“ฟาร์มเฮ้าส์” แบรนด์ขนมปังเบอร์ 1 ของไทย ลุยดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว AI Virtual Brand Ambassador “น้องฟูมิ” สาวน้อยสดใสสไตล์อนิเมะญี่ปุ่น เตรียมใช้ทำการตลาดในทุกแพลตฟอร์ม ก่อนเข้าสู่โลก Metaverse ในอนาคต

นายอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตขนมปัง ‘ฟาร์มเฮ้าส์’ แบรนด์ที่ครองอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคชาวไทยมายาวนานกว่า 40 ปี เปิดเผยว่า ตลอดเวลากว่า 40 ปีที่ฟาร์มเฮ้าส์อยู่คู่กับผู้บริโภคชาวไทย แม้เราจะเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของ Digital Transformation อยู่เสมอ เพื่อให้ไม่ถูกดิสรัปต์ทางดิจิทัล ไม่ตกขบวนเทคโนโลยี และก้าวทันโลกอนาคต

“ฟาร์มเฮ้าส์มีการปรับตัวรับมือกับ Digital Transformation มาโดยตลอด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการนำระบบ Automation มาใช้ในระบบควบคุมการผลิต ซึ่งทำให้เราสามารถบริหารจัดการการดำเนินงานต่างๆ ทั้งการผลิต การขนส่ง และการบริการ จนผ่านช่วงวิกฤตโควิด-19 มาได้ อย่างไรก็ตาม ก้าวต่อไปของโลกดิจิทัลคือเทรนด์ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) เทรนด์โลกเสมือน รวมไปถึง Metaverse ที่จะเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต ทำให้ฟาร์มเฮ้าส์เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ในชื่อ ‘น้องฟูมิ’ ซึ่งมาในลักษณะ AI Virtual Brand Ambassador ถือได้ว่าฟาร์มเฮ้าส์เป็นแบรนด์ Food & Beverage รายแรกของประเทศไทยที่นำ Virtual Character มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์”

นายอภิเศรษฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ‘น้องฟูมิ’ นั้นเป็นสาวน้อยอนิเมะสไตล์ญี่ปุ่น มีคาแร็กเตอร์น่ารักสดใส ซึ่งจะเข้ามาช่วยในเรื่องการสื่อสารการตลาดให้กับฟาร์มเฮ้าส์ ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายมากขึ้น โดยน้องฟูมิจะเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มต่างๆ ของฟาร์มเฮ้าส์ ทั้งแพลตฟอร์มการโฆษณา และการขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ลูกค้าเห็นว่าเราเป็นแบรนด์ที่มีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา

สำหรับ ‘น้องฟูมิ’ (Fumi) หรือชื่อเต็มว่า ‘ฟูมิ เฮาสุ’ (Fumi Hausu) เป็นสาวน้อยผมสั้นสีแดง-เหลือง ใส่ชุดกระโปรงสีแดง-ขาว สีสัญลักษณ์ของฟาร์มเฮ้าส์ บนเสื้อผ้าและโบผูกผมมีลายข้าวสาลี ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการทำแป้งสำหรับทำขนมปัง น้องฟูมิยังมีเพื่อนคู่หูเป็นแป้งโดรูปร่างน่ารักที่ชื่อ ‘โดคุง’ (Doughkun) อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะน่ารักสดใส น้องฟูมิยังมีคาแร็กเตอร์ความกล้าแสดงออก มีความเป็นธรรมชาติ มั่นใจ คล่องแคล่ว นุ่มนวล มีอารมณ์ขัน พร้อมพลังบวกเต็มเปี่ยม แถมยังเป็นกันเอง ชอบสนับสนุนช่วยเหลือ ตั้งใจ มุ่งมั่น เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย เปิดรับการเรียนรู้ใหม่ๆ เสมอ ทดลองแม้ในสิ่งที่ไม่ถนัดคุ้นเคย

“การใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์เป็น Virtual Character นอกจากจะทำให้เรามีตัวแทนที่สื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ยังทำให้เราสามารถนำไปใช้ทำการตลาดได้หลากหลายรูปแบบกว่าเดิม ทั้งยังพร้อมสำหรับการเข้าสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่าง Metaverse ขณะที่การนำ AI เข้ามาช่วย ทำให้น้องฟูมิสามารถตอบโต้ได้ และมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าการ์ตูนแอนิเมชั่นทั่วไป ที่สำคัญคือโปรแกรม AI ยังมาช่วยคำนวณสถิติลูกค้า ว่าลูกค้าชอบอะไร อยากได้อะไร ซึ่งจะทำให้เราพัฒนาสินค้าและบริการได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม” นายอภิเศรษฐ กล่าวสรุป

ทั้งนี้ ฟาร์มเฮ้าส์จะพา ‘น้องฟูมิ’ มาพูดคุยแบบสดๆ กับทุกคนเป็นครั้งแรกในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 20.00 น. ผ่านช่องทาง Twitter และ YouTube ในชื่อ Fumi Hausu รวมถึง Facebook และ Line ในชื่อ FarmhouseThai

บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบเกอรี่ ภายใต้แบรนด์ “ฟาร์มเฮ้าส์” คว้ารางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2020” แบรนด์ยอดนิยมที่ครองใจผู้บริโภคเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ในหมวดขนมปังถึง 3 ปีซ้อน มุ่งเน้นทำสินค้าคุณภาพเพื่อผู้บริโภค พร้อมลุยทำตลาดสินค้าใหม่ในครึ่งปีหลัง และตั้งเป้ายอดขายปี 2563 ไม่ต่ำกว่า 7,500 ล้านบาท

พัน ใจบุญ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขาย บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ฟาร์มเฮ้าส์รู้สึกยินดีและภูมิใจที่ได้รับรางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2019-2020 ในหมวดแบรนด์ขนมปังต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และขอขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนกันมากว่า 38 ปี ซึ่งฟาร์มเฮ้าส์ได้มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าที่สดใหม่ ทันสมัย และมีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมาโดยตลอด นอกจากนี้เรายังทำการตลาดและโปรโมทสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคได้รู้จักสินค้าใหม่ตลอดทั้งปี โดยตั้งเป้ายอดขายสินค้าในปี 2563 นี้ ไว้ที่ 7,500 ล้านบาท”

“จุดแข็งของเรา คือ ความสดใหม่ คุณภาพของสินค้าที่ดี สมราคา มีมาตรฐาน และไม่เอาเปรียบผู้บริโภค นอกจากนี้เรายังมีบริการ Delivery ที่สามารถจัดส่งได้ทั่วประเทศตามความต้องการของลูกค้าด้วย ในขณะนี้การบริการ Delivery ของเรากำลังโตเป็นอย่างมาก โดยสินค้าที่ขายดีและถูกสั่งมากที่สุดจะเป็นขนมปังแถว ขนาด 450 กรัม โดยกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลโซนที่ลูกค้าสั่งเยอะสุด นอกจากนี้การส่งแบบ Delivery ของเรายังมีโปรโมชั่นจัดส่งฟรีทั่วประเทศด้วย เพียงสั่งซื้อสินค้าครบ 150 บาท ซึ่งจะมีทั้งแบบให้ลูกค้าเลือกแบบเป็นชุดสินค้าที่เราจัดเตรียมไว้ หรือแบบลูกค้าเลือกเอง”

นายพันกล่าวว่า ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ มี 2 ตัว  คือ เค้กโมจินมเนยอัลมอนด์ และเค้กโมจิดับเบิ้ลช็อกโกแลต ที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก  บางแห่งขาดตลาด  แต่ยังคงสั่งสินค้าผ่าน Line@ ส่งแบบ Delivery ได้ เพราะเรามีสินค้ารองรับตามความต้องการของผู้บริโภคอยู่แล้ว

“จากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาถ้าถามว่ามีผลกระทบไหมต้องบอกว่ามันมี โดยเฉพาะในจังหวัดกลุ่มท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต หรือเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่ร้านค้ากิจการต่างปิดตัวลง จึงทำให้เราต้องขยายช่องทางใหม่มาเป็นการส่งขนมแบบ Delivery ที่สามารถสั่งผ่านทาง Line@ ได้โดยตรง ที่ถ้าซื้อครบ 150 บาท ก็จะส่งฟรี  ถึงอย่างไรฟาร์มเฮ้าส์ ขอขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจและให้การสนับสนุนกันมายาวนานกว่า 38 ปี ซึ่งเราจะมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าให้สดใหม่ สะอาด ปลอดภัย และมีรสชาติที่อร่อยถูกปากคนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกคน”

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 เมษายน 2563 ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับมอบผลิตภัณฑ์จาก3บริษัท เพื่อนำไปมอบให้กับชุมชนในกรุงเทพฯที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบด้วย บ. เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ โดย คุณอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการฯ มอบขนมปังฟาร์มเฮ้าส์วันละ 200 ชิ้นจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2563

คุณกอล์ฟ-ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทสุนทรธัญทรัพย์ จำกัด (ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงตราไก่แจ้) มอบข้าวสารบรรจุถุงตราไก่แจ้ 1 ตัน และขนมตราแม่นภา 300 ชิ้น และ คุณโบว์-ณชา จึงกานต์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ จำกัด มอบขนมแบรนด์ “คันนา” จำนวน 1,000 ชิ้น ให้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19แพร่ระบาด นายชัชชาติ ได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภคที่รับมอบมาจากหลายบริษัท นำไปมอบให้หลายชุมชน อาทิ คุณครูประทีปที่มูลนิธิดวงประทีป คลองเตย ครูแอ๋มที่ชุมชนโรงหมู จักรส่งที่ชุมชนหลังสถานีทองหล่อ ชุมชนสาหร่ายทองคำ ชุมชนเยี่ยมเจริญสุข ชุมชนสวนหลวงก้าวหน้า ชุมชนมาชิม ชุมชนเฉลิมอนุสรณ์ ชุมชนมีมเรืองเวช เป็นต้น

โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า เราจะช่วยบรรเทาภาวะความขาดแคลนของคนในชุมชนไปด้วยกัน ในสถานการณ์โควิดระบาดเราจะรอดคนเดียวไม่ได้ เราต้องรอดไปด้วยกัน เราต้องร่วมมือกัน โดยการช่วยดูแลชุมชนใกล้บ้าน

“ผมคิดว่าเป็นการช่วยรัฐบาลให้เราเดินไปด้วยกันได้ สิ่งที่เราได้มาเราส่งให้ถึงชุมชน ติดต่อประธานชุมชน ชุมชนที่เดือดร้อน ผมว่าเรามีคนจำนวนมากที่อยากจะช่วย แต่บางทีเขาไม่รู้จะส่งไปที่ไหน ถ้าเราช่วยกันดูแลชุมชนที่เรารู้จัก รัฐบาลเดินภาพใหญ่ เราช่วยกันเดินภาพย่อย ดูแลชุมชนใกล้เคียงกัน สุดท้ายเราจะรอดไปด้วยกัน

“ถ้าบริษัทเอกชนอยากจะช่วยนำผลิตภัณฑ์ไปให้ชุมชน ผมก็สามารถจัดการให้ได้ แต่บริษัทต่างๆก็สามารถดูแลชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงก่อนได้ จัดการโดยตรงได้ ผมว่าง่ายที่สุด สามารถลงไปที่ชุมชนแห่งนั้นได้เลย”นายชัชชาติกล่าว

ด้านนายอภิเศรษฐ กรรมการรองผู้อำนวยการ บ. เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในสถานการณ์โควิด-19ระบาด นอกจากฟาร์มเฮ้าส์จะส่งผลิตภัณฑ์ให้คุณชัชชาติเพื่อนำไปมอบให้ชุมชนแล้ว เรายังบริจาคให้โรงพยาบาลหลายแห่ง อาทิ บำราศนราดูร วชิรพยาบาล จุฬาลงกรณ์ ฯลฯ ทุกวัน

“หลังจากมีสถานการณ์โควิด-19แพร่ระบาด ในส่วนของฟาร์มเฮ้าส์มีการปรับตัว เราตรวจวัดอุณหภูมิพนักงาน ล้างมือด้วยเจล ความจริงในโรงงานเราทำอยู่แล้ว พนักงานทุกคนต้องใส่หน้ากากทุกวัน ล้างมือทุกๆชั่วโมง ล้างแอลกอฮอล์เจล เรื่องความสะอาดเราผลิตโดยเครื่องจักรเกือบ100% มีแค่การจัดสินค้าเท่านั้น จึงไว้ใจได้ว่าสะอาด

“ส่วนพนักงานออฟฟิศ พนักงานฝ่ายขาย และพนักงานขนส่ง เราตรวจวัดอุณหภูมิทุกวัน เช็กประวัติ เรามีแพทย์ประจำโรงงาน ปรึกษาได้ทุกวัน นอกจากนี้ยังมีโครงการ Work From Home อย่างออฟฟิศเราอยู่ในเมือง พนักงานก็ต้องใช้บริการขนส่งมวลชน จึงให้ Work From Home อยู่ที่บ้านประมาณครึ่งหนึ่ง มาทำงานครึ่งหนึ่ง ให้เหลื่อมเวลาทำงาน เพื่อไม่ต้องไปเจอการจราจรมาก

“เราเป็นคนทำอาหาร ตอนนี้อาหารเป็นปัจจัยหลัก กินขนมปังสะดวก ไม่ต้องติดไฟ แค่ฉีกซองก็กินได้เลย ของเราทำสดใหม่ กินแล้วอร่อย เราช่วยในจุดนี้ให้กับแพทย์พยาบาล รวมถึงเราได้ติดตามกิจกรรมของคุณชัชชาติอยู่แล้วว่ามีการสนับสนุนชุมชนคลองเตย เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเขาได้รับตรงนี้ไป จะช่วยเขาได้ดี เพราะตอนนี้กิจการต่างๆปิดไปเยอะ ทำให้คนไม่มีงาน”นายอภิเศรษฐกล่าว

ด้านคุณโบว์-ณชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ จำกัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้บริจาคหน้ากากและขนมให้กับมูลนิธิรามาธิบดี และศูนย์บริการโลหิตสภากาชาดไทย เพื่อให้กับแพทย์และพยาบาลแล้ว นอกจากนี้เรารู้สึกว่ามีหลายชุมชนในกรุงเทพฯในประเทศไทย ที่เราอาจไม่ทันนึกถึงเขา บางทีความช่วยเหลือไปไม่ถึง นึกไม่ออกว่าที่ไหนขาดแคลน

“ตรงนี้จึงเป็นโครงการที่ดีมาก ถ้าเรานึกถึงคนในชุมชน คนรอบข้าง แล้วสามารถช่วยเหลือกันได้ทุกหย่อมหญ้า สามารถช่วยเหลือกันได้ทุกจุด ก็จะทำให้ทุกจุดเข้มแข็งขึ้นมา เราก็จะสามารถฟันฝ่าวิกฤตในตอนนี้ไปได้ เพราะตราบใดที่จุดเล็กๆยังไม่ได้รับการช่วยเหลือแก้ไข แปลว่าโรคไวรัสโควิด-19ก็ยังหยุดไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราให้ครบทุกจุดได้ มันจบ”คุณโบว์-ณชากล่าว และว่า

ในส่วนของบริษัทคันนาเอง มีการปรับตัวเยอะมาก จริงๆเราปรับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เราเจอคลื่นตั้งแต่ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในเมืองไทย เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง เรารู้เลยว่าตอนนี้ทำแบบเดิมไม่ได้ ปรับทุกอย่างให้เป็นออนไลน์ หรือแม้กระทั่งวิธีการสื่อสารทางการตลาด เราก็เป็นการสื่อสาร2ทางกับลูกค้ามากขึ้น เราบอกเขาว่าเราเป็นเพื่อนคุณ เราอยู่กับคุณทุกที่ทั้งในบ้าน และที่ทำงาน หรือแม้แต่โปรดักส์ เราก็มีโปรดักส์ใหม่ที่ออกมาสำหรับกลุ่มคนไทยโดยเฉพาะ เช่น ต้มยำอบกรอบ ที่เอาไปคลุกข้าวสวยก็กินได้เลย

“อย่างตัวล่าสุดเป็นขนมเปี๊ยะใส้ถั่วล้วน อบเตาโบราณ ที่ช่วยเสริมสร้างร่างกาย แป้งบาง อบควันเทียน ที่คนไทยส่วนมาก ต่างวัยต่างอายุกินได้หมด ไม่หวานมาก มีประโยชน์ เน้นกลุ่มครอบครัวที่อยากเก็บตัวอยู่บ้าน นอกจากนี้กำลังต่อยอดอีกคอลเล็คชั่นของคันนา เป็นกลุ่มมะม่วงเอเชียนฟิวชั่นซีรีส์ เน้นเปรี้ยว เผ็ด แซ่บ อยู่บ้านยังไงไม่ให้เบื่อ กักตัวยังไงไม่ให้ชีวิตเหี่ยวเฉา มันเป็นรสชาติของคาวที่กินง่ายขึ้น แค่หยิบชิ้นมะม่วงขึ้นมา ก็ได้รสชาติของอาหารที่เราคุ้นเคยอยู่บนโต๊ะสำรับใหญ่ และก็มาอยู่ในมะม่วง เอามะม่วงมาทำเป็นของคาวเป็นของฟิวชั่น อยากให้เขารู้สึกว่าอยู่บ้านยังไงไม่ให้เบื่อ

“อีกทั้งเรายังรอออกสินค้าเยอะมาก พวกต้มยำจะออกมาอีกรูปแบบที่ซื้อง่ายขายคล่อง ราคาเข้าถึงได้ และเป็นต้มยำแบบกรอบ โดยที่ไม่ต้องมานั่งต้ม ปรุง กินกับข้าวคลุกแทนน้ำพริกได้เลย เป็นต้มยำแห้งและมีกุ้งหอยปูปลาในท้องทะเลเยอะมาก ตอนนี้จะเน้นแนวอยู่บ้านไม่ให้เบื่อ กินง่าย เราเลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพและไม่ประนีประนอมเรื่องความอร่อย

“ล่าสุดเราทำโฮมดิลิเวอรี่ด้วยระบบการขนส่งของเราเอง เราเอามาสคอตน้องมะม่วงคันนาไปหาลูกค้าเพื่อไปสวัสดีหน้าบ้าน และเอาของไปส่ง บอกเขาว่า เราอยู่ตรงนี้ เราจะช่วยกัน เราจะสร้างความสุขให้เขาตราบเท่าที่เราทำได้ในทุกๆเรื่อง”คุณโบว์-ณชากล่าว

ส่วน คุณกอล์ฟ-ธีรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสุนทรธัญทรัพย์ จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ทุกคนลำบาก เราอยากจะหยิบยื่นให้กับสังคม ซึ่งข้าวสารน่าจะดี เก็บได้ ทุกคนได้กิน ตอนนี้ที่ทำทุกเดือนคือการมอบข้าวให้กับ10โรงพยาบาลทั่วประเทศ ทยอยให้ไปเรื่อยๆตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยเริ่มมอบให้กับโรงพยาบาลแถวจ.ชลบุรีก่อน และมีหลายโรงพยาบาลติดต่อเข้ามา เราจะทยอยมอบให้ จะทำจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะหมด อะไรที่เราพอจะช่วยเหลือสังคมให้ก้าวผ่านตรงนี้ได้ เราก็อยากจะช่วย

“ในส่วนของข้าวไก่แจ้ มีการพยายามปรับตัว เพราะมีลูกค้าบางกลุ่มที่หายไป บางกลุ่มที่เพิ่มเข้ามา ซื้อมาขึ้น ส่วนเซลล์หรือพนักงานขนส่งเราให้เขาป้องกัน ใช้เจลแอลกออฮอล์ และให้ความรู้เรื่องการรักษาระยะห่างกับพนักงานในองค์กร ความปลอดภัย และการปฏิบัติตัวเวลาออกไปข้างนอก ใครที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ เราจะให้ทำงานจากที่บ้าน เพื่อลดการรวมกลุ่มกัน รวมถึงในโรงงานก็มีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อด้วย”คุณกอล์ฟ-ธีรินทร์กล่าว

“จำเป็นหรือไม่ ที่แซนด์วิชต้องเป็นรูปสามเหลี่ยมเสมอไป”

คำถามจาก “ต่อ ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี” ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร Penguin Eat Shabu ร้านยอดนิยมที่สร้างแบรนด์สนั่นโซเชียลด้วยสโลแกน #ไม่อร่อยต่อยเพนกวิน กับหัวข้อบรรยายเรื่อง กลยุทธ์การตลาดออนไลน์พลิกธุรกิจความสำเร็จจากศูนย์สู่ล้าน ในกิจกรรม Farmhouse Sandwich Workshop 2019

กิจกรรมดีๆ ที่ฟาร์มเฮ้าส์ต้องการส่งเสริมผู้ประกอบการร้านแซนด์วิช ให้มีทักษะหลากหลาย เพื่อตีตลาดโซเชียล พร้อมจุดประกายไอเดียใหม่ๆ มองนอกกรอบเดิมๆ ไม่ใช่การเเค่ทำเเซนด์วิชธรรมดาอีกต่อไป

ต่อ ธนพงศ์ ต้องการสื่อถึง คีย์เวิร์ดในเรื่อง “ความแตกต่าง” ของสินค้า ที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ โดยยกตัวอย่างการทำแซนด์วิชที่ไม่ใช่แค่รูปทรงสามเหลี่ยมเสมอไป การหั่นแซนด์วิชรูปทรงสี่เหลี่ยม พร้อมแพคเก็จให้ถือทานง่าย ก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้

เขายังบอกด้วยว่า การทำแบรนดิ้งสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องของโลโก้ ไม่ใช่เรื่องนามบัตร ไม่ใช่เรื่องเว็บไซต์ โปรดักส์เหมือนกันแบรนดิ้งต่างกัน ราคาขายจะต่างกัน สินค้าที่มีคาแร็กเตอร์จะมีราคาสูงกว่า ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าเราไม่ได้ขายอยู่ในยุคที่ขายโปรดักส์อย่างเดียว แต่เราต้องขายประสบการณ์ดีๆ ขายประโยชน์ด้านจิตใจด้วย

“อย่ากลัวที่จะแตกต่าง แต่ต้องกลัวที่จะเหมือนคนอื่น เพราะว่าสินค้าที่ไม่แตกต่างกันลูกค้าจะพิจารณาจากราคาถูกกว่าเป็นหลัก”ต่อ ธนพงศ์เผย

นอกจากนี้ ต่อ ธนพงศ์ ยังบอกถึงจุดขายที่มีเอกลักษณ์ ต้องมี4หลัก คือ 1.มีเอกสิทธิ์ตอบโจทย์ 2.มีสิ่งที่คู่แข่งไม่มี 3.เลียนแบบยาก และ4.แก้ปัญหา Pain Points (จุดบกพร่อง)ได้ อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องคำนึงเสมอ คือ การโฆษณาสินค้าที่ไม่หลอกลวงลูกค้า สินค้าต้องตรงปกที่โฆษณาออกไปด้วย

นอกจากติดอาวุธด้านกลยุทธ์การตลาดแล้ว ในกิจกรรม Farmhouse Sandwich Workshop 2019 ยังติดอาวุธเรื่องการครีเอทเมนูแซนด์วิช โดยเชิญฟู้ดสไตล์ลิสมือหนึ่งเมืองไทย อ.ดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์ มาเวิร์คช็อปทำแซนด์วิช Professional Food Stylist for Premium Sandwich 6 เเบบ 6 สไตล์ ที่ทำให้แซนด์วิชดูอลังการจนน่าทึ่งในหน้าตาและรสชาติ ที่อ.ดวงฤทธิ์ บอกว่า กินแล้วต้องเข้าถึงอายตนะทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น และใจ 

 

1.แซนด์วิช สะเต๊ะลือ ตำรับวังสวนสุนันทา แซนด์วิชที่รวมเอาหมูสะเต๊ะและน้ำอาจาดเอาไว้ในแผ่น 2.“แซนด์วิช พะแนงไก่กับไข่เป็ดไล่ทุ่ง ตำรับชาววัง สูตรของม.ล.เนื่อง นิลรัตน์  3. แซนด์วิชคอหมูย่างคลุกน้ำจิ้มแจ่ว แตงกวากรอบ แซนด์วิชตำรับชาวบ้าน ที่เหมาะกับน้องๆวัยเรียนที่ทั้งต้องการพลังงาน กินง่ายในเวลาเร่งด่วน

4 แซนด์วิชปูนิ่มทอดกรอบ มายองเนส เสิร์ฟพร้อมส้มตำ เป็นแซนด์วิชสูตรแซ่บ ที่ใครกินต้องติดใจ 5. แซนด์วิช จานบินในหลวงรัชกาลที่ 10 แปลงจากสูตรท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค แซนด์วิชไส้นี้ร.10 ทรงโปรดมากสมัยเรียนจิตรลดา ไส้จะทำคล้ายซอสเนื้อของสปาเก็ตนี้ รสชาติเข้มข้น และ6.แซนด์วิชสตรอเบอร์รี่กับครีมสด แซนด์วิชสไตล์ของหวาน นำมาจากคนญี่ปุ่น นิยมรับประทานวิปครีมกับสตรอเบอร์รี่ จึงนำมาประยุกต์กินกับขนมปังด้วย

เรียกว่าฉีกทุกกฎไส้แซนด์วิชที่คุ้นเคย มาต่อยอดไส้แซนด์วิชแบบใหม่ๆที่คุณต้องติดใจ

อ.ดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์
ต่อ ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี

มาถึงเรื่องการโปรโมทเมนูอาหาร หัวใจสำคัญคือภาพสวยๆ โดยช่างภาพโฆษณาชื่อดัง อย่าง  อ.กอล์ฟ – สรรสิทธิ์ กรวิโยธิน กับ เวิร์กช็อปถ่ายภาพสวยด้วยมือถือและกล้อง DSLR เพิ่มยอดขายออนไลน์โดนใจชาวเน็ต

 อ.กอล์ฟ  บอกว่า สำหรับมือใหม่ยังไม่เข้าใจเรื่ององค์ประกอบภาพมากนัก ที่ง่ายที่สุด คือ หามุมที่น่ากินให้เจอแล้วซูมเข้าไปถ่ายแบบจะๆ แล้วจะออกมาน่ากินเอง โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ 1.แสง แสงที่ถ่ายแล้วดูดีสุดคือแสงธรรมชาติ ที่ทำให้สวยและรูปมีมิติคือแสงริมหน้าต่าง เพราะจะทำให้มีเฉดมีเงา 2.ระยะในการถ่ายภาพ หากเป็นมือถือให้เลือกใช้ระยะเทเล เพราะจะทำให้รูปสมส่วนไม่บิดเบี้ยว 3.การจัดองค์ประกอบศิลปะ เช่น จุดตัด 9 ช่อง และ จุดตัดสามเหลี่ยม 4.Mood and Tone เช่น การใช้คู่สีเดียวกัน หรือ สีตรงข้าม

จัดเป็นกิจกรรมเวิร์คช็อปสำหรับผู้ประกอบการแซนด์วิช จบครบในคลาสเดียว ที่ฟาร์มเฮ้าส์จัดให้อย่างเต็มอิ่มจุใจ

อ.กอล์ฟ - สรรสิทธิ์ กรวิโยธิน

“เนซ” ศศินัฐทิตา ปวงโชติวัฒน์ อายุ 35 ปี จากร้านปังคุณแซนด์วิช ร้านเบเกอรี่ในตลาดเซฟวัน โคราช กล่าวว่า กล่าวว่า ทางฟาร์มเฮ้าส์ติดต่อมาหา บอกว่าเรามียอดขายสูง เป็นลูกค้าประจำมานาน15ปี จึงให้โอกาสมาอบรม Farmhouse Sandwich Workshop 2019 ที่

คุณเนซ บอกว่า ที่ร้านสั่งขนมปังฟาร์มเฮ้าส์2วันครั้ง เป็นขนมปังแถวห่อสีแดงสั่งครั้งๆละ 50 ปอนด์ ห่อสีเขียวขนมปังโอลวีทสั่งครั้งละ30ปอนด์ ทำแซนด์วิชขาย มีไส้ทูน่า ปูอัด หมูหยอง แฮม แฮมชีส พริกเผาหมูหยอง ขายช่วงเวลา 16.00-22.00 น. ตลาดเซฟวันเป็นตลาดใหญ่คนเยอะ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา คนวัยทำงาน จะซื้อแซนด์วิชกลับไปกินที่บ้านตอนเช้า เราทำใหม่สดทุกวัน ไส้ที่ขายดีที่สุดมีไส้ทูน่า ปูอัด หมูหยอง

“ปกติใช้ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ จะนุ่ม เคยมีครั้งหนึ่งขนมปังฟาร์มเฮ้าส์หมด และเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น ถูกลูกค้าทักว่าเปลี่ยนขนมปังเหรอ เขากินแล้วรู้ เพราะฟาร์มเฮ้าส์จะนุ่ม เราเลยเลือกใช้ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์อย่างเดียวมาตลอด ลูกค้าสามารถเอาแซนด์วิชไปเข้าตู้เย็น เก็บไว้กินตอนเช้า พอเอาออกมาจากตู้เย็น รอให้หายเย็นขนมปังจะคืนตัว นิ่มและกินได้เลย”

 ที่มาอบรมวันนี้ ได้ความรู้เพิ่มเติม ได้ไส้ใหม่ๆเพิ่ม ปกติที่เราทำขายเป็นไส้ยอดนิยมอยู่แล้ว มาวันนี้ได้ความรู้ไส้เพิ่มเติม อย่างไส้หมูสะเต๊ะ ไส้วีปครีมสตรอว์เบอรี่ ไส้ปูนิ่ม คิดว่าจะนำไปทำขายที่ร้านได้

 ด้าน“โย” โสภิตา โตสกุล เจ้าของร้าน space4bakery จากอ.เมือง จ.ระยอง บอกว่า ร้านที่ทำอยู่เป็นคาเฟ่ ขายกาแฟและขนม ที่รู้จักมาก คือ เราขายแซนด์วิชโบราณ มีหมูหยอง น้ำสลัด โบโลน่า ความพิเศษคือจะเน้นคุณภาพวัตถุดิบ และ รสชาติที่เคยเป็นยังไงก็ต้องเหมือนเดิมทุกครั้ง ส่วนขนมปังเลือกใช้ของฟาร์มเฮ้าส์เพราะนุ่มที่สุดแล้ว

“คิดว่าแซนด์วิชเป็นอะไรที่กินได้เรื่อยๆ ไม่ใช่อาหารกระแส พอได้มาเรียนวันนี้ก็ได้ไอเดียใหม่ๆ ส่วนตัวมองว่าไส้หมูสะเต๊ะก็เข้ากันดี และคิดว่าอาจจะคิดหาไส้ใหม่ๆ มาทำขายให้ดูหลากหลายขึ้นด้วย”

“ดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์”  ฟู้ดสไตลิสต์ แถวหน้าของประเทศที่จัดแต่งจานอาหารออกมาใครเห็นก็ต้องร้องว้าว  เขามาเปิดเผยเคล็ดลับใน “Farmhouse Sandwich Workshop 2019”  กิจกรรมดี ๆ  ที่ทางฟาร์มเฮ้าส์แบรนด์ขนมปังอันดับ 1 คู่คนไทย จัดขึ้นเพื่อเสริมทักษะผู้ประกอบการแซนด์วิชไทยในยุคดิจิทัล ทั้งการสอนถ่ายภาพด้วยมือถือ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ และการสร้างสรรค์ไอเดียเมนูใหม่ พร้อมพาเยี่ยมชมโรงงานขนมปังที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย

อ.ดวงฤทธิ์ บอกว่า การตกแต่งอาหารที่ดี คือการดึงจิตวิญญาณของอาหารออกมาให้น่ากินที่สุด เพราะอาหาร คือสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วอยากให้เราหยิบเข้าปาก ดังนั้นการเสิร์ฟอาหารต้องให้ครบอายตนะทั้ง 6  ก็คือ  ตา หู จมูก ลิ้น กายและ ใจ เช่นเรื่องเสียงก็มีความสำคัญ อย่างเสียงตำครกโป๊กๆ หรือ เสียงสับหมู ก็มีส่วนทำให้เรารู้สึกว่าอาหารนั้นโฮมเมดน่ากิน

“การจัดจานอาหารอาจไม่ต้องเนี๊ยบกริบเสมอไป ให้มีธรรมชาติ หกบ้าง หยดบ้าง ฉ่ำน้ำกระจายบ้าง เป็นละอองบ้าง จะช่วงเพิ่มเสน่ห์” แล้วก็เกิดคำถามว่าฟู้ด สไตลิสต์จะทำให้อาหารน่ากิน และ ครบอายตนะทั้ง 6 ได้อย่างไร อาจารย์จะมาเปิดเผยเคล็ดลับกันกับสูตรเด็ดเคล็ดลับในการทำแซนด์วิช 6 แบบกัน

โดยบอกว่าการทำแซนด์วิช คนไทยจะคุ้นเคยอยู่ไม่กี่ไส้ แต่แท้จริงแล้วแซนด์วิช คือ อาหารที่กินง่ายๆ กินได้ระหว่างทาง ครบสารอาหาร 5 หมู่ แล้วประกบคู่ด้วยขนมปัง ดังนั้นแซนด์วิชสามารถประยุกต์ได้หลายแบบ ซึ่งในเวิร์คช็อปครั้งนี้ได้คิดค้นมา 6 แบบ ได้แก่

แบบที่ 1 “แซนด์วิช สะเต๊ะลือ” เป็นตำรับวังสวนสุนันทา ใช้ขนมปัง 3 ชิ้น ทุกชิ้นทาเนยเตรียมไว้ ชิ้นแรกนำน้ำสะเต๊ะคนให้เข้ากันแล้วเอามาทาบนขนมปังที่ทาเนยไว้ก่อนแล้ว นำขนมปังชิ้นที่ 2 มาวางทับ จากนั้นใส่ผักดองที่อาจปรุงเผ็ดเล็กน้อย แล้วต่อด้วยผักที่คนในน้ำอาจาด เช่น แตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้า ตรงนี้ต้องระวังอย่าให้น้ำอาจาดหยดลงไปมากเพราะจะทำให้ขนมปังเละไม่น่ากิน จากนั้นประกบด้วยขนมปังแผ่นสุดท้ายเป็นอันจบ ตัดแล่งเป็นสามเหลี่ยมสี่เหลี่ยมตามใจชอบ

แบบที่ 2 “แซนด์วิช พะแนงไก่กับไข่เป็ดไล่ทุ่ง” ตำรับนี้ยังคงเป็นตำรับชาววัง สูตรของม.ล.เนื่อง นิลรัตน์  ทาเนยบนขนมปังทั้ง 3 ชิ้น ชิ้นแรกทาด้วยพะแนงไก่ที่เป็นแบบแห้ง จะโรยกะทิสดให้มันนิดๆก็ได้ และนำแผ่นที่2มาประกอบ โดยแผ่นที่ 2 วางไข่เป็ดต้มสไลด์ไม่หนามาก วางด้วยพริกหยวกดอง หอมแดงดอง พริกชี้ฟ้าสดหั่นยาว ใบมะกรูดซอย และ โหระพา เอาแผ่นที่ 3 มาปิดเป็นอันจบ

แบบที่ 3 เป็นตำรับชาวบ้านบ้าง กับ “แซนด์วิชคอหมูย่างคลุกน้ำจิ้มแจ่ง แตงกวากรอบ” สูตรนี้เหมาะกับน้องๆวัยเรียนที่ทั้งต้องการพลังงาน ที่กินง่ายในเวลาเร่งด่วน

วัตถุดิบใช้หมูปิ้งที่ขายทั่วไป หรือ คอหมูย่างก็ได้ ทาเนย 3 แผ่นเหมือนเดิม เอาคอหมูย่างสไลด์เป็นชิ้นบางๆ วางเรียงให้เต็ม หรือ ถ้าเป็นหมูปิ้งก็รูดไม้ออก วางลงไป จากนั้นปิดด้วยแผ่นที่2 และทาน้ำจิ้มแจ่วที่แถมมาให้มีรสชาติแทนซอส แล้ววางแตงขวาใช้วิธีฝานบางๆ ตามทางยาว หรือ จะใช้มีดปอกเปลือกผลไม้ฝานเป็นแผ่นบางๆ ก็ได้ นำมาวางบนน้ำจิ้มที่ทาไว้แล้ววางแผ่นสุดท้ายประกบ แตงกวาจะเพิ่มความสดชื่นให้แซนด์วิชหมูปิ้งอร่อยครบเครื่อง จะเห็นว่าแซนด์วิชสามารถมีลูกเล่นเปลี่ยนไส้ได้หลากหลาย สนุกมากขึ้น

ดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์

 แบบที่ 4 “แซนด์วิชปูนิ่มทอดกรอบ มายองเนส เสิร์ฟพร้อมส้มตำ” เลือกใช้ฟาร์มเฮ้าส์ห่อสีแดงเพราะขนมปังแผ่นนุ่ม ทาเนยทั้ง 3 แผ่น แผ่นแรกวางปูนิ่มทั้งตัว โรยมายองเนส แผ่นที่ 2 ใส่ส้มตำ เราเลือกส้มตำไทยที่มีรสชาติหวานเปรี้ยว คลุกเส้นกับน้ำให้เข้ากันก่อน แล้วค่อยตักมาวางบนขนมปัง อย่าให้มีน้ำติดมามากเดี๋ยวขนมปังเละ เกลี่ยให้ทั่ว ประกบขนมปังเป็นอันจบแซนด์วิชรสจี๊ดจ๊าด

แบบที่ 5 แซนด์วิช จานบินในหลวงรัชกาลที่ 10 แปลงจากสูตรท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค แซนด์วิชไส้นี้ร.10 ทรงโปรดมากสมัยเรียนจิตรลดา ไส้จะทำคล้ายซอสเนื้อของสปาเก็ตนี้ จะมีเนื้อไก่สับผสมซอสมะเขือเทศ ผัดกับหอมใหญ่ พริกไทย เกลือป่น ซอสแม๊กกี้ ผัก 3 สี ถั่วลันเตา ข้าวโพด แครอต ผัดกับเนย ให้รสชาติจัดจ้าน อิ่มอร่อยสบายท้อง

กอล์ฟ-สรรสิทธิ์ กรวิโยธิน

แบบที่ 6 เป็นสไตล์ของหวาน “แซนด์วิชสตรอเบอร์รี่กับครีมสด” นำมาจากคนญี่ปุ่นจะนิยมรับประทานวิปครีมกับ สตรอว์เบอร์รี่ เรามาประยุกต์ ทาเนยบนขนมปัง 3 แผ่น ถุงแดง บีบวิปครีมที่ต้องแช่ไว้ในตู้เย็นเสมอ ให้เต็มแผ่น แล้วหั่นสตอเบอร์รี่เป็นชิ้นบาง วางให้เต็ม ประกบแผ่นที่ 2 แล้วทำแบบเดียวกัน ประกบท้ายเป็นอันเสร็จ

“โย” โสภิตา โตสกุล เจ้าของร้าน space4bakery จากอำเภอเมือง จังหวัดระยอง บอกว่า ร้านที่ทำอยู่เป็นคาเฟ่ ขายกาแฟและขนม และเป็นที่รู้จักจากขายแซนด์วิชโบราณ ที่มีหมูหยอง น้ำสลัด โบโลน่า ความพิเศษคือจะเน้นคุณภาพวัตถุดิบ และรสชาติที่เคยเป็นยังไงก็ต้องเหมือนเดิมทุกครั้ง ส่วนขนมปังเลือกใช้ของฟาร์มเฮ้าส์เพราะนุ่มที่สุดแล้ว คิดว่าแซนด์วิชเป็นอะไรทีกินได้เรื่อยๆ ไม่ใช่อาหารกระแส พอได้มาเรียนเวิร์คช็อปครั้งนี้ก็ได้ไอเดียใหม่ๆ ที่จะนำไปปรับใช้ โดยส่วนตัวมองว่าไส้หมูสะเต๊ะก็เข้าดี อาจจะหาไส้ใหม่ๆ ให้ดูหลากหลายขึ้นด้วยต่อไป

ในส่วนของการถ่ายภาพ กอล์ฟสรรสิทธิ์ กรวิโยธิน ช่างภาพโฆษณาชื่อดัง บอกว่า สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ยังไม่มีเข้าใจเรื่ององค์ประกอบภาพมากนัก ง่ายที่สุด คือ หามุมที่น่ากินให้เจอแล้วซูมเข้าไปถ่ายแบบจะๆ แล้วจะออกมาน่ากิน ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ต้องมาพิจารณากันอีก คือ 1) การเลือกแสง แสงที่ถ่ายแล้วดูดีสุดคือแสงธรรมชาติ ที่ทำให้สวยและรูปมีมิติคือแสงริมหน้าต่าง เพราะจะทำให้มีเฉดมีเงา 2) ระยะในการถ่ายภาพ หากเป็นมือถือให้เลือกใช้ระยะเทเล เพราะจะทำให้รูปสมส่วนไม่บิดเบี้ยว 3) การจัดองค์ประกอบศิลปะ เช่น จุดตัด 9 ช่อง และ จุดตัดสามเหลี่ยม 4) Mood and Tone เช่น การใช้คู่สีเดียวกัน หรือ สีตรงข้าม

มาถึงการตลาดออนไลน์ โดย “ต่อธนพงศ์ วงศ์ชินศรี”  ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร Penguin Eat Shabu ร้านยอดนิยมที่สร้างแบรนด์สนั่นโซเชียลด้วยสโลแกน #ไม่อร่อยต่อยเพนกวิน บอกว่า สินค้าชนิดเดียวกันแต่สามารถขายในราคาที่แพงกว่าคนอื่นได้เพราะการทำแบรนด์ดิ้ง ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มและยอมจ่ายเงินให้เรา โดยต้องเริ่มคิดว่าจะแตกต่างอย่างไร จุดที่ต้องสังเกตให้พบคือ pain point ที่ลูกค้ามีและเราต้องแก้ให้ได้ ยกตัวอย่าง แท็กซี่ผู้ใช้บริการมี pain point คือ เรียกแล้วไม่ไป สารพัดเหตุผล ทำให้เกิด Grab ขึ้นมาแก้ตรงจุดนั้น หรือ โรตีสายไหม อยุธยา ทุกร้านเหมือนกันหมด ราคาก็ฮั๊วกันหมด สรุปไม่รู้จะซื้อร้านไหน หรือ ซื้อมาแล้วกินยาก บางทีแป้งกับไส้หมดไม่พร้อมกัน นี่คือ pain point วันหนึ่งก็เกิดร้าน แคนดี้เครปขึ้นมา สร้างความแตกต่าง ตั้งเป้าขายนักท่องเที่ยว ทำสายไหมหลากสีสัน แป้งหลากสีสัน ม้วนพร้อมกิน แม้กระทั่งทำเป็นซูชิ เปิดร้าน ไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สายไหมเก็บได้นาน 6 เดือน ตอบโจทย์ทุกอย่างทำให้มูลค่าธุรกิจต่อปีหลายล้านบาท

เจ้าของ Penguin Eat Shabu บอกอีกว่า สำหรับการทำธุรกิจในยุคนี้ ของดีอย่างเดียวไม่พอแล้ว ต้องตอบโจทย์ลูกค้า การมีเอกลักษณ์สำคัญมาก แล้วต้องตอบโจท์ลูกค้า มีในสิ่งที่คู่แข่งไม่มี และต้องเลียนแบบยาก ที่สำคัญแก้ปัญหา Pain point ดังนั้นการทำแซนด์วิชก็เช่นกัน จะทำยังไง ทำไม่ง่าย แต่ต้องเริ่มคิดให้ไกลและให้ความสำคัญกับโซเชียลมีเดียด้วย เพราะเป็นการบอกต่อที่ได้ผลมากในยุคสมัยนี้

ด้าน นฤมน อินทคร” หรือ กวาง เจ้าของร้านสลัดบ้านคุณยาย ที่มีผู้ติดตามในเฟซบุ๊คกว่า 1.3 แสนคน และเดินทางมาจากอ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กล่าวว่า ขนมปังที่ทางร้านเลือกนำมาใช้ต้องสดใหม่ นิ่มและหาซื้อง่าย โดยฟาร์มเฮ้าส์ตอบโจทย์นี้อย่างมาก การมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะได้มาเห็นข้างในโรงงานฟาร์มเฮ้าส์เป็นครั้งแรก ต้องขอชื่นชมว่าเป็นโรงงานที่สะอาดจริง ๆ แม้จะผลิตต่อวันจำนวนมาก ส่วนการทำเวิร์คช็อปกับผู้เชี่ยวชาญนั้นได้รับความรู้เพิ่มเติม และนำไปบอกเล่าต่อได้ เช่นเราสามารถเอาของคาวมาทำร่วมกับแซนด์วิชแล้วอร่อย มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์  ได้ไอเดียใหม่จากเดิมที่มีแต่ไส้ปูอัดหรือทูน่า รวมถึงนำไปครีเอทเมนูเพิ่มและตกแต่งจานได้หลากหลาย จึงอยากให้ฟาร์มเฮ้าส์จัดกิจกรรมดี ๆ เช่นนี้ต่อไป 

ต่อ-ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี

“ฟาร์มเฮ้าส์” เเบรนด์ขนมปังคู่คนไทย หนุนผู้ประกอบการแซนด์วิช ติดทักษะตีตลาดโซเชียล จัดเวิร์คช็อปสุดล้ำ “Farmhouse Sandwich Workshop 2019”  ฟู้ดสไตลิสต์-ถ่ายภาพสวยด้วยมือถือ-กลยุทธ์ตลาดออนไลน์ โดยผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ พาเยี่ยมชมโรงงานขนมปังที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย พร้อมประกาศเดินหน้ากิจกรรมเพื่อสังคมต่อเนื่อง

 “อภิชาติ ธรรมมโนมัย” กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ กล่าวว่า การค้าขายในยุคนี้เเตกต่างจากเดิมอย่างมาก โดยโซเชียลมีเดียมีบทบาทในการกระตุ้นยอดขายเเละเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องปรับเปลี่ยนให้ทันโลกดิจิทัล รสชาติอย่างเดียวไม่เพียงพอต้องสวยงามเเละมีไอเดียที่เเตกต่าง จึงเป็นที่มาของกิจกรรม “Farmhouse Sandwich Workshop 2019” ที่ฟาร์มเฮ้าส์ต้องการส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีทักษะที่หลากหลายเพื่อตีตลาดโซเชียล พร้อมจุดประกายไอเดียใหม่ๆ มองนอกกรอบเดิมไม่ใช่การเเค่ทำเเซนด์วิชธรรมดาอีกต่อไป

สำหรับ Farmhouse Sandwich Workshop 2019 เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นการมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าฟาร์มเฮ้าส์ โดยมีการจัดเวิร์คช็อปพาเยี่ยมชมโรงงานขนมปัง ชมขั้นตอนการผลิตเเละเทคโนโลยีสุดล้ำที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย  พร้อมคอร์สจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง Professional Food Stylist for Premium Sandwich 6 เเบบ 6 สไตล์ โดย อ. ดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์ ฟู้ดสไตลิสต์ระดับแนวหน้าของเมืองไทย , กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ พลิกธุรกิจความสำเร็จจากศูนย์สู่ล้านโดย ต่อ ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร Penguin Eat Shabu ร้านชาบูยอดนิยมที่สร้างเเบรนด์สนั่นในโลกโซเชียลด้วยสโลเเกน #ไม่อร่อยต่อยเพนกวิน และคอร์สถ่ายภาพสวยด้วยมือถือ โดนใจชาวเน็ต โดยสรรสิทธ์ กรวิโยธิน ช่างภาพโฆษณาชื่อดัง

บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนุกสนาน  อ.ดวงฤทธิ์ แนะนำผู้เข้าอบรมว่า การตกแต่งอาหารที่ดีคือการดึงจิตวิญญาณของอาหารออกมาให้น่ากินที่สุด เพราะอาหารคือ สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วอยากให้เราหยิบเข้าปาก ดังนั้นเสิร์ฟอาหารต้องให้ครบอายตนะ ก็คือ  ตา หู จมูก ลิ้น กายและ ใจ เช่น เสียงตำครกหรือเสียงสับหมู ก็มีส่วนทำให้เรารู้สึกว่าอาหารนั้นน่ากิน

“การจัดจานอาหารอาจไม่ต้องเนี๊ยบเสมอไป ให้มีความเป็นธรรมชาติ หกบ้าง หยดบ้าง ฉ่ำน้ำกระจายบ้าง เป็นละอองบ้าง จะช่วงเพิ่มเสน่ห์”  โดยเมนูที่อ.ดวงฤทธิ์นำมาเสนอนั้นเป็นที่ชื่นชอบของผู้เข้าอบรมอย่างมาก เนื่องจากมีการนำ “อาหารไทย” มาผสมกับ “แซนด์วิชที่เป็นอาหารตะวันตก ได้แก่ 1) แซนด์วิชสะเต๊ะลือ ตำรับวังสวนสุนันทา 2) แซนด์วิชพะแนงไก่กับไข่เป็ดไล่ทุ่ง ตำรับหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์  3) แซนด์วิชจานบินในหลวงรัชกาลที่ 10 แปลงจากสูตรท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค  4) แซนด์วิชหมูย่างคลุกน้ำจิ้มแจ่ว แตงกวากรอบ 5) แซนด์วิชสตรอเบอรี่กับครีมสด และ 6 )แซนด์วิชปูนิ่มทอดกรอบ มายองเนส เสิร์ฟพร้อมส้มตำ

“นฤมน อินทคร” หรือ กวาง เจ้าของร้านสลัดบ้านคุณยาย เดินทางมาจากอ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กล่าวว่า ขนมปังที่ทางร้านเลือกนำมาใช้ต้องสดใหม่ นิ่มและหาซื้อง่าย โดยฟาร์มเฮ้าส์ตอบโจทย์นี้อย่างมาก การมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะได้มาเห็นข้างในโรงงานฟาร์มเฮ้าส์เป็นครั้งแรก ต้องขอชื่นชมว่าเป็นโรงงานที่สะอาดจริง ๆ แม้จะผลิตต่อวันจำนวนมาก ส่วนการทำเวิร์คช็อปกับผู้เชี่ยวชาญนั้นได้รับความรู้เพิ่มเติม และนำไปบอกเล่าต่อได้ เช่นเราสามารถเอาของคาวมาทำร่วมกับแซนด์วิชแล้วอร่อย มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์  ได้ไอเดียใหม่จากเดิมที่มีแต่ไส้ปูอัดหรือทูน่า รวมถึงนำไปครีเอทเมนูเพิ่มและตกแต่งจานได้หลากหลาย จึงอยากให้ฟาร์มเฮ้าส์จัดกิจกรรมดี ๆ เช่นนี้ต่อไป 

ด้าน เนซ ศศินัฐทิตา ปวงโชติวัฒน์ อายุ 35 ปี จากร้านปังคุณแซนด์วิช ร้านเบเกอรี่ในตลาดเซฟวัน นครราชสีมา เป็นลูกค้าประจำของฟาร์มเฮ้าส์มานานกว่า 15ปี ไว้ใจในคุณภาพเเละรสชาติ ยิ่งได้มาเห็นกระบวนการการผลิตที่เป็นระบบในโรงงานที่ทันสมัย ยิ่งวางใจมากขึ้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านเป็นนักศึกษา คนวัยทำงาน ทำใหม่สดทุกวัน ไส้ที่ขายดีที่สุดมีไส้ทูน่า ปูอัด หมูหยอง สำหรับการอบรมครั้งนี้ทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติม ได้เมนูใหม่ๆ อย่างไส้หมูสะเต๊ะ ไส้วีปครีมสตรอว์เบอรี่ ไส้ปูนิ่ม เเละคิดว่าจะนำไปทำขายที่ร้านได้ รวมถึงเทคนิคการถ่ายภาพลงโซเชียลเเละเเนวคิดการตลาดที่น่าสนใจมาก

อ. ดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์

อีกคอร์สที่ทุกคนตั้งตารอกับ ทอล์คโชว์ของ ต่อ ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี” ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร Penguin Eat Shabu ร้านยอดนิยมที่สร้างแบรนด์สนั่นโซเชียลด้วยสโลแกน #ไม่อร่อยต่อยเพนกวิน เขามาบอกเล่าถึงการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้ขายแพงกว่าคู่แข่งได้ โดยอาศัย “ประโยชน์ทางใจ” ซึ่งอาหารก็ใช้หลักการนี้เหมือนกัน โดยการทำแบรนด์ดิ้งไม่ใช่เรื่องของโลโก้ ไม่ใช่ ไม่ใช่เรื่องเว็บไซต์ แต่เป็นเรื่องของประสบการณ์ และสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือ ต้องไม่หลอกลวงลูกค้า ถ่ายรูปโฆษณาสวย สินค้าหรืออาหารต้องตรงปกด้วย ต้องบริการดี อาหารอร่อย

นอกจากนี้คือความ “แตกต่าง” ไม่เหมือนใคร ดังนั้นอย่ากลัวที่จะแตกต่าง แต่ต้องกลัวที่จะเหมือนคนอื่น เพราะว่าสินค้าที่ไม่แตกต่างกันลูกค้าจะพิจารณาจากราคาถูกกว่าเป็นหลัก โดยจุดขายที่มีเอกลักษณ์ 4 หลัก คือ 1) ตอบโจทย์ 2) มีสิ่งที่คู่แข่งไม่มี 3) เลียนแบบยาก 4) แก้ Pain Points ปัญหาที่คนทั่วไปต้องเจอได้ และขอให้คิดเสมอว่าที่ว่างการตลาดมีไว้สำหรับคนช่างสังเกต

ในส่วนของการถ่ายภาพ “กอล์ฟ-สรรสิทธิ์ กรวิโยธิน” ช่างภาพโฆษณาชื่อดัง  บอกว่า สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ยังไม่มีเข้าใจเรื่ององค์ประกอบภาพมากนัก ที่ง่ายที่สุด คือ หามุมที่น่ากินให้เจอแล้วซูมเข้าไปถ่ายแบบจะๆ แล้วจะออกมาน่ากินเอง

ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ต้องมาพิจารณากันอีก คือ การเลือกแสง แสงที่ถ่ายแล้วดูดีสุดคือแสงธรรมชาติ ที่ทำให้สวยและรูปมีมิติคือแสงริมหน้าต่าง เพราะจะทำให้มีเฉดมีเงา และระยะในการถ่ายภาพ หากเป็นมือถือให้เลือกใช้ระยะเทเล เพราะจะทำให้รูปสมส่วนไม่บิดเบี้ยว  ที่สำคัญต้องมองการจัดองค์ประกอบศิลปะ เช่น จุดตัด 9 ช่อง จุดตัดสามเหลี่ยม และ Mood and Tone เช่น การใช้คู่สีเดียวกัน หรือ สีตรงข้าม เป็นต้น

อภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย

โดย “วิโรจน์ จิรากร” บอกว่า รู้สึกชอบและประทับใจในกิจกรรม “Farmhouse Sandwich Workshop 2019 ครั้งนี้อย่างมาก ทีมงานดูแลอบอุ่น การทำแซนด์วิชก็สนุกและมีไอเดียกลับไปทำที่บ้านเยอะ นำเดียไปปรับปรุงสูตรของตัวเอง รวมถึงเทคนิคการตลาดต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ เปิดโลกกว้างมากขึ้น”

ปิดท้ายกิจกรรมด้วยคำกล่าวของ อภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย” กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ที่ยืนยันว่าฟาร์มเฮ้าส์จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาก็มีการจัด Farmhouse Cooking Contest เมนูดี ชีวิตปัง ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก และแฟชั่นโชว์รีไซเคิลที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ “FarmHouse Fashion Happy ปังปัง 2019” ที่สนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติและความสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ สำหรับเวิร์คช็อปครั้งนี้เป็นเหมือนการกระชับมิตรกับลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ฟาร์มเฮ้าส์มาอย่างยาวนาน เป็นการให้ความรู้เพื่อคืนกำไร ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนุกสนานกันอย่างเต็มที่และสนับสนุนฟาร์มเฮ้าส์ตลอดมา โดยฟาร์มเฮ้าส์จะมีโครงการเพื่อสังคมในครั้งต่อไปอย่างแน่นอน

ต่อ ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี
อภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย(ซ้าย) สิรินฉัตร แสงศรี (ขวา)

ฟาร์มเฮ้าส์ เเบรนด์ขนมปังคู่คนไทย จับมือกับศูนย์การค้าเมกาบางนา เเหล่งช้อปปิ้งย่านกรุงเทพตะวันออก จัดนิทรรศการ แฟชั่นรีไซเคิล “farmhouse Happy ปังปัง 2019 ”  ส่งเสริมการรับรู้ รณรงค์ให้สังคมตระหนักเเละอนุรักษ์ธรรมชาติร่วมกัน ผ่านการสร้างสรรค์ศิลปะ ความบันเทิงเเละความสนุกสนาน ต่อยอดการประกวดเเฟชั่นโชว์สุดฮอตที่ได้ไปเดินเฉิดฉายบนรันเวย์ในงานสหกรุ๊ปเเฟร์ ครั้งที่ 23 เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา  ผู้สนใจเข้าร่วมชมฟรี ณ บริเวณตรงข้าม Take Home Food ศูนย์การค้าเมกาบางนา ตั้งเเต่วันนี้-27 ส.ค.นี้

โดยในงานแฟชั่นโชว์ FarmHouse Fashion Happy ปังปัง 2019 รอบชิงชนะเลิศ 30 ทีมสุดท้าย ชิงเงินรางวัลมากกว่า 1 เเสนบาท สร้างสีสันเเหวกเเนวให้กับวงการรีไซเคิลเป็นอย่างมากเเละได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจนมีเสียงเรียกร้องอยากให้มีการสานต่อในปีต่อๆไป

อภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าที่มาของนิทรรศการแฟชั่นรีไซเคิล “farmhouse Happy ปังปัง” ที่นำมาจัดเเสดงที่ศูนย์การค้าเมกาบางนาครั้งนี้ เกิดจากการจัดประกวดการนำถุงพลาสติกของขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ที่ใช้แล้วมาทำเป็นชุดดีไซน์เก๋ๆ เพื่อรีไซเคิลในงานสหกรุ๊ปเเฟร์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก ทางบริษัทจึงนำชุดที่ได้รางวัลทั้งสิ้น 4 ชุด ได้เเก่ ชุดชนะเลิศ เงินรางวัล 50,000 บาท ชุดรองชนะเลิศอันดับ 1 เป็นการครองอันดับร่วม 2 ชุด เงินรางวัลทีมละ 30,000 บาทเเละรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 เงินรางวัล 15,000 บาท มาต่อยอดสร้างการรับรู้ถึงการรีไซเคิลเเละภัยจากภาวะโลกร้อน

“นิทรรศการนี้ มีจุดประสงค์ต้องการให้คนรับรู้และตระหนักว่าการรีไซเคิลเป็นเรื่องสำคัญเเละเป็นสิ่งที่ฟาร์มเฮ้าส์ให้ความสนใจ เพราะเป็นกระบวนการที่เราทำอยู่แล้ว โดยฟาร์มเฮ้าส์มีการรีไซเคิลอย่างครบวงจรตั้งเเต่กระบวนการผลิตจนถึงการจำหน่ายเเละหลังการจำหน่าย พร้อมเน้นย้ำเรื่องการใช้ขยะพลาสติก การทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกทาง มิเช่นนั้นจะกลายเป็นขยะในทะเล โดยซองขนมปังของเรานั้นสามารถนำมารีไซเคิลได้ ซึ่งฟาร์มเฮ้าส์ได้รณรงค์เรื่องนี้มาโดยตลอดเเละนอกจากผู้ที่สนใจมาเยี่ยมชมนิทรรศการนี้จะได้รับรู้ถึงภัยของภาวะโลกร้อน ปัญหาการใช้ถุงพลาสติกเเล้ว ยังจะได้เห็นถึงการใช้จินตนาการมาทำเป็นเสื้อผ้า รวมถึงรายละเอียดของงานดีไซน์ที่ประณีตอีกด้วย”

เมื่อถามถึงโครงการกระตุ้นการรีไซเคิลว่าจะมีการสานต่อในปีต่อไปหรือไม่ ผู้บริหารฟาร์มเฮ้าส์ เปิดเผยว่า จะมีสานต่อแน่นอน เนื่องจากผลตอบรับดีมาก ลูกค้าชอบและสร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้กับคนทั่วไป ส่วนรูปแบบการจัดแฟชั่นรีไซเคิล “farmhouse Happy ปังปัง” ในครั้งต่อไปคาดว่าน่าจะออกมาเป็นแนวรักษ์โลกเช่นเคย แต่จะหาไอเดียใหม่ๆ มาเสริมเข้าไป ซึ่งต่อไปจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป

ด้าน สิรินฉัตร แสงศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา กล่าวว่า ด้วยความที่เมกาบางนา เป็นช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ไม่ได้มีสินค้าของตัวเอง จึงไม่มีการบริโภคถุงที่เกิดขึ้นจากทางห้างมากนัก แต่ทั้งนี้มีร้านค้าปลีกที่อยู่ที่นี่เยอะจึงต้องมีการณรงค์ลดการใช้พลาสติก ซึ่งหากจะให้ร้านต่างๆ เลิกใช้เลยก็คงเป็นเรื่องค่อนข้างลำบาก แต่เชื่อว่าทุกคนตระหนักรู้ถึงเรื่องนี้แล้ว อยากร่วมมือช่วย ลดละเลิก โดยปัจจุบันเมกาบางนามีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เช่นการผลิตถุงผ้าทำแคมเปญร่วมกับร้านค้าให้ลูกค้านำไปใช้ หรือหากนำถุงรียูสของทางห้างไปใช้จะได้ส่วนลด เป็นต้น

_DSC7777
_DSC8025

นอกเหนือจากในส่วนของร้านค้าปลีกกับลูกค้าเเล้ว ศูนย์การค้าเมกาบางนา ยังให้ความสำคัญกับเรื่อง sustainability การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งที่นี่มีโซลาร์พาเนลเป็นของตัวเองอยู่บนหลังคาของห้าง อีกส่วนหนึ่งจะเป็นโซลาร์พาเนลที่อยู่ในลานจอดรถ ซึ่งจะไม่ใช้หลอดไฟฟ้า แต่จะใช้โซลาร์พาเนลของที่เป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์ ให้ความแสงสว่างที่ลานจอดรถด้านนอก หรือแม้กระทั่งโรงบำบัดน้ำเสียก็ใช้พลังงานจากส่วนนี้

“เรามองว่ามันเป็นเรื่องระยะยาว แต่ต้องทำตอนนี้ ค่อยๆกระตุ้นสร้างไป ซึ่งเชื่อว่าผู้บริโภคจะค่อยๆ เปลี่ยนกระบวนการการใช้ชีวิตของเขาเอง  นอกจากการรณรงค์ลดใช้วัสดุพลาสติกหรือกระบวนการรีไซเคิลเเล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการทิ้ง คนเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราทิ้งอะไรลงไป ถ้าทิ้งถูกที่มันจะไม่เกิดปัญหา แต่ถ้าเกิดจากการใช้แล้วทิ้งไม่ถูกที่ สิ่งนั้นคือจะก่อให้เกิดปัญหา ดังนั้นจึงต้องเริ่มจากวินัยในตัวเราว่าจะไม่ทิ้งขยะลงบนท้องถนน ไม่ทิ้งลงคลองหรือทะเล เก็บกลับบ้านไปแยกขยะตามสิ่งที่ถูกต้อง อีกอย่างคือต้องรู้จักปฏิเสธ ไม่รับ ไม่เอา ไปตลาดรู้จักพกถุงของตัวเอง อาจจะลำบากในช่วงแรกเเต่ต่อไปจะดีต่อเรา ครอบครัวเเละสังคมโลกในอนาคต”

สำหรับนิทรรศการ แฟชั่นรีไซเคิล “farmhouse Happy ปังปัง 2019 ”  เจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือทีม HINODE  ออกแบบโดย นายสหพลพชร อุ่นทายา นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรม สาขาการออกแบบ มหาวิทยาลัยขอนแก่น , รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คะแนนเท่ากัน 2 ทีม คือ ทีม เก้า – ลอ – เก้า และ ทีม Phoenix ได้รับเงินรางวัลทีมละ 30,000 บาท ส่วนทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ด.ญ.พลิศาน์ พลอยไพลิน หรือ น้องยิหวา หมายเลข 11 สาวน้อยวัยเพียง 11 ปี จากทีม superstar farmhouse ByPALISA  โดยการประกวดครั้งนี้เป็นการรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงภัยของภาวะโลกร้อนเเละสนับสนุนการรีไซเคิลในวงกว้าง รวมถึงพลังการสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ นิทรรศการ แฟชั่นรีไซเคิล “farmhouse Happy ปังปัง 2019 ” จัดเเสดง ณ บริเวณตรงข้าม Take Home Food ศูนย์การค้าเมกาบางนา ตั้งเเต่วันนี้-27 ส.ค.นี้ ผู้สนใจเข้าร่วมชมฟรีตลอดงาน

ฟาร์มเฮ้าส์ขนมปังคู่คนไทย ใจดีเเจกฟรี “รอยัลเบรด ปังเย็น” สูตรพิเศษสุดอร่อยให้กับเเฟนคลับฟาร์มเฮ้าส์ที่มารอต่อคิวยาวเหยียด รอชิมความสดชื่นที่งาน Mega food tastival 2019 ณ ลานฟู้ดวอล์ค พลาซ่า ศูนย์การค้าเมกาบางนา 8-12 สิงหาคม

สำหรับใครที่อยากจะมาชิมรอยัลเบรด ปังเย็น สูตรเฉพาะของฟาร์มเฮ้าส์ ที่เรียกว่าหากินยากมาก เพราะวางขายเเค่ในงานสหกรุ๊ปเเฟร์เพียงหนึ่งครั้งต่อปีเท่านั้น เเต่จะได้ชิมกันที่งาน MEGA Food Tastival 2019 ด้วยความโดดเด่นของขนมปังคุณภาพ พร้อมความหอมหวานกลมกล่อมบวกเข้ากับนมข้นคุณภาพ อร่อยชื่นใจเป็นที่สุด

โดยขนมปังรอยัลเบรดของฟาร์มเฮ้าส์ มีความโดดเด่นด้วยความที่เป็นขนมปัง ผสมด้วยโฮลวีต สีของขนมปังเหลืองอ่อน เนื้อขนมปังมีความนุ่ม รสชาติกลมกล่อม หอม อร่อย สุขภาพดี มีความนุ่มมากและหนาด้วย สามารถนำไปทำปังเย็น ขนมปังปิ้งรสชาติต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย

ติดตามมาตะลุยชิมความอร่อยที่บูธฟาร์มเฮ้าส์ ได้ในงาน Mega food Tastival 2019  ณ ลานฟู้ดวอล์ค พลาซ่า ศูนย์การค้าเมกาบางนา 8-12 สิงหาคม

ทั้งนี้ บูธฟาร์มเฮ้าส์จะเเจกปังเย็นฟรีให้เเก่ลูกค้าภายในงาน 3 รอบต่อวัน มาเเวะเวียนอุดหนุนเเละเก็บภาพความประทับใจกันได้ตั้งเเต่ 10.00-21.00 น. วันเเม่ที่ 12 สิงหาคม จะเป็นวันสุดท้ายเเล้ว ห้ามพลาดเด็ดขาด

 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 มิถุนายน ที่งานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 23 ไบเทค บางนา บริษัทเพรซิเดนท์ เบเกอรี่จำกัด (มหาชน) จัดการประกวดแฟชั่นโชว์ FarmHouse Fashion Happy ปังปัง 2019 รอบชิงชนะเลิศ ชิงเงินรางวัลกว่า 1แสนบาท โดยมีผู้ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามารวม 28 ทีม

นายอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดงานว่า การประกวดเเฟชั่นโชว์รีไซเคิลครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีผู้ให้ความสนใจเเละส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 80 ทีมเป็นไปตามความตั้งใจของฟาร์มเฮ้าส์ที่มุ่งรณรงค์เเละผลักดันการรักษาสิ่งเเวดล้อมเเละสร้างการรับรู้เกี่ยวกับภัยของภาวะโลกร้อน พร้อมกระตุ้นให้คนไทยหันมาใส่ใจการรีไซเคิลมากขึ้น

“แฟชั่นโชว์ FarmHouse Fashion Happy ปังปัง 2019 เต็มไปด้วยความสนุกสนานเเละความคิดสร้างสรรค์ ผู้เข้าร่วมประกวดทุกทีมมีไอเดียที่บรรเจิดเเละตั้งใจทำอย่างมาก ด้วยการเเข่งขันครั้งนี้ไม่มีการจำกัดอายุ ทำให้เราได้เห็น

ความเก่งกาจของเยาวชนคนรุ่นใหม่เเละความสามารถของผู้ใหญ่ที่มีใจรักความสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังได้เห็นความรักความสามัคคีในครอบครัว ที่มีลูกเป็นคนคิดไอเดียเเละมีพ่อเเม่คอยช่วยเหลือในการตัดเย็บด้วย ต่อไปเราจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านการสื่อสารทางศิลปะ ความบันเทิง ความอร่อยและความสนุกสนานอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของฟาร์มเฮ้าส์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกวดแฟชั่นโชว์ FarmHouse Fashion Happy ปังปัง 2019 ครั้งนี้เป็นการประกวดความสร้างสรรค์ในแฟชั่นโชว์รีไซเคิล โดยนำผลิตภัณฑ์ของฟาร์มเฮ้าส์ มาดีไซน์ใหม่ให้เป็นชุดสุดล้ำ เดินเฉิดฉายบนรันเวย์ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ มีผู้ผ่านเข้ารอบ 28 ทีมสุดท้ายมาประชันดีไซน์เก๋ไก๋ โดยมีลูกจัน จันจิรา จันทร์โฉม มิสไทยแลนด์ยู-นิเวิร์ส ปี 2545, ดีเจนุ้ย ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร และ ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด นักเเสดงชื่อดังร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน โดยสัดส่วนการให้คะแนน  แบ่งเป็นการนำเสนอผลงาน StoryTelling 20%  ความสวยงามและความสร้างสรรค์ 50%  ความพร้อมของชุด 20% และลีลาการเดินแบบ 10%

จากนั้นเวลา 15.00 น. มีการประกาศผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบ 10 ทีม ประกอบด้วย หมายเลข 1 ทีม House of Kritsana แนวคิดและคอนเซ็ปต์ Savetheworld หมายเลข 5 ทีม design By เลิศลีลา แนวคิดและคอนเซ็ปต์ ประยุกต์กลิ่นอายแบรนด์ดัง Victoria Secret เข้ากับเครื่องแต่งกายของไทใหญ่ ที่มีชื่อว่า “ก้านกกิงกะหร่า” ที่มีความสวยงามอลังการ หมายเลข8 ทีม HOMELESS แนวคิดและคอนเซ็ปต์ แรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตและการแต่งกายของคนไร้บ้านหรือ homeless ดีไซน์ด้วยความแปลกใหม่ที่ใช้ได้จริง

หมายเลข 9 ทีมเก้า – ลอ – เก้า แนวคิดและคอนเซ็ปต์ ชื่อชุด Wheat princess  ข้าวสาลี เปรียบได้กับเจ้าหญิง ตัวชุดสื่อถึงฟางข้าวที่ถักทอขึ้นรูปเป็นชุดราตรีที่ทันสมัย มีความเป็นสากล หมายเลข 11 ทีม superstar farmhouse ByPALISA ออกแบบโดยน้องยิหวา หรือ ด.ญ.พลิศาน์ พลอยไพลิน อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นป.6 โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย แนวคิดและคอนเซ็ปต์อยากให้ชุดมีความนุ่มฟูเหมือนขนมปัง เเละเริ่ดหรูดูเเพงเหมือนชุดที่ไปเดินบนพรมเเดง

 

ผู้ชนะเลิศ n2

หมายเลข 15 ทีม กฤตยภรณ์ ศิรินุพงศ์ คอนเซ็ปต์มาจากภาพความทรงจำตั้งแต่เด็กจนโตกับฟาร์มเฮ้าส์ เรามีความรู้สึกว่าถุงขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ มีการจับจีบถุงขนมปังมาตลอด หมายเลข 20 ทีม Siam Renaissance By C.PEERANAT จากนักศึกษาปี 4 คณะศิลปศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนวคิดและคอนเซ็ปต์ เทคนิคการพับจีบใบตองที่สื่อถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยผสมกับแฟชั่นตะวันตก

หมายเลข 22 ทีม ทางลาด แนวคิดและคอนเซ็ปต์ การแกะขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ทาน หมายเลข 23 ทีมPhoenix ได้แรงบันดาลใจจาก THE IMMORTAL การเกิดใหม่ของนกฟีนิกซ์ ที่สวยงาม มีคุณค่าและเป็น “อมตะ”  ใช้เทคนิคการจับจีบที่โดดเด่น และหมายเลข 27 ทีม HINODE แนวคิดมาจากสีของโลโก้ฟาร์มเฮ้าส์ที่เป็นสีแดงดุจดั่งพระอาทิตย์

จากนั้นคณะกรรมการได้สัมภาษณ์ผู้ผ่านเข้ารอบทั้ง 10 ทีม ถึงแนวคิดและคอนเซ็ปต์ในการออกแบบก่อนตัดสินผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศ

สุดท้ายผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ หมายเลข 27ทีม HINODE ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท ออกแบบโดยนายสหพลพชร อุ่นทายา อายุ 20 ปี นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรม สาขาการออกแบบ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คะแนนเท่ากัน2ทีม คือ หมายเลข 9 ทีมเก้า – ลอ – เก้า และหมายเลข 23 ทีมPhoenix ได้รับเงินรางวัลทีมละ 30,000 บาท ส่วนทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือน้องยิหวา หมายเลข 11 สาวน้อยวัยเพียง 11 ปี จากทีม superstar farmhouse ByPALISA ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท

โดยมีนายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ ประธานกรรมการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) นายอภิชาติ ธรรมมโนมัย รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเพรซิเดนท์เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) และนายอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน)ร่วมมอบรางวัล

นอกจากนี้ ได้มอบรางวัล popular vote สำหรับทีมที่ได้ยอดไลค์สูงสุดผ่านเพจเฟซบุ๊กขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ คือหมายเลข 26 ทีมMOVEN มูเฟ่น มาใน แนวคิด Before Sunrise แสงอาทิตย์ที่สาดส่อง ดอกไม้เบ่งบานในตอนเช้า เริ่มต้นวันใหม่กับฟาร์มเฮ้าส์ ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท

โดยนายสหพลพชร นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรม สาขาการออกแบบ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ กล่าวว่า เข้าประกวดเพราะสนใจ และเรียนมาทางด้านการออกแบบ จึงอยากหาประสบการณ์ และเพื่อสะสมผลงาน ก่อนศึกษาโลโก้ของฟาร์มเฮ้าส์จนได้ไอเดียออกแบบเป็น สีของโลโก้ฟาร์มเฮ้าส์ที่เป็นสีแดงดุจดั่งพระอาทิตย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการต่อยอดกิจกรรมนั้นทางบริษัทเพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) จะนำชุดที่ได้รับรางวัลไปจัดเเสดงตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำเพื่อรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงการรีไซเคิลในวงกว้างต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า งานสหกรุ๊ปเเฟร์จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเเละได้รับการตอบรับที่ดีมาโดยตลอด ปีนี้ก็คึกคักเช่นกัน โดยเฉพาะบูธของฟาร์มเฮ้าส์ที่มีการนำเสนอที่เเตกต่าง มีการตกเเต่งบูธใหม่ด้วยคอนเซปต์  FarmHouse Village ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้อย่างมาก ลูกค้าฟาร์มเฮ้าส์ต่างชื่นชอบในรสชาติของผลิตภัณฑ์เเละกิจกรรมสนุกๆที่จัดเเสดง

นอกจากการประกวดแฟชั่นโชว์แล้ว ยังมีการแสดงมินิ คอนเสิร์ตสุดพิเศษจากศิลปินสุดฮอต “ตู่ ภพธร” พร้อมการพูดคุยเคล็ดลับสุขภาพดีและการสาธิตเมนูปังปังอร่อยได้ประโยชน์ จาก “อ้อม พิยดา จุฑารัตนกุล” รวมถึงผู้ร่วมงานจะได้สนุกไปกับกิจกรรมเพื่อความบันเทิงอย่าง การถ่ายรูป Farmhouse Happy Family, เล่นเกมกีฬาในโซน Game Sport Acting, เล่นเกมลับสมองต่างๆ , บูธตรวจสุขภาพ และการช็อปสินค้าลดราคาพิเศษสูงสุดในรอบปี พร้อมเมนูสุดอร่อยทั้งเกี๊ยวซ่า ซาลาเปา ฮอทดอกขนมปังปิ้งและแซนด์วิชสูตรใหม่ที่จะมีเฉพาะในงานนี้ที่เดียวเท่านั้น

​ฟาร์มเฮ้าส์ สนับสนุนคนไทยเที่ยวไทย เพียงแค่ติดแฮชแท็ก #ฟาร์มเฮ้าส์อร่อยทุกที่ทั่วไทย

​ฟาร์มเฮ้าส์ ชวนคนไทย กินขนมปังฟาร์มเฮ้าส์อร่อยทุกที่ทั่วไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการโปรสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆที่สวยงาม แชร์ให้เพื่อนๆ ได้เห็นเหมือนที่เราเห็น กระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อหาแหล่งอันซีนที่หลายคนอาจจะไม่เคยเห็น ลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษมากมาย

​รางวัล ปัง ปัง ปัง

​1.พักปัง ห้องพักหรูระดับ 5 ดาว โรงแรม Keemala จ.ภูเก็ต กับ ห้อง Tree POOL Houses 2 คืน 1 รางวัล และห้อง Clay Pool Cottages 2 คืน 1 รางวัล

​2.”เที่ยวปัง” พาทัวร์ศิลปวัฒนธรรมกับมติชน อคาเดมี (ในประเทศ) 3 รางวัล

​3. “เป๋าปัง” กระเป๋าเดินทางล้อลาก 30 รางวัล

​กติกา

เพียงแค่ถ่ายภาพขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ ชนิดใดก็ได้ คู่กับสถานที่ท่องเที่ยวแล้วโพสต์ลงโซเชียล เปิดเป็นสาธารณะ แล้วติดแฮชแท็ก #ฟาร์มเฮ้าส์อร่อยทุกที่ทั่วไทย พร้อมแคปชั่นบรรยายสถานที่ท่องเที่ยว

​ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562
​ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเฟซบุ๊คฟาร์มเฮ้าส์ www.facebook.com/FarmhouseThai

*ทั้งนี้ การตัดสินจากคณะกรรมการของบริษัท เพรซิเดนท์เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ถือ
เป็นที่เด็ดขาดและสิ้นสุด