"THE WORLD IN ONE BITE 2025: TALK OF THE TASTE" อร่อยรอบโลกครบทุกสไตล์ กว่า 200 ร้านดัง พร้อมกิจกรรมและสิทธิพิเศษมากมาย ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ ห้างเซ็นทรัลชิดลม ตั้งแต่วันนี้ - 6 เม.ย. 68

กรุงเทพฯ, 25 มี.ค. 68: เริ่มต้นขึ้นแล้ว! มหกรรมอาหารนานาชาติสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “THE WORLD IN ONE BITE 2025: TALK OF THE TASTE” ที่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ ห้างเซ็นทรัลชิดลม ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จับมือกันเนรมิตให้ ‘ทุกคำที่ถูกพูดถึง…เป็นรสชาติที่ต้องลิ้มลอง!’ นี่ไม่ใช่แค่งานรวมเมนูเด็ดจากทั่วทุกมุมโลก แต่ยังอัดแน่นด้วยรสชาติที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของแต่ละวัฒนธรรม พร้อมกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ และสิทธิพิเศษที่สายกินต้องห้ามพลาด! งานจัดเต็มตั้งแต่วันนี้ – 6 เม.ย. 68 ระหว่าง 10:00 – 21:00 น. 

ปีนี้มากับคอนเซ็ปต์ “TALK OF THE TASTE” ที่เปิดพื้นที่ให้รสชาติได้เป็นบทสนทนา ชวนทุกคนมาแชร์เรื่องราวผ่านเมนูโปรด สร้างบทสนทนาแห่งความอร่อยในแบบของตัวเอง เต็มอิ่มกับไฮไลต์สุดพิเศษ Program line-up จากพันธมิตรมากมาย ไม่ว่าจะเป็น MOUTHFUL TASTE ที่รวม Food Pop-up สุดเก๋กว่า 200 ร้านดัง, BITE THE BEATS ดนตรีเพิ่มรสชาติความสนุก, SAVOUR THE MOMENT เวิร์กช็อปและกิจกรรมสุดครีเอทีฟ, MIX & MASH การ Collaboration 

สุดเอ็กซ์คลูซีฟ และ DELICIOUS DEALS สิทธิพิเศษสำหรับสายกิน โดยได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน, มิชลินไกด์ และ THE COFFEE CALLING BKK 2025 ที่มาร่วมยกระดับประสบการณ์การกินดื่มให้พิเศษไปอีกระดับ

บรรยากาศงานคึกคักตั้งแต่วันแรก! นักชิมต่างมาร่วมตามรอยเมนูเด็ดจากร้านดังกว่า 200 ร้าน ที่รวมมาให้ครบในที่เดียว! กับ MOUTH‘FULL’ MARKET สวรรค์ของนักกินหลากสไตล์ ตั้งแต่อาหารคลีนไปจนถึงเมนูระดับตำนาน พร้อมเครื่องดื่มสุดพิเศษ เริ่มที่ HONEST TRUTHS ชั้น 3 จุดหมายของสายเฮลตี้ รวมกว่า 20 ร้านอาหารคลีนที่อร่อยและ
ดีต่อสุขภาพ, SWEET TALK ชั้น 4 โลกของคนรักขนมหวานกับเบเกอรี่ชื่อดังกว่า 30 ร้าน และ FULL AND FULLING ชั้น 5 อาณาจักรรสชาติที่รวมเมนูระดับตำนานจากกว่า 30 ร้านดัง

เหล่าผู้บริหารที่มาร่วมงาน The World in One Bite 2025 Talk of The Taste

ถัดมาที่ SPILL THE BEANS BY OPEN HOUSE X THE COFFEE CALLING เนรมิต OPEN HOUSE ชั้น 6 ให้เป็นสวรรค์ของคอกาแฟ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของเมล็ดกาแฟชั้นเลิศ เวิร์กช็อปเข้มข้น แข่งขันบาริสต้า และเสวนาจากกูรูในวงการกาแฟ ขณะที่ THAI STREET TALES BY EATHAI ชั้น LG พาทัวร์สตรีทฟู้ดไทยต้นตำรับ พร้อม FOOD POP-UPS ที่คัดสรรโดย มิชลินไกด์ และการันตีคุณภาพจาก MICHELIN BIB GOURMAND รวมทั้ง EATHAI EXCLUSIVE MENU – AFTERNOON TEA SET ที่เสิร์ฟชุดน้ำชายามบ่ายสไตล์ไทย และชมการแสดงหุ่นกระบอก-ดนตรีไทย TRADITIONAL MUSIC & THAI SHOW BY JOE LOUIS PUPPET 

สำหรับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ SAVOUR THE MOMENT ที่แฟนๆ ได้กระทบไหล่ 3 หนุ่ม PERSES “จั๋ง วิกร”, “ปลั๊กกี้ ธรากร” และ “เน ณรัณ” ใน TEA TIME WITH PERSES พวกเขาโชว์ฝีมือแต่ง AFTERNOON TEA SET สุดพิเศษ (ข้าวเหนียวมะม่วง, กล้วยทอด, ขนมครก, ขนมถ้วย, สาคูปากหม้อ) เมนูเด็ด EATHAI ที่มีให้ลิ้มลองเฉพาะในงานนี้เท่านั้น แฟนคลับร่วมชิมและทำบุญกับมูลนิธิเติมเพื่อสนับสนุนโครงการสวนผักในเมือง นอกจากนี้ยังมี KANOM KROK WORKSHOP โชว์ฝีมือทำขนมครกสไตล์ตัวเอง (26 มี.ค. 68) และลุ้นรางวัล ‘SOI DAO’ LUCKY DRAW เมื่ออิ่มครบ 350 บาทขึ้นไปจาก EATHAI

ส่วนที่ THE SUGARSCAPE ชั้น 4 กลายเป็นอาณาจักรขนมหวานและจุดเช็กอินสุดปัง! LE PETIT CAFÉ BY SOURI นำเสนอ SOURI Pop-up สุดคิ้วท์! พร้อม FRUITY WHITE TEA MACARON รสพิเศษจากฝีมือ “วิน เมธวิน” มีขายเฉพาะที่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เท่านั้น และยังเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้ร่วมกิจกรรม SWEET MACARONS WITH WIN METAWIN และร่วมทำบุญกับมูลนิธิเติมเพื่อสนับสนุนโครงการสร้างสวนผักในเมืองที่วัดพระราม 9 อีกด้วย นอกจากนี้ มาเติมสีสันให้ฟีดโซเชียลกับ FEED YOUR FEED มุมถ่ายรูปสุดอลัง ที่มีมาการองยักษ์และขนมหวานแฟนตาซี กลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิต

จากนั้นมาที่ SIWILAI CITY CLUB ชั้น 5 ชวนมาสัมผัสรสชาติแห่งอิสระกับ TASTE IN THE SKY BY SIWILAI CITY CLUB พบกับการคอลแลปสุดพิเศษ KITCHEN TAKEOVER โดย “THE SHOYU STAND” เสิร์ฟราเม็งสูตรลับเฉพาะงานนี้เท่านั้น (29 มี.ค. 68) และ “ครัวบ้านอิน” – “แก้วลูน” จัดเต็มอาหารไทยรสเลิศ (5 เม.ย. 68) ในขณะที่ BAR TAKEOVER จาก “BAR NOT FOUND” และ “THE CONTINENTAL BAR” ยกค็อกเทลบาร์ดังจากเชียงใหม่มาเพิ่มสีสัน (29 มี.ค. 68) พร้อมปลดปล่อยใจไปกับ SATURDAY NIGHT MUSIC ที่ขนไลน์อัพ DJ และนักร้องในตำนานจาก วง PRU (29 มี.ค. 68) และ TRIUMPHS KINGDOM (5 เม.ย. 68) มาสร้างบรรยากาศสุดพิเศษ (บัตรราคา 1,500 บาท) และพลาดไม่ได้! COFFEE CORNER จาก SIWILAI CITY CLUB เติมเต็มรสชาติของกาแฟสไตล์ชิคๆ ให้กลมกล่อมไปกับบรรยากาศเมือง นอกจากนี้ยังมี KIDS’CHEN WORKSHOP สำหรับคุณหนูๆ กับการแต่งหน้า PETIT FOURS โดยเชฟจาก DADDY FARMHOUSE (29 มี.ค. 68) และพิเศษสุด! HAPPY HOUR ทุกวันอาทิตย์ – พฤหัสบดี เวลา 17.00 – 21.00 น. ห้ามพลาด!

ไม่เพียงเท่านั้น สเปเชียลเมนูจากร้านอาหารและคาเฟ่ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี กลายเป็น จุดเช็กอินของสายกินที่ต้องมาลอง อาทิ ‘Butterflypea lemon & Roselle sorbet’ เจลาโต้ซอร์เบต์อัญชัน-กระเจี๊ยบมะนาว จาก ALBERO, ‘Truffle Roast Beef Set’ ราเมงทรัฟเฟิลจาก IPPUDO, ‘Gyokuro Matcha Shaved Ice’ น้ำแข็งไสชาเขียวพรีเมียม เสิร์ฟพร้อมน้ำเชื่อมคุโรมิสึและโมจิ จาก THE DESSERT BY KAITHONG ORIGINAL, ‘ข้าวผัด LA’ ข้าวผัดแจ่วบอง และ ‘Duck บงชูส์’ เป็ดกงฟีซอสน้ำตก เสิร์ฟพร้อมข้าวจี่และผักแกล้ม จาก THE HUNGRY DUCK BY GINGER FARM KITCHEN

ต่อกันที่ฝั่ง ห้างเซ็นทรัลชิดลม คึกคักไปด้วยร้านอาหารและกิจกรรมสุดพิเศษที่ “POP THE TOWN”  บริเวณโซน Public Lane & Public Market ชั้น 1 ที่อัดแน่นด้วยร้านค้าป๊อปอัปสุดฮิต เมนูและสินค้าพิเศษ ท่ามกลางความครึกครื้นของบทเพลงจาก WEEKEND DJ SHOWS ทุกสุดสัปดาห์ (25 มี.ค., 28 – 30 มี.ค. และ 4 – 6 เม.ย. 68) กิจกรรมเวิร์กช็อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ “THOMAS & KONG D.I.Y. PUDDING BY BA HAO TIAN MI” เปลี่ยนพุดดิ้งเป็นขนมหวานน่ารักกับโทมัสและก้อง (25 มี.ค. 68), “FAMOUS CHOCOLATE MOUSSE BY THE ROLLING PINN’ EXCLUSIVE WORKSHOP” มาทำช็อกโกแลตมูสสูตรดัง (26 มี.ค. 68), “TAPROOM CIDER TASTING” ลิ้มรสไซเดอร์จาก Taproom (27 มี.ค. 68), “DESIGN YOUR OWN PORKY MASTERPIECE BY JAO KHAO SOI KITCHEN” สนุกกับการตกแต่งข้าวเหนียวหน้าหมู (28 มี.ค. 68) และ “SUGAR TASTING BAR BY SAI SAI” เปิดมิติใหม่ของน้ำตาลโตนดที่ต้องลอง! (25 มี.ค. – 30 เม.ย. 68) ใกล้ๆ กันยังมี “HIDDEN SIPS & BITES” ณ Rest Area, Public Lane ชั้น 1 ดื่มด่ำไปกับคราฟต์เบียร์ ไวน์ และเบอร์เกอร์ฉ่ำๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลจาก ACOUSTIC BAND (25 มี.ค. – 6 เม.ย. 68) ไม่เพียงเท่านี้ เหล่าแบรนด์ดังยังร่วมสร้างสีสันความสดชื่น ครั้งแรกของ “TOD’S ICE CREAME CART” พบกับไอศกรีมเจลาโต้รสพิเศษ (29 มี.ค. – 31 มี.ค. 68) และความสดชื่นแก้วพิเศษกับ “MISS Z REVERIE” เมนูค็อกเทลสุดครีเอทมีจำหน่ายเฉพาะที่ CHIRSTIAN LOUBOUTIN BAR (25 มี.ค. – 30 มี.ค. 68) เท่านั้น

ต่อด้วยการเปิดประสบการณ์ Multi-Sensory Dining ใน “MAD FACE: NERVES AND SENSES” ที่ The Event Hall ชั้น 2 (25 มี.ค. – 6 เม.ย. 68) ในงานนี้ Mad Face ได้ร่วมกับ Good Goods, โครงการจริงใจมาร์เก็ต ทีมเชฟ และศิลปินชั้นแนวหน้านำโดยกลุ่ม Bangkok Community Radio รังสรรประสบการณ์สุดพิเศษที่จะปลุกทุกประสาทสัมผัสแบบเหนือความคาดหมายผ่านรสชาติ ศิลปะ แสง สี เสียง และกลิ่น ในแบบฉบับ Edible Perception, Beyond Taste นิทรรศกาลอาหารรูปแบบใหม่ชวนทุกคนมาสนุกกับโลกของรสชาติที่เหนือคำบรรยาย ร่วมเวิร์กช็อป “BEYOND FOOD” พาสำรวจมิติอันลึกซึ้งของรสชาติและการรับรู้ และยังมีมุมชมภาพยนตร์ชวนหิวที่จะทำให้มื้อพิเศษอร่อยยิ่งกว่าเดิม มุมร้านชำที่ช่วยสนับสนุนเกษตรกรอย่างยั่งยืน บาร์เครื่องดื่มอิสระสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่คัดสรรโซดา ค็อกเทล ไวน์ธรรมชาติและม็อกเทลไว้ครบครัน  แล้วเสริมอรรถรสด้วยฟู้ดอินสตอลเลชั่นสุดล้ำ พร้อมโอกาสให้ลิ้มชิมลองไพรเวทดินเนอร์สไตล์ CHEF TABLE สุดพิเศษ รวมถึงปาร์ตี้สุดสัปดาห์ (29 – 30 มี.ค. และ 5 – 6 เม.ย. 68) ปิดท้ายด้วย “MUSIC & SOUNDSCAPES BY MAD FACE” ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้สนุกยิ่งขึ้น ร่วมออกสำรวจมิติแห่งสีสันของอาหารได้ฟรี หรือตื่นตาตื่นใจเต็มทุกประสาทสัมผัสเพียงซื้อบัตรเข้าร่วมกิจกรรมที่หน้างาน (บัตรราคา 300 บาท/ 700 บาท/ 3,500 บาท โปรดตรวจสอบเงื่อนไข ณ จุดขาย)

ขยับขึ้นไปที่ชั้น 4 พบกับ HOME KITCHEN WORKSHOP ที่รวมเคล็ดลับทำขนมและอาหาร “LUXURY MOCKTAIL SHOWCASE BY ITALASIA X VOGUE” โชว์เคสม็อกเทล ชิมไวน์ มินิคลาสสอนทำไฮบอล และค็อกเทล D.I.Y. (27 มี.ค. 68) “MATCHA CHEESECAKE BY FOODED.CO” มัทฉะชีสเค้กแสนอร่อย (4 เม.ย. 68), “MINI PORK BURGER BY TEFAL NUTRITIONIST” มินิหมูเบอร์เกอร์สุดฟิน (29 – 30 มี.ค. และ 5 – 6 เม.ย. 68) และ TAKOYAKI WORKSHOP WITH ZOJIRUSHI ขนมญี่ปุ่นสุดคลาสสิก (4 – 6 เม.ย. 68) ส่วนที่ LOFTER ชั้น 6 เอาใจสายกิจกรรมพาทุกคนร่วมดื่มด่ำในโลกอาหารกับ THOMAS & KONG! อาทิ “ROTI SHOWCASE BY ROTI STREET” ปั้นโรตีสไตล์สตรีทฟู้ด, ชมโธมัสและก้องประลองไอเดียสร้างสรรค์พิซซ่าในศึก “PIZZA BATTLE” โดยบาร์อิตาเลีย บาย จีจี้ และโชว์ทำโบ๊กเกี้ยน้ำแข็งใส ขนมหวานชื่นใจสไตล์ยศเส โดยร้านยศเส (เจยัง) ปิดท้ายด้วยสมูทตี้สูตรพิเศษ ที่ “THOMAS – KONG SMOOTHIE SHOWDOWN” จะมาโชว์ฝีมือและวางจำหน่ายที่ LOFTER เท่านั้น

พบกับความอร่อยระดับโลก พร้อมกิจกรรมและสิทธิพิเศษมากมาย ในงาน “THE WORLD IN ONE BITE 2025: TALK OF THE TASTE” ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ ห้างเซ็นทรัลชิดลม ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 6 เม.ย. 68 เวลา 10:00-21:00 น. มาร่วมสัมผัสความตื่นเต้นของรสชาติจากทั่วโลกได้แล้ววันนี้!

ติดตามรายละเอียดสิทธิพิเศษ และกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/centralembassy หรือ www.centralembassy.com สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2119-7777#2001

เปิดงานเป็นทางการแล้ว สำหรับ กาดดอยตุง” กลางกรุงฯ ในคอนเซ็ปต์ แฟมิลี่ เฟรนด์ลี่ เฟสติวัล (Family Friendly Festival) ซึ่ง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ห้างเซ็นทรัล จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เพื่อสร้างประสบการณ์ให้คนเมืองได้มีโอกาสใกล้ชิดกับวิถีชีวิตชาวดอยตุงได้ง่ายขึ้น พร้อมเอาใจคนที่พลาดไปร่วมเทศกาล “สีสันแห่งดอยตุง” ครั้งที่ 6 เทศกาลประจำปีของโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จึงนำบรรยากาศและกลิ่นอายของงานมาไว้ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม พร้อมชวนเช็กอิน ชิม ช้อปฯ สนุกกับกิจกรรม ตลอดจนโปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 23 ก.พ. 63

ภายในงานจัดขึ้น ดิ อีเว้นต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ได้รับเกียรติจาก วีรนุช พัฒนาบุญไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์, ฌาน ชานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ร่วมด้วยเหล่าเซเลบริตี้ที่หลงใหลบรรยากาศดอยตุง อาทิ  เพ็ญสุภา คชเสนี, กัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย, มลชยา เตชะไพบูลย์ ร่วมสัมผัสสีสันความสุข

บรรยากาศใน ดิ อีเว้นต์ฮอลล์ ได้มีการตกแต่งด้วยสีสันสดใสสะดุดตา และออกแบบโครงสร้างโดยใช้ไม้ไผ่สาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ด้านหน้าซุ้มทางเข้า ตกแต่งด้วยไม้ดัดเป็นรูปหกเหลี่ยมวางซ้อนสลับไปมา ตามแนวโค้ง เพิ่มสีสันด้วยการนำผ้าไล่สีมาติดทับ พร้อมชวนหยุดถ่ายภาพด้านหน้ากับ “โต” สัตว์ป่าหิมพานต์ มีลักษณะหัวเหมือนกวาง ตัวเหมือนสิงโต ขนยาวคล้ายจามรี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนความเชื่อของชาวไทใหญ่ ที่ยกให้เป็นตัวแทนของความเป็นสิริมงคลและความเจริญก้าวหน้า ตามตำนานที่เล่าขานกันว่า “โต” คือสัตว์ที่ตามเก็บกลีบดอกไม้ของชาวบ้านที่ทำร่วงหล่นไว้ และได้นำมาถวายพระพุทธเจ้าหลังเสด็จกลับมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

จากนั้นชวนแวะร้าน “คาเฟ่ดอยตุง” (Café DoiTung) พร้อมเสิร์ฟกาแฟดอยตุงรสชาติเข้มข้นหอมอร่อย ในภาชนะแก้ว และหลอดกระดาษย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ พบกับเมนูพิเศษ Love Me Back” ที่ “คาเฟ่ดอยตุง” สร้างสรรรค์เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก ดื่มกาแฟแล้ว ไปเดินชมโซน ต้นไม้ ดอกไม้ ที่คัดสรรมาให้เลือกไปประดับตกแต่งที่บ้าน อาทิ  กล้วยไม้รองเท้านารี ไฮเดรนเยีย คล้าย ว่านสี่ทิศ แคคตัส ไม้อวบน้ำ ฯลฯ รวมไปถึง ผักปลอดสารจากดอยตุง สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์ลูกผสม ตลอดจนเมล็ดพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นำมาจำหน่าย ช้อปฯ กันต่อกับสินค้าอาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์ จากโครงการพัฒนาดอยตุงฯ พร้อมลิ้มรสอาหารจากร้านอาหารเหนือ “ครัวตำหนัก” โดยเชฟคนดัง ป้าเครือ-เครือวัลย์ กาบุญก้ำ ผู้ที่เป็นต้นเครื่องประกอบอาหารถวาย สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ชวนลองเมนูใหม่ล่าสุด “ข้าวซอยน้อยทรงเครื่อง” ของชาวไทยใหญ่ รวมไปถึงเมนูเด็ด สปาเก็ตตี้ไส้อั่ว แกงฮังเล ข้าวซอยไก่ ขนมจีนน้ำเงี้ยว เห็ดอ้อนดอย ไส้อั่ว และน้ำพริกต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมหวาน ไอศกรีมอาโวคาโด และ บัวลอยมะพร้าวอ่อน  ให้ได้เลือกลิ้มลอง นอกจากนี้ยังมีสินค้าหัตถกรรม เสื้อผ้าแฟชั่น ผ้าพันคอ ที่ผสานภูมิปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์กับการดีไซน์ลายผ้าไว้ได้อย่างสวยงาม

รวมไปถึงสินค้าตกแต่งบ้านอย่าง งานเซรามิก หมอน ของที่ระลึกให้เลือกอีกมากมาย  และชวนร่วมเวิร์กช็อปสไตล์ดอยตุง อาทิ จัดสวนในถาด, ทำโปสการ์ดด้วยดอกไม้แห้ง, เพ้นต์เซรามิก ฯลฯ ทั้งยังมีบูธแนะนำ ดอยตุง ลอดจ์ (DaiTung Lodge) เชิญชวนให้ไปท่องเที่ยว

โอกาสนี้ เหล่าเซเลบริตี้ ได้เผยความรู้สึกที่ได้มาชมงานครั้งนี้ด้วย เริ่มจาก โอกาสนี้ เหล่าเซเลบริตี้ ได้เผยความรู้สึกที่ได้มาชมงานครั้งนี้ด้วย เริ่มจาก น้อยหน่า-เพ็ญสุภา คชเสนี กล่าวว่า เมื่อเอ่ยถึงดอยตุงสิ่งแรกที่นึกถึง คือ สมเด็จย่า ดังนั้น การสนับสนุนดอยตุง จึงเป็นประโยชน์กับพี่น้องชนเผ่าบนดอยตุง ซึ่งพระองค์ท่านพระราชทานความช่วยเหลือมาตั้งแต่ครั้งยังทรงพระชนม์ และได้มีการสืบสานมาจนถึงปัจจุบัน “หน่าเคยพาลูกไปเที่ยวงานสีสันดอยตุง ที่เชียงราย รู้สึกประทับใจทั้งบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชาวดอยที่นั่น และที่เป็นไฮไลต์ คือ กาด หรือ ตลาด ได้ไปเห็นชาวดอยนำสินค้าที่ไม่พบทั่วไป มาจำหน่าย และยังได้รับประทานอาหารอร่อยๆ กับผักปลอดสารที่ครัวตำหนักด้วย การนำบรรยากาศงานสีสันดอยตุงมาจัดกลางกรุงฯ เป็นความพิเศษที่ไม่ควรพลาดค่ะ”

ด้าน แบงค์-กัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย เล่าว่า “ส่วนตัวเป็นคนชอบสินค้าประเภทหัตถกรรมหรืองานฝีมืออยู่แล้ว พอมางานนี้ได้เห็นผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าแฟชั่น และผ้าพันคอ เก๋มาก ชอบมาก เพราะมีการผสานภูมิปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์กับการดีไซน์ลายผ้าไว้ได้อย่างลงตัว สวยจริงๆ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าตกแต่งบ้าน และของที่ระลึก ให้เลือกอีกมากมาย ไม่เท่านั้น ยังมีมุมให้ร่วมเวิร์กช็อปงานฝีมือในสไตล์ดอยตุง อย่างการจัดสวนในถาด ได้นำกลับไปเป็นที่ระลึก มางานนี้แล้วเพลิน และได้ของที่ชอบเยอะมากค่ะ”

ปิดท้ายที่ จ๋า-มลชยา เตชะไพบูลย์ เผยว่า “พอทราบว่ามีงาน กาดดอยตุง ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม
ดีใจมาก เพราะเคยไปเที่ยวงานสีสันดอยตุงที่เชียงรายเมื่อหลายปีก่อน ยังประทับใจไม่ลืม พอได้มาเจอผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ยิ่งต้องช้อปฯ และที่ไม่พลาดแน่นอน คือ อาหารเหนืออร่อยๆ จาก “ครัวตำหนัก” ที่งานนี้มีเมนูใหม่ “ข้าวซอยน้อยทรงเครื่อง” ของชาวไทยใหญ่ มาให้คนกรุงฯ ได้ลองชิมด้วย เชื่อว่างานนี้ใครได้มาต้องอิ่มใจแน่นอน เพราะนอกจากจะได้ช้อปฯ สินค้าคุณภาพแล้ว เรายังได้มีส่วนสนับสนุนชาวดอยตุงอีกด้วย”

ในงานยังเอาใจนักช้อปฯ ด้วยโปรโมชั่น อาทิ ลูกค้าทั่วไปซื้อครบ 5,000 บาท หรือลูกค้า DoiTung Member และ The 1 Card ซื้อครบ 4,000 บาท รับของขวัญพิเศษทันที สำหรับลูกค้าสาย Eco เพียงนำภาชนะส่วนตัวมาซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่มภายในงาน จะได้รับส่วนลด 5 บาท มาช้อปฯ ชิม เช็กอิน กันได้ในงาน “กาดดอยตุง” ที่ ดิ อีเว้นต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ตั้งแต่วันนี้ ถึง 23 ก.พ. 63