ภาพบรรยากาศการเรียนหลักสูตร ผัดไทย หอยทอด ในโครงการ “เสริมอาชีพ เพิ่มรายได้ ททท.ใส่ใจไม่ทิ้งกัน” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

สอนโดย อ.สุจรรย์จิรา  วัฒนเจริญชัย ได้มาสอนเพื่อสร้างอาชีพเป็นรายได้เสริมให้กับพนักงาน ททท. ทุกคนได้เรียนกันสนุกสนาน ได้ลงมือทำขนมฝีมือตนเอง แถมได้ผัดไทย หอยทอดกลับบ้านกันเยอะเลยค่ะ นักเรียนทุกคนน่ารักมาก รอบหน้าจะเป็นหลักสูตรไหนรอชมภาพกันนะคะ

ใครกำลังหาเมนูกับข้าวเย็นนี้กันอยู่บ้างเอ่ย? ลองเมนูนี้เลย “ปลากะพงสามรส” กินได้ทุกเพศทุกวัย แถมทำง่ายมาก รสชาติเด็ดมาก เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดนิดๆ ฟินไปอีกเจ้าค่ะ มาลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะทุกคน

ส่วนผสม
– ปลากะพง
– ผงปรุงรส
– ซอสมะเขือเทศ
– น้ำปลา
– กระเทียมดอง
– พริกชี้ฟ้าแดง, พริกชี้ฟ้าเหลือง
– ซอสพริก
– หอมแดง
– น้ำมะขามเปียก
– น้ำส้มสายชู
– รากผักชี
– กระเทียม
– น้ำตาลปี๊บ
– น้ำเปล่า

วิธีทำ
ขั้นตอนการทำน้ำซอสราด
1. นำพริกชี้ฟ้ามาคว้านไส้ออก แล้วนำมาหั่นเป็นลูกเต๋า
2. นำรากผักชี กระเทียมดอง กระเทียม หอมแดง มาซอย
3. เตรียมครก นำกระเทียม รากผักชี พริกชี้ฟ้าที่หั่นไว้มาโขลกจนละเอียด
4. เตรียมกระทะตั้งน้ำมันให้ร้อน แล้วนำกระเทียม, รากผักชี, พริกชี้ฟ้าที่โขลกไว้ใส่ลงไป ผัดให้มีกลิ่นหอม เหลืองสวย แล้วใส่หอมแดงซอย, กระเทียมดอง ผัดให้เข้ากันอีกที
5. จากนั้นเติมน้ำเปล่า, ซอสพริก, ซอสมะเขือเทศ, น้ำปลา, น้ำมะขามเปียก, นำ้ตาลปี๊บ, ผงปรุงรส, น้ำส้มสายชูลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนกว่าน้ำซอสจะข้น เป็นอันเสร็จ

— พักทิ้งไว้ —

มาทำส่วนของปลากันค่ะ
1. ล้างปลากะพงให้สะอาด แล้วนำปลามาแล่เนื้อออก หั่นปลาเป็นชิ้นเล็กๆ
2. เตรียมกระทะตั้งน้ำมันให้ร้อน นำปลากะพงที่หั่นไว้แล้วมาทอดจนเหลืองกรอบ
3. ทอดเสร็จตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน พร้อมจัดจาน
4. ได้ปลากระพงจัดใส่จานแล้วนำน้ำซอสที่เตรียมไว้นำมาราดบนเนื้อปลาให้ชุ่มน้ำซอส พร้อมเสิร์ฟขึ้นโต๊ะทานกับข้าวสวยร้อนๆ

 

"ปลากะพงสามรส" กรอบ อร่อย ครบทุรสชาติ

Happy Dish: "ปลากะพงสามรส" กรอบ อร่อย ครบทุรสชาติMatichon Academy – ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน #happydish

โพสต์โดย Khaosod – ข่าวสด เมื่อ วันเสาร์ที่ 21 เมษายน 2018

สนใจเรียนทำอาหาร
ดูได้ที่ www.matichonacademy.com
หรือดูตารางเรียนประจำเดือนได้ที่นี่ >ตารางเรียน

หรือติดตามอัพเดทเรื่องราวอาหารและไลฟ์สไตล์สนุกๆได้ที่
Facebook : MatichonAcademy

สตรอว์เบอร์รี่โยเกิร์ต

“สตรอว์เบอร์รี่โยเกิร์ต” เมนูดับร้อนที่เหมาะสมที่สุดในการต่อกรกับอากาศร้อนระอุ ร้อนละลาย เลเวล 99 ของประเทศเรา
แถมยังเป็นเมนูทางเลือกของใครก็ตามคนที่ต้องการจะลดน้ำหนัก
เพราะโยเกิร์ตเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยสร้างเม็ดเลือด บำรุงระบบประสาท ช่วยในระบบขับถ่าย
และที่สำคัญคืออร่อย

ส่วนผสม
นมสดรสจืด 1 ลิตร, โยเกิร์ตรสธรรมชาติยี่ห้อใดก็ได้ที่ชอบ 1 ถ้วย, สตรอว์เบอร์รี่สด 1/2 กิโลกรัม, น้ำเชื่อม, น้ำแข็ง
วิธีทำโยเกิร์ต
นำนมสดเทลงหม้อตั้งไฟ พอเริ่มอุ่น (ประมาณ 45 องศาเซลเซียส หรืออุ่นพอทนได้โดยหยดนมลงบนหลังมือ) จากนั้นให้ใส่โยเกิร์ตลงไป คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน หมั่นคนเบาๆ เพื่อไม่ให้ไหม้ จนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ยกขึ้นจากเตาแล้วปิดฝาให้สนิท ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 8 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาแล้วให้นำไปแช่ให้เย็น
เราสามารถใช้โยเกิร์ตสำเร็จรูปที่หาซื้อตามร้านค้าทั่วไปแทนได้ (แต่แนะนำว่าลองทำเองก็จะได้ปริมาณโยเกิร์ตมากขึ้น สามารถนำไปกินคู่กับผลไม้ต่างๆ ได้อีกสารพัดเมนู)

วิธีทำสตรอว์เบอร์รี่โยเกิร์ต
1. นำสตรอว์เบอร์รี่ไปล้างให้สะอาด แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งตัดจุกออกแล้วนำไปแช่แข็ง อีกส่วนตัดจุกแล้วผ่าครึ่ง
2. นำสตรอว์เบอร์รี่ที่ผ่าครึ่ง น้ำเชื่อม น้ำแข็ง ปั่นให้เข้ากัน
3. นำโยเกิร์ตที่แช่เย็นแล้วเทใส่แก้วสลับกับสตรอว์เบอร์รี่ปั่นเป็นชั้นๆ ตกแต่งด้านบนด้วยเนื้อสตรอว์เบอร์รี่แช่แข็ง
จากนั้นก็พร้อมเสิร์ฟให้คลายร้อน

 


ที่มา นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์