หากเคยผ่านไปย่านท่องเที่ยว ตลาดนัดกลางคืน หรือห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง มักจะได้เห็น ของฝาก ที่ดูสะดุดตา

ของฝาก – โดยเฉพาะกับแหล่งเที่ยวยอดนิยมคนจีน อย่างเอเชียทีค เซ็นทรัลเวิลด์ บิ๊กซีราชดำริ คิงเพาเวอร์ หลายคนอาจสะดุดตา กับเหล่ายาทาคลายปวดกล้ามเนื้อ สาหร่ายแผ่น หรือ ทุเรียนแปรรูป ที่บรรดาร้านขายยาชั้นนำ และศูนย์การค้านำมาจัดไว้ด้านหน้าเรียกลูกค้า

และก็ให้แปลกใจว่า ขายดีสำหรับคนไทยเลยหรือนี่

แท้ที่จริงแล้ว ทั้งบรรดายานวด และขนมเหล่านั้น เป็น ของฝากยอดนิยม ที่คนจีนต่างบินตรงมาหอบหิ้วติดไม้ติดมือไปฝากเหล่าญาติสนิท ซึ่ง มติชน พาไปไขข้อข้องใจว่า อะไรที่ฮิต และเพราะเหตุใด สิ่งเหล่านี้จึงขาดไม่ได้ที่จะแพคกลับไชน่าไปทีละเป็นลังๆ


เหล่าห้างสรรพสินค้าได้จัดโซนของฝากจากไทยโดยเฉพาะ

ไชยา ประเสริฐกุล มัคคุเทศก์อิสระ ที่ทำหน้าที่นี้มากว่า 20 ปี จัดอันดับให้เราคร่าวๆ ว่า ของฝากที่คนจีนจะซื้อกลับบ้านไปนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ขนมต่างๆ, ยานวด ยาหม่อง และ เครื่องสำอาง ที่ไม่ว่าใครก็ต้องซื้อกลับไป หลายคนยังได้เสิร์ชข้อมูล นำรูปมาถามไกด์ด้วยว่า สิ่งเหล่านี้จะซื้อได้ที่ไหน

ซึ่งจากการทอดน่องสำรวจตลาดแล้ว เราพบว่าในแต่ละประเภทก็มีรายละเอียดมากมาย เริ่มจาก ผลไม้อบแห้ง ทั้ง ทุเรียน มะม่วง ที่คนจีนปลื้ม ไปจนถึงมังคุด ขนุน สับประรด กล้วย ทั้งหมดนี้ใช่แต่จะมีอบแห้งเป็นแผ่นๆ เหมือนเดิม แต่ยุคนี้มีนวัตกรรมการอบแห้งทุเรียนทั้งชิ้น ไปแปรรูปข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิอบกรอบ กระทั่งแคร็กเกอร์ไส้ทุเรียน และ คุกกี้ทุเรียน ก็มีให้เห็น

ว่ากันต่อด้วยบรรดา ขนมแบรนด์ไทย โดยเฉพาะ เถ้าแก่น้อย และเบนโตะ ที่ชาวต่างชาติเหมากันที่เป็นลังๆ หรือกระทั่งป๊อกกี้ มโนราห์ โคอาล่า มาร์ช ลูกอม ชาตรามือ บางอย่างขายดีจนต้องออกรสชาติทุเรียนมาเพิ่มเติม

อันดับต่อไป คือบรรดายานวด ยาหม่อง ทั้งเคาน์เตอร์เพน แผ่นปิดตราเสือ ยาพาราเซตามอล เซียงเพียวอิ๊ว ยาดมโป๊ยเซียน ยาหม่องโพธิ์หยก ที่เรามักจะได้เห็นร้านขายยาจัดวางไว้ให้เห็นชัดหน้าร้าน ขายดีจนออกแพค 30-40 ชิ้นมาขายก็มี แต่ละคนซื้อกันบิลละ 3 หมื่นก็ยังมี

ข้ามไปที่ประเภทสุดท้าย “เครื่องสำอาง” ทั้ง สเนล ไวท์, ศรีจันทร์, มาส์กหน้าขาวใส ต่างๆ เช่น มาส์กทองคำ เลย์ และวูดู, โฟมน้ำนม บิวตี้ บุฟเฟ่ต์, แป้ง และ อายไลเนอร์ มิสทิน ซึ่งความขาวกระจ่างใสนี่ล่ะ ที่ได้ใจคนจีน ขายดีจนห้างใหญ่ๆ อำนวยความสะดวกโดยจัดโซนของฝากจากไทยให้เห็นด้านหน้า แถมมีกล่องให้แพคกลับได้ง่าย

ที่มาความฮิต

ไกด์จีนมากประสบการณ์ บอกต่อว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีน มักจะหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ก่อนมาเที่ยวเมืองไทย รวมถึงเรื่องของฝากด้วย ซึ่งฮิตมานานเป็น 10 ปี ด้วยแรกเริ่ม เหล่าไกด์ได้แนะนำให้กับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกๆ นำไปบอกต่อ อย่างยารักษาโรค ต้องยอมรับว่า ประเทศไทยมี อย. ยาต่างๆ ได้มาตรฐาน ราคาไม่แพง ซึ่งคุณภาพอาจดีกว่าที่จีน ทำให้เขาเชื่อใจไทย ขณะที่บรรดาเครื่องสำอาง ก็ได้เน็ตไอดอล บล็อกเกอร์ ของจีน ไปบอกต่อๆ กัน ทำให้ร้านขายยา หรือเซเว่น นำของพวกนี้ไปไว้หน้าร้าน ไกด์ก็จะแนะนำว่าซื้อได้ที่ไหน หากซื้อเยอะต้องไปห้างไหนจึงถูก ส่วนเสื้อผ้า ยังไม่ได้นิยมมากนัก จะมีก็ กระเป๋านารายา ที่ยังขายดี ของเหล่านี้ส่วนใหญ่ นิยมไล่มาตั้งแต่ชาวญี่ปุ่น ไต้หวัน และจีน เพราะตลาดจีนเปิดช้ากว่าประมาณ 10 ปี

นอกจากเรื่องของฝากแล้ว ที่เที่ยว ที่กิน และแอ๊กทิวิตี้เก๋ๆ ก็เป็นสิ่งที่เราอยากรู้เช่นกัน

แหล่งเที่ยวยอดนิยม

ไชยา เผยว่า ปกติหากนักท่องเที่ยวมาไทยกับทัวร์ ก็จะพลาดไม่ได้กับวัด วัง จากนั้น ก็ไปเที่ยวพัทยา ไปตลาดน้ำ 4 ภาค เที่ยวตลาดร่มหุบ ที่ จ.สมุทรสงคราม ตลาดน้ำดำเนินสะดวก โดยเวลากลางคืน ทัวร์มักพาไปล่องเรือ ดูคาบาเร่ต์โชว์ หากมีเวลาเหลือถึงจะไปช้อปปิ้งใจกลางเมืองย่านสยาม แต่ถ้ามาท่องเที่ยวเองก็จะแล้วแต่ความสนใจ ซึ่งตลาดนัดยอดนิยมก็ยังเป็น ตลาดนัดจตุจักร ข้าวสาร ตลาดนัดรถไฟรัชดา หรือไปหาของกิน เยาวราช ส่วนเรื่องอาหาร นอกจากต้มยำกุ้ง ส้มตำ ผัดไทย แล้ว ก็ยังนิยม ต้มข่าไก่ และข้าวเหนียวมะม่วง ที่คนหนึ่งจะต้องซื้อกินสักครั้งเมื่อมาเมืองไทย จนไกด์ต้องเหมาเผื่อเตรียมไว้ให้

และด้วยสังคมที่เปลี่ยนไป มัคคุเทศก์คนนี้เผยว่า ทุกวันนี้คนจีนเริ่มหันมาเที่ยวเองมากขึ้น จากข้อมูลที่หาได้ง่าย การเดินทางง่ายและถูก รวมถึงคนไทยที่พูดจีนได้มากขึ้น พนักงานในร้านค้าต่างสามารถพูดภาษาจีนได้ เด็กรุ่นใหม่ๆ ก็เลือกเรียนจีนมากขึ้น ผู้ประกอบการทั้งหลายจึงต้องปรับตัว จริงใจต่อการให้บริการ

 


ที่มา นสพ.มติชนรายวัน