โก โฮลเซลล์ เดินหน้าธุรกิจค้าส่งรักษ์สิ่งแวดล้อม มอบถังคัดแยกขยะแก่โรงเรียน และเทศบาลนครภูเก็ต ส่งเสริมการคัดแยก ลดโลกเดือด

โก โฮลเซลล์ (GO Wholesale) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ทางเลือกใหม่เพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้านโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการบริหารจัดการขยะมูลฝอย หรือ Waste Management Solutions ด้วยการส่งเสริมการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ล่าสุด นางสาวพรจารี วิศิษฏ์กุล ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการ พร้อมด้วย นางสาวอัจฉรีย์ รมทอง ผู้จัดการทั่วไป โก โฮลเซลล์ สาขาเมืองภูเก็ต พนักงาน โก โฮลเซลล์ สาขาเมืองภูเก็ต ได้ส่งมอบถังคัดแยกขยะขนาด 120 ลิตร ให้แก่เทศบาลนครภูเก็ต โดยมี นายศุภโชค ละอองเพชร รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เป็นผู้รับมอบ

ทั้งนี้ ถังคัดแยกขยะที่สนับสนุนโดย โก โฮลเซลล์  จะถูกนำไปวางในสถานที่ต่างๆ มีความสำคัญต่อชุมชน ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง(ขุนวิเศษนุกูลกิจอุทิศ) โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ฯ โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี โรงเรียนเทศบาลเมืองภูเก็ต โรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว โรงเรียนเทศบาลวัดขจรรังสรรค์ โรงเรียนเทศบาลอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลนครภูเก็ต 3  (วัดเจริญสมณกิจ) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลภูเก็ต 2 สวนหลวง ร.9 และเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังพฤติกรรมการแยกขยะให้ถูกต้องก่อนทิ้ง ให้กับน้องๆ เยาวชนของชาติ ลดการสร้างมลพิษทางสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นพันธกิจสำคัญที่มีความสอดคล้องกับเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ของเครือเซ็นทรัล รีเทล ด้วย 

ปัจจุบัน โก โฮลเซลล์ มีสาขา 8 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ อมตะชลบุรี พัทยาใต้ พระราม 2 รังสิต รามคำแหง และราไวย์   จ.ภูเก็ต โดยในวันที่ 23 กันยายนนี้ จะเปิดสาขาเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต อีกหนึ่งแห่ง ซึ่งเป็นสาขาลำดับที่ 9

โรงเรียน Brighton School District 27J ในโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ประกาศว่าจะย้ายไปสู่การเป็นโรงเรียนที่เรียน 4 วัน/สัปดาห์ในเดือนสิงหาคมนี้ และจะย้ายการเรียนการสอนในเดือนเมษายนไปสู่ระบบออนไลน์ด้วย

โดยโรงเรียนนี้ให้เหตุผลว่าการเรียน 4 วัน/สัปดาห์ จะช่วยสร้างตารางเรียนที่ไม่ซับซ้อน, เหมาะสม และกระชับ นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูผู้สอนสามารถเตรียมเนื้อหาได้ดีขึ้น แลพัฒนาทักษาะการสอนให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น

นโยบายดังกล่าวจะให้ครูและนักเรียนมาโรงเรียนตั้งแต่วันอังคาร-ศุกร์ ซึ่งอีกเหตุผลหนึ่งของการเปลี่ยนมาใช้นโยบายนี้คือ ต้องการตัดงบประมาณด้านการศึกษาออกด้วย

หลังการประกาศดังกล่าว ผู้ปกครองก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางรายก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้อยู่กับลูกที่บ้านมากขึ้น ขณะที่บางรายกังวลเกี่ยวกับการใช้พี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

ทั้งนี้ แม้ว่าเทรนด์ด้านการศึกษาหลายเรนด์จะมาแล้วก็ไป แต่บางอย่างก็มักจะย้อนกลับไปสู่รูปแบบปกติพื้นฐาน

ดร.จอห์น คอนราธ กล่าวว่า ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมานี้ การศึกษาถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีความเคลื่อนไหวใหญ่ๆ ที่ส่งผลกับตารางเรียนหรือเวลาเรียนของนักเรียนแบบยั่งยืน