ภาพจากเฟซบุ๊ก ธนวัฒน์ วงค์สุข

ในช่วงที่รัฐบาลสั่งปิดร้านตัดผมชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บรรดาช่างตัดผมต่างขาดรายได้ จนต้องเพิ่มบริการ “ตัดผมที่บ้าน” หาเงินประคองชีวิต

หนึ่งในนั้นคือ “ธนวัฒน์ วงศ์สุข” อายุ 27 ปี อดีตพนักงานช่อง 3 ที่ตัดสินใจลาออกจากงาน เพราะอยากทำในสิ่งที่ตัวเองรักนั่นคือการเป็น “ช่างตัดผม” ในช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด เพียงไม่กี่เดือน

“ธนวัฒน์” เล่าว่า “ผมทำงานอยู่ช่อง 3 นาน 6 ปี เป็นพนักงานพิมพ์ข่าว จากนั้นโยกย้ายมาอยู่แผนกออนไลน์ เวลาไปทำงานผมจะชอบหิ้วกระเป๋าไปตัดผมให้เพื่อน ๆ ในที่ทำงานฟรี ตอนนั้นยังไม่รู้ตัวว่าชอบตัดผม แต่พอรู้ตัวเองว่าชอบ เลยตัดสินใจลาออก”

ตอนนั้น “ธนวัฒน์” เอง ก็ยังไม่รู้ว่าอาชีพนี้จะทำให้อยู่รอดหรือไม่ ยอมรับว่าลาออกมาแบบงง ๆ และ เป๋อยู่เหมือนกัน เพราะตัวเองมีภาระผ่อนบ้าน แต่เมื่อตัดสินใจแล้วจึงลงทุนไปเรียนตัดผมอย่างจริงจัง

“โชคดีเจออาจารย์ท่านหนึ่งยินดีสอนให้ มาเรียนก่อนได้ถ้ายังไม่มีเงิน ผมใช้เวลาเรียนแค่ 2 เดือน เพราะมีทักษะอยู่แล้ว” ธนวัฒน์เล่า

หลังเรียนจบ “ธนวัฒน์” ได้เข้าทำงานที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่งแถวอุดมสุข เจ้าของร้านเห็นถึงความขยัน จึงรับเข้าทำงาน แต่เพราะอยากพัฒนาฝีมือ จึงย้ายไปอีกร้านแถวเอกมัย ก่อนลาออกเพราะรายได้สวนทางกับภาระ

“ลาออกมาได้ไม่กี่วัน โควิด-19 เกิดระบาด ร้านตัดผมเลยต้องปิด ผมกลายเป็นฟรีแลนซ์ไปโดยปริยาย แต่ด้วยภาระที่เรามี จะหยุดอยู่บ้านเฉย ๆ คงไม่ได้ การตัดผมยังเป็นสิ่งเดียวที่ทำได้ ส่วนลูกค้าก็อยากตัดแต่ไม่อยากออกจากบ้าน ผมเลยเปิดบริการตัดผมที่บ้านเมื่อปลายเดือนมีนาคม คนรอบข้างคัดค้านเหมือนกัน เพราะเป็นห่วง แต่พอใกล้ ๆ สิ้นเดือน ค่างวดบ้าน ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต ไหนจะค่าอาหารทุกอย่าง เข้ามาพร้อมกัน ผมจึงตัดสินใจทำครับ”

ลูกค้าที่เรียกใช้บริการตัดผมที่บ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำ โดยลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะ “ธนวัฒน์” ยืนยันว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นฆ่าเชื้ออย่างดี

ช่วงแรกที่ไปบริการตัดผมที่บ้านลูกค้า แทบไม่ต้องโปรโมตอะไร มีลูกค้าโทรหาจนคิวยาวมาก เมื่อไปถึงบ้านลูกค้า “ธนวัฒน์” จะตัดผมให้บริเวณนอกบ้าน ไม่นั่งตัดผมในห้องแอร์ เวลาตัดจะมีแค่ช่างกับลูกค้า ตัดเฉพาะผู้ชาย เพราะผู้หญิงจะใช้เวลานาน ราคาหัวละ 300 บาท ถ้าบ้านอยู่ใกล้แถวบางปะกงไม่เสียค่าเดินทาง แต่ถ้าอยู่ไกล เสียค่าเดินทาง อาจจะต้องเสียเพิ่ม 100-200 บาท

ภาพจากเฟซบุ๊ก ธนวัฒน์ วงค์สุข

แต่ระหว่างนั้นก็ทำโปรโมชั่น ไปที่เดียว 5 หัวขี้นไป คิดหัวละ 200 บาท ไม่บวกค่าเดินทาง แต่ละวันจำนวนลูกค้าจะไม่เท่ากัน บางวัน 3-4 หัว ลูกค้าไม่ได้มีทุกวัน รายได้พอประคองชีวิตไปได้

กระทั่งล่าสุด ศบค. ประกาศมาตรการผ่อนปรนธุรกิจ 6 ประเภท รวมถึงร้านตัดผม ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม เป็นต้นไป แต่ให้บริการได้แค่ตัด สระ ไดร์ เท่านั้น

“ธนวัฒน์” ในฐานะช่างตัดผม ยังคงทำงานด้วยความระมัดระวังเต็มที่ มีอุปกรณ์ป้องกันทั้งลูกค้าและตัวเอง เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่นิ่ง เกรงว่าถ้าตัวเลขเพิ่มขึ้นอีกรัฐจะกลับมาปิดอีกครั้ง

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

หนุ่มนิเทศฯ ทุ่มเทอาชีพที่รัก ปักหลักทำธุรกิจด้วยทุนหลักพัน ปัจจุบัน “บาร์เบอร์” โตวัน-โตคืน

แม้เปิดมาได้ไม่นาน แถมมีร้านเริ่มต้นเป็นแค่เต็นท์เล็กๆ แทรกตัวอยู่ในตลาดนัดกลางคืนย่านชานกรุง แต่กลับมีลูกค้าทั้งรุ่นเล็ก-รุ่นใหญ่ ให้ความสนใจ  จนล่าสุดขยับขยายกลายเป็นมีหน้าร้าน ให้บริการเป็นเรื่องเป็นราว รองรับลูกค้าได้ถึง 6 วัน ต่อสัปดาห์

คุณนุ๊ก เจ้าของเรื่องราว

 คุณนุ๊ก – ภูมินทร์ รอดโพธิ์ทอง วัยยี่สิบปลายปี  เจ้าของกิจการ  The Clipper Barbershop           (เดอะ คลิปเปอร์ บาร์เบอร์ช็อป) ที่เกริ่นถึง เล่าที่มาที่ไป จบการศึกษาปริญญาตรีนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เคยทำงานประจำในสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งหนึ่ง อยู่ราว 2 ปี ก่อนลาออกมามองหางานทำที่ใหม่

ระหว่างนั้น มีเวลาว่าง จึงไปสมัครเรียนตัดผมกับทางโรงเรียนฝึกอาชีพ ดินแดง เพราะเป็นอาชีพที่ชื่นชอบมานานแล้ว เรียนตัดผมแค่สองอาทิตย์ ที่ทำงานใหม่โทรศัพท์มาตามให้ไปเริ่มงานได้  แต่ปฏิเสธไป เพราะอยากเรียนวิชาช่างตัดผมให้จบคอร์ส ซึ่งต้องใช้เวลาราว 3 เดือน

“ตอนนั้นบอกที่บ้านว่าจะไม่ทำงานแล้ว แต่จะไปเรียนตัดผม เขาก็ตามใจ อยากทำอะไรทำ  แต่ลึกๆ คงไม่เข้าใจว่าผมคิดอะไรอยู่ และไม่เชื่อว่าจะทำได้จริง” คุณนุ๊ก เล่าน้ำเสียงร่าเริง

 

ก่อนบอกต่อ หลังเรียนจบวิชาตัดผมหนึ่งคอร์ส ตั้งใจอยากเป็นช่างในร้านบาร์เบอร์ทั่วไป แต่ได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่เปิดร้านมาก่อนหน้านี้ ว่าควรหาแนวที่ชอบยึดเป็นสไตล์ของตัวเอง ประกอบกับกระแสทรงผมสไตล์วินเทจ กำลังมาแรง เลยไปศึกษาจากร้านต้นแบบจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีการสอนเทคนิคผ่านทาง YouTube

“ศึกษาจากเขา แต่ทำแบบเขาไม่ได้หรอก เพราะทรงหัว เส้นผม คนไทยกับตะวันตกไม่เหมือนกัน  จึงเรียนรู้เทคนิคและมาดัดแปลง ลองผิดลองถูก  จนออกมาเป็นสไตล์ของเราเอง” คุณนุ๊ก บอกอย่างนั้น

สองหุ้นส่วน

และว่าได้ฤกษ์เปิดร้าน The Clipper Barbershop  ด้วยการลงหุ้น 3 คน คนละ 2,000 บาท  ซึ่งจุดเริ่มต้นครั้งนี้ คุณนุ๊ก เผยความรู้สึก ไม่คิดว่าจะมีลูกค้าซะด้วยซ้ำ ที่ลงทุนไปเพราะแค่อยากมีร้านเป็นของตัวเอง แต่ผลตอบรับออกมาดีกว่าที่คิด เพราะมีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนตั้งแต่วันแรกเลยทีเดียว

“ผลประกอบการทุกวันนี้เกินคุ้มแล้ว  เลยขยับขยายให้มีหน้าร้านเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อรองรับลูกค้าได้มากขึ้น โดยใช้ร้านที่ตลาดนัด เป็นฐานในการประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักกันมากขึ้น” คุณนุ๊ก เผย

เกี่ยวกับความตั้งใจในธุรกิจ คุณนุก บอก ทุกวันนี้ มีลูกค้ามาอุดหนุนที่ตลาดนัด คืนละไม่ต่ำกว่า 10 ราย แต่ช่างมีเพียง 2 คน คือตัวเขา และ คุณตูน-ศรีรัตน์ หอมเกตุ หุ้นส่วนคนสำคัญ จึงคิดอยากหาช่างมาเสริมทีมให้รองรับลูกค้าได้มากขึ้น

 

“คนจะทำอาชีพนี้ได้ ต้องถามตัวเองก่อน ว่าชอบหรือเปล่า ถ้าไม่ชอบ ทำไปคงไม่มีความสุข และถ้าชอบแล้วถามว่าเลี้ยงตัวได้ดีมั๊ย บอกเลยว่าใช้ได้นะ แต่คงไม่ใช่ หลักหลายหมื่นหรือหลายแสน  แต่สำหรับผมมันเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ควบคู่ไปกับสิ่งที่รักเลยทีเดียว” คุณนุ๊ก ส่งท้ายอย่างนั้น

 

ปัจจุบันร้าน The clipper barber shop มี 2 สาขา พหลโยธิน 58(ซ.แอนเน็ก)เปิดเวลา 12.00-20.00 น. และตลาดนัดหัวมุมเกษตรนวมินทร์ เปิดเวลา 18.00-24.00 น. ร้านหยุดทุกวันจันทร์ทั้ง 2 สาขา สำรองจองคิว โทรศัพท์ 089-984-9807 หรือ Facebook/The clipper barber shop

 


ที่มา เส้นทางเศรษฐี

ช่วงกระแสฟุตบอลโลก 2018 แบบนี้ แฟนๆ แต่ละคนก็มีวิธีแสดงออกถึงการเชียร์ทีมที่ตัวเองชอบ หรือนักฟุตบอลคนโปรดในรูปแบบที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นใส่เสื้อ, เพ้นต์หน้า ไปจนถึงการ “ตัดผม” เป็นรูปหน้านักฟุตบอลที่ชอบ

โดยร้านตัดผมในเมืองนอวีซาด ประเทศเซอร์เบีย ได้ผุดไอเดียตัดผมด้านหลังให้เป็นรูปหน้านักฟุตบอลชื่อดัง เช่น ลิโอเนล เมสซี่ หรือคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นต้น

AFP PHOTO / VLADIMIR ZIVOJINOVIC

มาริโอ้ ฮวาลา ช่างตัดผม กล่าวขณะกำลังตัดผมที่ออกมาแล้วเหมือนจริงราวกับรอยสักว่าเขาเริ่มต้นตัดผมลักษณะนี้มาเป็นเวลาประมาณ 9 ปีแล้ว ซึ่งมีตั้งแต่ลายแมงมุมทาแรนทูล่า ไปจนถึงหน้าคน พร้อมกับคำแนะนำที่มีให้ลูกค้าว่า “ทำในสิ่งที่แตกต่าง” ก่อนการตัดผมในรูปแบบดังกล่าวจะกลายมาเป็นแฟชั่นท้องถิ่นในเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเซอร์เบียอย่างนอวีซาด

ทั้งนี้ นายฮวาลาระบุว่า การตัดผมแบบนี้มีความซับซ้อน โดยใช้เวลาในการตัดประมาณ 5-7 ชั่วโมง

และเพื่อเฉลิมฉลองฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ฮวาลาจึงผุดไอเดียตัดผมเป็นรูป 2 นักฟุตบอลดังขึ้นมาเพื่อเอาใจแฟนๆ

สำหรับราคาการตัดผมปกติของร้านนี้อยู่ที่ 8 ยูโร หรือประมาณ 320 บาท แต่หากตัดเป็นลวดลายพิเศษจะอยู่ที่ 150 ยูโร หรือประมาณ 6,000 บาท