จนท.กรมศิลป์เล่านาที ‘รอมแพง’ โดนด่ากลางงานสัปดาห์หนังสือ

Uncategorized

กลายเป็นกระแสดราม่ามาตลอดสัปดาห์กับกรณีที่ทวิตเตอร์หนึ่งวิจารณ์บทสัมภาษณ์รอมแพงเจ้าของบทประพันธ์ “บุพเพสันนิวาส” ว่า “มี คลิปสัมภาษณ์รอมแพง ได้ยินพูดว่าต้องใช้ความกล้าในการเขียนเพราะเอาประวัติศาสตร์จริงมาแทรกด้วย รอมแพงหมายถึงใช้ความมั่วและหน้าด้านเขียนนั่นเอง”

แล้วรอมแพงเข้าไปตอบว่า “แล้ว คุณกล้าไหมล่ะคะ มาเขียนแข่งกันไหม หรือดีแต่พิมพ์ด่าคน เอาให้เป๊ะตามประวัติศาสตร์ ที่มีหลายกระแสเลยใส่มาให้หมด ไม่มั่วและหน้าด้านอย่างดิฉัน อยากรู้เหมือนกันว่านิยายที่คุณเขียนจะเป็นอย่างไร ป.ล.อย่าลืมนะว่านิยายนี้เขียนเมื่อสิบปีที่แล้ว หลักฐานมีแค่ไหน อะไรที่ค้นพบใหม่บ้าง”

ก่อนจะตามมาด้วยการขอโทษด้วยข้อความว่า “ตั้งแต่ บุพเพสันนิวาสออนแอร์ คนด่านเยอะมาก ทั้งแบบมีเหตุผลและไม่มีเหตุผล นี่ก็อดทนมาตลอด เพราะเตรียมใจไว้แล้ว มีมาชี้หน้าด่าในงานสัปดาห์หนังสือด้วย แต่พวกเขาล้วนด่าอ้อมๆ เพิ่งโดนด่าว่าหน้าด้านต่างๆ ก็คราวนี้เอง เลยหัวร้อนไปหน่อย ขอโทษทุกคนด้วยนะคะ ต่อไปข้าน้อยจะอดทนให้มากกว่านี้”

นำมาสู่เพจดังอย่างอีเจี๊ยบ เลียบด่วน โพสต์ในเพจเฟซบุ๊กอย่างต้องการให้กำลังใจแกมเตือนสติว่า “เข้าใจ ว่ากำลังปรับตัวกับชื่อเสียง กับความดังที่โถมเข้ามา คนดังเป็นกันทุกคนแหละ เวลาดังสิ่งที่จะติดมาด้วยเป็นแพคเกจก็คือ คำด่า คำแซะ คำวิจารณ์ ทั้งมีเหตุผลและไร้สาระ ต้องจัดการอารมณ์ตัวเองให้ดี อย่าหัวร้อนง่าย เค้าว่ามาก็อธิบายไปดีๆ ยิ้มๆ สุภาพ ถ้าทำเต็มที่แล้ว มันก็ยังตามด่าก็ต้องปล่อยวาง ทำตัวรวยๆ สวยๆ เชิดๆ แล้วละ…”

และเพจดังอย่าง Drama-addict ก็ยังแชร์ดราม่าร้อนแรงนั้น พร้อมโพสต์ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “มี คนไปดราม่าใส่รอมแพงถึงในงานหนังสือเลยเหรอวะนั่น จริงๆ ตำราประวัติศาสตร์หลายๆ เล่มเนื้อหามันก็ไม่ตรงกันซะทีเดียว หรือบางประวัติศาสตร์มันก็มีข้อโต้แย้ง มีทฤษฎีความเป็นไปได้เยอะ อย่างกุอ่านเซนโกคุ ขุนศึกแผ่นดินเดือด เขาก็เอาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นยุคเซนโกคุมาตีความแล้วเปลี่ยนในหลายๆ รายละเอียดที่คนเขียนเขาคิดว่าควรจะเป็นงั้น หรืออย่างหงสาจอมราชันนี่ก็เหมือนกัน มีคน fixed idea ว่า ถ้าแต่งนิยายหรือวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์แล้วต้องเป๊ะๆๆ ด้วยเหรอวะ”

การ ตั้งข้อสังเกตว่ามีดราม่าใส่รอมแพงในงานสัปดาห์หนังสือ นำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ว่าการที่รอมแพงบอกว่าโดนชี้หน้าด่าใน งานสัปดาห์หนังสือ เป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งรอมแพงยืนยันว่าเป็นความจริง และให้ไปถาม “พี่คูณ” ที่อยู่ในบูธกรมศิลปากรในวันเกิดเรื่อง

นายคูณ เกษรแย้ม เจ้าหน้าที่ประจำบูธกรมศิลปากร ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้น ต้องบอกว่าโกรธอาจารย์คนที่ไปด่าน้องอุ้ย รอมแพงมาก ต้องขอเล่าย้อนถึงที่มาตั้งแต่ต้นก่อนว่า ตนเป็นคนนครศรีธรรมราช เป็นคนบ้านเดียวกับน้องอุ้ย รอมแพง ซึ่งเป็นคนนครศรีธรรมราชเหมือนกัน ตนประจำอยู่ที่บูธกรมศิลปากรในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ หนังสือจินดามณีของกรมศิลปากรขายดีมากๆ เพราะกระแสละครบุพเพสันนิวาส ในฐานะคนบ้านเดียวกันเลยอยากเจอน้องอุ้ย รอมแพง เพื่อขอบคุณที่ช่วยทำให้คนหันมาสนใจประวัติศาสตร์ และอยากแสดงความยินดีกับน้องอุ้ยที่บุพเพสันนิวาสประสบความสำเร็จอย่างมาก หนังสือจินดามณีขายดีก็เพราะน้องอุ้ย น้องที่รู้จักกันซึ่งเขารู้จักกับน้องอุ้ยผ่านโซเชียลมีเดียก็เลยช่วยติดต่อ น้องอุ้ย รอมแพงให้ น้องที่รู้จักอินบ็อกซ์ไปบอกน้องอุ้ยว่า ‘อยากให้มาที่บูธกรมศิลาปกรเพราะมีคนบ้านเดียวกันอยากเจอน้องอุ้ย เพื่อแสดงความยินดี’ ทั้งที่น้องอุ้ยมีงานเยอะ แต่ก็อุตส่าห์สละเวลามาให้ ช่วงนั้นที่บูธของกรมศิลปากร คนมาซื้อหนังสือจินดามณีเยอะมาก นักข่าวก็มารอทำข่าวกันเยอะ น้องอุ้ยก็มารอตนที่หน้าบูธ ปรากฏว่าคนที่ซื้อหนังสือจินดามณีเห็นน้องอุ้ยแล้วอยากได้ลายเซ็น ทำให้น้องอุ้ยต้องเข้ามาในบูธเพื่อนั่งเซ็นให้ ระหว่างที่มีคนอ่านต่อคิวยาวเหยียดเพื่อขอลายเซ็นของน้องอุ้ย จู่ๆ ก็มีอาจารย์คนหนึ่งแซงหน้าทุกคน เดินเข้าไปภายในบูธที่น้องอุ้ยนั่งอยู่ มีการพูดขึ้นเสียง พูดด้วยอารมณ์ ถ้อยคำตนไม่ได้ยินทั้งหมดเพราะยุ่งอยู่กับทอนเงิน คิดเงินจากลูกค้า ที่ได้ยินก็จะมีคำว่า “ออเจ้า ลาลูแบร์” โดยอาจารย์คนดังกล่าวพูดขึ้นเสียง ใส่อารมณ์ เหมือนอยากจะสั่งสอน หลังจากที่อาจารย์ออกไปแล้วตนก็ถามน้องอุ้ยว่าเป็นอะไรไหม น้องอุ้ยบอกว่าไม่เป็นไร แต่ตนเพิ่งมารู้ภายหลังจากกระแสดราม่าโซเชียลว่ามีการชี้หน้าด่าด้วย ก็รู้สึกเสียใจที่เราเป็นคนทำให้น้องเขาโดนด่า และรู้สึกน้อยใจอาจารย์คนดังกล่าวว่าทำไมไม่เห็นแก่หน้าเราซึ่งเป็นคนเชิญ น้องเขามา ทำไมไม่ให้เกียรติกัน เพราะเดินเข้าไปภายในบูธเลย

“อาจารย์ คนดังกล่าวอายุประมาณ 70 ปี น่าจะเป็นอาจารย์เกษียณอายุราชการ คือผมไม่รู้หรอกว่าเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยไหน แต่เราเรียกกันว่าอาจารย์ อาจารย์มักมาเดินดูหนังสือที่บูธกรมศิลปากรและบูธอื่นๆ ในงานสัปดาห์หนังสือเป็นประจำทุกปี เราก็เห็นหน้ากันอยู่ เวลาเจอหน้ากันผมก็จะเรียกท่านว่าอาจารย์ ตอนแรกผมเสียใจตรงที่ผมชวนน้องอุ้ยมา ทำให้น้องเขาต้องเจอเหตุการณ์นั้น เราก็คิดว่าเป็นเพราะเราหรือเปล่าถึงทำให้น้องต้องมาโดนด่า แต่ตอนหลังก็มาคิดได้ว่าไม่ใช่ความผิดของเราหรือของน้องอุ้ย แต่เป็นของอาจารย์ท่านนั้นต่างหาก เพราะช่วงเวลานั้นใช่เวลาที่จะมารื้อฟื้นประวัติศาสตร์หรือ ควรเป็นช่วงเวลาที่แสดงความยินดีกับน้องเขาหรือเปล่าที่งานของน้องทำให้คน หันมาสนใจประวัติศาสตร์ ต้องขอบคุณน้องเขาด้วยซ้ำ ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไร ก็ต้องบอกว่ารู้สึกโกรธอาจารย์ท่านนั้น ความจริงโกรธมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว ยิ่งพอมารู้ว่ามีการชี้หน้าด่าด้วย ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น แล้วก็น้อยใจอาจารย์ด้วยที่เข้าไปว่าน้องเขาถึงในบูธ เหมือนไม่ให้เกียรติเราที่เป็นคนเชิญน้องเขามา” นายคูณกล่าว

ขอบคุณข้อมูลและภาพ : CrossboXs Thailand, อีเจี๊ยบเลียบด่วน, Drama-addict


ที่มา มติชนออนไลน์