโลกที่ปลาเร็วกินปลาช้า และปลาเก่งคือปลาที่สามารถปรับตัวได้ไวในน้ำที่อุณหภูมิเปลี่ยน เพราะฉะนั้นผมมั่นใจว่า New Normal สำหรับเลกาซี่ คือยุคทศวรรษใหม่ของธุรกิจเครือข่ายด้วย” คุณธรรม กล่าวทิ้งท้าย

รินทร์จิรา รัตนพันธวีร์ กับ ภก.สุวิทชัย แซ่ตั้ง

มาถึงรหัสที่สามมนุษย์เงินล้านของเลกาซี่ในเดือนนี้ เป็นการผนึกกำลังของสองสามีภรรยา ภก.สุวิทชัย แซ่ตั้ง อดีตผู้จัดการโรงงานผลิตยา และ รินทร์จิรา รัตนพันธวีร์ อดีตพยาบาลวิชาชีพ 

คุณรินทร์จิรา เล่าว่า จบพยาบาลศาสตร์จากมหิดล ทำงานประจำอยู่แผนกไอซียูในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง 2 ปี อยากก้าวหน้าก็ตัดสินใจไปเรียนวิสัญญีต่อ ตอนนั้นเราขยันมากทำงานหลายโรงพยาบาลติดต่อกัน มีรายได้เดือนหนึ่ง 40,000 บาท เราอยู่ในวงการโรงพยาบาลประมาณ 10 ปี รู้สึกว่าสุขภาพแย่ ไม่มีเวลาพักผ่อน เริ่มป่วย บางวันทำงานแทบ24ชม. จากนั้นก็หาอาหารเสริมกินและได้ผล เราเลยเริ่มเปิดใจเข้ามาเรียนรู้ธุรกิจเครือข่าย ทำควบคู่กับงานประจำใช้เวลาประมาณ 2 ปี ก็มีรายได้หลักแสน ตอนที่ตัดสินใจลาออกมีรายได้เดือนละประมาณ 50,000 บาท พอลาออก2เดือน ก็มีรายได้หลักแสนต่อเดือน

ด้าน ภก.สุวิทชัย ซึ่งมีอาชีพการงานดี ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิตและฝ่ายควบคุมคุณภาพ โรงงานผลิตยา3แห่ง แต่สุดท้ายหันมาเลือกธุรกิจเครือข่าย เผยถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้มาจาก2เหตุผล คือ 1. รายได้ต้องมากพอที่จะรับผิดชอบและมีความมั่นคง สามารถดูแลพ่อแม่ ครอบครัว และลูกได้ ต้องคำนึงถึงความมั่นคงในระยะยาว ซึ่งวิชาชีพเภสัชกรไม่มีกำลังพอ และ 2.อยากสร้างรายได้ ควบคู่กับการสร้างคุณค่า เดิมทีเหตุผลที่อยากเป็นเภสัชกร เพราะมีเป้าหมายว่าเรียนจบจะใช้ความรู้และความสามารถที่มีผลิตยาคุณภาพเพื่อรักษาโรคให้กับผู้ป่วย แต่หลายครั้งขณะทำงานในโรงงานผลิตยา ทางโรงงานกลับให้ความสำคัญคำว่ากำไรมากกว่าคุณภาพ ในทางกลับกันการสร้างรายได้ควบคู่กับการสร้างคุณค่า กลับเกิดจากการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งและลงมือทำในธุรกิจเลกาซี

อีกองค์ประกอบสำคัญที่สุดที่ทำให้ผมเลือกเลกาซี คือ คุณวรรณ โชติกะวรรณ ผู้ก่อตั้ง เลกาซี เพราะทิศทางของบริษัทเป็นผลลัพธ์จาก mindset ของผู้ก่อตั้งบริษัท ทั้งวิสัยทัศน์ พันธกิจ และพันธสัญญา ที่จากนามธรรม ก่อเกิดเป็นรูปธรรมที่เกิดขึ้นจริง เห็นเป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆตามการเติบโตของบริษัททำให้เชื่อมั่นได้ว่าเลกาซีจะเป็นธุรกิจที่มีการจ่ายผลตอบแทนที่ยุติธรรม มีสินค้าเป็นมาตรฐานสูงระดับ 3Hi มีจรรยาบรรณที่เข้มแข็งและเป็นธุรกิจ100ปีอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ช่วงวิกฤตโควิดทำให้เห็นว่าธุรกิจเครือข่ายเติบโตอย่างรวดเร็ว และน่าจะทะลุยอดนิวฮาย ในส่วนของผมปกติมียอดธุรกิจที่ดูแล 30 กว่าล้านบาท พอมีวิกฤตโควิดทำให้มียอดธุรกิจเพิ่มขึ้นมาเป็น 40 กว่าล้านบาท

เลกาซี จึงเป็นธุรกิจเครือข่ายที่น่าสนใจ ทั้งในเรื่องการเติบโต และการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในยุควิกฤตโควิด

วันที่ 2 ธันวาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เลกาซี่ คอร์ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงที่กำลังมาแรงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ได้เปิดตัวช็อปขายสินค้า “มายมาร์ท” (My Mart) แห่งแรก ที่แจส เออร์เบิร์น ศรีนครินทร์

นายวรรณ โชติกะวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลกาซี่ คอร์ป จำกัด กล่าวว่า การเปิดช็อปมายมาร์ทนี้มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินค้าของเลกาซีแก่ประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่นักธุรกิจของเลกาซี ซึ่งเป็นธุรกิจขายตรงมีสินค้าที่สามารถมั่นใจในคุณภาพได้หลากหลายประเภท ทั้งในกลุ่มสกินแคร์ หรือที่โดดเด่นคือสินค้าในกลุ่มดูแลรูปร่างที่เรียกว่ากลุ่มรีบอร์น รวมทั้งสินค้าแบรนด์อื่นที่เลกาซีเป็นพันธมิตร โดยลูกค้าทั่วไปสามารถสมัครเป็นวีไอพีเมมเบอร์กับมายมาร์ท ค่าสมัคร 200 บาท จะสามารถซื้อของในร้านได้ในราคาพิเศษที่ถูกกว่าท้องตลาด และยังมีแต้มที่สามารถสะสมแล้วนำมาแลกสินค้าภายในร้านได้ด้วย

(กลาง) วรรณ โชติกะวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลกาซี่ คอร์ป จำกัด

โดยมายมาร์ทนอกจากจะเป็นช็อปที่ขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเลกาซีแล้ว ยังจำหน่ายสินค้าทั่วไปที่เลกาซีไปร่วมเป็นพันธมิตรต่างๆ มากมาย เช่น นาฬิกาจีช็อค, เบบี้จี, แว่นตากันแดดเรย์แบน, ขนมขบเคี้ยว, ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค, ครีมกันแดดอาเนสซ่า, กระทะไฟฟ้าทีฟาล เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสินค้าแฟชั่นในนาม “เลกาซี สตูดิโอ” ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากธุรกิจขายตรงอื่นๆ

สินค้าพันธมิตรที่จำหน่ายในมายมาร์ท
สินค้าพันธมิตรที่จำหน่ายในมายมาร์ท
สินค้าพันธมิตรที่จำหน่ายในมายมาร์ท

นายวรรณกล่าวอีกว่า การเปิดช็อปมายมาร์ทในย่านศรีนครินทร์นี้เนื่องมาจากมองว่าเป็นทำเลที่เป็นหัวเมืองตะวันออกของกรุงเทพฯ มีการอยู่อาศัยหนาแน่น ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจดี โดยตั้งเป้ายอดขายจากช็อปมายมาร์ทเดือนละ 10 ล้านบาท ซึ่งในอนาคตวางแผนว่าจะนำสินค้าพันธมิตรมาจำหน่ายมากขึ้น

สินค้าแฟชั่นในกลุ่มเลกาซีสตูดิโอ

สำหรับบรรยากาศในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก มีทั้งนักธุรกิจเครือข่ายของเลกาซี และคนทั่วไปให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างดีมีทั้งเครื่องชั่งน้ำหนัก ครีมบำรุงผิวตัวใหม่จากเลกาซี และสินค้าแฟชั่นจากเลกาซีสตูดิโอ ซึ่งภายในร้านยังมีจุดบริการเคอร์รี่เอ็กซ์เพรส ซื้อสินค้าแล้วสามารถจัดส่งได้เลย

บรรยากาศวันแรกเป็นไปอย่างคึกตัก

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเดินแฟชั่นโชว์จากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการดูแลรูปร่างด้วยการใช้อาหารเสริมควบคุมน้ำหนักของเลกาซีอีกด้วย

แฟชั่นโชว์จากนักธุรกิจที่ใช้ผลิตภัณฑ์เลกาซีจนรูปร่างดี