ตามที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ มีกำหนดเปิดแถลงข่าวประเทศไทยได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ในวันที่ 30 เมษายน 2561 ที่บ้านเกษะโกมล ถนนพระราม 5 ในเวลา 13.30 น. นั้น
โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประสานงานกับภาคเอกชน 7 แห่งเพื่อสนับสนุนงบประมาณซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน-15 กรกฎาคม 2561 โดยเป็นรูปแบบการลงขันแห่งละ 200 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาทสำหรับค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดสดครั้งนี้ สำหรับภาคเอกชน 7 แห่งที่ร่วมลงขันในครั้งนี้ประกอบด้วย 1.บริษัท คิงเพาเวอร์ 2. บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) 3. กลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ 4. บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) 5. บริษัท บางจาก จำกัด (มหาชน) 6. บริษัท กัลฟ์ อิเลคทริก จำกัด (มหาชน) หรือ “กัลฟ์” และ 7.ธนาคารกสิกรไทย
ซึ่งเป็นที่คาดกันว่า ช่องสถานีที่จะถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 จะมีไม่ต่ำกว่า 2 ช่อง โดยช่องแรกแน่นอนแล้วคือ ทรูวิชั่นส์ ซึ่งจะเปิดช่องพิเศษ “WORLD CUP” ขณะที่อีกช่องสถานีคือ ช่องอัมรินทร์ ทีวี ซึ่งเป็นช่องสถานีที่มี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าของ
เมื่อวันที่ 27 เมษายน ผู้สื่อข่าว “มติชน” สอบถามไปยังทรูวิชั่นส์ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงของทรูวิชั่นส์ว่า เป็นเรื่องจริงที่ทรูวิชั่นส์ จะเปิดช่องพิเศษ “WORLD CUP” รองรับการถ่ายทอดสดครั้งนี้ซึ่งทรูวิชั่นส์จะเป็นแม่ข่ายเคเบิ้ลทีวีในระบบบอกรับสมาชิก ในส่วนของสมาชิกทรูวิชั่นส์จะได้รับชมการถ่ายทอดสดในระบบ 4K ซึ่งชัดกว่าระบบ เอชดี ปกติที่ออกอากาศถึง 4 เท่า ครบทั้ง 64 คู่ แต่ช่องพิเศษดังกล่าวจะมีกี่ช่องสัญญาณยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ตามกฎ “มัสต์แฮฟ” ที่ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระบุว่า ฟุตบอลโลกเป็น 1 ใน 7 ชนิดกีฬาที่ต้องออกอากาศผ่านฟรีทีวี แล้วทรูวิชั่นส์ เป็นเคเบิ้ลทีวีระบบบอกรับสมาชิกจะดำเนินการได้หรือไม่ แหล่งข่าวของทรูวิชั่นส์ ยืนยันว่า มีการพูดคุยเรื่องนี้กันมาระยะหนึ่งแล้ว โดยการถ่ายทอดสดครั้งนี้จะเป็นไปตามครรลองถูกต้องและไม่ขัดต่อกฎมัสต์แฮฟอย่างแน่นอน ที่สำคัญครบ 64 แมตช์
“ทางทรูวิชั่นส์เตรียมงานไว้เยอะแล้ว ทุกอย่างไม่ติดขัดปัญหาอะไร หลังจากวันจันทร์ที่ 30 เมษายน ซึ่งรัฐบาลจะแถลงยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว ในวันพุธที่ 2 พฤษภาคม ทางทรูวิชั่นส์จะแถลงชี้แจงรายละเอียดทุกอย่างอีกครั้ง” รายงานข่าวจากทรูวิชั่นส์กล่าว
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นอกจากช่องทรูวิชั่นส์ และอัมรินทร์ ทีวีที่จะถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 แล้ว ยังมีอีก 1 ช่องของรัฐบาลที่จะถ่ายทอดสดนั่นคือ ช่อง 5 เนื่องจากเป็นช่องสถานีโทรทัศน์ของทหาร และมีการยืนยันจากแหล่งข่าวในช่อง 5 ว่า มีแนวโน้มสูงที่ช่อง 5 จะได้ถ่ายทอสดเพราะเมื่อวันที่ 5 กับ 19 เมษายนที่ผ่านมา มีการเตรียมการแถลงข่าวเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ที่ช่อง 5 สนามเป้าแล้ว แต่ต้องเลื่อนออกไป 2 รอบเพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวย แต่รูปแบบในการออกอากาศนั้น จะเป็นลักษณะการถ่ายทอดสด หรือออกอากาศบันทึกเทปการแข่งขันนั้น อยู่ระหว่างขั้นตอนการพูดคุย โดยช่อง 5 ปัจจุบันออกอากาศผ่านระบบเอชดีด้วย
อีกด้านหนึ่งรายงานข่าวจากช่อง ทรู 4 ยู ระบุว่า ช่องทรู 4 ยู จะถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 โดยมีการเตรียมงานกันมา 2 เดือนเต็มแล้ว ซึ่งทรู 4 ยู จะถ่ายทอดระบบ SD ในรอบแรกคู่เตะเวลา 22.00 น. กับ 01.00 น. ทุกคู่ เช่นเดียวกันพิธีเปิด-ปิดนั้น ทรู 4 ยู จะถ่ายทอดสดเช่นเดียวกัน ขณะที่เกมเตะรอบ 16 ทีมสุดท้าย จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด
ที่มา มติชนออนไลน์
