โก โฮลเซลล์ ขานรับนโยบายกรมการค้าภายใน เร่งกระจายผลไม้ภาคตะวันออก รับซื้อมังคุดกว่า 100 ตัน พร้อมรณรงค์บริโภคผลไม้ไทย ช่วยเหลือเกษตรกร

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ช่วยกระจายผลไม้ภาคตะวันออกที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก โดยเพิ่มการรับซื้อมังคุดจากเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี รวมกว่า 100 ตัน หรือ 100,000 กิโลกรัม รวมถึง ผลไม้ฤดูกาลอื่นๆ พร้อมจัดโปรโมชั่นรณรงค์การบริโภคผลไม้ไทยในกลุ่มผู้ประกอบการ และผู้บริโภคทั่วไป ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน

โดยได้รับเกียรติจาก นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน และคณะลงพื้นที่เยี่ยมชมการจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้า โก โฮลเซลล์ สาขาศรีนครินทร์

นางสาวอรวรรณ ศิริโชติรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กรและรัฐสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ โก โฮลเซลล์ กล่าวว่า โก โฮลเซลล์ ตระหนักถึงสถานการณ์ความเดือดร้อนของเกษตรกรภาคตะวันออก ที่ในช่วงนี้มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก จึงร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ช่วยระบายผลไม้ตามฤดูกาลอย่างเร่งด่วน ด้วยการรับซื้อผลผลิตเพิ่มเติมจากเดิม อาทิ มังคุด ที่มีการรับซื้อจากกลุ่มเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี รวมกว่า 100 ตัน นอกจากนี้ยังมี เงาะ ทุเรียน ลองกอง ซึ่งเราได้จัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ ในทุกสาขาของโก โฮลเซลล์ และช่องทางออนไลน์ GO WHOLESALE แอปพลิเคชั่น เพื่อรณรงค์ให้ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค หันมาบริโภคผลไม้ไทยกันมากขึ้น

1337141_0
1337144_0

ทั้งนี้ โก โฮลเซลล์ ให้ความสำคัญกับนโยบายการสนับสนุนสินค้าจากเกษตรกรไทย โดยในปี 2568 มีแผนการรับซื้อผลไม้ไทยจากเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 5 ล้านกิโลกรัม หรือ 5,000 ตัน จากแหล่งเพาะปลูกที่ได้คุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยอย่างสูงสุด

#GOWHOLESALE #GOAlwaysFreshForward #GOสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อคุณ #GOสดครบคุ้ม

“นวธัญ” ยกขบวนผลไม้ระดับพรีเมียมจากต่างประเทศ ร่วมโชว์ศักยภาพในงาน THAIFEX-Anuga Asia 2025

บริษัท นวธัญ เวิลด์ ฟรุ๊ต จำกัด ผู้นำในการนำเข้าผลไม้พรีเมียมอันดับ 1 จากต่างประเทศ จากประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 20 ปี ยกขบวนผลไม้พรีเมียมจากต่างประเทศส่งตรงมาถึงไทย ร่วมออกบูธในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก  Navatan x THAIFEX-Anuga  Asia 2025 เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพของสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับโลก และโปรโมทธุรกิจให้ลูกค้าใหม่ได้รู้จัก พร้อมเปิดโอกาสให้คู่ค้าได้พบปะกับผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด

คุณ วีรินทร์ บุญร่วม Managing Director บริษัท นวธัญ เวิลด์ ฟรุ๊ต จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นปีที่ 5ที่ได้มาร่วมออกบูธแสดงสินค้า โดยในปีนี้จะมีผลไม้เกรดพรีเมียมจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมแสดงหลากหลายชนิดเช่นเคย ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากได้มาออกบูธ ก็จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งลูกค้าเก่าที่รู้จักเราอยู่แล้วก็แวะเวียนมาที่บูธ  และได้ลูกค้าใหม่ที่ให้ความสนใจเข้ามาเยี่ยมชมบูธอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้เราคาดหวังว่า เราจะรับการตอบรับที่ดีเช่นที่ผ่านมา และอยากโปรโมทธุรกิจเราให้ทุกคนได้รู้จัก นวธัญ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการช่วยให้คู่ค้าที่รับสินค้าของเราไปจำหน่ายมั่นใจว่าสินค้าของเรามีคุณภาพสูง ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมายาวนาน”

โดยในปี้นี้เราได้เชิญคู่ค้าคนสำคัญซึ่งเป็นพันธมิตรมายาวนานในประเทศไทยกว่า 20 ปี ทั้ง คุณวาสนา นาเสริฐ เจ้าของซันไดมอนด์ เฟรช จำกัด ซึ่งตอนนี้ SunDaimond Fresh มีหน้าร้านอยู่ที่ Tops, Gourmet Market, Big C และ Foodland กว่า 100 สาขา ทั่วประเทศไทย รวมทั้ง Madame Fruit (มาดามฟรุ๊ต) มาร่วมชมบูธแสดงสินค้าในครั้งนี้ด้วย  

S__79921213_0

คุณสุชญา แก้วเจริญสุข  เจ้าของธุรกิจร้านจำหน่ายผลไม้ต่างประเทศ Madame Fruit (มาดามฟรุ๊ต) กล่าวว่า “เราเป็นธุรกิจขายผลไม้พรีเมียมทั้งปลีกและส่งออก นำเข้าจากทั่วโลกมาโดย บริษัท นวธัญ​ เวิลด์ ฟรุ๊ต จำกัด เราเป็นคู่ค้ากันมายาวนานตั้งแต่รุ่นคุณแม่ จนตอนนี้มาสู่รุ่นลูก ด้วยมาตรฐานที่ดีของสินค้าของ นวธัญ  ทำให้เรามั่นใจและเป็นคู่ค้ากันอย่างยาวนาน โดยสินค้ายอดนิยมของที่ร้าน ได้แก่ สตอร์เบอร์รี่, เชอร์รี่ และ แอปเปิ้ล  ทั้งนี้ Madame Fruit (มาดามฟรุ๊ต) ต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่เชื่อมั่นในสินค้าเรามาตลอด เราเองก็จะมุ่งมั่นพัฒนาและหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ลูกค้าเช่นกัน”

นอกจากนี้ยังได้ Mr. Adrian Surianingrat, Export Manager Coastal Exports จาก Tran Brothers Fruit Co ประเทศออสเตรเลีย, Mr. Youngho Na President Chang Rak Farms เจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ บินตรงมาร่วมงานเพื่อพบปะผู้บริโภคในงานนี้อีกด้วย โดยมีคุณกนกอร พรหมหิตาทร Sale and marketing manager บริษัท นวธัญ เวิลด์ ฟรุ๊ต จำกัด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

พบกับบูธผลไม้พรีเมียม จาก  นวธัญ ได้ที่งาน THAIFEX-Anuga  Asia 2025  ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2568 นี้ ที่ บูธ 3-F45 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

บิ๊กซี จัดงาน “เทศกาลผลไม้ไทย สดจากสวน สู่บิ๊กซี ปี 2568” พร้อมบุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ไทย อิ่มไม่อั้น!

บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และ กลุ่มเกษตรกรวิสาหกิจชุมชน จัดงาน “เทศกาลผลไม้ไทย สดจากสวน สู่บิ๊กซี ปี 2568” คัดสรรผลไม้และผักคุณภาพดีส่งตรงจากสวนทั่วไทย ถึงมือผู้บริโภคในราคาคุ้มค่า ตลอดเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน ที่บิ๊กซี ทุกสาขา พร้อมจัดเต็ม “บุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ไทย อิ่มไม่อั้น” จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 21 พฤษภาคม 2568 ณ บิ๊กซี สาขาราชดำริ และบิ๊กซีอีก 6 สาขาที่ร่วมรายการ ได้แก่ สาขาสะพานควาย, รัชดาภิเษก, อ่อนนุช, ติวานนท์, พระราม 2 และรังสิต 1 

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ประธานในพิธีเปิดงาน “เทศกาลผลไม้ไทย สดจากสวน สู่บิ๊กซี ปี 2568” เพื่อร่วมส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยตามฤดูกาล พร้อมยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่เวทีโลกในฐานะแหล่งผลไม้คุณภาพ ทั้งยังเดินหน้าสนับสนุนการรับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง และเป็นอีกช่องทางกระจายผลไม้สู่ผู้บริโภคในราคาที่เข้าถึงได้

นายอัศวิน กล่าวว่า “บิ๊กซีได้คัดสรรสุดยอดผลไม้ไทยและผักตามฤดูกาลมาให้ลูกค้าได้เลือกซื้ออย่างหลากหลายและคุ้มค่า ภายใต้การจัดงาน “เทศกาลผลไม้ไทย สดจากสวน สู่บิ๊กซี ปี 2568” พร้อมกิจกรรมไฮไลต์ “บุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ไทย อิ่มไม่อั้น” เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งถือเป็นราชาแห่ง
ผลไม้ไทย โดยในปีนี้ บิ๊กซีมุ่งหวังที่จะสนับสนุนผลผลิตจากเกษตรกรไทย โดยเฉพาะทุเรียนจากภาคตะวันออก ซึ่งจะมีผลผลิต
ออกสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงเดือนพฤษภาคม”

S__86261861_0

ด้าน ร้อยตรี จักรา กล่าวว่า “บิ๊กซีมีบทบาทสำคัญในการร่วมมือกับภาครัฐในการกระจายผลผลิตผลไม้ไทยสู่ตลาด อย่างมีประสิทธิภาพ และในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมมาตรการรองรับการบริหารจัดการผลผลิตไว้อย่างรอบด้าน ทั้งการขนส่ง การรับซื้อ และการดูแลสภาพคล่องของผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรชาวสวน และส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน”

บิ๊กซี ขอเชิญชวนลูกค้าร่วมสัมผัสความอร่อยแบบจุใจกับกิจกรรมไฮไลต์ “บุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ไทย อิ่มไม่อั้น” ระยะเวลา 60 นาทีต่อรอบ ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ลิ้มรสผลไม้ไทยคุณภาพเยี่ยมแบบไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียนหมอนทอง, มังคุด, เงาะ, มะม่วง, แตงโม, ข้าวเหนียวมะม่วง และข้าวเหนียวทุเรียน

สำหรับลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวสามารถชื้อบัตรเข้าร่วมกิจกรรมในราคาสุดคุ้มเพียง599 บาท (ต่อท่านต่อรอบ ระยะเวลา 60 นาที) พิเศษ !!! สำหรับสมาชิกบิ๊กพอยต์ สามารถใช้คะแนนสะสม 50 พอยต์ แลกรับส่วนลด 50 บาทต่อท่าน (เหลือ 549 บาท) จำกัด 1 สิทธิ์ต่อสมาชิก โดยกิจกรรมจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม รอบละ 80 ท่าน ซื้อบัตรได้ที่บริเวณจัดงานของแต่ละสาขาที่ร่วมรายการ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ “Call Chat Shop”

กิจกรรม “บุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ไทย อิ่มไม่อั้น” จัดขึ้นเฉพาะบิ๊กซี 7 สาขาที่ร่วมรายการ ประกอบด้วย สาขาราชดำริ ตั้งแต่วันที่ 16  – 21 พฤษภาคม 2568 ส่วนสาขาสะพานควาย, ติวานนท์ และพระราม 2 จัดตั้งแต่วันที่ 3 – 5 พฤษภาคม 2568 และสาขารัชดาภิเษก, อ่อนนุช และรังสิต 1 จัดตั้งแต่วันที่ 10  – 12 พฤษภาคม 2568  

บิ๊กซี สาขาราชดำริ จัดกิจกรรมวันละ 6 รอบ ตามช่วงเวลาดังนี้:

  • รอบที่ 1: เวลา 10.00 – 11.00 น.
  • รอบที่ 2: เวลา 12.00 – 13.00 น.
  • รอบที่ 3: เวลา 14.00 – 15.00 น.
  • รอบที่ 4: เวลา 15.30 – 16.30 น.
  • รอบที่ 5: เวลา 17.30 – 18.30 น.
  • รอบที่ 6: เวลา 19.00 – 20.00 น.

บิ๊กซี 6 สาขา ได้แก่ สาขาสะพานควาย, รัชดาภิเษก, อ่อนนุช, ติวานนท์, พระราม 2 และรังสิต 1  จัดกิจกรรมวันละ 3 รอบ
ตามช่วงเวลาดังนี้:

  • รอบที่ 1: เวลา 12.00 – 13.00 น.
  • รอบที่ 2: เวลา 14.00 – 15.00 น.
  • รอบที่ 3: เวลา 16.00 – 17.00 น.

ขอเชิญลูกค้าทุกท่านร่วมสัมผัส งาน “เทศกาลผลไม้ไทย สดจากสวน สู่บิ๊กซี ปี 2568”  ที่คัดสรรผลไม้ไทยสินค้าคุณภาพตามฤดูกาล มาให้ลูกค้าได้ลิ้มรสความอร่อย เช่น ทุเรียน, เงาะ, มังคุด,ลองกอง, ลำไย, มะม่วง และอื่น ๆ ตลอดเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน ที่บิ๊กซี ทุกสาขา ทั่วประเทศไทย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จุดบริการลูกค้าบิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ หรือผ่านทางเฟซบุ๊ก Big C Thailand

โก โฮลเซลล์ ตอบรับนโยบายภาครัฐ ช่วยเหลือเกษตรกรระบายผลผลิต ปีนี้ตั้งเป้ารับซื้อผลไม้กว่า 5 ล้านกิโลกรัม บรรเทาสินค้าล้นตลาด สร้างรายได้ชาวสวน

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล บูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐ ตามนโยบายเร่งระบายผลไม้ภายในประเทศอย่างเป็นระบบของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดเข้าร่วมกิจกรรมแถลงข่าวเชื่อมโยงตลาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ประจำปี 2568 ที่มี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยมี นางซันนี่ ซิดิค รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารสินค้าธุรกิจค้าส่ง และผู้บริหาร เข้าร่วม ณ ทำเนียบรัฐบาล

ที่ผ่านมา โก โฮลเซลล์ มีนโยบายสนับสนุนเกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรับซื้อผลไม้ฤดูกาลที่ผลผลิตออกมากในช่วงนี้ ซึ่งในปี 2568 ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการรับซื้อมากกว่าเดิม 1 เท่าตัว หลังจากมีการขยายสาขาเพิ่มเติมเป็น 13 สาขา ซึ่งคาดว่า ในปีนี้จะรับซื้อผลไม้จากเกษตรกรชาวสวนได้กว่า 5 ล้านกิโลกรัม หรือ 5,000 ตัน อาทิ ทุเรียน มังคุด มะม่วง ลำไย เงาะ ลิ้นจี่ และผลไม้ไทยอื่นๆ โดยกระจายผ่านทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ GO WHOLESALE Application

ทั้งนี้ โก โฮลเซลล์ ให้ความสำคัญกับการคัดสรรผลไม้คุณภาพ มาตรฐานปลอดภัย ตลอดกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำการเพาะปลูกจนถึงมือผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้ารายย่อย และผู้บริโภค ให้สามารถเข้าถึงผลไม้ที่ สดส่งตรงจากสวน สะอาด ปลอดภัย ครบครัน และคุ้มค่า สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ รวมทั้งยังจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อรณรงค์การบริโภคผลไม้ไทยในทุกกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

“พาณิชย์” จัด “Thai Fruit Festival 2024 by MOC” ขนผลไม้สด-แปรรูป ขนมหวาน ไอศกรีม ขายในงานมหาสงกรานต์ ที่ท้องสนามหลวง

“พาณิชย์” จัดกิจกรรม “Thai Fruit Festival 2024 by MOC” ในงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ที่ท้องสนามหลวง นำผลไม้สด ผลไม้แปรรูป ขนมหวาน ไอศกรีม มาจำหน่ายให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวรวม 5 วัน

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้กำหนดจัดกิจกรรม “Thai Fruit Festival 2024 by MOC” ในงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ที่ท้องสนามหลวง เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยได้นำผลไม้สดตามฤดูกาล ผลไม้แปรรูป น้ำผลไม้ ขนมหวานทำจากผลไม้ ไอศกรีม และปิงชู มาจำหน่ายให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาเล่นน้ำสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 11-15 เม.ย.2567 เริ่มตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. รวม 5 วัน

“การจัดงาน Thai Fruit Festival 2024 by MOC ในครั้งนี้ นอกจากเป็นการเพิ่มช่องทางการระบายผลผลิตผลไม้ของไทยที่กำลังออกสู่ตลาด ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ยังเป็นการขับเคลื่อน Soft Power ผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างชาติ ที่มาเล่นสาดน้ำ ซึ่งจะทำให้ผลไม้ไทย เป็นที่รู้จักมากขึ้น”

DSC_6960
DSC_6836

สำหรับผลไม้สด ที่จะนำมาจำหน่ายมีจำนวน 11 ชนิด ได้แก่ มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงน้ำดอกไม้ จาก จ.พิจิตร และพิษณุโลก สับปะรด ส้มโอ จ.เชียงราย ส้ม จ.เชียงใหม่ แตงโม จ.สุพรรณบุรี ฝรั่ง จ.ตาก มะพร้าว มะละกอ ชมพู่ กล้วย จ.ราชบุรี และมังคุด จ.จันทบุรี ส่วนผลไม้แปรรูป มี 4 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ลำไย สับปะรด และฝรั่ง ส่วนน้ำผลไม้ ที่จะจำหน่าย เช่น สมูทตี้จากมะม่วง แตงโม น้ำผลไม้พร้อมทาน จากมะพร้าว ฝรั่ง ลำไย และมะนาวผง น้ำผลไม้เกล็ดหิมะ ทำจากมะพร้าว ส้ม และสับปะรด และยังมีผลไม้สดพร้อมทาน เช่น มะม่วง สับปะรด แตงโม ชมพู่ มะละกอ มะพร้าว กล้วย ผลไม้ดอง เช่น มะม่วง ฝรั่ง นอกจากนี้ ยังมีไอศกรีมท้อปปิ้งผลไม้ ไอศกรีมทุเรียนผ่านตู้จำหน่ายอัตโนมัติ บิงชูท้อปปิ้งผลไม้ รวมทั้งยังมีกิจกรรม แชะแชร์จับรางวัลรับฟรีผลิตภัณฑ์ภายในงาน 

“กระทรวงพาณิชย์ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่ท้องสนามหลวง หรือถนนข้าวสาร ให้แวะไปชม ชิม ช้อปผลไม้ตามฤดูกาล ในวันและเวลาดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และจะได้รู้ว่าผลไม้ของไทยอร่อย มีคุณภาพ ไม้แพ้ชาติใดในโลก”
นายนภินทรฯ กล่าว

#กระทรวงพาณิชย์ #MOCThailand #MOC #ข่าวเศรษฐกิจ #ThaiFruit Festival2024byMOC

น้ำตาล สามารถเป็นสาเหตุของอาการฟันผุได้ แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการบริโภคผัก และผักผลไม้ที่มีกากใยอาหารเป็นส่วนประกอบ

น้ำตาล ทำลายสุขภาพ หากบริโภคอย่างไม่ระมัดระวัง

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การบริโภคน้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่มที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพตามมา เช่น โรคอ้วน เบาหวาน หัวใจและหลอดเลือด และฟันผุ เป็นต้น

คนไทย ติดหวาน

ปริมาณน้ำตาลที่คนไทยได้รับส่วนใหญ่มาจากขนม และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล จากการศึกษาผลของการดำเนินมาตรการภาษีเครื่องดื่มรสหวานต่อพฤติกรรมการบริโภคของประชาชน โดย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2562 พบว่า โดยเฉลี่ยในแต่ละวันคนไทยดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลเฉลี่ยกว่า 3 แก้ว (519.3 มิลลิลิตร) โดยผู้ชายดื่มมากกว่าผู้หญิง และพบว่าในกลุ่มเด็กอายุ 6-14 ปีเป็นกลุ่มที่ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลเฉลี่ยต่อ

สัปดาห์มากที่สุด เครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลที่วางจำหน่ายในประเทศไทยพบมีปริมาณน้ำตาลสูงมาก เฉลี่ย 9-19 กรัม/100 มิลลิลิตร ในขณะที่ปริมาณที่เหมาะสมคือไม่ควรมีน้ำตาลมากกว่า 6 กรัม/100 มล. เพราะจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ในระยะยาว

ผักผลไม้ก็ช่วยลดเสี่ยงฟันผุได้

ทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวว่า น้ำตาลเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียในการผลิตกรดทำลายผิวฟัน จนลุกลามไปเรื่อยๆ หากไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยควรเน้นบริโภคผักหรือผลไม้ที่มีเส้นใยเซลลูโลส เพราะมีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งการเคี้ยวเส้นใยจะช่วยกระตุ้นให้มีน้ำลายมากขึ้น สามารถเจือจางสภาพความเป็นกรดได้เป็นอย่างดี รวมทั้งอาหารกลุ่มโปรตีน เช่น ถั่วต่างๆ นมที่มีแคลเซียมและฟอสเฟตสูง หากต้องการดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาล แนะนำให้สั่งสูตรหวานน้อย เพื่อลดปริมาณน้ำตาลส่วนเกิน

ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย คือ น้ำเปล่า โดยควรดื่มอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน เพราะจะช่วยชะล้างเศษอาหารที่ตกค้างในช่องปาก ทำให้ปากไม่แห้ง ลดปัญหากลิ่นปากเป็นผลดีต่อสุขภาพฟันไม่ก่อให้เกิดฟันผุ

ที่มา : Sanook.com

ขุ่นพระ! ทำไงดีกางเกงตัวเดิมใส่ไม่ได้แล้ว เครียดดดดด…เชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้คงเกิดกับสาวๆ หลายๆ คน ที่เพลิดเพลินกับการกินอาหารอร่อยจนลืมเรื่องน้ำหนักตัวและห่วงยางน้อยๆ ไปเลย พอเริ่มมีไขมันส่วนเกินกระจายไปทั้งตัวก็เริ่มไม่มั่นใจเหมือนเดิม ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นมาลดน้ำหนักกันเถอะ ลองกิน 5 ผลไม้ช่วยลดน้ำหนักกันดีกว่า เริ่มกันเลย

1. แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลอุดมไปด้วยไฟเบอร์และวิตามินเหมาะกับการเป็นตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดความอยากอาหารได้ เพราะไฟเบอร์จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มไว ไม่กินจุบกินจิบ ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และที่สำคัญผิวพรรณก็จะดูเปล่งปลั่งอีกด้วย

2. แตงโม

แตงโมเป็นผลไม้ที่เหมาะกับการลดน้ำหนักมาก เพราะมีแคลอรี่ต่ำ และชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำถึง 93% จึงทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว ไม่ต้องกังวลเลยว่าแตงโมจะทำให้อ้วน แตงโมยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจอีกด้วย…ดี๊ดี

3. ส้ม

ส้มเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและมีกากใยจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและช่วยเรื่องระบบขับถ่ายด้วย แต่ส้มเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง เมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ ดังนั้น จึงควรทานในปริมาณที่พอดี

4. กีวี่

เป็นผลไม้ยอดนิยมของสาวๆ เลยก็ว่าได้ แต่สาวๆ หลายคนยังไม่รู้ว่ากีวี่ถูกจัดเป็นผลไม้ช่วยลดน้ำหนักด้วยนะ เพราะกีวี่มีไฟเบอร์จำนวนมากช่วยป้องกันโรคท้องผูก ทำให้การขับถ่ายดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ กีวี่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนบำรุงผิวอีกด้วยนะ

5. แก้วมังกร

แก้วมังกร สามารถช่วยลดน้ำหนักได้แน่นอนเพราะเป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัว มีแคลอรี่ต่ำเป็นตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี และเป็นผลไม้ที่มีเนื้อเยอะ ทานแล้วอิ่มท้องนาน เรียกได้ว่าสามารถรับประทานแทนอาหารหนึ่งมื้อได้เลย แม้จะทานเยอะแค่ไหนก็ไม่ทำให้อ้วน แถมช่วยบำรุงผิวให้สดใสเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลอีกด้วย

ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ

ผู้หญิงและความสวยนั้นเป็นของคู่กันใช่ไหมล่ะคะ แต่จะดีแค่ไหน หากสาวๆ ทุกคนสามารถสวยได้ทั้งภายนอกและภายใน นอกจากความสวยภายนอกที่เราสามารถแต่งเติมเสริมแต่งไปให้สวยได้ตามใจแล้ว ภายในก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเช่นกันนะคะ เพราะเรื่องสุขภาพนั้นไม่เข้าใครออกใคร อีกทั้งยังไม่สามารถแต่งเติมอะไรเข้าไปได้อีกด้วย วันนี้เลยอยากชวนสาวๆ ไปทำความรู้จักกับ “ผลไม้ 5 สี” ที่จะช่วยให้สวยแบบเพรียบพร้อมทั้งภายนอกและภายใน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

ผลไม้สีเขียว
สีเขียวของผลไม้นั้น ได้มาจากเม็ดสีของสารธรรมชาติที่เรียกว่า คลอโรฟิลด์” ซึ่งสารชนิดนี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส และเปล่งปลั่ง ลดการเกิดริ้วรอย ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ดี ลดอาการท้องผูกเนื่องจากอุดมไปด้วยกากใยธรรมชาติ และให้ไฟเบอร์สูง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ให้พลังงานต่ำ จึงช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ฝรั่ง กีวี องุ่นเขียว แอปเปิ้ลเขียว หรือลูกแพร์สีเขียว ซึ่งปกติการกินแบบสดๆ ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ถ้าจะนำมากินคู่กับอาหารชนิดอื่นก็ไม่เลวเลยทีเดียว เช่น สมูทตี้ หรือโยเกิร์ตผลไม้ ฯลฯ

ผลไม้สีแดง
สำหรับสีแดงนั้นได้มาจาก ไลโคปีน เบตาไซซีน และสารแอนโทไซยานิน ซึ่งสารต่างๆ เหล่านี้มีส่วนช่วยในการยับยั้งการเกิดมะเร็ง มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร อีกทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ให้ประโยชน์มากมายเรื่องผิวพรรณ ช่วยทำให้แผลเป็นจางลง และช่วยลดการเกิดสิวอีกด้วย

ผลไม้สีแดงที่หาทานได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น สตรอว์เบอร์รี บีทรูท เชอร์รี แตงโม กระเจี๊ยบแดง และอื่นๆ อีกมากมาย และจะดีแค่ไหนถ้าเรามาลองทำ ยำผลไม้สีแดง จัดจ้านถึงใจ ได้ความสดชื่น แบบนี้ก็น่าสนใจใช่ไหมล่ะคะ

ผลไม้สีขาว
กล้วย สาลี่ ลองกอง ลิ้นจี่ ลางสาด แห้ว ละมุด และพุทรา สีขาวของผลไม้เหล่านี้เกิดจากสารอาหารที่เรียกว่า แซนโทน กรดไซแนปติก และอัลลิชิน ซึ่งสารต่างๆ เหล่านี้มีส่วนช่วยในการลดอาการอักเสบ รักษาระดับน้ำตาลในเลือด มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ลดไขมันในเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และความดันโลหิต ช่วยลดอาการปวดต่างๆ ตามข้อ และลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งอีกด้วย ลองเลือกกินกล้วยหอมสุกตอนเช้า 1 ผล ตามด้วยน้ำเปล่าสักแก้ว แบบนี้ก็สวย และเป็นเมนูไดเอตได้อีกด้วย

ผลไม้สีเหลือง หรือสีส้ม
แคโรทีนอยด์ เป็นสารที่พบในผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและสีส้ม อย่างเช่น ข้าวโพด มะม่วง เสาวรส แคนตาลูป สับปะรด และ มะละกอ เป็นต้น ซึ่งสารตัวนี้นั้นมีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือด ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยชะลอการเสื่อมถอยของจอประสาทตา มีส่วนช่วยพัฒนาการมองเห็นของเด็ก และสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและสดใส ลองมิกซ์ มะม่วง เสาวรสและสับปะรด มาปั่นกับโยเกิร์ตเป็น สมูทตี้ ดีๆ สักแก้ว รับรองฟินเลยล่ะค่ะ

ผลไม้สีม่วง และน้ำเงิน
ปิดท้ายกันด้วย มันม่วง เผือก บลูเบอร์รี แบล็กเบอร์รี องุ่นสีม่วง ลูกพรุน และผลไม้อื่นๆ ที่จัดอยู่ในผลไม้ตระกูลสีม่วงและน้ำเงิน ผลไม้เหล่านี้ได้รับเม็ดสีจากสาร แอนโทไซยานิน ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีและอีถึง 2 เท่า มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนของหลอดเลือด และปกป้องหลอดเลือด ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจหลอดเลือดได้ มีส่วนในการยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหาร ต่อต้านไวรัส

นอกจากจะต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว หากสามารถกินผลไม้ให้ครบ 5 สีด้วยแล้ว ก็คงจะดีต่อสุขภาพของเราไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดีๆ เพราะใครจะรู้ว่าผลไม้แต่ละสีนั้นจะให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย แถมผลไม้ส่วนใหญ่นั้นยังให้พลังงานต่ำ มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวพรรณของสาวๆ เปล่งปลั่ง และดูสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ เกิดเป็นผู้หญิงทั้งทีจะสวยภายนอกอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องดูแลมาจากข้างในด้วยนะคะ จะได้คงความสวยและความสุขภาพดีแบบนี้ไปนานๆ ค่ะ
 
ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ

จะทานผลไม้ทั้งที ต้องเลือกให้เป็นกันสักหน่อย เพราะนอกจากจะได้รสชาติที่อร่อย สด หอมหวานแล้ว ผลไม้ที่ดี ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วยนะคะ วันนี้เราเลยมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเลือกทานเลือกซื้อผลไม้ ชนิดต่างๆ มาฝากกันค่ะ

กล้วย
ขอแนะนำให้เลือกกล้วยที่ยังมีผลเป็นสีเขียวอยู่ ซึ่งช่วงเวลาที่กล้วยจะสุกกำลังดีให้สังเกตสีผลของกล้วยเริ่มมีสีเหลืองอร่าม โดยที่ขั้วยังมีสีเขียวอยู่หน่อยๆ ลักษณะนี้จะเป็นช่วงที่กล้วยยังมีเนื้อแน่นกำลังดี ไม่เละจนเกินไป

แตงโม
จะรู้ได้อย่างไรว่าแตงโมลูกไหนเนื้อแน่น ฉ่ำอร่อยกำลังดี ให้ทำตามวิธีนี้ค่ะ ลองดีดที่เปลือกแตงโมแล้วลองฟังเสียงดู ถ้าเสียงมีความแน่นหนักเป็นอันใช้ได้ นอกจากการลองดีดแล้วฟังเสียงแล้วให้ดูที่ขั้วของแตงโมที่ต้องมีลักษณะเพิ่งตัดออกมา ยังมีสีเขียวสดแสดงว่าเป็นผลที่สดใหม่ ไม่ช้ำ สามารถเลือกซื้อได้เลย

ทุเรียน
การเลือกทุเรียน มีวิธีการสังเกตอยู่หลายวิธี เริ่มจากให้ดูที่หนามทุเรียน เลือกหนามทุเรียนที่มีสีออกน้ำตาล จากนั้นลองใช้ก้านไม้เคาะที่เปลือกทุเรียน ลองฟังถ้ามีเสียงกลวงโปร่งแปลว่าผลเริ่มสุกกำลังดี วิธีต่อไปให้ลองดมกลิ่น ถ้าเริ่มได้กลิ่นหอมเป็นอันใช้ได้ค่ะ

เงาะ
วิธีการเลือกเงาะ ให้เริ่มดูที่ลักษณะภายในนอกของผลเงาะ ที่มีผลใหญ่สีแดงสดและขนสีเขียวสดไม่แห้ง จากนั้นลองจับที่ผลเงาะด้วยการบีบผลเบาๆ สัมผัสให้รู้สึกว่าเนื้อแน่นไม่มีรอยบุ๋ม

มังคุด
ให้เลือกผลที่ลักษณะแก่จัด จับที่เปลือกมังคุดต้องไม่แข็งมากจนเกินไป สีผิวมีลักษณะเข้ม ที่สำคัญอย่าลืมดูที่ขั้วเลือกมังคุดผลที่มีลักษณะขั้วสีเขียวสด กลีบเลี้ยงมีสีเขียวสดและเผยอออก

มะม่วงสุก
ใครที่ชื่นชอบมะม่วงสุก ต้องลองสังเกตก่อนเลือกซื้อทาน โดยเริ่มจากดูลักษณะของผิวให้มีสีเหลืองนวล ไม่เหี่ยวไม่ช้ำ จับที่ผลต้องไม่นิ่มจนเกินไป ควรเลือกผลที่ยังมีขั้วสดติดอยู่

กระท้อน
สีผลกระท้อนต้องมีสีเหลืองอมน้ำตาล ผิวมีลักษณะเปลือกบาง จากนั้นลองกดที่บริเวณรอบขั้วของกระท้อน ถ้ามีลักษณะเนื้อหนานุ่มเป็นอันใช้ได้ หากผ่ากระท้อนด้านใน สังเกตดูตรงเมล็ดให้มีลักษณะเป็นปุยฟูสีขาว

ส้มเขียวหวาน
ใครที่ชื่นชอบการทานส้มต้องฟังทางนี้เลยค่ะ วิธีการเลือกไม่ยากเลยค่ะ ให้สังเกตที่เปลือกของส้มเขียวหวานจะมีลักษณะผิวขรุขระเล็กน้อย มีลายเส้นสีน้ำตาล จะเป็นส้มที่มีรสหวานกว่าผลที่มีเปลือกเขียวสวยใสเพราะจะมีรสที่ค่อนข้างเปรี้ยว

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกผลไม้ที่เรานำมาฝากกัน แต่นอกจากการเลือกผลไม้อย่างถูกวิธีแล้วที่สำคัญคือการเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสมจะดีที่สุดค่ะ

ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ

“สละ” เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีรสชาติที่หวานอร่อยไม่แพ้ผลไม้ชนิดไหนเลย แต่ใครจะรู้ว่ามีประโยชน์มากมายด้วย สำหรับใครที่ชอบรับประทานผลไม้อย่างสละลองไปดูประโยชน์กันเลย

1. รักษาอาการท้องเสีย
การรับประทานสละสามารถช่วยบรรเทาอาการได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาแก้ท้องเสียแต่อย่างใด ถือเป็นผลไม้ที่พิเศษอย่างหนึ่งเลยเชียว

2. ช่วยบำรุงสายตา          
สารเบต้า-แคโรทีนที่อยู่ในสละ เป็นสารที่ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้วิตามินเอในสละ ก็ยังช่วยรักษาอาการตาบอดกลางคืน เพิ่มความคมชัดในการมองเห็นสำหรับผู้ที่มีอาการสายตาสั้นอีกด้วย

3. สละมีสารต้านอนุมูลอิสระ      
สละ เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยมีการศึกษาในมหาวิทยาลัยของมาเลเซียพบว่า ในสละมีสารฟีโนลิก และสารฟลาโวนอยด์ อันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็งชนิดต่างๆ รวมทั้งชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย

4. บำรุงสมอง          
สละ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ช่วยบำรุงสมอง เนื่องจากในสละนั้นมีโพแทสเซียมและสารเพคตินสูง ช่วยบำรุงสมองในส่วนของความจำให้สมองใส ใครที่ชอบมีปัญหาเรื่องความจำก็สามารถรับประทานสละเข้าไปเสริมกับอาหารอื่นๆ ได้

5. บรรเทาความเหน็ดเหนื่อย     
วิตามินเอในสละ นอกจากจะบำรุงสายตาได้แล้ว ก็ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหรือเล่นกีฬาได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบภายในร่างกายที่เกิดมาจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

ที่มา : Tesco Lotus