“แฟนสาว”เอ็มไลฟ์สดเผย คบ 8 เดือน ทำร้ายร่างกาย 6 ครั้ง เป็นซาดิสต์ มโนว่าตัวเองเป็น”โจ๊กเกอร์”

Uncategorized

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 เมษายน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.และโฆษก ตร.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ เข้าเยี่ยม น.ส.กุลดารา ยีสนับ หรือนิต้า อายุ 21 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกนายชัยชนะ ศิริชาติ หรือเอ็ม แฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายและไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน ที่ตึกนวราชจักรี รพ.นพรัตน์ราชธานี

ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ให้สัมภาษณ์ก่อนเยี่ยมว่า อาการเบื้องต้นของผู้เสียหาย บาดเจ็บบนใบหน้า กระดูกนิ้วก้อยหัก อาการบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 โทษจำคุก 6 เดือน ถึง 10 ปี โดยข้อหาที่แจ้งไปแล้วก่อนหน้าคือ หน่วงเหนี่ยว กักขัง กระทำการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากอิสรภาพทางร่างกาย เป็นความผิดตามกฎหมายประมวลอาญามาตรา 310 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และโดนข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่น่าจะทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียงเป็นความผิด พ.ร.บคอมพิวเตอร์ มาตรา 16 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การแบบจับใจความไม่ได้ เนื่องจากมีอาการประสาทหลอน มึนเมาจากการเสพสารเสพติด และผู้ต้องหารายนี้เคยมีประวัติการโจรกรรมทรัพย์สินก่อเหตุเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2548 เหตุเกิดที่ สน.บึงกุ่ม

ต่อมาเวลา 14.00 น. หลังจากที่ พล.ต.อ.วิระชัย ได้เข้าเยี่ยมผู้เสียหายได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จากการสอบถามผู้เสียหายให้การว่า ผู้ต้องหาเรียนแบบพฤติกรรมตัวละครโจ๊กเกอร์ ซึ่งมีลักษณะเป็นบุคคลที่ซาดิสต์ชอบทำร้ายทรมานผู้อื่น เวลาที่ผู้ต้องหาหรือนายเอ็มจะทำร้ายร่างกายจะมีอาการไม่รู้สึกตัว และบอกว่าตนเป็นโจ๊กเกอร์ และแฟนเป็นเหมือนกับแฟนโจ๊กเกอร์ในเรื่องแบทแมน มีการทำร้ายร่างกายในรูปแบบต่างๆ เช่น เอาที่หนีบผมความร้อนสูงจี้ตามจุดต่างๆ บนร่างกาย ใช้มีดปาดคอเพื่อให้ถึงแก่ความตาย แต่ไม่เข้ามีเพียงรอยเท่านั้น ใช้ขาตั้งกล้องฟาดไปตามตัว มีรอยพกช้ำ ทำการลอกสายไฟ แล้วเอาด้านหนึ่งจี้ที่ปลั๊กไฟ และอีกด้านจี้ที่ร่างกายของผู้เสียหาย

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ผู้เสียหายหรือนิต้ายังให้การอีกว่า เพิ่งคบกันได้ 8 เดือน เคยมีเรื่องทะเลาะและทำร้ายร่างกายการรวมทั้งสิ้น 8 ครั้ง แต่หนักสุด 6 ครั้ง โดยล่าสุดทำร้าย 6-8 ชั่วโมง ก่อนที่นายเอ็มทำจะมีอาการไม่รู้สึกตัว ซึ่งแสดงว่าก่อนกระทำจะต้องมีการเสพยาทุกครั้ง คาดว่านายเอ็มเป็นโรคหวาดระแวง และคิดว่าแฟนนอกใจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แฟนนั้นไม่ได้นอกใจตามข้อกล่าวหาของนายเอ็ม

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องหุ้น 40 ล้านบาท ไม่ได้เป็นเรื่องหุ้นแต่อย่างใด แต่เนื่องจากนายเอ็มมีความรู้เรื่อง เชี่ยวชาญสอนเทรด ฟอเรกซ์ หรือสอนลงทุนแลกเปลี่ยนเงิน จึงมีคนมาสมัครเป็นนักเรียน 500 คน จ่ายคนละ 15,000 บาท ซึ่งบุคคลเหล่านี้ไม่ได้รับการสอนจากนายชัยชนะ จึงจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง นายชัยชนะจึงทำการถ่ายทอดสด การทำร้ายแฟนสาวที่ตนเองไม่ได้สอนเพราะว่าไม่สบายใจที่แฟนสาวนอกใจเพื่อเป็นข้ออ้าง และมีการ โกหกว่าแฟนของตนเอง ยักยอกเงินไป 15,000,000 บาท ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เป็นเพียงข้ออ้างที่หาแพะมารับโทษเท่านั้น ในส่วนของการเยียวยา จะหาที่พักที่ปลอดภัยให้กับผู้เสียหาย และจะไม่เป็นการเยียวยากับผู้เสียหายอย่างเดียว จะต้องมีการเยียวยากับทางครอบครัวของผู้เสียหายด้วย

“อาการเบื้องต้นขณะนี้ ผู้เสียหายรู้สึกตัวดี พูดได้ แต่มีบาดแผลทั่วร่างกายตามจุดต่างๆ และนายเอ็มพยายามเจตนาที่จะเอาลูกตาทั้งสองข้างออก แต่ทำไม่สำเร็จ มีรอยมีดจี้ที่บริเวณตา หน้าผากและมีร่องรอยแผลเป็นโดนหวดด้วยสายไฟ ทั้งนี้ ผู้เสียหายเป็นคนพื้นเพ จ.นครศรีธรรมราช และยังศึกษาอยู่ ดังนั้นจะต้องจัดหาที่พักที่ปลอดภัยให้กับผู้เสียหายต่อไป และสำหรับนายเอ็มจะเปลี่ยนจากการแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา เป็นข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” พล.ต.อ.วิระชัย กล่าว

ทางด้าน นพ.สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการ รพ.นพรัตน์ราชธานี กล่าวถึงอาการของผู้เสียหายว่า มีลักษณะจมูกหัก มีรอยฟกช้ำที่หลัง มีบาดแผลตามตัว บาดเจ็บที่ข้อมือซ้าย นิ้วก้อยขวาหัก มีรอยไหม้จากเครื่องหนีบผม ดวงตาบวมช้ำ แต่ยังสามารถใช้งานได้ปกติ สำหรับการรักษาจะต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร สภาพจิตใจยังเข้มแข็งดี ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชมผู้เสียหายที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ดี และมีจิตใจที่เข้มแข็ง

“เท่าที่ดูบาดแผล หน้าตาบวม ตาปิด คอมีรอบมีดยาด ไม่ลึกมาก แขนขวากระดูกหัก ข้อมือซ้ายหัก จมูกหัก โชคดีที่จมูก ใบหน้าไม่หัก สามารถรับประทานอาหารเหลวได้ และตามร่างกายมีรอยช้ำ รอยไหม้ ในส่วนทางการแพทย์คนไข้ปลอดภัย แต่จะต้องใช้เวลารักษานานพอสมควร จิตใจเข้มแข็ง สามารถพูดจาได้ น่าชมเชย ที่สามารถรอดจากสถานการณ์นี้ได้ จากการตรวจสอบร่างกายที่ถูกทำร้ายก่อนถึงมือแพทย์นั้น ถูกทำร้ายประมาณ 8-10 ชั่วโมง ร่องรอยการถูกทำร้ายไม่ได้รับการรักษา ปล่อยให้หายตามกาลเวลา” นพ.สมบูรณ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จะมีการแจ้งข้อหา คือ ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , กักขังหน่วงเหนี่ยว , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้ปรากฏภาพผู้อื่นอันจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออับอาย และ เสพยาเสพติดประเภท1 (ยาบ้า)

 


ที่มา มติชนออนไลน์