เรื่อง : ธฤต อังคณาพาณิช, ภาพ ศรุตยา ทองขะโชค

ากพูดถึงแอปพลิเคชั่นสำหรับติดต่อสื่อสาร พูดคุย หรือที่เรียกว่า “แอปฯแชต” ที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุดคงหนีไม่พ้น ไลน์ (Line) เพราะจากข้อมูลของไลน์ ประเทศไทย ระบุว่า คนไทยมากกว่า 83% ใช้แอปพลิเคชั่นไลน์ โดยนอกจากจะสื่อสารกันผ่านทางข้อความ ข้อความเสียง วิดีโอคอล อีกหนึ่งสิ่งที่ใช้แทนการสื่อสารได้นั่นก็คือ “สติ๊กเกอร์” ที่ความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ

ข้อมูลจากไลน์ระบุว่า ในไตรมาสแรกของปี 2561 นี้ ไทยมียอดดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์เพิ่มสูงถึง 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน และมีไลน์สติ๊กเกอร์ในตลาดเพิ่มสูงขึ้นกว่า 7 เท่าจากปีที่ผ่านมา รวมถึงมีครีเอเตอร์สติ๊กเกอร์คนไทยในปัจจุบันมากถึง 340,000 คน จากทั่วโลก 1.5 ล้านคน นับว่าเป็นครั้งแรกที่ไลน์สติ๊กเกอร์และไลน์ครีเอเตอร์มาร์เก็ตในไทยมีการเติบโตขึ้นเป็นอับดับ 1 ในปีนี้

สาเหตุที่ทำให้ไลน์สติ๊กเกอร์เป็นที่นิยมนั้นอาจเป็นเพราะคาแร็กเตอร์ของสติ๊กเกอร์ ที่โดยมากจะเป็นตัวการ์ตูนที่ถูกดีไซน์มาให้น่ารักและใช้ง่าย มีท่าทางที่เหมือนกับการทำกิจวัตรประจำวันของเรา นอกจากนี้ อีกส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะปัจจุบันคนไทยเข้าถึงช่องทางซื้อสติ๊กเกอร์ง่ายขึ้น ผ่านการใช้บัตร LINE Prepaid card ที่สามารถเติมเงินได้ตาม 7-11 และร้านสะดวกซื้อชั้นนำทั่วประเทศนั่นเอง

สำหรับสติ๊กเกอร์ที่กำลังเป็นที่นิยม คือ สติ๊กเกอร์เกี่ยวกับชื่อ ที่จะมีการนำชื่อเล่นที่มีคนใช้เยอะมาใส่ในสติ๊กเกอร์ ซึ่งจุดเด่นคือการระบุตัวผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน เมื่อสติ๊กเกอร์แทนตัวเองได้ก็จะรู้สึกถึงความใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้น ที่กำลังเป็นที่นิยมอีกคือ สติ๊กเกอร์ที่เกี่ยวกับละคร โดยเฉพาะสติ๊กเกอร์จากบุพเพสันนิวาส ที่ทำให้สติ๊กเกอร์ใส่ชุดไทยบูมขึ้นมาด้วย

ส่วนในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีคนใช้ไลน์มากเป็นอันดับ 1 นั้น จะเป็นเทรนด์ตัวการ์ตูนน่ารักๆ หรือคาแร็กเตอร์ที่แสดงท่าทางโอเวอร์เกินจริง ซึ่งประเทศอื่น ๆ อย่างไต้หวันและมาเลเซีย ก็นิยมสติ๊กเกอร์ไลน์ในลักษณะนี้ด้วย

ขณะที่ไลน์ได้จัดงานมอบรางวัล LINE Stickers Awards 2018 ที่มอบรางวัลให้กับครีเอเตอร์ที่สร้างผลงานสติ๊กเกอร์โดดเด่นสูงสุดใน 7 สาขา (อ่านรายละเอียดได้ที่ https://www.matichonacademy.com/content/journal/article_15671) ซึ่งงานนี้ “มติชนอคาเดมี” มีโอกาสพูดคุยกับ 4 ครีเอเตอร์ที่มารับรางวัลในครั้งนี้

สติ๊กเกอร์ไลน์คืองานศิลปะอย่างหนึ่ง

“มหันห์ตชัย ไพรสินธิ์” หรือ ต้นไม้ เจ้าของสติ๊กเกอร์สุดฮิตมากมายอย่าง นายต้นไม้ ส้มเช้ง ตัวหมีและตัวหมู ซึ่งทำสติ๊กเกอร์ไลน์มากว่าสี่ปีแล้ว กล่าวว่า แต่เดิมตนเป็นนักดนตรีกลางคืน ไม่ได้มีรายได้มากนัก แต่พอมาทำแฟนเพจและสติ๊กเกอร์แล้วก็มีรายได้เพิ่มขึ้นจนเกินคาด จนทุกวันนี้เป็นรายได้หลักของเขา แต่ก็ยังไม่อยากให้มองการเป็นครีเอเตอร์เป็นอาชีพหลัก อยากให้มองว่าเป็นงานอดิเรกที่เรารักที่จะทำมัน ถึงจะทำมันได้ดีบ้างไม่ดีบ้างก็ไม่เป็นไร แค่ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด

มหันห์ตชัย ไพรสินธิ์

“แรกเริ่มเราเริ่มต้นวาดคาแร็กเตอร์ของเราในกระดาษก่อนแล้วอัพลงแฟนเพจ แต่พอดีว่ามีแฟนเพจหลายท่านอยากใช้คาแร็กเตอร์ของเราเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ จึงได้กลายมาเป็นนายต้นไม้ในทุกวันนี้ ผมโชคดีตรงที่มีฐานแฟนเพจ พอทำออกมาแฟนเพจก็ให้การสนับสนุนได้ดี ทำให้เรามีความมั่นคงในระดับหนึ่ง เพราะแฟนเพจของเราก็คือคนที่ซื้อสติ๊กเกอร์ของเราด้วย” มหันห์ตชัยกล่าว

เจ้าของสติ๊กเกอร์นายต้นไม้กล่าวอีกว่า อยากให้ทุกคนมองงานครีเอเตอร์เป็นผู้สร้างศิลปะแบบหนึ่ง ทุกวันนี้เรายังให้ค่ากับสิ่งนี้น้อยมากหรือแทบจะเป็นของฟรีเลย

“บางทีก็มีคนมาขอให้เราทำงานวาดรูปให้ แล้วบอกเราว่าแค่นี้เองไม่ต้องคิดเงินหรอก หรือว่าคิดเงินแพงจัง ของแค่นี้เอง ผมอยากให้คิดว่าศิลปะคืองานที่มีค่า มันใช้ความคิดในระดับหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่ยังทำให้มีคนที่ทำงานนี้น้อยอยู่เพราะว่าแบบนี้ ทำแล้วคนก็ไม่ได้ให้ค่าเขาว่าเป็นงานหนึ่งที่มีรายได้และมีความมั่นคง สุดท้ายนี้สิ่งหนึ่งที่ครีเอเตอร์ทุกคนต้องเจอ ก็คือความสิ้นหวังและความท้อแท้ มันต้องมีมาแน่นอน ผมอยากให้พยายามก้าวข้ามตรงนั้นไปให้ได้ พ่อผมสอนไว้ว่าทำงานจนกว่างานจะไล่เราออก อย่าไปลาออกเอง สักวันหนึ่งต้นไม้นี่จะออกดอกออกผลเอง” มหันห์ตชัยกล่าว

ถ้างานเราดีพอ คนจะสนใจเอง

ด้าน “คะนาโกะ ซุฮาระ” ครีเอเตอร์จากญี่ปุ่น เจ้าของสติ๊กเกอร์ สึมุริน หอยทากจอมกวน กล่าวว่า การทำสติ๊กเกอร์ขึ้นมาอันหนึ่งนั้นไม่ง่ายและไม่ยาก แต่การจะทำให้คนรู้จักนั้นต้องใช้เวลา และต้องใช้ความพยายามสร้างผลงานไปเรื่อย ๆ พอถึงจุดจุดหนึ่งที่งานของเราดีพอก็จะมีคนสนใจเอง

คะนาโกะ ซุฮาระ

“การทำสติกเกอร์อันหนึ่งไม่ยาก แต่ว่าบางทีมันอาจจะออกมาดีหรือไม่ดีก็ได้ อยากให้ครีเอเตอร์รุ่นใหม่ๆ ที่จะเข้ามาทำ ลองทำไปเรื่อยๆ ดูก่อน แล้วก็ลองส่งขายดู เพราะถ้าเราไม่ส่งก็ไม่รู้ว่ามันจะขายดีไหม” คะนาโกะกล่าว

ไอเดียใหม่ๆ มาจากชีวิตประจำวันรอบตัว

“เฉิง ชง ลี” ครีเอเตอร์จากประเทศไต้หวัน เจ้าของสติ๊กเกอร์ Sweethouse Happy Deer กล่าวว่า การสังเกตชีวิตประจำวันรอบๆ ตัว ทำให้เรามีไอเดียใหม่ๆ มาทำสติ๊กเกอร์เสมอ เพราะจริงๆ แล้วการทำสติ๊กเกอร์ก็คือการสังเกตการใช้ชีวิตของเราเองหรือคนรอบตัว แล้วหยิบเอามาสร้างเป็นผลงานที่เสริมความน่ารัก สดใส อย่างสติ๊กเกอร์กวางน้อยของเขา

“การชอบสังเกตคนทำให้เราได้ไอเดียใหม่ๆ มากมาย ที่ไม่ซ้ำกับของคนอื่น เดิมทีผมชอบเขียนไดอารี่แล้วก็วาดเป็นรูปภาพ แล้วทีนี้มีแฟนคลับที่อยากให้วาดเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ก็เลยมาทำงานนี้ อยากให้ตอนนี้คนที่จะเข้ามาเป็นครีเตอร์เก็บสะสมประสบการณ์ไปก่อน ซึ่งประสบการณ์เกิดได้จากทุกๆ อย่างที่เราทำ พยายามทำทุกๆ อย่างให้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน ส่วนสติ๊กเกอร์ก็อยากให้วาดในสิ่งที่เราชอบ ไม่ควรตามเทรนด์ เพราะถ้าเราตามเทรนด์แล้วผลงานมันออกมาไม่ดี เราจะไม่ชอบทำและเลิกทำไปเลย” เฉิง ชง ลี กล่าว

เฉิง ชง ลี

ลองทำเรื่อยๆ ต้องมีสักอันที่จะฮิต

ขณะที่ “เมลานี เซ็ตโยวาตี ซันโตโซ่” ครีเอเตอร์จากประเทศอินโดนีเซียเจ้าของสติกเกอร์ Milk & Mocha กล่าวว่า ได้แรงบันดาลการทำสติ๊กเกอร์มาจากการที่ชื่นชอบตัวการ์ตูนที่น่ารัก จึงออกแบบแต่สติ๊กเกอร์ที่มีคาแร็กเตอร์น่ารัก และติดตามนักวาดภาพประกอบหลายคน ซึ่งคนอินโดนีเซียจะชอบสติ๊กเกอร์ที่เป็นรูปสัตว์น่ารักๆ ตัวสติ๊กเกอร์ก็จะเป็นคู่รักที่มีความร่าเริง

“แรกเริ่มเราอัพลงในทวิตเตอร์ก่อน แต่พอได้ข่าวว่าไลน์จะประกวดสติ๊กเกอร์จึงทำส่งให้ไลน์ ซึ่งได้รายได้ที่ดีเกินคาดมากๆ ตัวสติ๊กเกอร์ชุดที่ได้ทำเงินได้ทั้งหมดสูงสุดอยู่ที่ 5 แสนบาท ตอนแรกสติ๊กเกอร์ที่ทำตามความชอบของเรายังไม่ติดตลาด แต่เราได้ไอเดียมาจากการผสมกับเทรนด์ที่ฮิตกันในขณะนั้น จึงกลายมาเป็นสติ๊กเกอร์ที่ได้รับความนิยมในแบบเขา ในปัจจุบันการทำสติ๊กเกอร์ไม่ใช่เรื่องยาก อยากให้ลองทำไปเรื่อย ๆ เพราะอาจจะมีสักอันก็ได้ที่เป็นที่นิยม” เมลานีกล่าว

เมลานี เซ็ตโยวาตี ซันโตโซ่

สุดท้ายนี้การที่จะมาเป็นครีเอเตอร์หรือผู้ออกแบบสติกเกอร์นั้น ก็เหมือนการทำอาชีพอื่นๆ ที่ต้องใช้ความมุ่งมั่นและความชอบในการสร้างสรรค์งานดีๆ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ต้องตั้งใจทำเพื่อที่จะทำมันออกมาให้ดีที่สุด และได้รับการยอมรับจากคนทั่วไป


Content Team Matichon Academy
ติดต่อ อีเมล์ : [email protected]
โทรศัพท์ 0-2954-3971 ต่อ 2111

ทันทีที่ก้าวเข้ามาใน “LINE VILLAGE BANGKOK (LVB) The Digital Adventure” (ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก เดอะ ดิจิทัล แอดแวนเจอร์) สวนสนุกในร่มแห่งแรกของโลกไลน์เฟรนด์ ภายในอาคารสยามสแควร์วัน

ก็ถึงกับต้องร้อง “ว้าว!!” ออกมาดังๆ

ห้องของบราวน์

เมื่อคาแร็กเตอร์สุดโปรดบนมือถือในแอพพลิเคชั่น “LINE” มาปรากฏ “ตัวเป็นๆ” ในชีวิตจริงตรงหน้าแบบใกล้ชิด

โดยพาเหรดกันมาทั้งก๊วน 11 คาแร็กเตอร์ นำทีมโดย “บราวน์-โคนี่” พร้อมด้วยผองเพื่อน แซลลี่ มูน เจมส์ บอส เจสสิก้า ลีโอนาร์ด เอ็ดเวิร์ด ช็อกโก และ ปังโย 

ทั้งนี้ ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก ตั้งอยู่ภายในอาคารสยามสแควร์วัน บนพื้นที่ 3 ชั้น กว่า 1,500 ตร.ม. โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ “ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก เดอะ ดิจิทัล แอดเวนเจอร์” สวนสนุกในร่มของโลกไลน์เฟรนด์, ไลน์ วิลเลจ สโตร์ ร้านจำหน่ายสินค้าลิมิเต็ด และ ไลน์ วิลเลจ สเน็ค บาร์ จุดจำหน่ายขนม-เครื่องดื่ม ซึ่งกำลังจะเปิดในบริการเร็วๆ นี้

ฤภพ ชินวัตร

นายฤภพ ชินวัตร ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก จำกัด ผู้บริหารสวนสนุกดิจิทัลในร่มแห่งแรกในโลกไลน์เฟรนด์ เปิดเผยถึงเบื้องลึกกว่าจะมาเป็นไลน์ วิลเลจ แบงค็อก ว่า ไลน์ วิลเลจ แบงค็อกใช้งบลงทุน 500 ล้านบาท

“ที่นี่จะเป็นดิจิทัล เอ็กซ์พีเรียนซ์ ที่ยกโลกของไลน์ในมือถือออกมาให้สัมผัสในชีวิตจริง”

ห้องครัวสุดน่ารักของโคนี่

กว่าจะมาเป็นไลน์ วิลเลจ แบงค็อกนั้น ทางบริษัท ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก จำกัด ต้องทำการขอลิขสิทธิ์จาก LINE FRIEND บริษัทแม่ที่ประเทศเกาหลี

“จุดเด่นของเราคือสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เฉกเช่นเดียวกับช็อปอื่นๆ ในต่างประเทศก็ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เช่น เกาหลีก็ตั้งอยู่ที่เมียงดง หรือญี่ปุ่นตั้งอยู่ในชินจูกุ จากจุดเด่นตรงนี้ทำให้ทางเกาหลีตัดสินใจร่วมงานกับเรา” 

ไลน์เฟรนด์มีสาขาทั้งหมดทั่วโลก 106 แห่ง ใน 11 ประเทศเทรนดี้ทั่วโลก อาทิ โซล โตเกียว นิวยอร์ก แต่มีประเทศไทยประเทศเดียวที่มี “สวนสนุกในรูปแบบดิจิทัล แอดเวนเจอร์”

รังสุดน่ารักของแซลลี่ และกระท่อมของเอ็ดเวิร์ด

“เหตุผลที่เราอยากทำเป็นไลน์ วิลเลจ เพราะประเทศเรายังไม่มีอะไรแบบนี้ เราทำแล้วคนน่าจะชอบ อีกทั้งในชีวิตประจำวันคนไทยใช้ไลน์เยอะเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น ซึ่งนี่เป็นอีกเหตุผลที่เกาหลีเลือกเรา การดำเนินงานจึงเป็นการพัฒนาร่วมกัน เราร่วมกันคิดหลายคอนเซ็ปต์ มีทั้งพิพิธภัณฑ์และอะไรหลายอย่าง แต่ด้วยความตั้งใจที่อยากนำเสนอในทันสมัยเข้ากับคนยุค 2000 สุดท้ายจึงออกมาในคอนเซ็ปต์ดิจิทัล” 

เมื่อเป็น “ครั้งแรก” ก็จะเป็นอะไรที่ “ท้าทาย” เพราะไม่มีโมเดลต้นแบบ ไม่มีสูตรสำเร็จให้เดินตาม การดำเนินงานจึงกินเวลาถึง 2 ปี

ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ของมูน
ห้องดูดาวของมูน

“การออกแบบทั้งหมด ทางบริษัทแม่จะเป็นคนออกแบบ เพราะเขามีสเปกที่กำหนดเป็นมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นขนาดของคาแร็กเตอร์ คัลเลอร์โค้ดต้องให้ตรงกับแบรนด์ ทุกอย่างต้องเป๊ะ” 

“ซึ่งนี่คือความยาก เพราะพร็อพเยอะ ทุกอย่างปั้นมือทั้งหมด ไม่มีอะไรซ้ำกันเลย มันเป็นความท้าทาย เราไม่รู้ว่าอะไรจะดีอะไรจะไม่ดี แต่เราก็พยายามอัพเดตตัวเองและปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด”

“ซึ่งทางบริษัทแม่จะบินมาดูการก่อสร้างหลายครั้ง เดินเป็นพันๆ หมื่นๆ รอบเพื่อให้รู้สึกว่าไลน์ วิลเลจ แบงค็อก ตรงกับคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ ผู้เข้าชมต้องสัมผัสได้ถึงรูป รส กลิ่น เสียง ของคาแร็กเตอร์ซึ่งมีบุคลิกที่แตกต่างกัน ทุกอย่างต้องจัดวางให้พอดี แสง สี เสียง ต้องเข้ากันได้ทั้งหมด” 

ห้องส่วนตัวของช็อกโก

นอกจากคาแร็กเตอร์ที่ต้อง “เป๊ะ” ตามต้นฉบับแล้ว ยังได้เพิ่มความพิเศษด้วยการแอด “ความเป็นไทย” เข้าไป ไม่ว่าจะเป็น “บราวน์ทำท่าสวัสดี” หรือ “บราวน์นั่งรถตุ๊กตุ๊ก” และในช่วงเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวันเด็ก หรือสงกรานต์ จะปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ของคาแร็กเตอร์ให้เข้ากับเทศกาล รวมถึงจะมีโปรโมชั่นพิเศษด้วย

“คาแร็กเตอร์ของบราวน์ที่อื่นจะทำท่ายืนตรงแขนอยู่ด้านข้าง แต่ที่นี่จะมีบราวน์ทำท่าสวัสดี ช็อกโกทำท่าสวัสดี นั่งอยู่หน้าช็อปรอต้อนรับผู้มาเยือน” ฤภพกล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ สวนสนุกเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน และในช่วง 3 วันแรกได้จัดแคมเปญพิเศษ “ส่วนลด” บัตรค่าเข้า 200 บาท สำหรับ 500 ท่านแรก โดยจะเปิดให้บริการทุกวัน วันละ 4,000 ราย โดยค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 990 บาท/คน เด็กและผู้สูงอายุชาวต่างชาติ 790 บาท/คน คนไทย 850 บาท/คน เด็กและผู้สูงอายุคนไทย 650 บาท/คน

ห้องส่วนตัวของช็อกโก

จากโลกดิจิทัลสู่การผจญภัยโลกแห่งความจริง ที่เมื่อได้ย่างเท้าเข้ามาแล้วเสมือนหลุดเข้ามาในโลกของไลน์ เฟรนด์ ที่เต็มไปด้วยความน่ารัก สดใส เราจะได้ “รู้จัก” กับเหล่าผองเพื่อนไลน์ เฟรนด์ มากยิ่งขึ้น

ได้เข้าไปเยี่ยมห้องนอนของบราวน์ หมีที่ชอบทำกิจกรรมและอ่านหนังสือ ได้ไปเยือนครัวสุดกุ๊กกิ๊กของโคนี่ รวมถึงไปเยี่ยมห้องทดลองวิทยาศาสตร์ของมูน และครั้งแรกกับการเปิดโลกส่วนตัวของช็อกโก น้องสาวของบราวน์ แฟชั่นนิสต้าตัวยงกับห้องส่วนตัวสุดชิค

ว้าว ว้าว ว้าว บอกเลยว่า น่ารักเว่อร์!!!

ห้องสไตล์หลุยส์ สุดโอ่อ่า เจมส์
ออฟฟิศของบอส

————
ที่มา มติชนออนไลน์

นายกณพ ศุภมานพ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจสติ๊กเกอร์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ในไตรมาสแรกของปี 2561 นี้ ธุรกิจไลน์สติ๊กเกอร์ในประเทศไทยเรียกได้ว่าสร้างปรากฏการณ์สูงสุด หลังมียอดดาวน์โหลดเพิ่มสูงถึง 52% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีไลน์สติ๊กเกอร์ในตลาดเพิ่มสูงขึ้นกว่า 7 เท่าจากปีที่ผ่านมา รวมถึงมีนักครีเอเตอร์สติ๊กเกอร์คนไทยในปัจจุบันมากถึง 340,000 คน นับว่าเป็นครั้งแรกที่ไลน์สติ๊กเกอร์และไลน์ครีเอเตอร์มาร์เก็ตในไทยมีการเติบโตขึ้นเป็นอับดับ 1 ในปีนี้

“ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์การใช้สติ๊กเกอร์แทนคำพูดในการสื่อสาร ที่ยังคงเป็นที่นิยม ช่วยสื่ออารมณ์และความรู้สึกได้เข้าใจ โดยไม่ต้องพิมพ์ข้อความยาวๆ” นายกณพกล่าว

นายกณพยังกล่าวถึงแผนพัฒนาธุรกิจในอนาคตด้วยว่า ไลน์สติ๊กเกอร์มีแผนที่จะสนับสนุนครีเอเตอร์หน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยแอปพลิเคชั่น LINE CREATORS STUDIO แอปฯ ที่ให้ผู้สนใจทำสติ๊กเกอร์ได้อย่างง่ายดายผ่านทางสมาร์ทโฟน พร้อมส่งคำขอพิจารณาและเริ่มจำหน่ายได้ในแอปฯ เดียว และมีแผนสนับสนุนให้ครีเอเตอร์เป็นอาชีพที่มั่นคง ทั้งการต่อยอดความสำเร็จของสติ๊กเกอร์ยอดนิยมสู่ตลาดต่างประเทศ และล่าสุดมีแผนต่อยอดความสำเร็จให้ครีเอเตอร์สู่ตลาดเมอร์ซานไดซ์ ประเดิมแล้วกับ 15 คาแรกเตอร์ พร้อมเปิดช่องทางจำหน่ายออนไลน์ผ่าน LINE GIFTSHOP

ทั้งนี้ ไลน์ยังได้จัดงานมอบรางวัล “LINE Stickers Awards 2018” โดยมีครีเอเตอร์ที่สร้างผลงานสติ๊กเกอร์ที่มีความโดดเด่นสูงสุดใน 7 สาขา ได้แก่ 1.รางวัลสุดยอดความร่วมมือแห่งปี ได้แก่ สติ๊กเกอร์ Jumbooka x GMM 2.รางวัลสติ๊กเกอร์หน้าใหม่ยอดนิยมแห่งปี 2017/2018 ได้แก่ สติ๊กเกอร์ ขิง ขิง & หมูเด้ง 3.รางวัลสติ๊กเกอร์ขวัญใจมหาชน ได้แก่ สติ๊กเกอร์จากละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส”

4.รางวัลสติ๊กเกอร์สุดล้ำแห่งปี ได้แก่ สติ๊กเกอร์ชื่อ หรือ Name Sticker โดยผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ ได้แก่ “ณัฐกิตติ์ ประกอบกิจ” ครีเอเตอร์ผู้สร้างสติ๊กเกอร์ชื่อทั้งหมดกว่า 800 ชุด 5.รางวัลสติ๊กเกอร์สายฮา ได้แก่ ดึ๊บ ดึ๊บ 6.รางวัลครีเอเตอร์ดาวเด่น ได้แก่ “มหันห์ตชัย ไพรสินธิ์” เจ้าของคาแรกเตอร์สุดฮิตมากมายอย่าง นายต้นไม้ ส้มเช้ง ตัวหมี และตัวหมู เป็นต้น และ 7.รางวัลสติ๊กเกอร์ดารายอดนิยมแห่งปี ได้แก่ สติ๊กเกอร์จากวง BNK48