SME D Bank พาผู้ประกอบการพลิกวิกฤต ชวนร่วมงาน “กล้า D festival” “ปรับ เปลี่ยน ลุก เดิน” ปั้นความรู้สู้กระแสเศรษฐกิจกับ 3 กิจกรรมสัมมนาสุดโดนใจ พร้อมเชิญ ช้อป ชิม อุดหนุนตลาดนัด SMEs ของดีกว่า 50 ร้านค้า ณ สำนักงานใหญ่ SME Bank Tower ย่านอารีย์ ติดรถไฟฟ้า BTS

จากความต้องการยกระดับเอสเอ็มอีไทยที่ยังดำเนินธุรกิจแบบดั้งเดิมให้ก้าวสู่การเป็น SMEs ดาวเด่น SME D Bank เปิดตัวกิจกรรมแรก เชิญชวน ผู้ประกอบการ รวมถึงผู้ที่มีความสนใจในการสร้างธุรกิจ ร่วมฟังเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจกับกิจกรรม “SME-D Show Story Telling ธุรกิจพุ่งแรงสู่ความสำเร็จ” จากลูกค้า SME D Bank ที่ประสบความสำเร็จถึง 3 ท่าน คุณพงษ์พันธ์ ไวยนิล กับงานปั้นบ้านดินมอญ หัตถกรรมไม่มีวันตาย งานปั้นจาก50บาทสู่แสนบาท คุณบิ๊ก ผุยมาตย์ เจ้าของกิจการข้าวกรอบสยาม เจ้าของธุรกิจอายุน้อยร้อยล้าน และคุณนภาพร คูศิริวานิชการ อดีตสาวแบงก์ ผันตัวมาจับสินค้า Organic คุณภาพระดับ Go inter พบกับทั้งสามท่านได้ ในวันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 เวลา 10.00 – 12.00 น.

ทั้งนี้สำหรับผู้ประกอบการ และผู้ที่มีความสนใจในธุรกิจออนไลน์ SME Development Bank ร่วมมือกับ E-commence ชื่อดังอย่าง Shopee จัดเวิร์กช็อปขายของบนโลกออนไลน์ได้จริง กับงาน “รวยด้วย ตลาด Online by Shopee” วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 เวลา 13.00 – 16.30 น.

SME D Bank ยังเอาใจผู้ประกอบการด้านอาหาร พาเรียนเรื่องระบบจัดการร้าน และนำร้านค้าจาก ออฟไลน์สู่ออนไลน์ โดยผู้เชี่ยวชาญ จาก WONGNAI พร้อมเสริมทักษะ Delivery 4.0 จาก LINE MAN กับกิจกรรม “ยกระดับมาตรฐาน ร้านอาหาร 4.0 by Wongnai” ในวันอังคารที่ 29 มกราคม 2562 เวลา 13.00 – 16.30 น.

นอกจากนี้ภายในงานยังมี สินค้าหลากหลายให้ ช้อป พร้อมชิมมากมาย กว่า 50 ร้านค้าชื่อดัง ทั้งของกิน ของใช้ราคาน่าจับจอง พร้อมกิจกรรมโดนใจ ช้อปครบ 3 ร้านดัง จับฉลากรับรางวัลไปฟรีๆอีกหนึ่งต่อ เรียกได้ว่า มางานเดียวครบ พร้อมร่วมฟังเคล็ดลับสู่ความสำเร็จการทำธุรกิจออนไลน์ ยกระดับธุรกิจให้สำเร็จได้แบบไม่ต้องลองผิดลองถูกให้เสียเวลา แล้วพบกันในงานวันที่ 28-29 ม.ค.2562 นี้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ด่วน! รับจำนวนจำกัด สนใจเข้าร่วมงานสัมมนา “กล้า D festival” สมัครหรือลงทะเบียนได้ทาง http://coreportal.smebank.co.th/register_event.php?apply_id=181 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02 265 4494, 02 265 3009, 02 265 4579

เพราะการทำงานไม่ใช่แค่ดูแลลูกค้าให้บริการเป็นอย่างดี แต่ยังรวมไปถึงพนักงานของบริษัทด้วย “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” (Krungsri Consumer) หนึ่งในบริษัทในเครือกรุงศรี กรุ๊ป จึงได้จับมือ “มติชนอคาเดมี” จัดโครงการอบรมสร้างอาชีพให้แก่เหล่าพนักงาน ซึ่งการอบรมครั้งนี้มีทั้งอบรมในเรื่องของการทำอาหารหลากหลายเมนู รวมไปจนถึงงายช่างงานฝีมือ ถือเป็นแคมเปญที่กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จัดให้พนักงานโดยเฉพาะ

เกี่ยวกับโครงการดังกล่าว “กัญจมา ศรีอรุณ” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้รายละเอียดว่า กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีนโยบายอยู่แล้วว่าจะคืนกำไรให้สังคมอย่างไร เนื่องจากเราเป็นธุรกิจเกี่ยวกับสินเชื่อและการเงิน ดำเนินธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระค่าสินค้า และสินเชื่อบุคคล จึงได้ริเริ่มโครงการ “ฉลาดคิด ฉลาดใช้” ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของการวางแผนทางการเงิน และส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับการบริหารการเงิน การมีวินัยทางการเงินที่ดี เพราะระยะหลังแนวโน้มการใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่ค่อนข้างน่าเป็นกังวล และปัญหาหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันมีอัตราสูง ซึ่งโครงการดังกล่าวรวมถึงกิจกรรมให้ความรู้การบริหารการเงินส่วนบุคคลผ่านทางสื่อออนไลน์สำหรับบุคคลทั่วไปด้วย โดยผ่านทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์และบริษัทในเครือ

กัญจมา ศรีอรุณ

กัญจมา กล่าวว่า กิจกรรมเริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มีธีมว่าออมอย่างไรให้ได้ 20% ถือเป็นการสร้างวินัยทางการเงินที่ดี สำหรับปีนี้เห็นว่าหากจะพูดเรื่องการออมอีกดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว เพราะมันเก็บยากขึ้น ซึ่งเกี่ยวเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจด้วย ดังนั้น ปีนี้เลยเป็นธีม “ใช้เงินเป็นเห็นทางรวย” เนื่องจากมองเห็นว่าคนรุ่นใหม่หรือเฟิร์สจ็อบเบอร์ จะมีปัญหาในการใช้เงิน คนพวกนี้เป็นพวกที่อยากรวยเร็ว อยากมีเงินเก็บเร็วๆ จึงคิดว่าควรให้ความรู้ด้านการเงิน แต่ไม่ได้เป็นเชิงลึก เป็นการให้ความรู้ทางการเงินสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีความรู้ เข้ามาแล้วได้ประโยชน์

“ขณะเดียวกันเราก็เห็นความสำคัญของพนักงานด้วย ซึ่งเป็น 1 ใน 3 กลุ่มที่เราโฟกัสเอาใจใส่ดูแล เรามีข้อมูลรู้ว่าพนักงานแบงค์มีสภาพหรือสถานะเป็นอย่างไร จึงจัดกิจกรรม เป็นการสร้างอาชีพเสริมให้ ไม่ว่าใครตอนนี้ก็ต้องการอาชีพเสริมทั้งนั้น พนักงาน ลูกค้า หรือคนทั่วไป สำหรับพนักงานแบงก์กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้จัดอบรมอาชีพให้โดยร่วมมือกับมติชนอคาเดมี สอนการทำอาหารเมนูต่างๆ ที่เราเลือกมาแล้วว่าจะสามารถทำเป็นอาชีพได้หากเขาต้องการหารายได้เพิ่ม ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่นี้ แต่ยังมีอบรมเกี่ยวกับการขายของออนไลน์ การขายภาพในสต็อก หรือให้ความรู้เรื่องภาษี ให้รู้จักใช้เงินเป็น โดยทำบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นต้น”

การจัดกิจกรรมดังกล่าว กัญจมาบอกว่าจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งปีนี้กลุ่มเป้าหมายพนักงานยังเป็นเหมือนเดิม แต่ทำให้จริงจังมากขึ้น ผลที่เกิดขึ้นคือคนสนใจมาก คลาสเรียนเต็มทุกคลาส การมีส่วนร่วมในเว็บไซต์ก็มากขึ้นด้วย เป็นความรู้สึกว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้พนักงานสนใจได้มากกว่าการมาสอนเรื่องออม และตอนนี้มีคนมาสมัครเรียนเพิ่มเรื่อยๆ

“การสร้างอาชีพที่สองในลักษณะนี้ เราให้น้องๆ เขาโหวตว่าอยากมีอาชีพอะไร แล้วโหวตมา 6 อาชีพ จากนั้นมาจัดลำดับให้ว่าจะสอนอะไร คอร์สหรือเมนูไหน ที่ทำโครงการนี้เพราะถ้าเขามีอาชีพที่สร้างรายได้เพิ่ม มันจะช่วยเป็นกำลังใจให้เขา คือทุกคนมีความฝันอยากเก็บเงินให้ได้ ได้เท่าไหร่ได้มากได้น้อยเป็นอีกเรื่อง แต่ถ้าสามารถเก็บเงินได้หรือมีเงินเก็บเขาก็มีกำลังใจ” กัญจมากล่าว และว่า จะทำโครงการนี้ไปเรื่อยๆ รวมทั้งอยากจะสร้างนิสัยให้คนรู้จักทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย มีวิสัยทัศน์มองเห็นอนาคตทางการเงินของตัวเอง ที่สำคัญอยากให้พนักงานมีอาชีพที่ 2 ที่เป็นความมั่นคงอีกทางหนึ่งของคุณ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ไม่สามารถทำครั้งเดียวแล้วเห็นผลทันที ต้องดูกันในระยะยาว

“ที่สำคัญคือคลาสเรียนไม่ได้จบแค่นี้ เราต่อยอดว่าพนักงานคนไหนไปเปิดร้านหรือขาย เราจะช่วยโปรโมทให้ด้วย ทำตลาดให้ด้วย เพราะเรามีเว็บและโชเชียลมีเดียที่สามารถช่วยกระจายข่าวออกไปตามช่องทางต่างๆ ซึ่งดิฉันมองว่า มาถึง ณ จุดนี้ ทุกที่ทุกคนควรช่วยกันให้ประเทศเราดีกว่าที่เป็นอยู่ คือให้คนในประทศมีหนี้ครัวเรือนลดน้อยลง ทำให้คนรุ่นใหม่ใช้เงินเป็น ซึ่งกรุงศรี คอนซูมเมอร์เป็นเพียงตัวเฟืองเล็กๆ ของสังคม ที่อยากตอบแทนคนในสังคมคืนบ้าง ไม่ใช่เอาแต่สร้างรายได้โดยไม่สนใจจะทำอะไร ถึงแม้ว่าจะมีที่อื่นก็ทำโครงการแบบนี้ เราไม่สนใจว่าใครจะทำ แต่เราขอทำด้วย และเราไม่คิดว่าโครงการของเราดีที่สุด เพียงแต่เราต้องการเติมเต็มตัวเองให้ได้ เราอยากให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข ไม่ต้องกังวลเรื่องหนี้สิน เงินออม เรายังมีอีกหลายอย่างมากที่อยากทำให้กับพนักงาน อยากให้เขารู้ว่าเราแคร์เขา ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานในที่สุด”