“ห้างเซ็นทรัล” พร้อม คาดเปิดให้บริการตามปกติ พร้อมกันทั่วประเทศ 1 พ.ค.นี้

ข่าวแจ้งว่า ทาง บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ได้ทำส่งจดหมาย ลงวันที่ 18 เมษายน 2563 ส่งถึงคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้า โดยระบุว่า

“บริษัท ขอแจ้งการเตรียมการเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ตามที่คาดว่าจะเปิดบริการ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เวลาเปิด–ปิด สาขาตามปกติของแต่ละสาขา

เพื่อเป็นการเตรียมการเปิดให้บริการ ห้างขอให้ท่านโปรดเตรียมความพร้อมเรื่องพนักงานขาย PC/BA ที่ต้องกลับมาทำหน้าที่ขายสินค้าในสาขาให้ได้ทันตามกำหนด โดยขอให้ท่านโปรดตรวจเช็กสุขภาพและความพร้อมของพนักงาน ก่อนส่งพนักงานเข้ามาทำงานที่สาขา ตามข้อกำหนดในหนังสือแนวทางปฏิบัติสำหรับการกลับมาปฏิบัติงานของพนักงานที่แนบมาด้วยนี้ ทั้งนี้ขอให้พนักงานเข้ารายงานตัวที่สาขาในวันที่ 28 เมษายน 2563

ห้างขอขอบคุณคู่ค้าและพันธมิตรทุกท่าน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่ได้ร่วมเผชิญสถานการณ์อันยากลำบากนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากท่านเป็นอย่างดีเหมือนเช่นที่ผ่านมา”

ที่มา : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์

กมลชนก ครุฑเมือง-เรื่อง

เรียกได้ว่าเอาใจคนรักบ้านและรักการทำอาหารสุดๆ สำหรับ “ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล” ที่ล่าสุดจับมือกับโรงเรียนสอนทำอาหาร The V School เปิดโซน Central Cooking Studio ในแผนกโฮม ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว พร้อมจัดเต็มคอร์สสอนทำอาหารเอเชีย โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านอาหารญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไทย และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้ได้มาเช็กอิน ใช้ชีวิต

“รุ่งนิภา ศรีวิริยะเลิศกุล” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารสินค้า บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เผยว่า ที่ผ่านมาห้างเซ็นทรัลไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาในทุกๆ ด้าน เพื่อต้องการตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าและผู้ใช้บริการ ให้ได้รับสินค้าที่ดีมี่คุณภาพและได้รับการบริการที่ดี พร้อมสร้างบริการใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษ ตอบโจทย์ลูกค้าในทุก ๆ ไลฟ์สไตล์ ทุกเพศทุกวัย ให้ได้รับความสุข ความพึงพอใจสูงสุด โดยแผนกโฮมเป็นอีกแผนกหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากจากกลุ่มที่รักการทำอาหาร และรักการตกแต่งบ้าน เพราะมีความครบครัน ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุด

“ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ความสุขให้เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง จึงได้เปิดโซน Central Cooking Studio เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับลูกค้า ทั้งยังเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแม่บ้าน เด็ก ผู้สูงอายุ หรือแม้แต่ผู้ชายหรือชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังได้จับมือกับสถาบันสอนทำอาหารชื่อดัง The V School โรงเรียนสอนทำอาหารเอเชีย ที่เชี่ยวชาญอาหารญี่ปุ่น เกาหลี จีน และไทย ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับรองจากสมาคมเชฟโลก (WACS) และ Smile Cooking club โรงเรียนสอนทำอาหารโดยเชฟโรงแรมห้าดาว และผู้ชำนาญการมากกว่า 10 ปี” รุ่งนิภากล่าว

“พัชรี พนาราม” ผู้บริหารสถาบันสอนทำอาหาร The V School กล่าวว่า The V School เป็นโรงเรียนที่เน้นสอนทำอาหารเอเชีย ที่มีชื่อเสียงในด้านอาหารญี่ปุ่น เกาหลี จีน สิงคโปร์ อมาเลเซีย และอาหารไทย ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่สอนการทำอาหารเท่านั้น แต่ยังสอนถึงวัฒนธรรมของอาหารชาตินั้นๆ ด้วย โดยแต่ละคอร์สจะเป็นกลุ่มเล็กที่มีนักเรียนประมาณ 3-8 คน และเชฟผู้สอนอีก 1 คน โดยในตอนนี้ The V School ได้ร่วมมือกับโรงเรียนสอนทำอาหารที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มคอร์สเบเกอรี่เข้ามาเพิ่ม ซึ่งจะเริ่มจากคอร์สทำขนมปัง และเน้นการผสมผสานระหว่างขนมปังกับอาหารเข้าไปด้วย เพื่อให้มีความแปลกใหม่และแตกต่างจากที่มีอยู่

“The V School เน้นสอนหลักสูตรที่นำไปใช้ได้จริง และสามารถต่อยอดพัฒนาสูตรอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้ นอกจากนี้ยังเน้นให้นักเรียนทุกคนได้ลงมือปฏิบัติจริง ทั้งนี้ เรายังมีแอปพลิเคชั่นให้ทบทวนสูตรและฝึกฝนทักษะได้ด้วยตัวเอง ทั้งยังให้คำปรึกษาหลังจากจบคอร์สอีกด้วย” พัชรีกล่าว

ปัจจุบันสถาบันสอนทำอาหาร The V School เปิดให้บริการ 2 สาขา คือ สาขาใหญ่ย่านลาดพร้าว และสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว โซน Central Cooking Studio ในแผนกโฮม ชั้น 5 ที่ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 และได้มีการเวิร์กช็อปเมนู Spicy Salmon พร้อมโชว์เทคนิคการแล่ปลาแซลมอนสดจากนอร์เวย์ โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสอนทำอาหาร The V School

เชฟวอลเตอร์ ลี

“เชฟวอลเตอร์ ลี” เชฟผู้มีชื่อเสียงจากสถาบัน The V School ระบุว่า เทคนิคการแล่ปลาแซลมอนสดนั้นเริ่มจากการเลือกปลา ที่ต้องเลือกปลาแซลมอนที่ได้รับดูแลและการให้อาหารอย่างอย่างเอาใจใส่ และเวลาที่เลือกปลาแซลมอนที่เตรียมการแล่นั้นจะต้องเลือกปลาแซลมอนที่ตายอย่างทันทีภายใน 5 วินาที เพื่อที่จะได้เนื้อปลาแซลมอนที่สด เนื้อแน่น และไม่เละจนเกินไป

เชฟสุกิจ อุดมพรธนกิจ

“เชฟสุกิจ อุดมพรธนกิจ” เชฟผู้เชี่ยวชาญอีกหนึ่งท่านจากสถาบัน The V School เผยเทคนิคขั้นขั้นตอนการทำสไปซี่แซลมอน (Spicy Salmon) โดยเริ่มจากโชว์เทคนิคการแล่ปลาแซลมอนสดที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการแล่ จับปลาแซลมอนอย่างเบามือ พลิกตัวปลาเพียงรอบเดียวเท่านั้น จากนั้นจะใช้การหมุนตัวปลาตลอดขั้นตอนการแล่ โดยมีดที่ใช้แล่นั้นเป็นมีดญี่ปุ่นคมขวา และต้องมีความคมมาก เพื่อให้มีการเสียดสีระหว่างเนื้อปลากับมีดน้อยที่สุด เพราะหากมีการเสียดสีมากเกินไปจะทำให้เนื้อปลาแซลมอนเละและมีรสชาติที่ผิดแปลกไป

จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการทำเวิร์คช็อปเมนูสไปซี่แซลมอน เริ่มจากการนำโนริสาหร่ายที่มีทั้งด้านหยาบและด้านเรียบวางบนแผ่นเสื่อ แล้วนำข้าวญี่ปุ่นที่ปรุงรสแล้วมาวางแผ่บนโนริสาหร่ายด้านหยาบให้ทั่ว พลิกโนริสาหร่ายให้เป็นด้วนเรียบแล้วนำไส้ที่เตรียมไว้วางเป็นแนวนอน จากนั้นจึงทำการห่อด้วยน้ำหนักมือที่พอเหมาะ เพื่อให้ได้ซูชิที่มีรูปทรงสวยงาม นำแซลมอนที่แล่เตรียมไว้วางเรียงบนหน้าซูชิ ใช้มีดญี่ปุ่นคมขวาหั่นให้พอดีคำ และควรระวังเวลาหั่นไม่ให้ไส้แตกและไม่ให้รูปทรงซูชิเปลี่ยนไป ในขั้นตอนสุดท้ายนำน้ำซอสสไปซี่มาตกแต่งบนหน้าซูชิให้สวยงาม พร้อมรับประทาน

“ความอร่อยของสไปซี่แซลมอนนั้นอยู่ที่ตัวเนื้อปลาแซลมอนสดที่จะต้องแล่อย่างถูกวิธี และน้ำซอสสไปซี่ที่นำมาราดจะต้องมีความพอดีไม่ข้นจนเกินไป จึงจะได้สไปซี่แซลมอนที่มีรสชาติกลมกล่อม” เชฟสุกิจกล่าว

สำหรับใครที่อยากพบประสบการณ์ใหม่ในการทำอาหารหลากหลายสัญชาติ และเบเกอรี่ ในบรรยากาศที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง ลองแวะเวียนไปที่ Central Cooking Studio กันดูเลย!

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด จัดแคมเปญ “The Terrace Exclusive Campaign 2019” ชวน ลิ้ม ชิม รส 3 แกงไทยโบราณสูตรลับตำรับไทยหาทานยาก แกงรัญจวนเนื้อตุ๋น-หมูตุ๋น, แกงเขียวหวานเนื้อน่องลายตุ๋น-หมูตุ๋น และแกงคั่วปูใบชะพลู ในราคาพิเศษเพียง 144 บาท

อีกทั้งยังมีการ Re-branding ร้านและได้เพิ่มเมนูใหม่เป็นเมนูอาหารไทยต้นตำรับรสชาติไทยแท้ สัมผัสมรดกไทยผ่านวัฒนธรรมการกินอาหารเครื่องคาว-หวาน ภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นกว่า 40 ปี โดยแม่ครัวเก่าแก่ประจำร้านผู้เป็นเจ้าของสูตรอาหารไทยโบราณต้นตำรับ รังสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถันแบบเดียวกับที่ตั้งใจทำให้คนในครอบครัวทาน ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งแบบไทย โดยเมนูทั้งหมดเกิดขึ้นจากคอนเซ็ปต์ “ครบรสชาติ ถึงเครื่องปรุง รสไทยแท้”

แกงคั่วปูใบชะพลู

พบกับแคมเปญ “The Terrace Exclusive Campaign” ระหว่างวันที่ 1-31 มีนาคม 2562 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา, เซ็นทรัลพลาซา เวสเกต, เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพลาซา บางนา, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 และเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

แกงเขียวหวานน่องลายตุ๋น, หมูตุ๋น

“สินค้าวางอยู่เป็นล็อกๆ แยกตามกลุ่มประเภท” คงเป็นภาพจำโซนขายของแต่งบ้าน หรือแผนกโฮมของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลที่หลายคนนึกออก

แต่คงไม่ใช่กับที่ “เซ็นทรัล พระราม 3” ที่มีการปรับโฉม และเปลี่ยนประสบการณ์การช้อปปิ้งให้สนุกและตอบโจท์ทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Living House” (ลิฟวิ่ง เฮ้าส์) เติมเต็มความสุขให้ลูกค้าเสมือนบ้านหลังที่ 2 บนพื้นที่กว่า 4,200 ตารางเมตรของแผนกโฮม เซ็นทรัล พระราม 3

รุ่งนิภา ศรีวิริยะเลิศกุล

“รุ่งนิภา ศรีวิริยะเลิศกุล” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารสินค้า บริษัท สรรพสินค้า เซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า แผนกโฮมในคอนเซ็ปต์ใหม่นี้จะเป็นต้นแบบของแผนกโฮมของห้างเซ็นทรัลสาขาอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งหัวใจสำคัญของห้างสรรพสินค้าอยู่ที่การสร้างบรรยากาศที่จะมอบความอบอุ่น และให้ความรู้สึกราวกับคนพิเศษ จึงแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ Round Center (ราวด์ เซ็นตอร์) โซนรวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน, Dining Community (ไดนิ่ง คอมมูนิตี้) โซนร้านอาหารที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี และโซน New Service (นิว เซอร์วิส) หรือบริการสุดพิเศษตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

การออกแบบหลักๆ ของแผนกโฮมที่เซ็นทรัล พระราม 3 จะเน้นการดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ลักชัวรี่ ด้วยการใช้วัสดุจากไม้และทองแดงเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง ซึ่งให้ความรู้สึกสวยงาม หรูหรา แต่ก็อบอุ่นไปในตัว

ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะสะดุดตาทันทีตั้งแต่ก้าวเข้ามา คือ โครงไม้ทรงกลมขนาดใหญ่ในโซนราวด์ เซ็นเตอร์ ที่ด้านบนใช้การตกแต่งด้วยแผ่นไม้ซ้อนทับกับระแนงไม้สวยงาม ซึ่งบริเวณนี้เปรียบเสมือนใจกลางของพื้นที่ทั้งหมด เพราะง่ายต่อการสังเกตเห็น และสามารถเดินดูสินค้าได้โดยรอบเป็นวงกลมอีกด้วย

 

ในโซนราวด์ เซ็นเตอร์ นอกจากจัดสินค้าตามประเภทเพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อแล้ว ยังมีจุดจัดแสดงให้เห็นสินค้าแต่ละหมวด หรือการจัดแสดงออกเป็นธีม เช่น ธีมห้องนอน ธีมห้องครัว เพื่อให้ลูกค้าเกิดไอเดียในการเลือกซื้อของไปตกแต่งบ้าน

ถัดมาที่โซนนิว เซอร์วิส ที่เชื่อว่าจะต้องถูกใจใครหลายคนแน่นอน เพราะที่นี่จัดเต็มด้วยบริการสุดพิเศษ Pillow Testing Room หรือห้องลองหมอน สาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่ลูกค้าสามารถเลือกหมอนที่ต้องการไปลองหนุนได้ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยจัดให้ลองในห้องนอนเสมือนจริง พร้อมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกหากต้องการเปลี่ยนหมอนใหม่ ซึ่งไม่ต้องกังวลในเรื่องความสะอาดของที่นอน เพราะมีการดูแลเรื่องความสะอาดอย่างดี

หมอนพร้อมเลือกลองหนุน

นอกจากนี้ ยังสามารถทดลองแผ่นรองนอน เพื่อเพิ่มความนุ่มสบายในการนอน โดยมีให้เลือกทั้งวัสดุที่ผลิตจากใยสังเคราะห์ เมมโมรี่โฟม หรือยางพารา

ห้องลองหมอน

ลองหมอนกันไปแล้วก็ยังมีให้ลองทำอาหาร กับบริการ Cooking Studio โดย Smile Cooking Club โรงเรียนสอนทำอาหารชื่อดัง ซึ่งจะมีทั้งหลักสูตรการทำอาหารคาว-หวาน และเบเกอรี่ ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้

และที่พลาดไม่ได้คือโซน “ไดนิ่ง คอมมูนิตี้” จัดเต็มความอร่อยตอบโจทย์ครอบครัวได้เป็นอย่างดี ประมาณว่าคุณแม่เลือกของ คุณพ่อก็ขอมาอิ่มท้องกันก่อน ซึ่งงานนี้เซ็นทรัลก็คัดสรรร้านดัง อาหารรสเลิศ ครบทุกสัญชาติมาให้ไว้บริการเลยทีเดียว

เริ่มด้วยอาหารเกาหลีอย่าง “เดอะ บิบิมบับ” ที่โดดเด่นในเรื่องบิบิมบับ หรือข้าวยำเกาหลี โดยเฉพาะเมนู “พุลโกกิ บิบิมบับ” รวมมิตรสารพัดผักและเห็ด จัดจ้านด้วยซอสโคชูจังรสชาติกลมกล่อม ให้รสชาติแบบเกาหลีแท้ๆ เมนูที่ไม่ควรพลาดยังมี “ต็อกโปกี” หรือแป้งตัวอ้วนผัดกับซอสพริกโคชูจัง อร่อยแบบไม่ต้องบรรยายเยอะ

พุลโกกิ บิบิมบับ

ถัดมาคือร้าน “แสนยอด WOK” ร้านอาหารจีนกวางตุ้งแท้ระดับตำนาน (ได้รับรางวัล Bib gourmand จากมิชลิน ไกด์) ที่ยังคงรักษาสูตรต้นตำรับสไตล์แสนยอดไว้อย่างครบถ้วน เมนูแนะนำคือ ราดหน้าสไตล์ฮ่องกง น้ำราดหน้าเข้มข้น กับหมูนุ่ม และคะน้าต้นอวบ ทำเอาคนกินฟินลืม ส่วนอีกเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ ปลาหมึกคั่วพริกเกลือ จานนี้กรอบนอก ข้างในหนึบหนับ หอมกลิ่นพริกและเกลือ กินกับข้าวสวยได้ดีทีเดียว

ราดหน้าสไตล์ฮ่องกง
ปลาหมึกคั่วพริกเกลือ

เอาใจคนนักอาหารอีสานกันด้วยร้าน “ไก่ย่างหนังกรอบป้าแก้ว” กับสาขาแรกที่เข้ามาเปิดในห้างสรรพสินค้า แต่ยังรสชาติระดับตำนานที่ใครหลายคนติดใจ โดยเฉพาะ “ไก่ย่างหนังกรอบ” สูตรเด็ดเฉพาะตัว ย่างมาแบบหนังกรอบมากๆ รสชาติกลมกล่อมดี จิ้มน้ำจิ้มแจ่วแลวเด็ดอย่าบอกใครเลยล่ะ

ไก่ย่างหนังกรอบ

นอกจากไก่ย่างสูตรเด็ดแล้ว ที่ร้านนี้ยังมีเมนูอาหารอีสานที่เด็ดไม่แพ้กัน ทั้งส้มตำ ลาบ น้ำตก จัดว่าเด็ดทุกจาน!

จากอาหารเกาหลี อาหารจีน อาหารอีสาน มาสู่อาหารยุโรปกันบ้างกับร้าน “Maillard Butcher & Steak” (เมญาร์ด บุตเชอร์ แอนด์ สเต๊ก) ร้านสเต๊กเนื้อไทย-วากิวดรายเอจ ที่มาเปิดในห้างสรรพสินค้าที่นี่เป็นที่แรกเช่นกัน กับเมนูที่ต้องลองคือ Dry aged steak สเต๊กเนื้อนุ่ม แม้สั่งแบบเวลดันก็ไม่แห้ง และยังคงฉ่ำด้วยส่วนของมันที่แรกอยู่ในเนื้อ พร้อมกลิ่นพริกไทยเข้มข้น ได้รสชาติเป็นเอกลักษณ์

Dry aged steak

กระซิบบอกกันอีกนิดว่า เร็วๆ นี้เตรียมพบกับร้าน Peppina (เพ็พพิน่า) ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์นาโปเลียนชื่อดัง ที่พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบในการปรุงอาหาร และสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ด้วยความตั้งใจทุกขั้นตอน ทำให้ได้รสชาติอาหารอิตาเลียนแบบออริจินัล

ความพิเศษของโซนนี้ไม่ได้อยู่เพียงร้านอาหารเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่บริเวณนั่งกินที่มีพื้นที่ Glass House ที่สามารถนั่งรับประทานอาหารแนวหน้าต่างกระจก เพื่อรับแสงสว่างจากธรรมชาติในช่วงกลางวัน พร้อมชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ หรือเดินออกไปยังระเบียงด้านนอกเปลี่ยนบรรยากาศ ก็ช่วยให้อาหารมื้อนั้นเป้นมือที่พิเศษมากยิ่งขึ้น

เอาเป็นว่าใครอยากสัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบพิเศษ ในบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน พร้อมอิ่มอร่อยกับร้านอาหารเจ้าเด็ด ไปแวะชมแวะชิมกันได้ที่ “แผนกโฮม ชั้น 6 เซ็นทรัล พระราม 3” เลย!

เทศกาล SALE แห่งชาตินัดสำคัญ ลดทั้งศูนย์ฯ ทั่วประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจกลางปี ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ

  • พบส่วนลดสูงสุดถึง 80% จากร้านค้ากว่า 10,000 แบรนด์ดัง ตั้งเป้าดึงยอดทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 30% หวังสร้างยอดขายให้ร้านค้าในศูนย์ฯเพิ่มขึ้น 20% ณ ศูนย์ฯและห้างฯ 69 แห่งทั่วประเทศ เริ่ม 1 มิ.ย.-15 ก.ค. 61 นี้
  • หั่นราคากับ Happy Day By The 1 Card “Half Year Half Price” พร้อมสิทธิพิเศษเมื่อสมัครสมาชิกใหม่
  • จัดใหญ่ ชม LIVE ฟุตบอลโลกพร้อมคนทั่วโลก
  • อัดฉีดรางวัลมูลค่ารวมกว่า 34 ล้านบาท รางวัลใหญ่! ลุ้นเที่ยวอิตาลี พร้อมเงินรางวัลสำหรับ
    ช้อปปิ้งฟรีที่ห้างสรรพสินค้าหรูอันดับหนึ่งของอิตาลี La Rinascente

กลุ่มเซ็นทรัลรวมพลัง 12 ธุรกิจในเครือ นำโดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น พร้อมด้วยพาร์ทเนอร์ธุรกิจ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด, บริษัท อิออน
ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
, ธนาคารออมสิน, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), บริษัท มาสเตอร์การ์ด (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ทุ่มงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท ผนึกกำลังเปิดแคมเปญ “เดอะ เกรทเทส
แกรนด์ เซล
2018
: GO FOR IT #เพราะของเซลรอไม่ได้ ตอกย้ำเดสติเนชั่น Mid-Year Sale แห่งปีที่ทุกคนรอคอย ชูจุดแข็งผนึกพลังของกลุ่มเซ็นทรัลเพื่อมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่คุ้มค่าที่สุด พร้อมมอบส่วนลดสูงสุดถึง 80% ช้อปสนุก ไร้รอยต่อทุกร้าน ทุกโซน ทั่วศูนย์การค้า ทั่วประเทศ ลุ้นรางวัลใหญ่ ทริปเที่ยว อิตาลี พร้อม เงินรางวัลสำหรับช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าสุดหรูอันดับหนึ่งของอิตาลี La Rinascente และ ลุ้นบัตรเครือกลุ่มเซ็นทรัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 34 ล้านบาท เริ่มช้อปได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์การค้า และ ห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล 69 แห่งทั่วประเทศ

ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เผยว่า “The Greatest Grand Sale เป็นงาน Sale ยิ่งใหญ่ระดับประเทศที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาด บริษัทในเครือกลุ่มเซ็นทรัลทั้งหมดจะร่วมกันมอบโปรโมชั่นให้ลูกค้ากับส่วนลดสูงสุดถึง 80% และสิทธิพิเศษต่างๆ เพิ่มเติมอีกมากมาย โดยเฉพาะผู้ถือบัตร The 1 Card โดยการผนึกกำลังในครั้งนี้เราเน้นตอบสนองความต้องการและสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงและรวดเร็วสที่สุด โดยนำกลยุทธ์ Emotional Marketing มาใช้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและกระตุ้น Spending ซึ่งเราสังเกตพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ว่ามีนิสัยไม่ชอบรอ ต้องการอะไรที่รวดเร็วทันใจ ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนทุกอย่าง เชื่อมต่อกับโซเชี่ยลมีเดียตลอดเวลา ทำให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและ Real time โดยเฉพาะของดีที่มีคุณภาพราคาคุ้มค่า และยิ่งถ้าได้รับสิทธิพิเศษหรือสามารถช่วงชิงสินค้าเซลได้ก่อนใครก็จะรู้สึกภูมิใจ”

“นั่นจึงเป็นไอเดียให้เราสื่อสารแคมเปญภายใต้ธีม Go For It  #เพราะของเซลรอไม่ได้ ตอกย้ำความเป็นศูนย์การค้าชั้นนำที่ใครๆ ก็ไม่อยากพลาดงานเซล นอกจากนี้ ก็ยังคงเน้นหนักในการนำ Influencers มาร่วมกระตุ้นอารมณ์ในการช้อป นำโดยช่างภาพชื่อดัง ธาดา วาริช, มารีญา พูนเลิศลาภ, ป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาทร ฯลฯ ที่จะมาชวนทุกคนให้รีบออกมาช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าของซีพีเอ็น โดยตั้งเป้าว่าการจัดแคมเปญในครั้งนี้จะสามารถเพิ่มยอดทราฟฟิกจากช่วงปกติได้ถึง 30%” ดร. ณัฐกิตติ์กล่าว

ซีพีเอ็นชวนทุกคนมา Go For It กับงานเซลยิ่งใหญ่ระดับชาติ คือ 1) Go For Grand Sale: ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ ที่สูงถึง 80% และมหกรรมสินค้าลดราคา จากกรุ๊ปและแบรนด์ชื่อดัง อาทิ ตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษจากการบินไทย, เสื้อผ้าจาก Pacifica Group, Asava Group, Central The Red Hot Sale, Supersports Super Sale และข้อเสนอพิเศษจากรถยนต์ชั้นนำ ที่จะผลัดเปลี่ยนกันมาลดราคา ณ ศูนย์การค้าของซีพีเอ็นทุกสาขา 2) Go For Good Price: จัดเต็มกับ 12 ไอเท็มเด็ดต่อสัปดาห์ พร้อม Deal Alert แจ้งเตือนโปรโมชั่นจากร้านค้ามากมาย และ 3) Go For Great Deal: ชวนลุ้นให้สุดทุกการช้อปทุก 1,000 บาท สามารถร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่ทริปกรุงเทพฯ – อิตาลี พร้อม Pocket Money ให้ช้อปปิ้งต่อได้ฟรีๆ ที่ห้างฯ La Rinascente กรุงโรม จำนวน 5 รางวัล หรือ ลุ้นรับบัตรกำนัลช้อปปิ้งฟรีจากห้างฯ และร้านค้าในเครือกลุ่มเซ็นทรัล รวมมูลค่า 600,000 บาท และเมื่อช้อปครบ 5,500 บาทขึ้นไป รับฟรี! ลำโพงลูกบอลไร้สาย จำนวน 1 ชิ้น ณ จุด Redemption สำหรับลำโพงฯ แลกรับได้ตั้งแต่วันที่ 6 -19 มิถุนายน 2561 (หรือจนกว่าของจะหมด)  พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 50% สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน, บัตรเครดิตอิออน, บัตรเครดิตธนาคารออมสิน, บัตรเครดิตกสิกรไทย, บัตรเครดิตไทยพาณิชย์, บัตรเดบิต และ เครดิตธนชาต หรือสามารถรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจาก บัตรมาสเตอร์การ์ด, บัตรเอสโซ่ สไมล์ส หรือ ลูกค้าที่แสดง Line Connected with Smiles (@Essothailand) และลูกค้าที่แสดงกุญแจรถยนต์ที่มีตราสัญลักษณ์โตโยต้า โดยเงื่อนไขเป็นไปตามผู้ออกบัตร

ด้าน คุณปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เผยว่า “แคมเปญครั้งนี้ เป็นการผนึกกำลังจากหลายธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัลที่พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้งสินค้าเซลช่วงกลางปีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ในส่วนห้างเซ็นทรัลทั้งหมด 23 สาขา รวมเซน เตรียมโปรโมชั่นที่ดีที่สุดให้แก่นักช้อปทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้ช้อปปิ้งกับสินค้าลดราคาที่ครอบคลุมทุกประเภทอย่างจุใจ อาทิ

– สินค้าเคาน์เตอร์ปกติ ลดสูงสุด 30% (เฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์)

– บิวตี้ แกเลอรี ลดสูงสุด 15% (เฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์)

– สินค้าเฉพาะรุ่น ลดสูงสุด 50%

– ลดเพิ่มสูงสุด 15% เมื่อใช้คะแนน The 1 Card เท่ายอดช้อป

– รับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ

– พร้อมลุ้นทริปเที่ยวอิตาลีฟรี จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง และลุ้นรับของรางวัลมากมาย
เมื่อช้อปตามเงื่อนไข

– ตั้งแต่วันที่ 6-26 มิ.ย. ที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขาและเซน

นอกจากนี้ยังสามารถช้อปอย่างต่อเนื่อง ผ่าน www.central.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษตลอดแคมเปญ พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าได้ช้อปผ่านบริการ Central On Demand (เซ็นทรัลออนดีมานด์) ได้ทันทีจาก Central Line Official ที่มุมซ้ายของเมนู ง่ายๆ เพียงแชทสอบถามพนักงานให้เช็คของทางไลน์ เหมือนมีเลขาส่วนตัว และรอรับสินค้าที่บ้าน หรือมารับเองที่ห้างเซ็นทรัลสาขาใกล้บ้านก็เลือกเอาตามสะดวก”

คุณอนวัช สังขะทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายการตลาด บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) เสริมว่า “สำหรับมหกรรมเซลแห่งชาติ ‘THE GREATEST GRAND SALE’ ในปีนี้ โรบินสัน ร่วมผนึกกำลังกับบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล ด้วยการขนทัพสินค้า ทั้งแฟชั่นเครื่องแต่งกาย แอคเซสเซอรี่ เครื่องสำอาง สินค้าเด็ก เครื่องใช้และของตกแต่งบ้าน ลดทั้งห้างฯ สูงสุด 80% พร้อมสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าโรบินสัน ลดเพิ่ม สูงสุด 12.5% (เมื่อใช้คะแนนเดอะวันการ์ดแลกเท่ายอดช้อป) ลุ้น เป็นเจ้าของรถยนต์ NEW TOYOTA YARIS ATIV มูลค่ากว่า 6 แสนบาท (เมื่อช้อปครบทุก 1,000 บาท หรือใช้ทุก 20 คะแนน พร้อมใบเสร็จ รับสิทธิ์ลุ้น 1 สิทธิ์) รับเครดิตเงินคืน สูงสุด 8,000 บาท สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 8 กรกฎาคม 2561 ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 46 สาขา”

นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด กล่าวว่า “สำหรับปีนี้นอกจากจัดเตรียมสินค้าอุปโภค-บริโภค ลดสูงสุด 50 % เรายังเตรียมสิทธิพิเศษไว้อีกมากมาย สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต Central The 1 รับเงินคืนสูงสุด 5% เมื่อช็อปผ่านบัตรทุก 1,500 บาท ขึ้นไป/ใบเสร็จ พิเศษ!! เฉพาะเสาร์ – อาทิตย์ รับส่วนลด 15% เมื่อช็อปครบ 1,800 บาท ขึ้นไป/ใบเสร็จ และใช้คะแนนสะสม 1,800 คะแนน และสมาชิกบัตรเครดิต KTC รับ KTC Forever reward 100 คะแนนเมื่อช็อปครบทุก 1,500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม ไปจนถึง 10 กรกฎาคม 2561 นอกจากนี้ยังมีแคมเปญ Taste of New Zealand ลุ้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ประเทศนิวซีแลนด์ มูลค่ากว่า 260,000 บาท 1 รางวัล (2 ท่าน) เมื่อช็อปสินค้าประเทศนิวซีแลนด์ที่ร่วมรายการครบทุก 400 บาท/ใบเสร็จ ตั้งแต่ 16 พ.ค. – 12 มิ.ย. 2561 ณ ร้านเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา”

คุณระวี พัวพรพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บัตรเดอะวันการ์ด กล่าวเพิ่มเติมว่า “สมาชิกใหม่ที่สมัครบัตร The 1 Card ระหว่างวันที่ 1 – 10 มิ.ย. 61 รับฟรี Almond Pretzel และ Lemonade 1 ชุด มูลค่า 90 บาท ที่ร้าน Auntie Anne’s (จำกัด 5,000สิทธิ์) เพียงสแกน QR Code นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นอื่นๆ เช่น ลดราคา 50% ขึ้นไปสำหรับ Exclusive items จากแบรนด์ดังอีกมากมาย เฉพาะสมาชิก The 1 Card เท่านั้น”

สำหรับ The Greatest Grand Sale 2018 GO FOR IT #เพราะของเซลรอไม่ได้ ให้ทุกคน ช้อปเพลิน คุ้มค่ากว่าใคร ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2561 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เซ็น โรบินสัน รวม 69 สาขาทั่วประเทศ ร่วมด้วยท็อปส์ ซูเปอร์สปอร์ต พาวเวอร์บาย บีทูเอส และเซ็นทรัลออนไลน์