โก โฮลเซลล์ ปลื้ม! “HoReCa GO MORE” เป็นมากกว่า งานขายสินค้า ดึงกว่า 65,000 คน ร่วมงาน สร้างคอมมูนิตี้สู้วิกฤติเพื่อคนทำธุรกิจร้านอาหาร

กิจกรรม “HoReCa GO MORE โปรแรง ขายง่าย กำไรงาม” ที่ โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ร่วมกับซัพพลายเออร์แบรนด์ดัง หมุนเวียนจัดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน – 12 สิงหาคม ที่ โก โฮลเซลล์ 13 สาขาทั่วประเทศนั้น

งานนี้ไม่เพียง ‘ตอบโจทย์’ ลูกค้าผู้ประกอบการร้านอาหาร กลุ่มโฮเรก้า ในด้านสินค้าราคาประหยัดต้นทุนจากโปรโมชั่นต่างๆ เท่านั้น แต่ยัง ‘ได้ใจ’ คนทำธุรกิจที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในยุคเศรษฐกิจผันผวนในช่วงนี้ด้วย

ความเข้าใจลูกค้าคือ คีย์ซัคเซส


นายริคาร์โด้ เบารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย กล่าวว่า โก โฮลเซลล์ วาง กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก (Customer Centric) ในทุกการตัดสินใจสร้างแคมเปญ โปรโมชั่น การสรรหา สินค้า จึงมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด ที่สำคัญต้องเข้าใจ Pain Point ของลูกค้าให้ได้ ตีโจทย์ให้แตก โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้

1348578_0

“กิจกรรม ‘HoReCa GO MORE โปรแรง ขายง่าย กำไรงาม’ มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อช่วยบรรเทาภาระต้นทุนราคาวัตถุดิบให้กับผู้ประกอบการ โดยได้รับความร่วมมือจากซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ทำโปรโมชั่นลดราคา พร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ตอบโจทย์ในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าผู้ประกอบการที่มองหาโปรโมชั่นสินค้าคุณภาพ ราคาคุ้มค่า ที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลกำไร เพื่อให้สามารถดำรงธุรกิจอยู่ได้ในภาวะเช่นนี้”

สำหรับกิจกรรมนี้ โก โฮลเซลล์ ไม่เพียงนำเสนอจุดขายในเรื่อง ราคา เท่านั้น ในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน การเติมเต็มทักษะอาชีพ พัฒนาสูตรอาหาร เพื่อสร้างความแปลกใหม่ เพิ่มยอดขายให้ร้านก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการ นั่นทำให้ กิจกรรมเวิร์กชอป กลายเป็นอีกแรงดึงดูดสำคัญที่ทำให้มีผู้สนใจและเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเนืองแน่นและต่อเนื่อง

คอมมูนิตี้เพื่อคนทำธุรกิจร้านอาหาร
“เราร่วมกับสมาคมสมาพันธ์เชฟประเทศไทย จัดเวิร์กชอป จำนวน 61 คอร์ส กระจายให้ความรู้ เพิ่มทักษะการสร้างสรรค์เมนูสร้างรายได้ ได้รับความสนใจจากเจ้าของร้านอาหาร เชฟ ในพื้นที่ที่สาขาตั้งอยู่มาเข้าอบรมมากกว่า 1,700 คน นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจร้านอาหารอย่าง ‘คุณต่อเพนกวิน’ มาให้ความรู้เรื่องการเพิ่มยอดรายได้ ที่จัดขึ้น ณ โก โฮลเซลล์ สาขาขอนแก่น เป็นการปิดท้าย ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ และใกล้เคียง กว่า 120 คน มาเก็บเกี่ยวเทคนิคดีๆ ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง นำไปต่อยอดธุรกิจได้”

นอกจากนี้ ยังร่วมกับซัพพลายเออร์ จัด กิจกรรม Cooking Show จากเซเลบริตี้เชฟชื่อดัง จัดบูทชิมสินค้า และมอบสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น คูปองออนท็อปสุดพิเศษ การลุ้นรับรางวัล รวมถึงบูทชิมสินค้า Own Brand “ A-Choice” ที่จะนำมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ เป็นสีสันที่ช่วยเพิ่มแรงดึงดูดผู้คนเข้าร่วมกิจกรรม ‘HoReCa GO MORE โปรแรง ขายง่าย กำไรงาม’ รวมตลอดโครงการมากกว่า 65,000 คนทั่วประเทศ!!!

เกิดเป็น “คอมมูนิตี้” ของผู้ประกอบการร้านอาหารขึ้นอย่างน่าสนใจ

เพิ่มดีกรีความผูกพันธ์ ต่อยอดกลยุทธ์เฉพาะทาง
“กิจกรรมนี้ทำให้เราเห็นความต้องการของผู้ประกอบการร้านอาหาร กลุ่มโฮเรก้า ในเชิงลึกและหลายมิติมากขึ้น อีกทั้งยังมีโปรแกรมจากระบบสมาชิก The1 ของเครือเซ็นทรัล ที่ลูกค้าชื่นชอบ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาโปรแกรม หรือสิทธิประโยชน์ เฉพาะกลุ่ม ตลอดจนสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ เพื่อขยายกลุ่มคอมมูนิตี้สำหรับคนทำธุรกิจอาหารต่อไปในอนาคต” นายริคาร์โด้ กล่าว

ด้าน เจ้าของร้านข้าวแกงบ้านคุณป้า และ ร้าน Better Mood จ.ขอนแก่น กล่าวว่า “ปกติมาซื้อวัตถุดิบที่ โก โฮลเซลล์ บ่อย แต่พอมีกิจกรรม HoReCa GO MORE ก็ชอบ โดยเฉพาะการให้ความรู้ที่จะช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจร้านอาหารเดี๋ยวนี้อยู่ยากขึ้น”
ขณะที่เจ้าของร้านลำดวนคาเฟ่ จ.กาฬสินธุ์ บอกว่า “กิจกรรมนี้ดีมากๆ สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดที่ร้านได้ ปกติจะมาซื้อสินค้าที่ โก โฮลเซลล์

สาขาขอนแก่นทุกอาทิตย์ สินค้าคุณภาพดี ราคาถูก ชอบสินค้า Frozen อย่างพุงปลาแซลมอน ที่กาฬสินธุ์ หายากมาก ที่สำคัญได้ราคาดีด้วย” พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้จัดบ่อยๆ

โก โฮลเซลล์ ปูพรมเวิร์กชอป ช่วยคนตัวเล็ก - ธุรกิจรายย่อย ดึงกูรูเสริมอาวุธเพิ่มทักษะ ผู้ประกอบการร้านอาหาร อยู่อย่างไรให้รอดได้ในยุคนี้

“ร้านเล็กไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอย่าง แต่ต้องรู้ว่า ลูกค้าของเราต้องการอะไร และซื้ออะไรซ้ำ รวมทั้งการให้ความใส่ใจกับลูกค้า เพียงเท่านี้เชื่อว่า ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำอย่างแน่นอน และทั้งหมดนี้ย้ำให้เห็นว่า ‘ข้อมูล’ และ ‘ความเข้าใจลูกค้า’ คือ กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ” ผศ.ดร.อัครนันท์ พงศธรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการหลักสูตรโลจิสติกส์อัจฉริยะและการจัดการห่วงโซ่อุปทาน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) หนึ่งในกูรูของกิจกรรม “เวิร์กชอป” ของ โก โฮลเซลล์ บอกเล่า เทคนิคการบริหารร้านให้อยู่รอดที่มีประกอบการตั้งใจฟังและเก็บความรู้กันอย่างเต็มที่

ที่ผ่านมา กิจกรรมเวิร์กชอปของ “โก โฮลเซลล์” (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กำลังเป็นที่พูดถึงและได้รับความสนใจมากขึ้น ไม่ใช่เพราะอบรมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เป็นเพราะระยะหลังที่สถานการณ์เศรษฐกิจส่งสัญญาณไม่สู้ดี กำลังซื้อลดลง ค่าครองชีพสูง นักท่องเที่ยวหดหาย กระทบยอดขายร้านเล็กร้านน้อยเป็นระลอกคลื่น การเตรียมพร้อมตั้งรับมรสุมลูกใหญ่ เพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายที่รออยู่ จึงเป็นสิ่งจำเป็น

โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหาร ช่วงนี้พากันลงชื่อร่วม เวิร์กชอป กิจกรรมที่จัดหมุนเวียนทุกสัปดาห์ ตามสาขาของ โก โฮลเซลล์ ทั้ง 13 แห่ง รวมกว่า 60 หลักสูตร ในช่วงงาน “HoReCa GO More” ตั้งแต่วันนี้ – 12 สิงหาคมนี้ ซึ่ง โก โฮลเซลล์ ร่วมกับ สมาคมสมาพันธ์เชฟประเทศไทย ส่งเชฟมืออาชีพกว่า 40 คน ไปสอนเทคนิคพร้อมแจกสูตรที่นำไปปรับแต่งเป็นเมนูเฉพาะของตัวเองได้เลย ที่สำคัญ แจกคูปองส่วนลดให้ผู้ร่วมเวิร์กชอปด้วย สำหรับสินค้ากลุ่มอาหารสด อาหารแช่แข็ง แพคเกจจิ้ง ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญ

1336158_0
1336163_0

“เสาวกิจ ปรีเปรม” นายกสมาคมสมาพันธ์เชฟประเทศไทย กล่าวว่า “สมาคมฯ ร่วมกับ โก โฮลเซลล์ ในการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เน้นการปฏิบัติเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการคิดเมนูใหม่ๆ วิธีการใช้วัตถุดิบ ประหยัดต้นทุน เทคนิคการทำอาหารที่อร่อยและสร้างรายได้ เพราะในปัจจุบัน เจ้าของร้านแทบจะต้องคิด seasonal menu ทุก season ถ้าหากเจ้าของร้านไม่มีพื้นฐานการทำอาหารเลยและไม่เรียนรู้ ก็จะคิดไม่ออก”

สำหรับหลักสูตรเวิร์กชอปนี้ “โก โฮลเซลล์” ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการของลูกค้า และความนิยมของวัตถุดิบอาหารแต่ละชนิด ก่อนสร้างสรรค์ออกมาเป็นธีมอาหารหลักๆ อาทิ ไทยฟิวชั่นฟู้ด ครบเครื่องเรื่องเส้นเส้น จากนั้นจะให้ทีมเชฟมืออาชีพของสมาคมฯ ระดมสมอง คิดเมนูที่ช่วยจุดประกายให้ผู้ประกอบการนำไปต่อยอดธุรกิจของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็น ปลาแซลมอนย่างซอสสไปซี่เทอริยากิเครื่องลาบ ปอเปี๊ยะปลาแซลมอน ฟิเลย์มิยองผัดกะเพรา กุ้งลายเสือใหญ่เทอร์มิดอร์ซอส เสิร์ฟพร้อมเส้นแองเจิลแฮร์หมึกดำ ฯลฯ เปิดสอนแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ครั้งละ 30 คน ทุกคนได้ลงมือทดลองปรุงอาหารด้วยตนเอง ซึ่งเชฟจะสอนและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

‘บัณฑิต นาเมือง’ เจ้าของร้าน Black Space Coffee ย่านรังสิต คลองสี่ ยอมรับว่า แม้จะบริหารจัดการต้นทุนมาตั้งแต่แรกเปิดร้าน แต่ยุคนี้ต้องปรับตัว และเปลี่ยนวัตถุดิบให้เหมาะกับสถานการณ์ อย่างการมาเวิร์กชอปที่ โก โฮลเซลล์ ทำให้เราได้รู้จักวัตถุดิบใหม่ๆ ที่จะทำให้ต้นทุนถูกลงแต่รสชาติยังเหมือนเดิมหรืออร่อยกว่าเดิม

ขณะที่ เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในโซนพัทยา บอกว่า มาเรียนหลักสูตรปลากะพงทอดราดซอสน้ำผึ้งกระเทียม ทานคู่กับแป้งตอติญ่าอบและผักสลัด ได้เคล็ดลับการทำอาหารที่เราไม่เคยรู้มาก่อน คิดว่าจะนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับที่ร้านของตัวเองแน่นอน เพราะมีแผนอยากเพิ่มเมนูใหม่ๆ ให้กับร้านอยู่แล้ว

ส่วนเจ้าของร้านอาหารในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ได้ความรู้และเทคนิคใหม่ๆ ไปใช้เยอะ เมนูปลาแซลมอนเสิร์ฟกับยำส้มโอ สร้างสรรค์ดี สามารถนำไปต่อยอดเมนูภายในร้านได้

ด้าน ต่อเพนกวิน – ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี เจ้าของเพจ Torpenguin กูรูและอินฟลูเอนเซอร์ด้านร้านอาหารที่มีผู้ติดตามกว่า 6 แสน มองปรากฏการณ์ที่ผู้ประกอบการยุคนี้ต้องการทักษะเพิ่มว่า “ยุคนี้เราทำธุรกิจคนเดียวไม่ได้ ต้องร่วมมือกัน อย่างที่ โก โฮลเซลล์ ร่วมมือกับ สมาคมสมาพันธ์เชฟประเทศไทย มีเชฟมืออาชีพมาสอน มีการจัดกิจกรรมเพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ทำให้เห็นมิติของการปรับตัว ความพยายามของผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจอาหารตลอดห่วงโซ่เพื่อช่วยผู้ประกอบการ ร้านอาหารยุคนี้ถ้าไม่ปรับตัว ไม่มีเมนูใหม่ๆ ก็เท่ากับเราถอยหลัง”

ทั้งนี้เวิร์กชอปของ โก โฮลเซลล์ จะจัดอย่างต่อเนื่อง สนใจลงตารางไว้เลย วันที่ 18 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม พบกับเมนูครบเครื่องเรื่องเส้นเส้น วันที่ 2 – 15 กรกฎาคม เปิดเคล็ดลับเมนูอาหารอีสานแซ่บเว่อร์ โดนใจ กำไรพุ่ง วันที่ 16 – 29 กรกฎาคม พบกับเมนูสตรีทฟู้ดพารวย และวันที่ 30 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม พบการเผยเคล็ดลับขั้นเทพของเมนูชาบู หมูกะทะ ที่เป็นธุรกิจสุดฮอตในยุคนี้ด้วย สอบถามรายละเอียดได้ที่ โก โฮลเซลล์ ทั้ง 13 สาขา ทั้ง ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ อมตะชลบุรี พัทยาใต้ พระราม2 รังสิต รามคำแหง ราไวย์ เมืองภูเก็ต เจริญราษฎร์ ขอนแก่น อุดรธานี และหาดใหญ่ หรือหน้าเพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/gowholesaleth/

โก โฮลเซลล์ เปิดงาน “HoReCa GO MORE ” หนุนร้านอาหาร สร้างโอกาสจากวิกฤติ จัดเต็มสินค้าประหยัดต้นทุน ชู ‘เวิร์กชอป’ ทั่วไทย ติดอาวุธผู้ประกอบการสู้เศรษฐกิจ

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด จัดกิจกรรม “HoReCa GO MORE โปรแรง ขายง่าย กำไรงาม” เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหาร ธุรกิจโฮเรก้า สู้พิษเศรษฐกิจ ขนทัพสินค้าลดต้นทุนหนุนธุรกิจรายเล็ก พร้อมจัดเวิร์กชอป เสริมทักษะเพิ่มโอกาสทำเงินทุกสาขาทั่วไทย ตั้งแต่ 4 มิถุนายน – 12 สิงหาคมนี้

นายริคาร์โด้ เบารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย กล่าวว่า โก โฮลเซลล์ เข้าใจดีถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจโฮเรก้า กำลังเผชิญกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจาก ปัญหาค่าครองชีพสูง กำลังซื้อชะลอตัว ภาคการท่องเที่ยวซบเซา โก โฮลเซลล์ จึงได้จัดกิจกรรม “HoReCa GO MORE โปรแรง ขายง่าย กำไรงาม” เพื่อช่วยบรรเทาภาระในด้านต้นทุนสินค้า วัตถุดิบต่างๆ โดยเราร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมใจกันลดราคาสินค้าสำหรับผู้ประกอบการ อีกทั้งยังร่วมกับสมาคมสมาพันธ์เชฟประเทศไทย จัดเวิร์กชอป จำนวน 60 คอร์ส กระจายให้ความรู้ เพิ่มทักษะการสร้างสรรค์เมนูสร้างรายได้ เสริมความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการได้นำไปต่อยอดธุรกิจได้ทันท่วงที

“กิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในงานนี้จะช่วยเสริมสร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจ ในด้านต่างๆ ทั้งสินค้าและวัตถุดิบราคาประหยัดต้นทุน การเสวนาให้ความรู้และแชร์ประสบการณ์จากผู้ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจร้านอาหารของประเทศ การแนะนำเมนูอาหาร เครื่องดื่มใหม่ๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทน รวมถึงกิจกรรมเวิร์กชอปที่สอนโดยเชฟมืออาชีพจากสมาคมสมาพันธ์เชฟประเทศไทย ซึ่งจะช่วยจุดประกายความคิดและไอเดียต่อยอดสร้างรายได้เพิ่มอีกมากมาย โดยเราได้วางโรดแมปการจัดกิจกรรมหมุนเวียนทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ต่างๆ ได้เข้าถึง”

1331301_0
1331302_0

สำหรับพิธีเปิดกิจกรรม “HoReCa GO MORE โปรแรง ขายง่าย กำไรงาม” จัดขึ้นที่ โก โฮลเซลล์ สาขาศรีนครินทร์ โดยมี นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วย นายกสมาคมสมาพันธ์เชฟประเทศไทย นายกสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยมี นายริคาร์โด้ เบารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย นางซันนี่ ซิดิค รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารสินค้าธุรกิจค้าส่ง และคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ พร้อมกันนั้นได้จัดเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “สร้างโอกาสในวิกฤติ พลิกวิธีคิดสู่ทางรอดธุรกิจร้านอาหาร” โดยกูรูด้านธุรกิจอาหารมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ดำเนินรายการโดย ต่อเพนกวิน – ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี อินฟลูเอนเซอร์ดัง ผู้เป็น CEO บริษัท PenguinX และเจ้าของเพจ Torpenguin ที่มีผู้ประกอบการร้านอาหารในเมืองไทยติดตามเป็นจำนวนมาก

พร้อมกันนั้น ในสาขาอื่นๆ ของ โก โฮลเซลล์ ทั่วประเทศ ได้หมุนเวียนจัดกิจกรรม “HoReCa GO MORE” ไปอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน – 12 สิงหาคม 2568 ซึ่งนอกจากมีสินค้าราคาประหยัดจากแบรนด์ดัง และพันธมิตรทางธุรกิจที่ขนทัพมาช่วยผู้ประกอบการประหยัดต้นทุนมากมายแล้ว ยังมี กิจกรรม Cooking Show จากเซเลบริตี้เชฟชื่อดัง และสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น คูปองออนท็อปสุดพิเศษ การลุ้นรับรางวัล รวมถึงการเพลิดเพลินกับการลองลิ้มชิมรส สินค้า Own Brand “ A-Choice” ที่จะนำมาจัดราคาพิเศษด้วย

ผู้ประกอบการร้านอาหาร ธุรกิจโฮเรก้า ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ติดตามรายละเอียดได้ที่ โก โฮลเซลล์ ทุกสาขา หรือหน้าเพจเฟชบุ๊ค https://www.facebook.com/gowholesaleth/ หรือที่เว็บไซต์ https://centralfoodwholesale.co.th/ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น #GOWHOLESALE #GOAlwaysFreshForward #GOสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อคุณ #GOสดครบคุ้ม

โก โฮลเซลล์ ดัน ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา ชูของดี GI เอกลักษณ์ท้องถิ่น ต่อยอดสู่สินค้าสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร

ทำไม? ปลากะพงสามน้ำ แห่งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ถึงเป็น ของดีประจำจังหวัดสงขลา ที่ได้มาตรฐาน GI หรือสินค้าตามแหล่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และได้ชื่อว่า เป็นวัตถุดิบเลื่องชื่อ ที่ตลาดร้านอาหารมีความต้องการสูง

นายพลอิทธิ์ กรกอง ตัวแทนเกษตรกร เล่าว่าปลากะพงสามน้ำ คือ ปลากะพงขาวที่เกษตรกรเลี้ยงกันในทะเลสาบสงขลา ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุม 5 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสิงหนคร อำเภอบางกล่ำ และอำเภอควนเนียง

เกษตรกร จะเริ่มจากการนำลูกพันธุ์ปลากะพงขนาด 3 นิ้ว ซึ่งต้องเป็นลูกพันธุ์จากแหล่งทะเลสาบสงขลาเท่านั้น จากนั้นนำมาปล่อยในกระชังกลางทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ ใช้วิถีการเลี้ยงแบบดั้งเดิม ใช้เวลาในการเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดผสมปลาสดสับประมาณ 1 – 2 ปี เพื่อให้ได้ปลากะพง น้ำหนัก 3 – 5 กิโลกรัม  ซึ่งความพิเศษของทะเลสาบสงขลาที่ทำให้ปลากะพงได้ชื่อว่า เป็นปลาสามน้ำ มาจากกระแสน้ำขึ้น น้ำลง ที่ทำให้ น้ำ มีภาวะเป็นทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย หมุนเวียนตลอดทั้งปี ปลาจากที่นี่จึงมีความพิเศษกว่าทั่วไป  เพราะจะมีเนื้อแน่น นุ่ม มัน ไม่คาว รสชาติดี เนื้อปลามีสีขาว  มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แบ่งเป็นส่วนๆ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนหางที่จะมีคอลลาเจนสูง ส่วนเนื้อกลางจะมีโอเมก้า  ราวท้องของปลาจะมีไขมันดี

ด้วยรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา ได้รับเครื่องหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์

ผู้ประกอบการร้านอาหารจึงมีความต้องการปลากะพง GI จากแหล่งน้ำนี้เป็นจำนวนมาก เพราะสามารถนำเนื้อไปแล่ แบ่งไปสร้างสรรค์เมนูขึ้นชื่อต่างๆ ทำอาหารได้หลากหลาย อาทิ แกงเหลือง เนื้อปลากะพงลวก กะพงทอดน้ำปลา กะพงผัดฉ่า กะพงซอสมะขาม ฯลฯ ช่วยส่งเสริมการบริโภคปลาท้องถิ่น สร้างคุณค่าให้กับผลผลิตของเกษตรกรไทย

1302236_0

ที่สำคัญ เมื่อปลายปีที่แล้ว ที่สงขลาเกิดอุทกภัย ผู้เลี้ยงปลากะพงทะเลสาบสงขลา ประสบปัญหาการระบายสินค้าออกสู่ตลาด​ “โก โฮลเซลล์” ได้เข้ามาช่วยรับซื้อ ช่วยเหลือเกษตรกรให้ผ่านพ้นอุปสรรค และนำปลากะพงสามน้ำที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวสงขลา กระจายไปจำหน่ายยังสาขาของโก โฮลเซลล์ ทั่วประเทศ

“ต้องขอบคุณ โก โฮลเซลล์ ที่เข้ามาช่วยระบายปลาในช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม เกิดการเปลี่ยนแปลงของน้ำ เกษตรกรจึงต้องรีบจับและระบายปลาออก” นายพลอิทธิ์ กล่าวเสริม

ไปลองลิ้มชิมรสชาติ ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา ได้แล้ววันนี้ที่ โก โฮลเซลล์ ทุกสาขา รวมถึงสาขาล่าสุด โก โฮลเซลล์ สาขาหาดใหญ่

ฉลองส่งท้ายปี

3 ร้านอาหารเครืออิมแพ็ค แนะนำเมนู Festive เชิญร่วมฉลองส่งท้ายปีกับเมนูแสนอร่อย

ตั้งแต่ วันนี้  – 31 ธันวาคม 2567

3 ร้านอาหารเครืออิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม ทั้งยังบริหารกิจการร้านอาหารชั้นนำ 18 แบรนด์ ขอชวนคุณมาเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี พ.ศ 2567 พบหลากหลายเมนู Festive นานาชาติพร้อมเมนูแสนอร่อย เริ่มที่ ร้านอาหาร “อิมแพ็คเลคฟร้อนท์” ณ ริมทะเลสาบเมืองทองธานี นำเสนอ 5 เมนู Festive นานาชาติและฟิวชั่น ต่อด้วย  2 ร้านอาหารที่ตั้งภายในอิมแพ็ค เมืองทองธานี  ร้านอาหาร “เรโทร บาร์ แอนด์ คาเฟ่” และ ร้านอาหาร “ฟลาน โอเบรียนส์ ไอริชผับ”  ขอนำเสนอ 2 เมนู Festive คุณภาพ ต้นตำรับสไตล์ตะวันตก เสิร์ฟ พร้อมเครื่องดื่มชั้นเลิศ ในราคาพิเศษ  ห้ามพลาดเมนู Festive เพื่อการเฉลิมฉลอง ในราคาเริ่มต้น 69 –  690 บาท ตั้งแต่ วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567

มาส่งท้ายปลายปีกับความอร่อย ที่ 3 ร้านอาหารเครืออิมแพ็ค พบเมนู Festive ที่คัดสรรแล้ว  เริ่มที่ร้านแรก ร้านอาหาร “อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์” ที่สุดของร้านอาหารนานาชาติและซีฟู้ด เพลิดเพลินพร้อมชมวิวทะเลสาบสุดชิล ที่ใหญ่ที่สุดในย่านนนทบุรี คัดสรรเมนูนานาชาติและซีฟู้ดคุณภาพ ขอแนะนำ 5 เมนู ได้แก่ “ขาหมูแฮมอบน้ำผึ้ง เสิร์ฟพร้อมซอสสับปะรด และมันบด” (ขนาด 250กรัม) ราคา 495 บาท ขาหมูแฮมย่างจนหอม เสิร์ฟครบครันทั้งซอสสับปะรดและมันบดเนียนนุ่ม ต่อด้วยเมนู “ส้มตำเกาลัดและผลไม้รวม”  ราคา 265 บาท เมนูส้มตำสไตล์ฟิวชั่น อร่อยสดชื่นได้ประโยชน์จากเกาลัดและผลไม้หลากสีสัน ต่อด้วย “กุ้งช็อต” ราคา 69 บาท กุ้งสดเนื้อเด้งเสิร์ฟพร้อมน้ำยำจี๊ดจ๊าด หรือใครชอบแซลมอน ต้องสั่ง “ปลาแซลมอนช็อต” ราคา 69 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนู “กุ้งและปลาแซลมอนช็อต”  ราคา 69 บาท ถูกใจคนรักซีฟู้ด

 สำหรับร้านที่ 2 และ ร้านที่ 3 ขอแนะนำ “เรโทร บาร์ แอนด์ คาเฟ่” ร้านอาหารที่รวมความสุขในยุค 80-90 และ  “ฟลาน โอเบรียนส์ ไอริชผับ” ร้านอาหารและผับสไตล์ไอริช ขอชวนคุณมาเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับ 2 เมนู Festive สุดพิเศษ ให้บริการเช่นเดียวกันทั้ง 2 ร้าน ได้แก่เมนูระดับตำนาน “ขาหมูเยอรมันเสิร์ฟพร้อมมันบด และกะหล่ำปลีดอง” ราคา 690 บาท ขาหมูสไตล์เยอรมันที่กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมมันบดเนื้อเนียนนุ่ม และกะหล่ำปลีดองสดใหม่ และเมนู Festive ฉลองความสุขต้องสั่ง

ไก่อบเลมอนและใบไทม์เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งบด บีทรูท และกะหล่ำดาวอบ” ราคา 590 บาท เมนูสไตล์ตะวันตก ที่ยกความอร่อยมาให้คุณอิ่มเอม กับไก่อบเนื้อแน่น หอมกรุ่นเลมอนและใบไทม์ เสิร์ฟพร้อม ทั้งบีทรูท และกะหล่ำดาวอบ ทางร้านมอบความพิเศษเพิ่มเติม เพียงสั่งเมนู Festive เมนูพิเศษ 1 รายการ / 1 สิทธิ์ รับสิทธิพิเศษ ในการสั่งเครื่องดื่มชั้นเลิศ ในราคาพิเศษ 150 – 225  บาท / 1 แก้ว อีกด้วย

ร้านอิมแพ็คเลคฟร้อนท์ ณ ริมทะเลสาบเมืองทองธานี 2

พิเศษสุด “อิมแพ็คเลคฟร้อนท์” หนึ่งในร้านอาหารชั้นนำเครืออิมแพ็ค เมืองทองธานี ยังขอเชิญคุณมาร่วมกิจกรรมสนุกๆ อุ่นเครื่องก่อนสิ้นปี กับกิจกรรมดีๆเพียงมารับประทานอาหารที่ร้าน ก็ได้สิทธิ์เล่นเกมส์ เพื่อชิงรางวัล ลุ้นรับ บัตรกำนัลร้านอาหารเครืออิมแพ็ค และของขวัญมากมาย เฉพาะที่ ร้านอาหาร “อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์” ในวันที่ 20 – 21 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 – 22.00 น. นี้เท่านั้น

ห้ามพลาดมาเติมความสุขฉลองสิ้นปีกับเมนู Festive สุดคุ้ม พร้อมบรรยากาศดีๆและบริการสุดประทับใจได้ที่ 3 ร้านอาหารเครืออิมแพ็ค ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม 3 ร้านอาหารเครืออิมแพ็ค ได้ที่ 1. ร้าน “อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์” ณ ริมทะเลสาบเมืองทองธานี เปิดให้บริการ 11.30 – 24.00 น. สำรองความอร่อย โทร. 02-033-1851 เฟซบุ๊ก: IMPACT Lakefront และไลน์ ออฟฟิเชียล: @impactlakefront 2. ร้าน “เรโทร บาร์ แอนด์ คาเฟ่” ณ ชั้น 1 อาคาร เดอะ พอร์ทอล ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ (ติดกับ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี) เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น. สำรองความอร่อย โทร. 02-006-2054 เฟซบุ๊ก: Retro Bar and Cafe 3.ร้าน “ฟลาน โอเบรียนส์ ไอริชผับ” อยู่บริเวณฟู้ดเอเทรียม อาคารชาเลนเจอร์ 3  เปิดให้บริการ เวลา 11.00 – 24.00 น. โทร. 02-833-4288 เฟซบุ๊ก: Flann O’Brien’s Irish Pub และเว็บไซต์ www.flann-obriens.com

เฮยยิน ติด 1 ใน 100 สุดยอดร้านอาหารที่ดีที่สุด

เฮยยิน (HEI YIN) ร้านอาหารจีนกวางตุ้ง ได้รับคัดเลือกให้เป็น  1 ใน 100 ร้านอาหารที่ดีที่สุดแห่งเอเชีย (2024 Tatler Best Restaurants Asia) จากการสำรวจของ Tatler Best รางวัลที่คัดเลือก 100 อันดับจาก 3 หมวด ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร และบาร์ที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียของ Tatler Asia สื่อชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย

ด้วยความตั้งใจและประสบการณ์ด้านอาหารจีนอย่างยาวนานกว่า 40 ปี ของเชฟแจ็คกี้ ชาน (Chan Kwok Hung) เชฟใหญ่ประจำเฮยยิน(HEI YIN)  ที่ใส่ใจ พิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งที่ดีที่สุดทั้งจากในประเทศไทยและต่างประเทศ อย่าง ฮ่องกง  แคนาดา เม็กซิโก ผสมผสานเทคนิคขั้นสูงในการปรุงอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อรังสรรค์ให้อาหารทุกจานที่ถูกเสิร์ฟออกจากครัวเฮยยิน กลายเป็นมื้อพิเศษสุดประทับใจของผู้คน และพร้อมผลักดันให้ เฮยยิน (HEI YIN) ได้รับเลือกให้เป็น 1  ใน 100 ร้านอาหารที่ดีที่สุดแห่งเอเชีย โดยเมนูไฮไลต์ที่ Tatler Best แนะนำ ประกอบด้วย เป็ดปักกิ่งย่างไม้ลิ้นจี่ นกพิราบน้ำแดงเกาลัด และเป๋าฮื้อแอฟริกา

ร่วมเฉลิมฉลองโอกาสอันสำคัญนี้ เฮยยิน(HEI YIN)  ขอนำเสนอเมนูสุดเอ็กซ์คลูชีพ “เฮยยินซี่โครงทองคำ” ราคา 1,288++บาท  ที่ผสมผสานรสชาติและเนื้อสัมผัสอย่างลงตัว ลิ้มลองเมนูพิเศษนี้ได้เฉพาะ วันที่ 1 – 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น  ลิ้มลองความอร่อยของอาหารจีนกวางตุ้ง ได้ที่ เฮยยิน (HEI YIN)  ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ เปิดให้บริการทุกวัน ใน  2 ช่วงเวลา ได้แก่ มื้อกลางวัน เวลา 11.00 – 15.00 น. และมื้อค่ำ เวลา 18.00 – 22.00 น. สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 080-964-5423 และ LINE: @heiyinbangkok และติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ www.heiyinbangkok.com, Facebook: www.facebook.com/heiyinbangkok และ Instagram: www.instagram.com/heiyinbangkok

โก โฮลเซลล์ เปิดโลก แซลมอน-เทราต์ ชูความหลากหลาย ปลา(สี)ส้ม เมนูฮิตสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อผู้ประกอบการร้านอาหาร

โก โฮลเซลล์ (GO Wholesale) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร จุดหมายใหม่เพื่อผู้ประกอบการ ปักหมุดแหล่งรวมปลาสีส้มจากทั่วโลก ครบครันทั้ง สด แช่เย็น แช่แข็ง พร้อมจัดเวิร์คช็อปนำเสนอความหลากหลายแหล่งเพาะเลี้ยง เผยสายพันธุ์ใหม่ดาวรุ่งอย่าง อาโอโมริเทราต์จากประเทศญี่ปุ่น และ เทราต์จากเทือกเขาเทียนซาน ต่อยอดสร้างรายได้เพื่อผู้ประกอบการ

นางสาวฐิติพรรณ สินเพราะนิติกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารสินค้าอาหารทะเลและสินค้าแปรรูป บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า กระแสความนิยมในปลาแซลมอนของคนไทยยังเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารที่พากันนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสร้างสรรค์เมนูมากมาย จนประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางหรือตลาดหลักในการจัดจำหน่ายปลาแซลมอนหรือปลาเนื้อสีส้มหลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก

“เมืองไทย มีปลาเนื้อสีส้มที่นิยมมากอยู่ 2 ชนิดคือ แซลมอนแอตแลนติก และ แซลมอนแฟซิฟิค และยังมีปลาเทราต์เป็นที่นิยมอีกด้วย ปลาแซลมอนในเมืองไทยจะมาจากหลายแหล่ง อย่าง แซลมอนแอตแลนติก จะมาจากประเทศนอร์เวย์ ชิลี และ แทสมาเนียนจากออสเตรเลีย รวมถึงสายพันธุ์แปซิฟิกหรือโคโฮที่มาจากประเทศชิลี ปลาเทราต์คืออีกปลาหนึ่งที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ปลาเทราต์สดส่วนใหญ่มาจากนอร์เวย์ นิยมนำไปทำเป็นซาชิมิ หรือ ซูชิ นอกจากนี้ยังมีมาจากจีน เทือกเขาเทียนซาน คุณภาพใช้ได้ ราคาดี หรือเทราต์จากญี่ปุ่น เมืองอาโอโมริ เลี้ยงในฟาร์มในทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุจากน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาชิราคาบิชินจิในจังหวัดอาโอโมริ ทำให้เนื้อปลามีความหวาน อร่อย และอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เมืองอาโอโมริได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ด้วยปลาที่มีคุณภาพดียอดเยี่ยม โก โฮลเซลล์ จึงได้นำมาพัฒนาเป็น Smoked Trout ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารชั้นนำเพิ่มขึ้น”

ไขความลับปลาแซลมอน (1)

โก โฮลเซลล์ ถือเป็น House of Fresh ที่มีปลาแซลมอนหลากหลายแหล่งที่มาจากทั่วโลกจำหน่าย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการ โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการสรรหาวัตถุดิบที่ใส่ใจตั้งแต่ การเพาะเลี้ยง กระบวนการจัดส่ง การจัดเก็บสินค้าที่ได้มาตรฐาน ทำให้ปลามีความสด สะอาด ปลอดภัย รักษาคุณค่าทางโภชนาการเป็นอย่างดี โดยมีการจำหน่ายทั้งแบบสด แช่เย็น และแช่แข็ง พร้อมมีบริการตัดแต่งโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีการแยกพื้นที่การตัดแต่งเฉพาะปลาแซลมอนออกจากปลาทั่วไป

สำหรับปลาแซลมอนสด ที่เห็นวางจำหน่ายนั้น มีกระบวนการจัดส่งบินตรงจากประเทศแหล่งเพาะเลี้ยงมาถึงสาขาที่ขายในเวลาไม่นาน อย่าง แซลมอนสดนอร์เวย์ ใช้เวลาเดินทางภายหลังจากจับปลาและบรรจุพร้อมส่งมาถึงประเทศไทยภายใน 48 ชั่วโมง ทำให้ปลาคงความสด รสชาติอร่อย นิยมใช้เป็นว้ตถุดิบดึงดูดชาวแซลมอนเลิฟเวอร์ยิ่งนัก

ไม่น่าแปลกใจหากที่ผ่านมา เวิร์คช้อป“รอบรู้เรื่องปลาแซลมอน” ที่จัดขึ้น ณ โก โฮลเซลล์ สาขาพระราม 2 จะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างคับคั่ง โดยทุกคนตั้งใจฟังเทคนิคการแล่ปลาแซลมอน ลดการสูญเสีย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งเก็บเกี่ยวเทคนิคความอร่อยของปลาแซลมอนแช่เย็น แช่แข็งสายพันธุ์ต่าง ๆ เอาไว้ไปปรับใช้

“โก โฮลเซลล์ ไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่เราให้โซลูชั่นที่หลากหลาย เป็นทางเลือกใหม่ พร้อมมุ่งสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ เพื่อให้ความรู้ในทุกมิติแก่ผู้ประกอบการ และผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบัน” นางสาวฐิติพรรณ กล่าว

พบปลา(สี)ส้มที่หลากหลายได้ที่ โก โฮลเซลล์ ทั้ง 7 สาขา ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ อมตะชลบุรี พัทยาใต้ พระราม2 รังสิต รามคำแหง

“ชวนคลายร้อน”

“เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” ชวนคลายร้อนด้วยความสดชื่นสไตล์ทรอปิคอล กับ 2 เมนูเครื่องดื่ม และ 2 เมนูเบเกอรี่ใหม่ ในราคา 180++ – 200++ บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม ศกนี้

 

เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” ร้านสเปเชียลตี้คอฟฟี่ชั้นนำจากฮ่องกงสู่ประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานโดย อิมแพ็ค เมืองทองธานี ชวนมาดื่มด่ำกับความสดชื่นในสไตล์ทรอปิคอลกับหลากหลายเมนูใหม่ทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ ในราคา 180++ – 200++ บาท พร้อมให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม ศกนี้ ที่ร้านเดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์ สาขาโครงการเวลา หลังสวน และสาขาเกษรวิลเลจ

คลายร้อนและดื่มด่ำไปกับ 2 เมนูเครื่องดื่มใหม่ที่บาริสต้ามืออาชีพได้คัดสรรเมล็ดกาแฟอาราบิก้าคุณภาพ พร้อมนำผลไม้ยอดนิยมแถบประเทศทะเลเขตร้อนอย่างเสาวรส และสับปะรด มาผสมผสานกันอย่างลงตัว ได้แก่ “Piña Aloha” ราคา 190++ บาท เพลิดเพลินไปกับส่วนผสมเข้มข้นของน้ำสับปะรด กะทิ แยมสับปะรด และท็อปด้วยสับปะรดสด ให้ความหอมหวาน เย็นชื่นใจ และ “Passion Pine Sip” ราคา 190++ บาท สัมผัสรสชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างกาแฟ Awaken Wonder Espresso น้ำสับปะรด น้ำเสาวรส โซดา น้ำเชื่อม และท็อปด้วยเสาวรสสด ให้ความสดชื่นคลายร้อน

และ 2 เมนูเบเกอรี่ใหม่ ได้แก่ “Chocolate & Passion Fruit Tart” ราคา 180++ บาท ช็อกโกแลตทาร์ตเข้มข้นอัดแน่นด้วยครีมเสาวรส ท็อปด้วยอิตาเลียนเมอแรงค์  และ “Crispy Chocolate Passion Fruit” ราคา 200++ บาท เข้มข้นด้วยดาร์คช็อกโกแลตกานาช สอดไส้ด้วยช็อกโกแลตเจนัวส์ ตัดเลี่ยนด้วยครีมเสาวรส และเคลือบด้วยอัลมอนด์ช็อกโกแลตกรุบกรอบ

สดชื่นคลายร้อนกับเครื่องดื่มเมนูใหม่ในสไตล์ทรอปิคอล และเบเกอรี่คุณภาพเยี่ยม พร้อมสัมผัสประสบการณ์ดีๆ จากบาริสต้ามืออาชีพได้ที่ร้าน “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” สาขาโครงการเวลา หลังสวน และสาขาเกษรวิลเลจ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง LINE: @TCA_thailand หรือสั่งเดลิเวอรีผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN, GrabFood, foodpanda และ Robinhood ติดตามโปรโมชั่นดีๆ ได้ที่ Facebook: TheCoffeeAcademicsTH และ Instagram: @TheCoffeeAcademicsTH

โก โฮลเซลล์ จับมือ พรีเมี่ยม บีฟ จัดเวิร์กช้อป “รู้เรื่องเนื้อวัว” เชื่อมโยงผู้ประกอบการร้านอาหาร ต่อยอดไอเดีย ปั้นเมนูสร้างรายได้

ในบรรดาวัตถุดิบที่มีแนวโน้มการบริโภคสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น “เนื้อวัว” นับเป็นวัตถุดิบโปรตีนสูงที่กลายเป็นกระแสนิยมของผู้บริโภค  และบรรดาร้านอาหารทุกระดับ ซึ่งต่างก็หลงใหลในรสชาติเนื้อคุณภาพจนขอนำไปสร้างสรรค์เมนูฮิตมากมาย

โก โฮลเซลล์ จึงร่วมกับ บริษัท พรีเมี่ยม บีฟ จำกัด ผู้ผลิตเนื้อวัวคุณภาพ จัดเวิร์กช้อป “รู้เรื่องเนื้อวัว” ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารที่สนใจ โดยมีผู้ถ่ายทอดคือ นายสุริยศักดิ์ ภูธิปฐิติพงศ์ ประธานบริษัท พรีเมี่ยม บีฟ จำกัด ซึ่งในคอร์สนี้ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และคณะ เข้าร่วมสังเกตการณ์ ณ ห้องเวิร์กช้อป  โก โฮลเซลล์ สาขารังสิต ด้วย

นายสุริยศักดิ์ กล่าวว่า  “5 ปีที่แล้ว เนื้อวัวยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคคนไทยมากนัก มีการบริโภควัวเพียง 6 – 8 แสนตัวต่อปี จากอุตสาหกรรมโคขุนที่ขณะนั้นอยู่ที่ 6 ล้านตัว ไม่รวมการนำเข้า แต่ปัจจุบันการบริโภคเนื้อวัวมีความต้องการมากขึ้น ทำให้ทะลุ ล้านตัว ไปแล้ว รวมถึงยังมีส่วนนำเข้าอีกไม่น้อยเช่นกัน”

ไม่แปลก หากเนื้อวัวคุณภาพในยุคนี้จะมีราคาที่ผู้ประกอบการทุกระดับเลือกนำไปใช้ได้ตามความต้องการ และเป็นผลดีต่อผู้บริโภค ซึ่งเนื้อวัวได้ชื่อว่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ประกอบกับเป็นพระเอกสำคัญของเมนูฮิตในกระแสนิยม ไม่ว่าจะเป็น โอมากาเสะ ชาบู สเต๊ก แฮมเบอร์เกอร์ ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ข้าวหน้าเนื้อ หรือแม้แต่  ผัดกระเพรา ก็กลับมาขึ้นแท่นเป็นเมนูหลักของหลายร้าน จนเกิดกระแสการพูดถึงในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลาย เกิดกลุ่มคนรักเนื้อในแทบทุกพื้นที่

นายสุริยศักดิ์ บอกอีกว่า “แม้การบริโภคเนื้อวัวจะเพิ่มขึ้นมาก  แต่ก็ยังมีช่องว่างให้ผู้ประกอบการสร้างสรรค์เมนูได้อีก เนื่องจาก คนยังรู้จักชิ้นส่วนของเนื้อวัวน้อย ส่วนใหญ่จะนิยม สันนอก สันใน สันแหลม แต่ว่ายังมีชิ้นส่วนอื่นๆ ที่นำมาปรุงอาหารได้อร่อยไม่แพ้กัน”

ไม่ว่าจะเป็น  “พิคานย่า” (Picana) เนื้อส่วนสะโพกด้านบน แม้ไม่ค่อยมีลายไขมันแทรก แต่มีจุดเด่นอยู่ตรงชั้นไขมันหนาด้านบน เมื่อโดนไฟจะส่งกลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นมากกว่าส่วนอื่นๆ  จึงนิยมนำมาทำเป็นสเต๊ก บาร์บีคิว, “เนื้อลูกมะพร้าว” เป็นเนื้อช่วงโคนขาหลังบริเวณสะโพก มีก้อนใหญ่คล้ายกับลูกมะพร้าว มีความนุ่มพอควร มันน้อย นำไปปรุงได้ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด, “เนื้อรักบี้” (Chuck Arm) เนื้อที่อยู่ค่อนไปทางด้านท้อง ลักษณะนุ่มปานกลาง, “เนื้อส่วนปลาช่อน” (Chuck tender) สันในเทียม หรือปั้นแหลม บริเวณส่วนหัวไหล่ ค่อนไปท้อง เนื้อจะมีลักษณะนุ่มปานกลาง,“เนื้อใบพาย” (Oyster blade) มันแทรกสวย เนื้อนุ่ม ละลายในปาก เป็นที่ชื่นชอบของสายชาบู ปิ้งย่าง เอามากๆ   

1208703
1208705

พรีเมียม บีฟ ยังสาธิตการทำเมนูข้าวหน้าเนื้อ โดยใช้เนื้อซี่โครงหั่นเต๋า และสเต๊กเนื้อ ที่ใช้เนื้อส่วนสันแหลม กับสันนอก พร้อมสอนเทคนิคความอร่อย เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมเวิร์กช้อปได้ลงมือทำ  จะได้มองเห็นโอกาสและการต่อยอด

“กิจกรรม Workshop ของ โก โฮลเซลล์ ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ  ระหว่างผู้ผลิต โมเดิร์น เทรด และผู้ประกอบการร้านอาหาร  นับว่าเป็นการสร้างเครือข่ายคนทำอาชีพอาหารให้แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ”  นายสุริยศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช้อปดีๆ กับ โก โฮลเซลล์ หรือต้องการเนื้อวัวคุณภาพดีจากแหล่งต่างๆ ทั่วไทยและทั่วโลก ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อรับข่าวสารและสิทธิประโยชน์ได้ที่ เว็บไซต์ : www.centralfoodwholesale.co.th  

เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/gowholesaleth/ Line : @gowholesale

LinkedIn : https://www.linkedin.com/company/gowholesaleth ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น GO Wholesale และสมัครสมาชิกฟรี ที่   https://gowholesale.onelink.me/dVTJ/8sqvueew

ข่าวดี!

กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดรับสมัครทดสอบภาษาเกาหลีและทักษะการทำงาน (Point System) ครั้งที่ 14 รอบที่ 2 เพื่อไปทำงานเกาหลีใต้ในกิจการบริการ โควตา 3,188 คน สมัครผ่านออนไลน์ระหว่าง 16 – 17 มี.ค. 67

นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานประกาศรับสมัครทดสอบภาษาเกาหลีและทักษะการทำงาน (Point System) ครั้งที่ 14 รอบที่ 2 ประเภทกิจการบริการ (เพศหญิง) เพื่อสมัครไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) ในโรงแรม รีสอร์ทคอนโดมิเนียม ที่พักทั่วไปและร้านอาหารเกาหลี โดยในรอบนี้ได้รับโควตาผู้สอบผ่าน จำนวน 3,188 คน ผู้สนใจสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ toea.doe.go.th ระหว่างวันที่ 16 – 17 มีนาคม 2567 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังจากดำเนินการทดสอบเสร็จสิ้น จะประกาศรายชื่อผู้ที่มีคะแนนรวมสูงสุดลงมาจนครบจำนวนที่กำหนดตามโควตา และผู้มีรายชื่อตามประกาศดังกล่าวจะมีสิทธิยื่นใบสมัครไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีตามระบบฯ พร้อมขึ้นทะเบียนไว้ 2 ปี นับแต่วันประกาศผลการทดสอบ

นายสมชายฯ กล่าวว่า สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นต้องเป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 18 – 39 ปี ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา สายตาไม่บอดสี ร่างกายสมบูรณ์ สุขภาพแข็งแรง และไม่เป็นโรคที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน หรือเป็นโรคติดต่อตามที่ทางการเกาหลีกำหนด มีความประพฤติดี ไม่มีประวัติกระทำผิดทางอาญาหรือเป็นภัยต่อสังคมและความมั่นคง เป็นบุคคลซึ่งไม่ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ไม่มีประวัติการถูกเนรเทศ เคยถูกปฏิเสธการเข้าสาธารณรัฐเกาหลี หรือเคยกระทำผิดกฎหมายของสาธารณรัฐเกาหลี ไม่เคยพำนักอาศัยในสาธารณรัฐเกาหลีด้วยวีซ่า E-9 หรือ E-10 และต้องไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกชนิด ทั้งนี้ผู้ที่อยู่ระหว่างรอสัญญาจ้างงานของประเภทกิจการอุตสาหกรรมการผลิต และกิจการเกษตรและปศุสัตว์ สามารถสมัครเข้ารับการทดสอบได้ และเมื่อผ่านการทดสอบสามารถรายงานตัวสอบผ่านเข้าระบบกิจการบริการจะได้รับการเสนอชื่อเพื่อรอคัดเลือกจากนายจ้างในลำดับแรก

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษาวิธีการลงทะเบียน คุณสมบัติผู้สมัครและเอกสารที่เกี่ยวข้องที่เว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ toea.doe.go.th เมนูข่าวประชาสัมพันธ์ หัวข้อ ประกาศรับสมัครทดสอบภาษาเกาหลีและทักษะการทำงาน (Point System) ครั้งที่ 14 ประเกทกิจการบริการ 2 (เพศหญิง) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

เกาหลี ครั้งที่ 2-02