เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข มีการแถลง สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 หลังจากพบว่า มีผู้กลับมาจากพม่า รอผลตรวจยืนยันโควิด 19 อีก 4 ราย ที่พะเยา กทม. พิจิตร และราชบุรี จังหวัดละ 1 ราย อย่างไรก็ตามพบว่า ผู้ที่เดินทางกลับมาจากท่าขี้เหล็ก ติดเชื้อโควิดแล้ว 10 ราย

รายละเอียดทั้ง 4 ราย

เพศหญิงอายุ 28 ปี จ.พะเยา ทำงานโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก วันที่ 27 พ.ย.เดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ วันที่ 27 พ.ย. เดินทางจากแม่สาย เหมาแท็กซี่ มาส่งที่เมืองเชียงราย พักห้องเช่า คนเดียว ออกไปซื้ออาหารในตัวเมือง วันที่ 29 แฟนขับรถจากพะเยา มารับไปเที่ยวงานสิงห์ปาร์ค จอดรถโซน C26 นั่งรถสองแถวเข้างานเวลา 20.00 น. นั่งโต๊ะบริเวณลานเบียร์ เดินไปซื้ออาหาร และเบียร์ ไม่ได้เข้าบริเวณหน้าเวที สวมหน้ากากเว้นเวลาดื่มเบียร์ กลับห้องเวลา 23.00 น.

จากนั้น 04.00 ออกไปพักโรงแรม Hop Inn ในตัวเมือง วันที่ 30 พ.ย. ทานอาหารกลางวันระหว่างทาง แวะปั๊ม ปตท. แม่สรวย เดินทางไปเชียงใหม่ เข้าตรวจเชื้อ รพ.เอกชน เวลา 17.00 น. กลับพะเยา โดยรถยนต์ส่วนตัว เข้ารับการรักษาใน รพ.พะเยา 24.00 น. ได้รับแจ้งว่าติดเชื้อ

หญิงอายุ 21 ปี กทม. ได้เดินทางไปเที่ยวโรงแรม 1G1 ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พร้อมเพื่อนสนิท 1 คน วันที่ 17-27 พ.ย. วันที่ 28 พ.ย. ได้เดินทางจากพม่าเข้าทางช่องทางธรรมชาติแม่สาย จ.เชียงราย มีรถจยย.มารับ โดยซ้อน 3 คน ขณะนั้นเริ่มมีไข้ เจ็บคอ เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในแม่สาย ประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเรียกแกร็บ ไปสนามบิน และเดินทางเข้ากทม. ลงที่สนามบินดอนเมือง และนั่งแท็กซี่ไปคอนโดย่านอุดมสุข วันที่ 29 พ.ย. พบว่าหญิงวัย 21 ไปคลินิกย่านอุดมสุข ก่อนที่คลินิกจะแนะนำให้ไป รพ. จึงเดินทางไปโดยรถยนต์ส่วนตัวกับแฟน เพื่อไปตรวจที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งย่านบางนา ผลเบื้องต้นพบเชื้อโควิด

หญิงอายุ 25 ปี จ.พิจิตร ไปเที่ยวโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก วันที่ 28 พ.ย. เข้าประเทศไทย ช่องทางธรรมชาติ มีรถจยย.มารับ โดยซ้อน 3 คน ขณะนั้นเริ่มมีไข้ เจ็บคอ น้ำมูก เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในแม่สาย ประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเรียกแกร็บ ไปสนามบิน และเดินทางเข้ากทม. ไฟล์ท DD8717 ลงที่สนามบินดอนเมือง จากนั้น 15.00 น. เดินทางจากดอนเมืองไปพิษณุโลก กลับ จ.พิจิตร เพื่อนมารับ

จากนั้น ไปกินอาหารกับเพื่อน 4 คน ที่ร้าน Bird Bar วันที่ 29 พ.ย. กินก๋วยเตี๋ยวหน้าหอพัก ช่วงเย็นไป ร้าน Bird Bar ต่อด้วยร้าน Crocodile Rock Pub จ.พิจิตร วันที่ 30 พ.ย. ทำเล็บ ช่วงกลางวันสั่งแกร็บ ช่วงเย็น ไป ร้าน Bird Bar ต่อด้วยร้าน Crocodile Rock Pub วันที่ 1 ธ.ค. สสจ.พิจิตร เก็บตัวอย่างตรวจ พบเชื้อโควิด

โควิด-คร-696x394
2

หญิงอายุ 36 ปี อยู่ประเทศพม่า วันที่ 3-28 พ.ย. ไปเที่ยว 1G1 2 คืน ที่ ท่าขี้เหล็ก วันที่ 26 พ.ย. มีไข้ น้ำมูก เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ซื้อยากินเอง วันที่ 29 พ.ย. เดินทางกลับไทยช่องทางธรรมชาติ เข้าเชียงใหม่ พร้อมเพื่อน ไม่สวมหน้ากาก นั่งเครื่องบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน 10.40 น. ถึงดอนเมือง เวลา 12.00 น. ขึ้นแท็กซี่ จากดอนเมือง ไปที่หมอชิต ใช้บริการรถตู้ จากหมอชิต ลงที่ Big C ราชบุรี ใช้บริการจักรยานยนต์ จากบิ๊กซี ไป รพ.เอกชน วันที่ 1 ธ.ค. เพื่อนที่ไปงานเลี้ยงด้วยกัน ส่งผลตรวจพบเชื้อโควิด หญิงวัย 36 ปี ถูกส่งตัวต่อไป รพ.ราชบุรี ผลตรวจพบเชื้อ

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

ด่วนทีประชุม ศบค. มีมติให้เลื่อน วันหยุดนักขัตฤกษ์ ของเดือนพฤษภาคมนี้ออกไปก่อน เตรียมเสนอ ครม. วันที่ 28 เม.ย.นี้ เล็งชดเชยให้ภายหลัง

วันที่ 27 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล รายงานข่าวแจ้งว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ว่า ที่ประชุมศบค. เห็นชอบให้เลื่อนวันหยุดช่วงเดือน พ.ค.นี้ คือ ในวันแรงงานวันที่ 1 พ.ค., วันฉัตรมงคลวันที่ 4 พ.ค., วันวิสาขบูชา วันที่ 6 พ.ค. และวันพิชมงคลวันที่ 11 พ.ค.

โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในที่ 28 เม.ย.นี้ เพื่อไม่ให้มีการหยุดยาวติดต่อกัน 6 วัน เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นห่วงเรื่องการเดินทางของประชาชน โดยจะไปหาวันหยุดชดเชยในภายหลัง เช่นเดียวกับเมื่อครั้งวันสงกรานต์ คาดว่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ โดยจะดูสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นประกอบกันด้วย

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน(มติชนอคาเดมี) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับมอบผลิตภัณฑ์จาก บ. เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด(มหาชน) โดย คุณอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการฯ มอบขนมปังฟาร์มเฮ้าส์วันละ 200 ชิ้นจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2563

คุณกอล์ฟ-ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทสุนทรธัญทรัพย์ จำกัด (ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงตราไก่แจ้) มอบข้าวสารบรรจุถุงตราไก่แจ้ 1 ตัน และขนมตราแม่นภา 300 ชิ้น และ คุณโบว์-ณชา จึงกานต์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ จำกัด มอบขนมแบรนด์ “คันนา” จำนวน 1,000 ชิ้น เพื่อนำไปมอบให้กับชุมชนในกรุงเทพฯที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 เมษายน 2563 ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับมอบผลิตภัณฑ์จาก3บริษัท เพื่อนำไปมอบให้กับชุมชนในกรุงเทพฯที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบด้วย บ. เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ โดย คุณอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการฯ มอบขนมปังฟาร์มเฮ้าส์วันละ 200 ชิ้นจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2563

คุณกอล์ฟ-ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทสุนทรธัญทรัพย์ จำกัด (ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงตราไก่แจ้) มอบข้าวสารบรรจุถุงตราไก่แจ้ 1 ตัน และขนมตราแม่นภา 300 ชิ้น และ คุณโบว์-ณชา จึงกานต์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ จำกัด มอบขนมแบรนด์ “คันนา” จำนวน 1,000 ชิ้น ให้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19แพร่ระบาด นายชัชชาติ ได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภคที่รับมอบมาจากหลายบริษัท นำไปมอบให้หลายชุมชน อาทิ คุณครูประทีปที่มูลนิธิดวงประทีป คลองเตย ครูแอ๋มที่ชุมชนโรงหมู จักรส่งที่ชุมชนหลังสถานีทองหล่อ ชุมชนสาหร่ายทองคำ ชุมชนเยี่ยมเจริญสุข ชุมชนสวนหลวงก้าวหน้า ชุมชนมาชิม ชุมชนเฉลิมอนุสรณ์ ชุมชนมีมเรืองเวช เป็นต้น

โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า เราจะช่วยบรรเทาภาวะความขาดแคลนของคนในชุมชนไปด้วยกัน ในสถานการณ์โควิดระบาดเราจะรอดคนเดียวไม่ได้ เราต้องรอดไปด้วยกัน เราต้องร่วมมือกัน โดยการช่วยดูแลชุมชนใกล้บ้าน

“ผมคิดว่าเป็นการช่วยรัฐบาลให้เราเดินไปด้วยกันได้ สิ่งที่เราได้มาเราส่งให้ถึงชุมชน ติดต่อประธานชุมชน ชุมชนที่เดือดร้อน ผมว่าเรามีคนจำนวนมากที่อยากจะช่วย แต่บางทีเขาไม่รู้จะส่งไปที่ไหน ถ้าเราช่วยกันดูแลชุมชนที่เรารู้จัก รัฐบาลเดินภาพใหญ่ เราช่วยกันเดินภาพย่อย ดูแลชุมชนใกล้เคียงกัน สุดท้ายเราจะรอดไปด้วยกัน

“ถ้าบริษัทเอกชนอยากจะช่วยนำผลิตภัณฑ์ไปให้ชุมชน ผมก็สามารถจัดการให้ได้ แต่บริษัทต่างๆก็สามารถดูแลชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงก่อนได้ จัดการโดยตรงได้ ผมว่าง่ายที่สุด สามารถลงไปที่ชุมชนแห่งนั้นได้เลย”นายชัชชาติกล่าว

ด้านนายอภิเศรษฐ กรรมการรองผู้อำนวยการ บ. เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในสถานการณ์โควิด-19ระบาด นอกจากฟาร์มเฮ้าส์จะส่งผลิตภัณฑ์ให้คุณชัชชาติเพื่อนำไปมอบให้ชุมชนแล้ว เรายังบริจาคให้โรงพยาบาลหลายแห่ง อาทิ บำราศนราดูร วชิรพยาบาล จุฬาลงกรณ์ ฯลฯ ทุกวัน

“หลังจากมีสถานการณ์โควิด-19แพร่ระบาด ในส่วนของฟาร์มเฮ้าส์มีการปรับตัว เราตรวจวัดอุณหภูมิพนักงาน ล้างมือด้วยเจล ความจริงในโรงงานเราทำอยู่แล้ว พนักงานทุกคนต้องใส่หน้ากากทุกวัน ล้างมือทุกๆชั่วโมง ล้างแอลกอฮอล์เจล เรื่องความสะอาดเราผลิตโดยเครื่องจักรเกือบ100% มีแค่การจัดสินค้าเท่านั้น จึงไว้ใจได้ว่าสะอาด

“ส่วนพนักงานออฟฟิศ พนักงานฝ่ายขาย และพนักงานขนส่ง เราตรวจวัดอุณหภูมิทุกวัน เช็กประวัติ เรามีแพทย์ประจำโรงงาน ปรึกษาได้ทุกวัน นอกจากนี้ยังมีโครงการ Work From Home อย่างออฟฟิศเราอยู่ในเมือง พนักงานก็ต้องใช้บริการขนส่งมวลชน จึงให้ Work From Home อยู่ที่บ้านประมาณครึ่งหนึ่ง มาทำงานครึ่งหนึ่ง ให้เหลื่อมเวลาทำงาน เพื่อไม่ต้องไปเจอการจราจรมาก

“เราเป็นคนทำอาหาร ตอนนี้อาหารเป็นปัจจัยหลัก กินขนมปังสะดวก ไม่ต้องติดไฟ แค่ฉีกซองก็กินได้เลย ของเราทำสดใหม่ กินแล้วอร่อย เราช่วยในจุดนี้ให้กับแพทย์พยาบาล รวมถึงเราได้ติดตามกิจกรรมของคุณชัชชาติอยู่แล้วว่ามีการสนับสนุนชุมชนคลองเตย เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเขาได้รับตรงนี้ไป จะช่วยเขาได้ดี เพราะตอนนี้กิจการต่างๆปิดไปเยอะ ทำให้คนไม่มีงาน”นายอภิเศรษฐกล่าว

ด้านคุณโบว์-ณชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ จำกัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้บริจาคหน้ากากและขนมให้กับมูลนิธิรามาธิบดี และศูนย์บริการโลหิตสภากาชาดไทย เพื่อให้กับแพทย์และพยาบาลแล้ว นอกจากนี้เรารู้สึกว่ามีหลายชุมชนในกรุงเทพฯในประเทศไทย ที่เราอาจไม่ทันนึกถึงเขา บางทีความช่วยเหลือไปไม่ถึง นึกไม่ออกว่าที่ไหนขาดแคลน

“ตรงนี้จึงเป็นโครงการที่ดีมาก ถ้าเรานึกถึงคนในชุมชน คนรอบข้าง แล้วสามารถช่วยเหลือกันได้ทุกหย่อมหญ้า สามารถช่วยเหลือกันได้ทุกจุด ก็จะทำให้ทุกจุดเข้มแข็งขึ้นมา เราก็จะสามารถฟันฝ่าวิกฤตในตอนนี้ไปได้ เพราะตราบใดที่จุดเล็กๆยังไม่ได้รับการช่วยเหลือแก้ไข แปลว่าโรคไวรัสโควิด-19ก็ยังหยุดไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราให้ครบทุกจุดได้ มันจบ”คุณโบว์-ณชากล่าว และว่า

ในส่วนของบริษัทคันนาเอง มีการปรับตัวเยอะมาก จริงๆเราปรับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เราเจอคลื่นตั้งแต่ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในเมืองไทย เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง เรารู้เลยว่าตอนนี้ทำแบบเดิมไม่ได้ ปรับทุกอย่างให้เป็นออนไลน์ หรือแม้กระทั่งวิธีการสื่อสารทางการตลาด เราก็เป็นการสื่อสาร2ทางกับลูกค้ามากขึ้น เราบอกเขาว่าเราเป็นเพื่อนคุณ เราอยู่กับคุณทุกที่ทั้งในบ้าน และที่ทำงาน หรือแม้แต่โปรดักส์ เราก็มีโปรดักส์ใหม่ที่ออกมาสำหรับกลุ่มคนไทยโดยเฉพาะ เช่น ต้มยำอบกรอบ ที่เอาไปคลุกข้าวสวยก็กินได้เลย

“อย่างตัวล่าสุดเป็นขนมเปี๊ยะใส้ถั่วล้วน อบเตาโบราณ ที่ช่วยเสริมสร้างร่างกาย แป้งบาง อบควันเทียน ที่คนไทยส่วนมาก ต่างวัยต่างอายุกินได้หมด ไม่หวานมาก มีประโยชน์ เน้นกลุ่มครอบครัวที่อยากเก็บตัวอยู่บ้าน นอกจากนี้กำลังต่อยอดอีกคอลเล็คชั่นของคันนา เป็นกลุ่มมะม่วงเอเชียนฟิวชั่นซีรีส์ เน้นเปรี้ยว เผ็ด แซ่บ อยู่บ้านยังไงไม่ให้เบื่อ กักตัวยังไงไม่ให้ชีวิตเหี่ยวเฉา มันเป็นรสชาติของคาวที่กินง่ายขึ้น แค่หยิบชิ้นมะม่วงขึ้นมา ก็ได้รสชาติของอาหารที่เราคุ้นเคยอยู่บนโต๊ะสำรับใหญ่ และก็มาอยู่ในมะม่วง เอามะม่วงมาทำเป็นของคาวเป็นของฟิวชั่น อยากให้เขารู้สึกว่าอยู่บ้านยังไงไม่ให้เบื่อ

“อีกทั้งเรายังรอออกสินค้าเยอะมาก พวกต้มยำจะออกมาอีกรูปแบบที่ซื้อง่ายขายคล่อง ราคาเข้าถึงได้ และเป็นต้มยำแบบกรอบ โดยที่ไม่ต้องมานั่งต้ม ปรุง กินกับข้าวคลุกแทนน้ำพริกได้เลย เป็นต้มยำแห้งและมีกุ้งหอยปูปลาในท้องทะเลเยอะมาก ตอนนี้จะเน้นแนวอยู่บ้านไม่ให้เบื่อ กินง่าย เราเลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพและไม่ประนีประนอมเรื่องความอร่อย

“ล่าสุดเราทำโฮมดิลิเวอรี่ด้วยระบบการขนส่งของเราเอง เราเอามาสคอตน้องมะม่วงคันนาไปหาลูกค้าเพื่อไปสวัสดีหน้าบ้าน และเอาของไปส่ง บอกเขาว่า เราอยู่ตรงนี้ เราจะช่วยกัน เราจะสร้างความสุขให้เขาตราบเท่าที่เราทำได้ในทุกๆเรื่อง”คุณโบว์-ณชากล่าว

ส่วน คุณกอล์ฟ-ธีรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสุนทรธัญทรัพย์ จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ทุกคนลำบาก เราอยากจะหยิบยื่นให้กับสังคม ซึ่งข้าวสารน่าจะดี เก็บได้ ทุกคนได้กิน ตอนนี้ที่ทำทุกเดือนคือการมอบข้าวให้กับ10โรงพยาบาลทั่วประเทศ ทยอยให้ไปเรื่อยๆตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยเริ่มมอบให้กับโรงพยาบาลแถวจ.ชลบุรีก่อน และมีหลายโรงพยาบาลติดต่อเข้ามา เราจะทยอยมอบให้ จะทำจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะหมด อะไรที่เราพอจะช่วยเหลือสังคมให้ก้าวผ่านตรงนี้ได้ เราก็อยากจะช่วย

“ในส่วนของข้าวไก่แจ้ มีการพยายามปรับตัว เพราะมีลูกค้าบางกลุ่มที่หายไป บางกลุ่มที่เพิ่มเข้ามา ซื้อมาขึ้น ส่วนเซลล์หรือพนักงานขนส่งเราให้เขาป้องกัน ใช้เจลแอลกออฮอล์ และให้ความรู้เรื่องการรักษาระยะห่างกับพนักงานในองค์กร ความปลอดภัย และการปฏิบัติตัวเวลาออกไปข้างนอก ใครที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ เราจะให้ทำงานจากที่บ้าน เพื่อลดการรวมกลุ่มกัน รวมถึงในโรงงานก็มีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อด้วย”คุณกอล์ฟ-ธีรินทร์กล่าว

“นิว อาไรวา” บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้าน ประสบปัญหายอดขายลดลง เนื่องจากวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักทั่วโลก ล่าสุดปรับตัวด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “แท่งกดปุ่มอนามัย” หรือ “พุช สติ๊ก” (Push Stick) ตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ต้องการใช้นิ้วกดวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 วางจำหน่ายเพียงไม่กี่วัน ขายได้กว่า 100,000 ชิ้น

นายทศพล ศุภเมธีกูลวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิว อาไรวา จำกัด เผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้าน แบรนด์ควอลี่ (Qualy)  มานานกว่า 15 ปี สินค้าเกือบทั้งหมดส่งออก 50 ประเทศทั่วโลก ตลาดหลักคือ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ ซึ่งหลังจากเกิดวิกฤตโควิด-19 ยอดขายตกลงเป็นอย่างมาก แต่บริษัทไม่มีนโยบายลดจำนวนพนักงาน ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 80 คน

บริษัทจึงได้พัฒนาสินค้าใหม่ หวังมีส่วนร่วมในการหยุดแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 คือ แท่งกดปุ่มอนามัย หรือ “พุช สติ๊ก” (Push Stick) ใช้กดปุ่มต่างๆ แทนนิ้วมือ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วกดวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ลิฟต์ ตู้เอที เอ็ม สวิตช์ไฟ กริ่งบนรถประจำทาง เครื่องกดหมายเลขสมาชิกในร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ

สำหรับวัสดุที่ใช้ทำแท่งกดปุ่มอนามัย รีไซเคิลจากซากแหและอวนดักปลาในทะเล โดยรับซื้อจากชาวประมง  วัสดุเหล่านี้มีความทนทานความร้อนได้สูง ล้างและใช้ซ้ำได้ นับเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนในท้องถิ่น ภายใต้โครงการ Net Free Seas โดย EJF (Environmental Justice Foundation) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน

นายทศพล กล่าวด้วยว่า แท่งกดปุ่มอนามัย ถูกออกแบบมาเป็นแท่งพร้อมปลอก มีขนาดเล็ก พกพาง่าย คล้ายพวงกุญแจ ทนต่อความร้อนสูง ทุบไม่แตก ปลอกเปิด – ปิด สามารถใส่เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดได้  คนถนัดมือซ้ายหรือมือขวาก็สามารถใช้ได้

หลังทดลองจำหน่ายได้เพียง 1 สัปดาห์ ลูกค้าให้การตอบรับดีเกินคาด จำหน่ายไปได้แล้วกว่า 100,000 ชิ้น มี 2 สี สีเขียว สีดำ ราคาชิ้นละ 60 บาท ภายในสัปดาห์หน้าหรือราวต้นเดือนเมษายน บริษัทเตรียมทำสีพิเศษแจกบุคลากรทางการแพทย์ 5,000 ชิ้น

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นายทศพล ศุภเมธีกูลวัฒน์

แหล่งข่าวในธุรกิจโรงแรมรายหนึ่ง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 อย่างหนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกหยุดการเดินทางทั้งหมด ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมจำนวนมาก ทั้งในพื้นที่เมืองพัทยา (ชลบุรี), ภูเก็ต, กระบี่ ฯลฯ ต้องปิดตัวหยุดให้บริการเป็นการชั่วคราว เนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้ ทำให้พนักงานโรงแรมตกงาน ขาดรายได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากลูกจ้างกลุ่มดังกล่าวนี้ไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรา 33 และมาตรา 39, 40 ประกันสังคม

​ทางกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมจึงรวมพลังกันโพสต์ พร้อมกด like และ share บนโซเชียลมีเดียของตัวเอง เพื่อสะท้อนมุมมองว่าทุกคนที่ทำงานต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมมาตลอด เมื่อคนทำงานประสบปัญหา ธุรกิจท่องเที่ยวได้ผลกระทบ โรงแรมไม่มีคนพัก แต่รัฐไม่สั่งปิด สุดท้ายธุรกิจต้องปิดตัวเอง ซึ่งลักษณะนี้สำนักงานประกันสังคมให้เงินสมทบ

แหล่งข่าวกล่าวว่า ตอนนี้คนโรงแรมทุกภูมิภาค ทั้งพัทยา ภูเก็ต กระบี่ และเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ รวมพลังช่วยกันแชร์ เพื่อสะท้อนให้ภาครัฐนำประเด็นนี้ไปพิจารณาผ่านแมสเซสที่ว่า “การเป็นเด็กดีจ่ายตรงจ่ายดีกับประกันสังคมมาตลอด พอมีปัญหาประกันสังคมดันทิ้งเรา..” ซึ่งก็คาดหวังว่าจะช่วยจุดประเด็นให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยดูแลบ้างเท่านั้น

“ประเด็นคือ พวกเราจ่ายภาษี จ่ายประกันสังคม แต่รัฐไปช่วยคนไม่เคยเสียภาษี คนไม่จ่ายประกันสังคม 5,000 ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน จึงมีคำถามว่าแล้วคนที่จ่ายภาษี จ่ายประกันสังคมทุกเดือนได้อะไร” แหล่งข่าวกล่าว

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คลังคาดตรวจจ่าย เงินเยียวยา 5 พันบาท ล็อตแรก 5 แสนคน ลงทะเบียนผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com จนถึงเวลา 18.00 น. วันที่ 1 มีนาคม ยอดกว่า 22.5 ล้านคน ​คาดตัวเลขน่าจะถึง 23 ล้านคน ยันผ่านเกณฑ์จ่ายทุกคน ล่าสุด ครม.มีมติให้เกลี่ยเงิน 4.5 หมื่นล้านบาทมาจ่ายในเดือนเมษายน เป็นเดือนแรก

นายลวรณ​ แสงสนิท​ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ​เปิดเผยว่า การตรวจสอบข้อมูลของลงทะเบียนรับ เงินเยียวยา จากผลกระทบโควิด-19 เดือนละ 5 พันบาทเป็นเวลา 3 เดือน รวม 1.5 หมื่นบาท เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 1 มีนาคม มียอดผู้ลงทะเบียนกว่า 22.5 ล้านคน ​ คาดว่าตัวเลขน่าจะถึง 23 ล้านคน เพราะกระทรวงการคลังไม่ได้ปิดรับลงทะเบียน ผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com

ทั้งนี้การตรวจสอบผู้ลงทะเบียนในล็อตแรกจะตรวจสอบแล้วเสร็จประมาณ 5 แสนคน​ หรือจะชัดเจนว่า​ มีรายใดมีคุณสมบัติครบเร็วที่สุดใน​ 7-8​ วันหลังลงทะเบียน​ จากนั้น​จะทยอยตรวจสอบให้หมด ซึ่งจำนวนที่ลงทะเบียนมามากกว่าที่คาดไว้​ ดังนั้น​ กระบวนการตรวจสอบจะต้องทยอยทำ​ โดยจะต้องร่วมตรวจกับหน่วยงานอื่นๆด้วย​ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน

นายลวรณ กล่าวว่า ​ในแง่เม็ดเงินที่จะนำมาเงินเยียวยาครั้งนี้ มติครม.ล่าสุดให้ปรับเปลี่ยนวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้สามารถนำเงินมาเกลี่ยจ่ายในแต่ละเดือนหากเดือนแรกมากกว่าที่เคยมีมติไว้ให้จ่ายเดือนละ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยจากเดิมอนุมัติวงเงินไว้ 4.5 หมื่นล้านบาทสำหรับ 3 เดือน หรือ เดือนละ 1.5 หมื่นล้านบาท ดังนั้นตามมติครม.ใหม่ล่าสุด หากในเดือนเมษายนต้องจ่ายเยียวยาสูงกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท จะสามารถนำเงินของเดือนที่ 2 และ 3 มาใช้ก่อนได้ หลังจากนั้นกระทรวงการคลังจะเสนอ ครม.พิจารณาจัดสรรเงินเพิ่มเติมสำหรับยอดที่ต้องจ่ายของเดือนที่ 2 และ 3 ต่อไป โดยจำนวนผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาจะเป็นเท่าไหร่นั้นอยู่ที่การคัดกรอง ยืนยันว่าทุกคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์จะได้รับการเยียวยาครบทุกคน

นายลวรณ​ กล่าวว่า ทั้งนี้การลงทะเบียนสูงกว่าเคยคาดไว้ เนื่องจากเดิมผลกระทบโควิด-19 รุนแรงขึ้น ขณะนี้หลายจังหวัดประกาศล็อกดาวน์ ปิดร้านค้า ปิดสถานบันเทิง จึงมีผู้มาลงทะเบียนสูงขึ้น นอกจากนี้กระทรวงการคลังต้องดูแลผู้ประกันตนตามมาตรา 39 มาตรา 40 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 5 ล้านคน และกลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จำนวน 7 หมื่นคน ที่ไม่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ยืนยันว่จะตรวจสอบอย่างเข้มงวด

ที่มา : มติชนออนไลน์

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบและผลประกอบการลดลง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งก่อนหน้านั้นนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยืนยันว่า 2 เดือนแรกปีนี้ยอดขายรถยนต์เหลือแค่ 139,959 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 12.7% และผู้ผลิตรถยนต์ได้ปรับลดเป้าการผลิตทั้งปี 2563 ลงจากเป้าเดิม 2 ล้านคัน เหลือลงแค่ 1.9 ล้านคัน มีผลทำให้เม็ดเงินในอุตสาหกรรมหายไปกว่าแสนล้านบาท และผลกระทบดังกล่าวทำให้ค่ายรถยนต์อาศัยช่วงจังหวะที่รัฐบาลดำเนินนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม(Social Distancing) และนโยบาย Work From Home ประกาศปิดโรงงานชั่วคราวลดการแพร่เชื้อ ทั้งเป็นการปรับสมดุลปริมาณรถที่ผลิตกับความต้องการในตลาดให้ใกล้เคียงกันในช่วงไตรมาสแรกของปี

โดยล่าสุด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ประกาศหยุดไลน์ผลิตชั่วคราว ระหว่างวันที่ 7-17 เม.ย.นี้ โดยให้พนักงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมในการกลับมาปฏิบัติงานทันทีที่ได้รับแจ้งจากบริษัทต่อไป

เช่นเดียวกับนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศหยุดไลน์ประกอบรถยนต์ชั่วคราวในประเทศไทย ของทั้ง 2 โรงงาน ที่ จ.พระนครศรีอยุธยาและ จ.ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. – 30 เม.ย. นี้เ หรือจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม โดยบริษัทได้ให้พนักงานที่เกี่ยวข้องบางส่วนทำงานจากที่บ้าน รวมทั้งคงมาตรการเข้มงวดให้พนักงานอยู่ในที่พักอาศัย งดเว้นการเดินทาง รวมถึงไม่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างเคร่งครัด พร้อมระบุว่าวันนี้ต้องจับตาดูสถานการณ์ว่าจะยืดเยื้อไปแค่ไหน ฮอนด้าไม่ต้องการทำอะไรฝืนสภาพตลาด ต้องแผนงานให้สอดคล้องอย่างตรงไปตรงมา

ไม่ต่างจาก “มิตซูบิชิ” ประกาศปิดไลน์ผลิตชั่วคราวสำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ที่นิคมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยบริษัทจะยังคงจ่ายค่าจ้างให้กับพนักงานอยู่ที่ 85% ของค่าจ้าง อาทิ โรงงานที่ 1 หยุดกิจการบางส่วนระหว่างวันที่ 1-26 เม.ย. โรงงานที่ 2 หยุดกิจการบางส่วนระหว่างวันที่ 1-19 เม.ย. โรงงานที่ 3 หยุดกิจการบางส่วนระหว่างวันที่ 1-22 เม.ย. โรงงาน MCC -Engine4N/4D/4M/4G หยุดกิจการบางส่วนระหว่างวันที่ 1-19 เม.ย. โรงงาน MCC -Engine 3Ag หยุดกิจการบางส่วนระหว่างวันที่ 1-22 เม.ย. 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

โรงงาน MCC-Press/Plastic หยุดกิจการบางส่วนระหว่างวันที่ 1-19 เม.ย. และ โรงงาน MEC-KD หยุดกิจการบางส่วนระหว่างวันที่ 6-19เม.ย.

ขณะที่ นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทแม่สั่งปิดโรงงานผลิตรถยนต์ ชั่วคราว 2 แห่งได้แก่ ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (FTM) และออโต้ อัลลายแอนซ์ (AAT) ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. -20 เม.ย. 2563 โดย เบื้องต้นจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานทุกคนเต็ม 100 % สำหรับการหยุดในสัปดาห์แรก ส่วนสัปดาห์ที่ 2 วันที่ 6 -10 เม.ย. พนักงานบางส่วนที่ทำงานที่บ้าน ยังได้รับเงินเดือน 100 % ขณะที่พนักงานที่หยุดงานและไม่ได้ทำงานที่บ้านจะได้รับเงินเดือน 90 % แต่ทั้งนี้หากพนักงานส่วนนี้ต้องการรับเงินเดือน 100% ก็สามารถใช้สิทธิวันลาได้ และสัปดาห์ที่ 3 วันที่ 13 -17 เม.ย. ซึ่งรัฐประกาศให้เป็นวันทำงาน บริษัทพร้อมจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน100 %

รวมถึงค่ายมาสด้าที่ตัดสินใจ หยุดสายการผลิตชั่วคราวที่โรงงาน Auto Alliance Thailand (AAT) ในจังหวัดระยองเป็นเวลา 10 วัน เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมเป็นต้นไป

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยระบุข้อความพร้อมแนบเอกสารจากกรมควบคุมโรค โดยประกาศสถานที่ชุมนุมที่มีการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานที่ วันเวลาดังกล่าว เฝ้าระวังตนเองต่อ โควิด-19 ดังนี้

กรุงเทพฯ-นนทบุรี ใครไปสถานที่นี้กักตัวด่วน!

1 สนามมวยลุมพินี (6-8 มีนาคม)
2 สนามมวยราชดำเนิน (6-8 มีนาคม)
3 สถานบันเทิง ร้านอาหารยามค่ำคืน (9-10 มีนาคม)
4 รถเมล์สาย 96 มีนบุรี-หมอชิต (14 มีนาคม)
5 งานบวชวัดราชาธิวาส (14 มีนาคม)
6 สนามมวย อตก. 3 (8 มีนาคม)
7 มหาวิทยาลัยราชมงคลสุวรรณภูมิ เขตใต้ ปี 4 (13 มีนาคม)

8 รถปอ.70 ประชาชื่น-สนามมวยลุมพินีและราชดำเนิน ขากไปจากประชานิเวศน์ 3 – สนามมวย เวลา 17.00-18.00 น. และขากลับ สนามมวย – อู่ประชานิเวศน์ 22.00-23.00 น. (8-14 มีนาคม)

9 รถตู้คันที่ 53 เดอะมอลล์งามวงศ์วาน – ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต

วินเดอะมอลล์งามฯ
13 มีนาคม เวลา 11.00 น. และ 18.00 น.
16 มีนาคม เวลา 11.00 น.
17 มีนาคม เวลา 11.00 น. และ 15.00 น.

วินฝั่งฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
11 มีนาคม เวลา 14.30 น. และ 21.20 น.
13 มีนาคม เวลา 19.40 น.
14 มีนาคม เวลา 19.50 น.
16 มีนาคม เวลา 19.40 น.
17 มีนาคม เวลา 16.45 น.
18 มีนาคม เวลา 11.45 น. และ 21.45 น.

*** โดยให้กักตัวเอง 14 วัน และหากมีอาการให้ไปรับตรวจที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน พร้อมแจ้งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ต่าง ๆ ในต่างจังหวัดอีกดังนี้

เลือกกิน ‘ให้ปลอดภัย’ ช่วง ‘ไวรัสโควิด-19’ ระบาด

ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังระส่ำกับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มรักษาระยะห่างทางสังคม บริษัทใหญ่ๆ หลายบริษัทเริ่มมีนโยบายให้ทำงานจากที่บ้าน

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ การทำคุณภาพชีวิตของตัวเองให้ดีเมื่อต้องอยู่บ้าน โดยคุณภาพชีวิตที่ดีที่บ้าน ประกอบด้วย การมีโภชนาการที่ดี การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และการออกกำลังกายเป็นประจำ หลายๆ คนเริ่มทำอาหารเองหรือสั่งอาหารมาที่บ้านมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารนอกบ้าน

ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าการแพร่เชื้อของโรคโควิด-19 เกิดขึ้นได้จากคนสู่คนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าให้มองข้ามความจำเป็นในการปฏิบัติตามสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเข้มงวดในการจัดเตรียมอาหาร องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้

– ใช้เขียงและมีดแยกต่างหากสำหรับเนื้อดิบและอาหารที่ปรุงสุกแล้ว

– ล้างมือทุกครั้งระหว่างการเตรียมเนื้อดิบและอาหารที่ปรุงสุกแล้ว

– ไม่ควรรับประทานสัตว์ป่วยหรือสัตว์ที่ตายจากโรค

– ถึงแม้ในพื้นที่ที่มีการระบาดของไวรัส วัตถุดิบเนื้อต่างๆ ยังสามารถรับประทานได้หากผ่านการปรุงสุกอย่างทั่วถึงและมีการจัดเตรียมอย่างถูกต้อง

การมีโภชนาการที่ดี ควรมีสัดส่วนของโปรตีนที่เหมาะสม นอกเหนือจากเนื้อสัตว์แล้ว ยังมีตัวเลือกอาหารอื่นๆ ที่มีโปรตีนสูง เช่น เต้าหู้ ชีส เห็ด ถั่ว ธัญพืชต่างๆ และปลา อาหารทะเลถือเป็นแหล่งโปรตีนสำหรับอนาคตของโลก เพราะมีกรรมวิธีการผลิตที่ยั่งยืนปล่อยก๊าซคาร์บอนออกมาน้อยกว่ากรรมวิธีการผลิตเนื้อสัตว์

ในบรรดาผู้ส่งออกอาหารสู่ประเทศไทย นอร์เวย์เป็นผู้นำตลาดอาหารทะเล โดยเฉพาะแซลมอนและฟยอร์ดเทราต์ ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 87 จากมูลค่าการส่งออกกว่า 5.2 พันล้านบาท ในปี 2562 ที่ผ่านมา โดยสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ได้ดำเนินการเพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการจัดส่งอาหารที่ปลอดภัย ยั่งยืน และมีคุณค่าทางโภชนาการท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 นอร์เวย์มีมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการระบาดของโรค

สิ่งสำคัญที่เราต้องทำในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้คือ “ตั้งสติให้ดี” รับข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ก่อนลงมือทำอะไรก็ตาม หากต้องกักตุนอาหารเพื่อการอยู่บ้านให้เลือกวัตถุดิบคุณภาพสูงจากร้านค้าปลีกที่น่าเชื่อถือ มีบรรจุภัณฑ์ที่สะอาด ปลอดภัย

ที่มา : มติชน