คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม : กุ่ยหมง บางปลาม้า เจ้าตำนานกุ้งทอดเกลือ

Business ธุรกิจ
กุ้งทอดเกลือตัวละครึ่งกิโล

ถ้าอยากลิ้มลองกุ้งแม่น้ำเผาต้องไปอยุธยา แต่ถ้าอยากชิมกุ้งแม่น้ำทอดเกลือแล้วล่ะก็ ใครๆ ต้องนึกถึง กุ้งแม่น้ำทอดเกลือ ในตำนานที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี แน่นอน

ร้านดังในบางปลาม้า หนีไม่พ้น 2 ร้านขึ้นชื่อ นั่นก็คือ ร้านกุ่ยหมง และ ร้านแม่บ๊วย แต่ก่อนทั้ง 2 ร้านเป็นห้องแถวไม้อยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรีหรือแม่น้ำท่าจีน ต่อมามีการทำเขื่อนริมน้ำ ไม่มีที่จอดรถ ก็เลยย้ายมาอยู่ปากทางแยกเข้าบางปลาม้าเสียเลย

ซึ่งคุณชายถนัดศรีคุ้นเคยกับเจ้าของร้านทั้งสองนี้มาตั้งแต่สมัยยังหนุ่มยังแน่น อีกทั้งย่าของผมก็เป็นคนสุพรรณฯ และลุงของผม คุณเฉลิม สุวรรณเนตร ก็เคยเป็นนายอำเภอบางปลาม้าด้วย ผมจึงโชคดีได้ตามพ่อไปชิมบ่อยๆ ในครั้งกระโน้น

ร้านที่ถือเป็นเจ้าตำนานกุ้งแม่น้ำทอดเกลือหรือเรียกสั้นๆ ว่ากุ้งทอดเกลือ คือ ร้านกุ่ยหมง ความโดดเด่นของกุ่ยหมงอยู่ที่มีกุ้งแม่น้ำทอดเกลือให้เลือกหลายไซซ์หลายขนาด ตั้งแต่ขนาดย่อมไปถึงไซซ์ยักษ์มหึมา นี่คือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนใฝ่ฝันที่จะมาชิมสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่กุ่ยหมงให้จงได้ สมควรแก่การพาแฟนๆ มาทบทวนความอร่อยกันอีกครั้ง

ทางไปบางปลาม้าเดี๋ยวนี้แสนสะดวกสบาย ไปตามทางหลวง 340 บางบัวทอง-สุพรรณบุรี ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว ทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าบางปลาม้าอยู่ก่อนถึงตัวจังหวัดสุพรรณฯ 10 กม. มีป้ายบอกชัดเจน เข้าไปไม่กี่สิบเมตรก็จะเห็นร้านกุ่ยหมงทางด้านขวา (และร้านแม่บ๊วยด้านซ้ายมือ) จอดรถได้ตามสบายทั้งสองฝั่ง

เจ้าของร้านกุ่ยหมง คุณศุภชัย หรือคุณเอี้ยง ในวัย 71 ปี ยังขยันขันแข็งเหมือนเดิม ออกมาต้อนรับด้วยตนเอง คุณเอี้ยงคือลูกคนที่ 6 ของเตี่ย ผู้ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้านและเป็นเจ้าของร้านรุ่นแรก (เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2466) เล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดีว่า สมัยก่อนคุณชายถนัดศรีมากับคุณ’รงค์ วงษ์สวรรค์ และคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ เจ้าของนิตยสาร “ฟ้าเมืองไทย” รายสัปดาห์ในยุคนั้น (คอลัมน์เชลล์ชวนชิมในอดีตก็อยู่ในนิตยสารฟ้าเมืองไทยนี้เอง)

ทุกวันนี้คุณเอี้ยงยังดูแลร้านอยู่ตลอด มีภรรยาชื่อ คุณเนียร ว่าการอยู่ในครัว อีกทั้งลูกสาวชื่อน้องวิว คอยต้อนรับลูกค้าข้างหน้าร้าน

ใครมากุ่ยหมงแล้วไม่ได้กิน กุ้งทอดเกลือ เหมือนมาไม่ถึงร้านนี้ กุ้งแม่น้ำธรรมชาติตัวโตๆ ส่งมาจากสุราษฎร์ธานี อย่างที่บอกไว้ว่ากุ่ยหมงขึ้นชื่อเรื่องกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ไซซ์โต มีให้เลือก 6 ขนาด ขายเป็นตัวๆ มีตั้งแต่ขนาด 2 ขีด หรือ 5 ตัวต่อกิโล (มีเป็นบางวัน) สนนราคาตัวละ 600 บาท และขนาด 2 ขีดครึ่ง หรือ 4 ตัวต่อกิโล ตัวละ 800 บาท ขนาด 3 ขีดครึ่ง หรือ 3 ตัวต่อกิโล ตัวละ 1,000 บาท ขนาด 5 ขีด หรือครึ่งกิโล ตัวละ 1,200 บาท รวมไปถึงไซซ์ใหญ่มหึมา ขนาด 6 ขีดครึ่ง ตัวละ 1,500 บาท และขนาด 8 ขีด ตัวละ 2,000 บาท ซึ่งขนาดมหึมาใหญ่คับจานอย่างนี้ควรโทรมาจองไว้ล่วงหน้าด้วย

เราสั่งมาทั้งตัวใหญ่สุดหนัก 8 ขีด แบ่งกันกินได้ 3 คนสบายๆ และตัวละครึ่งกิโลก็แบ่งได้ 2 คน ส่วนขนาดที่กินคนเดียวกำลังดีคือขนาด 3-4 ตัวต่อกิโล (800-1,000 บาท) กุ้งทอดเกลือกลิ่นหอมๆ เนื้อสดหวานเต็มคำ เนื้อแน่นจนต้องใช้มีดหั่น รสชาติหอมๆ มันๆ เค็มๆ นิดๆ มันกุ้งเต็มหัวเอามาคลุกข้าว ทีเด็ดอยู่ที่น้ำมันด้วยเพราะมีมันกุ้งผสมอยู่ในน้ำมันอีกต่างหาก อร่อยล้นเหลือ คุณเอี้ยงบอกว่าต้องใช้มันกุ้งแม่น้ำเพิ่มต่างหากหล่อกระทะก่อน พอร้อนแล้วค่อยใส่กุ้งแม่น้ำลงไป มันกุ้งในหัวก็จะออกมาผสมอีกด้วย อีกอย่างที่เหมาะสำหรับกินคู่กันคือ ผักกาดขาวผัดก้ามกุ้ง (200 บาท) รสชาตินุ่มนวลมาก หรือจะเปลี่ยนเป็นผักคะน้าก็ได้

มาบางปลาม้าก็ต้องกินปลาม้า มากุ่ยหมงต้องสั่ง ปลาม้านึ่งมะนาวกระเทียมโทน (ชิ้นละ 300 บาท) หอมมะนาวสดชื่นรสจัดแบบกลมกล่อม เนื้อปลาม้าหั่นเป็นชิ้นโตๆ เบ้อเริ่ม ไม่โตได้อย่างไร อยากรู้ปลาม้าตัวโตแค่ไหนให้ดูรูปที่ติดฝาผนังได้เลย กระเทียมโทนเคี้ยวมันๆ หอมๆ แต่ไม่เผ็ดเหมือนกระเทียมทั่วๆ ไป เฮียเอี้ยงซื้อกระเทียมโทนเป็นกระสอบๆ มาตุนไว้ ส่วนของน้ำๆ ต้องสั่ง ต้มยำปลาม้า (300 บาท) รสจัดแบบพื้นบ้าน ใส่ผักชีฝรั่งและพริกขี้หนูลอยฟ่องเต็มหน้า

คุณเอี้ยง เจ้าของกุ่ยหมง
กุ้งทอดเกลือมหึมาแปดขีด
ปลาม้านึ่งมะนาวกระเทียมโทน

และที่ห้ามพลาดอีกอย่างคือ เนื้อปลากรายผัดกะเพรากระเทียมโทน (200 บาท) รสนุ่มนวลมาก เนื้อปลากรายเป็นชิ้นเล็กๆ แน่นมากเหมือนเนื้ออกไก่แต่อร่อยกว่ามากมาย คนชอบกินกบให้สั่ง กบผัดกะเพรากระเทียมโทน (200 บาท) แทน หรือจะสั่ง เชิงปลากรายทอดกระเทียมพริกไทย (200 บาท) เชิงปลากรายชิ้นโตๆ แทะมันๆ ถึงใจ อีกทั้ง ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมพริกไทย (200 บาท) ตัวเล็กๆ กรอบๆ กินได้ทั้งตัว ปิดท้ายด้วยเมนูง่ายๆ ที่อร่อยจนคาดไม่ถึง หมูผัดซีอิ๊ว (200 บาท) เนื้อหมูนุ่ม หอมซีอิ๊ว รสชาติเหมือนที่เคยกินที่บ้านสมัยเด็กๆ เลย

ร้านกุ่ยหมงเพิ่งกลับมาเปิดให้นั่งกินที่ร้านได้เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง ขอเชิญมาลิ้มลองกุ้งทอดเกลือในตำนานกันอีกครั้งได้ทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงครึ่งไปจนถึงบ่าย 3 โมง ถึงแม้ตัวร้านจะใหญ่โต แต่ด้านในร้านมีเพียง 11 โต๊ะ จุได้ประมาณ 70 คนเท่านั้น ถ้ามาเสาร์-อาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ ควรโทรมาจองโต๊ะก่อน อีกทั้งถ้าอยากได้กุ้งขนาดใหญ่มากๆ ควรจองไว้ด้วยเช่นกัน ที่เบอร์ 035-587-256 และ 09-7159-4246 โดยเสาร์-อาทิตย์จะตั้งโต๊ะเพิ่มที่ลานในร่มหน้าร้านได้อีก 10 โต๊ะ

อีกอย่างที่ต้องรีบบอกก็คือร้านกุ่ยหมงรับแต่เงินสดกับโอนเงินเท่านั้น อย่าลืมพกสตางค์มาให้พอด้วยนะจ๊ะ

กุ่ยหมง

โดย คุณศุภชัย (เอี้ยง) วทาทิยาภรณ์

ที่ตั้ง 328/5 หมู่ 5 ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี 72150

โทร 0-3558-7256, 09-7159-4246 (น้องวิว)

เปิดบริการ 10.30-15.00 น. ทุกวัน

หยุด เมื่อมีธุระ

แนะนำ กุ้งทอดเกลือ ปลาม้านึ่งมะนาวกระเทียมโทน เนื้อปลากรายผัดกะเพรากระเทียมโทน ต้มยำปลาม้า หมูผัดซีอิ๊ว กบผัดกะเพรากระเทียมโทน เชิงปลากรายทอดกระเทียมพริกไทย ผักกาดขาวผัดก้ามกุ้ง ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมพริกไทย

Facebook กุ่ยหมง 桂茂 Kui Mong

Line kui_mong

ช่วงคนแน่น เสาร์-อาทิตย์-วันนักขัตฤกษ์ 12.00-13.00 น.

ต้มยำปลาม้า
กบผัดกะเพรากระเทียมโทน
ปลากรายผัดกะเพรากระเทียมโทน
กุ้งทอดเกลือขนาดกินคนเดียว
หมูผัดซีอิ๊ว
ที่มาอาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน
ผู้เขียนปิ่นโตเถาเล็ก (ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์)