กทม.พร้อมเปิดให้บริการ พายเรือคายัค บริเวณคลองโอ่งอ่าง อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.นี้เป็นต้นไป

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น กทม.จึงเปิดให้บริการพายเรือคายัค หรือซับบอร์ด บริเวณคลองโอ่งอ่างอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.นี้เป็นต้นไป

ซึ่งได้จัดหาเรือมาให้บริการยืมฟรีคนละประมาณ 30 นาที เพื่อร่วมสนุกในการซ้อมหรือหัดพาย พร้อมทั้งจัดเตรียมเสื้อชูชีพ และเจ้าหน้าที่เพื่อให้คำแนะนำและการช่วยเหลือตลอดกิจกรรมด้วย จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรม “ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง” ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ระหว่างเวลา 16.00 – 22.00 น. เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจให้ชุมชน

โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ แวะชิมอาหารอร่อย จับจ่ายสินค้าน่ารัก ถ่ายรูปกับรูปภาพสตรีตอาร์ตและรูปภาพเรืองแสง เป็นต้น

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ได้แก่ ตรวจคัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่ ลงทะเบียนเข้า-ออกพื้นที่ผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง

เที่ยวคูลๆ ‘คลองโอ่งอ่าง-ทุ่งดอกไม้ป้อมมหากาฬ’ สีสันปีใหม่ พร้อมใจสวมหน้ากากอนามัย

หนึ่งในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่น่าสนใจในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2564 กรุงเทพมหานคร(กทม.)จัดทำทุ่งดอกไม้หลากสีสันภายในสวนป้อมมหากาฬ โดยนำดอกไม้ที่มีสีสันสดใส และเหมาะกับสภาพอากาศของกรุงเทพฯ จำนวน 10 ชนิด รวม 57,700 ต้น ประกอบด้วย บานชื่น สร้อยไก่ ดาวเรือง ดาวเรืองฝรั่งเศส คอสมอส แพงพวยเลื้อย แพงพวยฝรั่ง แวววิเชียร พิทูเนีย และกล้วยไม้หวาย มาปลูกเป็นลวดลายสวยงาม แปลงโฉมป้อมมหากาฬเป็นสวนดอกไม้เต็มพื้นที่ 4 ไร่ 300 ตารางวา โดยทุ่งดอกไม้จะบานเป็นเวลาประมาณ 45 วัน หรือบานจนถึงประมาณต้นเดือน ม.ค.2564 โดยประชาชนสามารถเข้าชมในช่วงเวลา 05.00 – 21.00 น. ของทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับชาวกรุงเทพฯ

จากการลงพื้นที่ป้อมมหากาฬในปัจจุบัน พบว่า ประชาชนที่มาเที่ยวชมทุ่งดอกไม้ยังคงสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM2.5 และ ป้องกันไวรัส covid-19  ขณะเดียวกันยังให้ความสนใจในการถ่ายภาพมุมสวยๆ ที่มีทุ่งดอกไม้ที่หลากหลายสายพันธุ์สีสันสวยงาม  โดยมีเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครคอยดูแลซ่อมแซมต้นไม้ให้ดูสวยงามตลอดเวลา และ มีการปลูกดอกไม้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังจัด กิจกรรม “ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง” ใจกลางกรุงเทพฯ ที่มี Street Food และ Street Art สองฟากฝั่งคลองตั้งแต่สะพานดำรงสถิต สะพานภาณุพันธ์ สะพานหัน สะพานบพิตรพิมุข และสะพานโอสถานนท์ รวมระยะทาง 750 เมตร โดยเริ่มต้นจากสะพานเหล็ก มีการเชื่อมกันระหว่างคลองโอ่งอ่างกับสวนดอกไม้ภายในป้อมมหากาฬ  

“ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง” เป็นตลาดที่มีความคูลๆ ที่มีทั้งอาหารให้ ชิม และ มีเรือคายัคและซับบอร์ดให้พายชมบรรยากาศคลองโอ่งอ่าง  เป็นบรรยากาศที่ดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นสมัยใหม่และอีกทั้งยังสามารถใส่ชุดคอสเพลย์ มาเดินเที่ยว โดยยังมีสถานที่ให้ถ่ายรูปแบบชิคๆและร่วมกันเช็กอิน กับงานกราฟฟิตี้แชร์สู่โลกโซเชียล ตลอดจนเปิดโอกาสให้กลุ่มนักเรียนนักศึกษาเข้ามาทำกิจกรรมเปิดหมวกเพื่อเป็นการเพิ่มสีสันให้กับ “ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง” อีกด้วย

ตามเส้นทาง “ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง”  ยังมีผลงานภาพศิลปะงานอาร์ทบนกำแพงที่สื่อสารถึงวิถีชีวิตของคนย่านเก่าแก่แห่งนี้ ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เป็นย่านการค้าขายทางประวัติศาสตร์ และภาพการ์ตูนที่มีสีสันสันสวยงาม

ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า เมื่อน้ำในคลองโอ่งอ่างใสสะอาดขึ้น จึงได้เชิญชวนผ่านเพจเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2563 ที่ผ่านมา ให้มาท่องเที่ยวเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์โควิด-19 ควบคู่ไปถึงการฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับประชาชน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงจัดถนนคนเดินริมคลองโอ่งอ่างขึ้นด้วยความร่วมมือของหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร และภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกลางใจเมืองกรุงเทพมหานคร

ปก

“ปรากฏว่า มีภาคเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑลนำเรือพาย มาบริการ รวมถึง ผู้ว่าฯกทม.จึงได้ของบประมาณเพื่อเป็นการต่อยอดให้กับตลาดโดยปัจจุบันมีเรือให้พายจำนวน 15 ลำ สามารถพายเรือได้ลำละ 2 คน ด้านความปลอดภัยในการพายเรือคายัคและซับบอร์ดจะมีเจ้าหน้าที่คอยประจำตามจุดต่างๆ และมีการเซฟเบื้องต้นโดยให้นักท่องเที่ยวสวมใส่เสื้อชูชีพเพื่อกันอุบัติเหตุในระหว่างพายเรือด้วย”

ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง กับ ทุ่งดอกไม้ป้อมมหากาฬ จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ที่น่าเที่ยวชม อย่างไรก็ดีอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆนะคะ เพื่อสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง ห่างไกลโรคโควิด-19 ค่ะ

ภาษิตโบราณมีว่า “รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี” ซึ่งน่าจะเหมาะกับสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองไทยในเวลานี้ หลังจากเกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ซัดถล่มการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของโลกให้ทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบที่เกิดขึ้นมากมายมหาศาล ทำให้แต่ละประเทศ แต่ละรัฐบาลเลยต้อง “รู้รักษาตัวรอด” ไปตามๆ กัน ประเทศไทยเองก็เช่นกัน แม้วิกฤตโรคระบาดจะผ่อนคลายลงไปบ้างแล้ว แต่ผลพวงที่เกิดจากวิกฤติดังกล่าวยังคงส่งผลอย่างต่อเนื่อง ทำการท่องเที่ยวฟุบหนัก เนื่องจากคนไม่เดินทาง และบางประเทศยังไม่อนุญาตให้มีการเดินทางหรือเปิดประเทศตามปกติ นักท่องเที่ยวผู้พิศมัยเมืองไทย ไม่ว่าจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน เลยพลอยหายเข้ากลีบเมฆ เมื่อนักท่องเที่ยวหาย เม็ดเงินใช้จ่ายก็เลยหด การค้าการขายพลอยเจ็บตัวไปด้วย รัฐบาลเลยต้องหาทางฟื้นฟู รณรงค์ระดมกำลัง เพื่อทำให้การท่องเที่ยวในประเทศพลิกฟื้นขึ้นมาให้ได้

ดังนั้น เวลานี้ใครเดินทางเข้าไปย่านใจกลางเมือง หรือภายในเกาะรัตนโกสินทร์ จะพบเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทั้งการปรับภูมิทัศน์จัดระเบียบใหม่ การปลูกต้นไม้ดอกไม้ให้สวยงาม หรือแม้แต่การฟื้น “ถนนคนเดิน” เพื่อจูงใจให้คนไทยด้วยกันไปเที่ยวกันมากขึ้น เช่น ที่ คลองโอ่งอ่าง ย่านชายขอบระหว่างเขตพระนครและเขตสัมพันธวงศ์ ที่จัดระเบียบปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามเป็น “ถนนคนเดิน” ให้คนไทยได้ไปเที่ยวกัน คลองโอ่งอ่างโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม และน้ำในคลองยังสะอาดสะอ้าน เพิ่มบรรยากาศให้น่าเดินเที่ยว รอบๆ บริเวณถนนคนเดินนั้น นอกจากยังคงสภาพให้เป็นย่านที่อยู่อาศัยตามปกติของชาวชุมชนแล้ว ยังมีมีสตรีทอาร์ตเป็นไฮไลท์จุดเช็คอินแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวอีกด้วย

คลองโอ่งอ่างเป็นส่วนหนึ่งของคลองรอบกรุง ขุดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ที่โปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองคูเมืองเดิมเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนเหนือที่ตำบลบางลำพู ไปออกแม่น้ำเจ้าพระยาตอนใต้ใกล้กับวัดจักรวรรดิราชาวาส คลองรอบกรุงนี้มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปหลายชื่อ อาทิ คลองวัดเชิงเลน , คลองบางลำพู และชื่อ “คลองโอ่งอ่าง” เป็นชื่อคลองในช่วงสุดท้ายก่อนจะไปบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากบริเวณนี้เคยเป็นแหล่งค้าขายโอ่งเเละเครื่องดินเผาของชาวมอญและชาวจีน ปัจจุบันคลองโอ่งอ่างเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างเขตพระนครกับเขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาคลองโอ่งอ่างได้มีการปรับปรุงพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงทางเท้าในปี 2562 ที่มีการติดตั้ง “ฝาท่อลายศิลป์” ตั้งแต่ช่วงสะพานดำรงสถิตถึงสะพานโอสถานนท์ เป็นจุดที่น่าสนใจในบริเวณคลองแห่งนี้

การขุดคลองโอ่งอ่างในสมัยรัชกาลที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2328 ก็เพื่อขยายอาณาเขตของพระนครให้กว้างใหญ่ และใช้เป็นเส้นทางสายใหม่ในการคมนาคม การขุดได้ระดมแรงงานทหารเกณฑ์ชาวเขมรจำนวนถึง 10,000 คน เพื่อขุดคลองสายประวัติศาสตร์สายนี้ จุดเริ่มต้นของคลองโอ่งอ่างอยู่ที่แม่น้ำเจ้าพระยาตรงหน้าวัดสังเวช ขุดผ่านไปถึงวัดสะแก แล้วอ้อมผ่านกลับลงไปทางด้านใต้ของโค้งน้ำเจ้าพระยาตรงบริเวณวัดเชิงเลน และสิ้นสุดที่วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร หรือวัดสามปลื้ม รวมระยะทางที่ขุดมากกว่า 3 กิโลเมตร รัชกาลที่ 1 พระราชทานนาม เรียกว่า “คลองรอบกรุง”

คลองรอบกรุง มีชื่อเรียกแตกต่างกันเป็นตอนๆ ตามสถานที่สำคัญที่คลองผ่าน เช่น ตอนต้นผ่านตำบลบางลำพู เรียก “คลองบางลำพู” เมื่อผ่านสะพานหันเรียก “คลอง

สะพานหัน” เมื่อผ่านวัดเชิงเลนเรียก “คลองวัดเชิงเลน” และช่วงสุดท้ายเรียก “คลองโอ่งอ่าง” เพราะเคยเป็นแหล่งค้าขายโอ่ง อ่าง กระถาง และภาชนะต่างๆ ที่ปั้นด้วยดินเผาของชาวมอญและชาวจีนที่เข้ามาค้าขายกับสยามในสมัยนั้น