เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 พ.ค. เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าชลบุรี รับแจ้งว่า เกิดลมพัดกระโชกมาอย่างแรง บริเวณตลาดนัดชุมชนซอยแมรี่ ซอย 5 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี และมีกระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงรุดไปที่เกิดเหตุ พบเต็นท์ขนาดใหญ่สีขาวถูกลมพัดไปติดพาดสายไฟแรงสูง ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรจนไฟดับ เจ้าหน้าที่จึงตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อเอาเต็นท์ที่ติดกับสายไฟลงมา จากการสำรวจภายในตลาดนัดพบว่า เต็นท์ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร 5 หลัง ถูกลมพัดจนพังเสียหาย ร้านค้ากว่า 10 ร้าน ถูกกระแสลมพัด ทำให้ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ของแม่ค้า ล้มระเนระนาด แต่โชคดีที่พ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดมีได้รับอันตรายจากลมพัดแรงในครั้งนี้

นายพิสิฐษ์ ระวิจันทร์ อายุ 30 ปี พ่อค้า เล่าว่า ก่อนฝนจะตกพ่อค้าแม่ค้าก็มาขายของตามปกติ หลังจากนั้นมีฝนตกและมีลมพัดแรงอยู่ประมาณ 5 นาที ลมได้พัดเอาเต็นท์ขนาดใหญ่ขึ้นไปติดอยู่บนเสาไฟฟ้า ทำให้เกิดไฟชอร์ตเสียงดัง พ่อค้าแม่ค้าต่างก็วิ่งหนีหลบเข้าที่ที่ปลอดภัย ลมมาเร็วมากไม่ทันตั้งตัว ทำให้ข้าวของที่ซื้อมาขาย และอุปกรณ์ เช่าโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ขายของพังเสียหายไปตามๆ กัน

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปว่า บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ แล้ว ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครราชสีมา รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2561 ช่วงเวลา 21.00 น.- 24.00 น. ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอสีคิ้ว จ.นครราชสีมา ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วม ถนนทางหลวงชนบท สาย 3059 ห้วยทราย-ห้วยบง บริเวณบ้านหนองดู่ หมู่ที่ 3 ต.กฤษณา อ.สีคิ้ว ทำให้ถนนชำรุดทรุดตัวลงขาดเกือบสองช่องจราจร เป็นระยะทางประมาณ 15 เมตร รถไม่สามารถสัญจรได้ ซึ่งต่อมา เวลา 04.10 น. วันนี้ 5 พ.ค.61 ได้เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์อเนกประสงค์แวน ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีเทา หมายเลขทะเบียน ญม 4523 กรุงเทพมหานคร ได้วิ่งมาบนถนนสายดังกล่าวและมองไม่เห็น จึงพุ่งตกลงไปบริเวณถนนบริเวณที่ถูกน้ำพัดขาด และน้ำป่าได้พัดรถจมลงไป คนขับและผู้โดยสาซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทกังหันลมไฟฟ้าห้วยบง อ.ด่านขุนทด ได้ช่วยเหลือตัวเองออกมาจากรถรอดชีวิตหวุดหวิด และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นชาย 2 คน ซึ่งต่อมา ทาง อบต.กฤษณา อ.สีคิ้ว ได้จัดอุปกรณ์ และเจ้าหน้า อพปร. ด้านการจราจรบริเวณที่ถนนชำรุดและให้รถที่สัญจรไป-มา เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น จนถึงขณะนี้รถยกก็ยังไม่สามารถกู้รถยนต์คันดังกล่าวขึ้นมาได้เนื่องจากถนนที่ชำรุดมีความลึกประมาณ 15 เมตร ส่วนระดับน้ำท่วมได้ลดลงแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วงกลางคืนวันที่ 4 พ.ค.ต่อเนื่องเช้ามืดวันที่ 5 พฤษภาคม 61ได้มีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ตำบลห้วยบง อำเภอด่านขุนทด ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงจากเนินเขาลงลำคลองพื้นที่หมู่บ้านวังไทรงาม หมู่ที่ 8 ต.ห้วยบง และบ้านศิลาร่วมสามัคคี หมู่ที่ 4 อย่างรุนแรง ท่วมบ้านเรือนของราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตร เช่น อ้อย พริก ได้รับความเสียหาย ส่วนบ้านเรือนราษฎรที่ถูกน้ำท่วมอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ขณะที่ระดับน้ำป่าลดลงเรื่อย ๆ นอกจากนี้หมู่บ้านไทยสามัคคี และบ้านน้ำเค็ม ต.หนองแวง อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา น้ำป่าจากเทือกเขาพังเหย อ.เทพสถิตย์ จ.ชัยภูมิ ก็ไหลหลากเข้าท่วม ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ส่งผลให้ถนน บ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน โดยล่าสุดระดับน้ำได้ลดลงแล้ว คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีกคงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ได้สั่งการให้นายอำเภอสีคิ้ว , ด่านขุนทด และเทพารักษ์ ออกสำรวจความเสียหายและเร่งให้การช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ พร้อมเร่งซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหายแล้ว พร้อมกับให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วร่วมกับหน่วยกู้ภัยของ อบต.และหน่วยกู้ภัยของมูลนิธิต่างๆ พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นอีก เพราะขณะนี้มีฝนตกในพื้นที่ จ.นครราชสีมา อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนที่เดือดร้อนได้อย่างทันต่อสถานการณ์

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์

เตือนอากาศร้อนจัด 19-23 เม.ย. กรมอุตุฯระบุส่วนช่วง 24-25 เม.ย. ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยเฉพาะตอนบนอาจเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฟ้าผ่าและลูกเห็บตก ปภ.แถลง 30 จว.เจอฤทธิ์วาตภัย บ้านพังมากกว่า 3 พันหลัง มี ผู้เสียชีวิต 4 ราย เร่งสำรวจความเสียหายให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ประสานจังหวัดภาคเหนือ ภาคกลาง กทม.-ปริมณฑลเตรียมพร้อมรับมือ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมเผชิญเหตุ เมืองเพชรทั้งฝนทั้งลมถล่มนาน กว่า 2 ช.ม. จันทบุรีอ่วมพายุกระหน่ำสวน ทุเรียนอ.ขลุงยับ 300 ไร่ เสียหายหนักกว่า 12 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ “พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบถึงวันที่ 18 เม.ย. 2561)” ฉบับที่ 21 ลงวันที่ 18 เม.ย. ระบุว่า สภาพอากาศในอีก 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 18-23 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 เม.ย. ประเทศ ไทยตอนบนมีอากาศร้อน กับมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 19-23 เม.ย. ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น เกษตรกรควรระมัดระวังและป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 18-23 เม.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีอากาศร้อน โดยมีลมตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนฟ้าคะนองได้บางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศ ไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนบางพื้นที่ ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง กับมีฟ้าผ่าและลูกเห็บตกบางพื้นที่

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กระทรวงมหาดไทย นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยสถานการณ์ผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ว่า ช่วงวันที่ 13-17 เม.ย.ที่ผานมา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 30 จังหวัด 111 อำเภอ 209 ตำบล 477 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชน 3,033 หลัง และมีผู้เสียชีวิต 4 ราย ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว นอกจากนี้ ได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง

อธิบดีปภ.ระบุว่า ในส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ แยกเป็น ภาคเหนือ 11 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กำแพงเพชร 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง บึงสามัคคี ขาณุวรลักษบุรี ปางศิลาทอง ไทรงาม และอ.คลองขลุง รวม 13 ตำบล 47 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผล กระทบ 428 หลัง, จ.เพชรบูรณ์ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.วิเชียรบุรี และบึงสามพัน รวม 10 ตำบล 25 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผล กระทบ 359 หลัง, จ.เชียงใหม่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่ริม สะเมิง หางดง และอ.เวียงแหง รวม 8 ตำบล 12 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 19 หลัง, จ.แพร่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สอง ร้องกวาง และอ.หนองม่วงไข่ รวม 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 13 หลัง, จ.นครสวรรค์ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ไพศาลี หนองบัว และอ.บรรพตพิสัย รวม 5 ตำบล 10 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 68 หลัง

จ.ลำปาง 6 อำเภอ ได้แก่ อ.งาว แม่พริก วังเหนือ อ.เมือง ห้างฉัตร และอ.เมืองปาน รวม 14 ตำบล 41 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 189 หลัง, จ.พิจิตร 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ดงเจริญ บึงนาราง สามง่าม และอ.เมือง รวม 6 ตำบล 18 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 142 หลัง. จ.น่าน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เวียงสา นาหมื่น และอ.นาน้อย รวม 12 ตำบล 12 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 14 หลัง, จ.เชียงราย 9 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง เวียงเชียงรุ้ง แม่ฟ้าหลวง แม่สรวย ดอยหลวง เวียงแก่น ขุนตาล เวียงชัย และอ.พญาเม็งราย รวม 22 ตำบล 52 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 101 หลัง, จ.พะเยา 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ภูซาง เชียงม่วน และอ.เมือง รวม 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 71 หลัง และจ.พิษณุโลก เกิดวาตภัยใน พื้นที่อำเภอชาติตระการ รวม 4 ตำบล 12 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 34 หลัง