เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 61 พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงความคืบหน้าในส่วนของ จ.สิงห์บุรี ที่ไม่พบการทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง แต่พบพฤติการณ์อาจทุจริตการจัดซื้อผ้าห่ม ซึ่งจากการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ปีงบประมาณ 2559-2560 พบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สิงห์บุรี จัดซื้อผ้าห่มจากร้านค้าวิสาหกิจชุมชน แจกผู้ยากไร้ในช่วงฤดูหนาว ราคาสูงกว่าท้องตลาดเป็นเท่าตัวว่า
ข้อมูลล่าสุดจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าคุณภาพของผ้าห่มบางมาก ไม่สมกับราคาตั้งเบิกที่ 400 บาท นอกจากนี้ ยังมีสิ่งบอกเหตุที่น่าจะเป็นการเตรียมการร่วมกันทุจริต เนื่องจากเมื่อเดือน มี.ค. เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบร้านค้าที่ขายผ้าห่มที่แจกจ่ายชาวบ้านในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ได้ตั้งราคาขายที่ 190 บาท แต่ล่าสุดไปตรวจสอบเมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) ร้านค้าเดิมกลับติดราคาผ่าห่มสูงขึ้นในราคา 400 บาท ซึ่งเป็นราคาเดียวกับราคาตั้งเบิก ถือเป็นข้อสังเกตุสำคัญที่มีความเป็นไปได้ว่ามีเจตนาปกปิดหลักฐาน หลังจากนี้ ป.ป.ท.เตรียมจะเดินหน้าตรวจสอบลงลึกต่อไป รวมทั้งจะตรวจดูว่าในจังหวัดอื่นมีพฤติการณ์แบบเดียวกันหรือไม่
พ.ท.กรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้นำผ้าห่มที่แจกประชาชนใน จ.สิงห์บุรี มาให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบ พบว่า ผ้าห่มจะมีลวดลายต่างๆ ใส่ถุงตาข่ายบางๆ เนื้อผ้าไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้ เมื่อนำมาเทียบกับผ้าห่มที่ไปซื้อมาจากตลาดในราคา 180 บาทกลับมีเนื้อผ้าหนาและให้ความอบอุ่นได้มากกว่า โดยการตรวจสอบพบข้อมูลในการเบิกจ่ายให้ประชาชนจำนวน 500 คน คนละ 400 บาท เมื่อตรวจสอบลงลึกพบว่าเป็นงบสำหรับจัดซื้อผ้าห่ม จึงลงพื้นที่สอบถามทั้งชาวบ้านที่ได้รับ และตรวจสอบราคาจากร้านค้าได้ข้อมูลว่า เป็นผ้าห่มขนาด 180 คูณ 200 เซนติเมตร ส่วนใหญ่จะใช้จัดพวงหรีดตามงานศพ ไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้จริง และไม่มีใครนำมาใช้ห่ม โดยมีชาวบ้านบางคนที่ได้รับนำไปซักครั้งเดียวผ้าห่มมีลักษณะบิดตัว เส้นใยในผ้าห่มหด บางรายขยี้แรงถึงกับฉีกขาด เมื่อลงไปตรวจสอบตามร้านค้าที่จำหน่ายผ้าห่มรายใหญ่ใน จ.สิงห์บุรี จำนวน 3 ร้าน ระบุแบบเดียวกันว่า ไม่มีร้านไหนจำหน่ายผ้าห่มในลักษณะนี้ ถ้าหากชาวมีการซื้อขายจะอยู่ในราคาผืนละ 120-150 บาทเท่านั้น หากเกิน 200 บาทถือว่าแพงมากแล้ว ผู้ประกอบการในพื้นที่คาดว่าน่าจะเป็นผ้าห่มนำเข้ามาจากประเทศจีน
ที่มา: มติชนออนไลน์
