“จ๋าก๊าหล่าว็อง” เป็นอาหารเวียดนาม ที่ฝรั่งได้กล่าวไว้ในหนังสือที่ชื่อว่า 1000 PLACES TO SEE BEFORE YOU DIE ซึ่งได้เอ่ยถึงร้านขายจ๋าก๊าหล่าว็อง ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ว่าจะต้องได้ไปลิ้มลองให้ได้ก่อนตาย แต่ก่อนนั้นกว่าจะได้กินสักทีก็ต้องไปถึงฮานอย แต่ตอนหลังมีมาเปิดที่นครโฮจิมินห์ด้วย ซึ่งเป็นลาภปากสำหรับสาวชาวใต้อย่างฉันที่จะได้กินบ่อยขึ้น

จ๋าก๊าหล่าว็องคือ ปลาทอดขมิ้น ใส่ผักสมุนไพรอย่างต้นหอม และผักชีลาว มีเครื่องเคียงมากมายเต็มโต๊ะ ทั้งผักสด พริก มะนาว ขนมจีน ข้าวเกรียบ ถั่วลิสงคั่ว และที่ขาดไม่ได้คือ กะปิน้ำกลิ่นฉุนเตะจมูก ซึ่งเป็นน้ำจิ้มของปลาทอดขมิ้นนี้ กะปิของเวียดนามมีแบบเป็นน้ำ แต่ของไทยไม่มีเราก็ผสมน้ำต้มสุกเอา เติมน้ำตาลทราย พริกขี้หนูสับ เหล้าขาว บีบมะนาวลงไป คนแรงๆ ให้เป็นฟอง

ปลาที่นิยมนำมาทำเมนูนี้เป็นปลาน้ำจืด ต้นตำรับจะต้องเป็นปลากด แต่ก็สามารถใช้ปลาชนิดอื่น เช่น ปลาช่อน ปลาดุก หรือปลานิล โดยจะนำปลามาแล่เป็นชิ้นขนาดพอคำ แล้วนำไปหมักกับข่าสดป่น ผงขมิ้น น้ำปลา และใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย หมักให้เข้ากันดีในตู้เย็นอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ระหว่างนี้ให้เตรียมซอยต้นหอมเป็นเส้น หั่นผักชีลาวเป็นท่อน เตรียมเอาไว้มากหน่อย ใส่เยอะๆ อร่อยดี และเตรียมเครื่องเคียงอื่นๆ ให้พร้อม

เมื่อหมักปลาได้ที่แล้วก็จะนำมาหนีบกับไม้ ย่างด้วยเตาถ่านจนสุกหอม เวลาเสิร์ฟจะนำเตา และกระทะมาตั้งที่โต๊ะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนดีก็ใส่ปลาลงไปผัดกันที่โต๊ะเลย น้ำมันจะมีสีเหลืองจากขมิ้นที่เราหมักปลาไว้ ใส่ต้นหอมซอย และผักชีลาวลงไปผัดด้วยกัน

เวลากินจะคีบขนมจีนใส่ถ้วย คีบปลา และผัก ใส่ถั่วลิสงคั่ว ราดกะปิน้ำลงไป มีข้าวเกรียบให้เคี้ยวแกล้ม เท่านี้ก็อร่อยจนหยุดไม่ได้แล้วค่ะคุณเอ๋ย

ที่มา : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ / ผู้เขียน : นันทนา ปรมานุศิษฏ์

จากคอลัมน์ เคี้ยวตุ้ย…ตะลุยกิน โดย ชม นำพา [email protected] นสพ.มติชน

 

เพราะว่าทนเห็นคลิปยั่วน้ำลายตามโซเชียลมานานจนต้องกดซื้อตั๋วราคาประหยัดบินตามไปเที่ยวโฮจิมินห์ กินอาหารเวียดนามให้หายอยากกันไปข้าง

อาหารที่โฮจิมินห์มีหลายระดับหลายราคา ตามหาบเร่ก็ถูกมาก ร้านค้าทั่วไปราคากลางๆ แต่ถ้าเป็นภัตตาคารราคาก็ไม่เบาเหมือนกัน

หนังสือ “โอชาอาเซียน” เขียนโดย นันทนา ปรมานุศิษฏ์ จากสำนักพิมพ์มติชน บอกเราคร่าวๆ ไว้ว่า อาหารเวียดนามภาคใต้ จะได้รับอิทธิพลจากเขมร เพราะในอดีตดินแดนทางใต้เคยเป็นดินแดนของชาวเขมร และอาณาจักรจาม ดังนั้น อาหารหลายอย่างของเวียดนามทางใต้กับเขมรจะเหมือนกัน

ที่โฮจิมินห์เราสามารถหาอาหารเวียดนามรับประทานได้ทั่วไป โดยเฉพาะเฝอมีอยู่แทบทุกถนน รสชาติโดยรวมดีเป็นมาตรฐาน นอกจากเฝอเรายังนึกสนุกเสาะหาของกินท้องถิ่นทดลองชิมกัน

เริ่มตั้งแต่สตรีทฟู้ดยอดนิยม อย่างบุ๋นเรียว ขนมจีนเวียดนาม ที่ร้านบุ๋นเรียวกั๊น ตั้งอยู่แถวตลาดบินถั่น รสชาติจะประมาณขนมจีนน้ำเงี้ยว น้ำซุปกลมกล่อม เปรี้ยวมะเขือเทศ รสชาติดีได้รับการยกย่องจากสื่อนอกว่าเป็นสตรีทฟู้ดที่ยอดเยี่ยมจานนึงในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย

บุ๋นเรียว

บุ๋นเรียวน่าจะถูกปากคนไทย เส้นขนมจีนเหนียวนุ่ม กับน้ำซุปกลมกล่อม เนื้อปูทรงเครื่อง เลือดหมูก้อนโต เต้าหู้นุ่มๆ หอมอร่อยมาก จะเสิร์ฟพร้อมผักสด เช่น หัวปลีฝอย ผักบุ้งฝอย โดยก่อนจะเสิร์ฟต้องเทน้ำร้อนลวกผักก่อน พร้อมเครื่องปรุงแยกมาให้ต่างหาก มีพริกซอย กะปิ และน้ำมะขามเปียก ถ้าชอบกลมกล่อมไม่ต้องปรุง แต่ถ้าชอบจัดจ้านเทใส่ลงไปเลยทุกอย่าง รับรอง..แซ่บ!

เครื่องบุ๋นเรียว กะปิ พริก น้ำปลา น้ำมะขามเปียก

“บั๊นหมี่บาแกต” ที่ร้าน Banh Mi Huynh Hoa ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสโฮจิมินห์ ร้านนี้ถามว่าดังระดับไหน ให้มาดูคนต่อแถวซื้อ ยาวเหยียดจนล้นออกมานอกร้าน ทั้งคนท้องถิ่น นักท่องเที่ยว และบรรดามอเตอร์ไซค์ทั้งของแกร็บ และอื่นๆ ออกันเต็มหน้าร้าน

ร้านนี้คนต่อคิวซื้อยาวมาก

บั๊นหมี่บาแกตได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส นำมาดัดแปลงจนเป็นแซนด์วิชยอดฮิตประจำเมือง เครื่องเคราก็ไม่ยุ่งยาก นำบาแกตผ่าครึ่ง ทาตับบดตามด้วยจำพวก Cold cut (อาหารเนื้อตัดเย็น) สไตล์เวียดนาม ที่สไลซ์เป็นชิ้นบางๆ รวมถึงหมูหยอง ทำแบบเร็วๆ ง่ายๆ แต่กินได้กินดี อิ่มท้องราคามิตรภาพ

บั๊นหมี่บาแกต

ส่วนพวกหาบเร่ยอดนิยม คนเวียดนามกินกันเป็นล่ำเป็นสัน คือ บั๊นแจร๊ง หรือใบเมี่ยงญวน หรือแผ่นแป้งเวียดนาม สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายรูปแบบ ตัดสินใจลอง บั๊นแจร๊งจ่อง คือ การยำนั่นเอง

หาบเร่ขายบั๊นแจร๋งจ่อง

บั๊นแจร๊งจ่อง มีหาบขายทั่วไปเหมือนคนไทยขายส้มตำ นำแป้งตัดเป็นแผ่นเล็กๆ แป้งจะแห้งๆ แข็งๆ คลุกกับผงปรุงให้เข้ากัน ใส่ผักแพว มะม่วงสับ ปลาหมึกเส้น ไข่นกกระทา ราคาไม่แพงหมื่นกว่าด่อง ไม่เกิน 30 บาท รสชาติออกเค็มเปรี้ยวนัวใช้ได้ แต่ที่พิลึกหน่อยก็คือแป้งที่ทั้งแข็งทั้งเหนียว ใครคิดว่าฮาร์ดคอร์พอก็ลองกันได้ แต่ให้ถูกปากคนไทยน่าจะเป็น “บั๊นแจร๊งเนื๊อง” ที่จะเอาแผ่นแป้งไปย่างแล้วใส่เครื่องนั่นโน่นนี่ หอมเจียว หมูสับ ไข่นกกระทา กินแล้วสบายใจกว่ากันเยอะเลย

บั๊นแจร๊งจ่อง

เนื่องจากเวียดนามเป็นแดนดินถิ่นกาแฟ ร้านกาแฟจึงมีตั้งอยู่ดาษดื่น ใครคอกาแฟเชิญเลือกซื้อหาได้ตามสบาย ที่เยอะไม่แพ้ร้านกาแฟ เห็นจะเป็นร้านน้ำผลไม้ที่ตั้งอยู่ทั่วเมือง นิยมกันระดับที่มีโต๊ะตั่งนั่งกันเต็มฟุตปาธตามหัวมุมถนน นั่งจิบน้ำผลไม้รับลมกันจนดึกดื่นค่อนคืนจนนึกว่าเป็นร้านเหล้า เห็นแล้วก็ยิ้มตามว่าเยาวชนบ้านเขาเฮลตี้ดีแท้

บรรยากาศคนมานั่งร้านผลไม้ยามค่ำคืน

ที่ใครมาชิมก็ติดใจต้องยกให้น้ำอะโวคาโดปั่น ที่ปั่นได้เนียนนุ่มรสชาติหวานละมุนกำลังดี อย่างอื่นก็อร่อยแล้วแต่ใครชอบ

เช้าวันหนึ่ง หลังจากเดินเล่นกันซักพัก กวาดสายตาเห็นร้านข้าวแกงหลากหลาย ตัดสินใจว่าต้องสัมผัสรสชาติข้าวแกงที่โฮจิมินห์เสียหน่อย

ร้านขายข้าวแกง

ร้านนี้อยู่ใกล้ตลาดบินถั่น เขาจะตักใส่จานเล็กๆ เราลองสั่งกุ้งฝอยหวาน 1 จาน พะโล้ 1 จาน มีไข่พะโล้ 2 ลูก หมูสามชั้นอีก 2 ชิ้น สั่งปลาราดพริกไซซ์เล็ก 1 ตัว น่องไก่ทอด 1 น่อง มะระยัดไส้ 1 ชามเล็ก พร้อมข้าวเปล่า 3 จาน รสชาตินั้นใช้ได้ แต่ติดหวานนิด ใครชอบรับประทานอาหารออกรสหวานก็สบายเลย

กินกันเสร็จสรรพ แอบหวั่นใจเรื่องราคา เพราะที่นี่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเจ้าเล่ห์แสนกลเหลือเกิน และก็จริงดังคาดอาหารไม่กี่อย่าง ราคาออกมาอยู่ที่ 400 กว่าบาท ถูกฟันเบาะๆ พอรับได้ มึนงงเล็กน้อย ไม่ถึงกับเลือดอาบ ถือว่าแลกกับการได้เข้าถึงจิตวิญญาณของข้าวแกงเวียดนามก็แล้วกัน

ตกเย็นมาหลังจากระหกระเหินไปเที่ยวตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ย้อนกลับมาหาของกินแถวตลาดบินถั่นเช่นเคย ลองเข้าร้านหอยชื่อ Quan Oc Van เป็นร้านเล็กๆ มีเมนูอาหารให้เลือกมากมาย เราลองสั่งหอยแครงย่าง ซุปหอยตลับ หอยตลับย่างราดด้วยใบกุยช่ายผัดเนย และหอยหวานผัดเนย

สารพัดหอย

ที่อร่อยแบบคาดไม่ถึง คือ หอยหวานผัดเนยกินกับบาแกตย่างอุ่นๆ อร่อยน้ำไหลอาบแก้ม ไปชะโงกดูแม่ครัวกำลังง่วนอยู่หน้าร้าน เห็นว่าผัดใส่เนย และผงปรุงรสสูตรเฉพาะอีก 3-4 อย่าง แล้วใส่ไข่แดงไข่เค็มลงไปบี้ให้แตกคนจนเข้ากัน แล้วเสิร์ฟคู่กับบาแกต

หอยหวานผัดเนย

ส่วนซุปหอยตลับให้คะแนนเท่ากัน แต่เป็นความอร่อยคนละแบบ เนื้อหอยสดๆ กับน้ำซุปกลมกล่อม หอมตะไคร้ เผ็ดนิดๆ ฟินระดับที่เด็กชายชาวจีนโต๊ะข้างๆ ยกชามขึ้นซดน้ำจนหมดถ้วยเลยทีเดียว

สำหรับนักกินมาโฮจิมินห์ไม่ผิดหวัง อาหารสตรีทอร่อยเพียบ ราคาไม่แพงมาก แต่ต้องระวังนิดเดียว คือ จะซื้ออะไรควรหาข้อมูลเรื่องราคามาก่อน ควักสตางค์จ่ายกันทีจะได้ไม่หน้ามืด