เก็บตกบรรยากาศความประทับใจ ทัวร์ ออกพระเพทราชา “ฮีโร่” แห่งกรุงศรีฯ จ.สุพรรณบุรี-พระนครศรีอยุธยา กับมติชนอคาเดมี เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. และ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา

โดยบรรยากาศผู้ร่วมทัวร์ one day trip ไปกับเราทั้ง 2 ครั้งเต็มอิ่มไปกับสาระความรู้ประวัติศาสตร์ในยุคพระเพทราชา ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง

ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับทัวร์ ออกพระเพทราชา “ฮีโร่” แห่งกรุงศรีฯ รอบแรก ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเต็มอิ่มสาระความรู้ประวัติศาสตร์กันอย่างเต็มที่ แต่ด้วยกระแสเรียกร้องให้จัดอีกรอบ มติชนอคาเดมีจึงจัดทัวร์รอบ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561

แต่ก่อนจะไปทัวร์ ลองมาดู 4 เกร็ดประวัติศาสตร์น่าค้นหาในทัวร์ตามรอยออกพระเพทราชากัน!

1.ถิ่นกำเนิดพระเพทราชา

หลักฐานที่มีอยู่ในพงศาวดารบอกว่า พระเพทราชานั้นเป็นคนบ้านพลูหลวง ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี เป็นชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรีขึ้นไปทางเหนือ อาจจะนอกกำแพงเมืองสุพรรณบุรีออกไปนิดหนึ่ง แต่ก็ถือว่าอยู่ในอำเภอเมือง

อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์บางคนสันนิษฐานว่าไม่น่าจะใช่ เพราะไม่หลังจากที่พระองค์ขึ้นครองราชย์แล้ว กลับไม่มีสิ่งก่อสร้างใดๆ ในยุคของพระองค์เลย ซึ่งถ้าหากสุพรรณบุรีเป็นบ้านเกิดจริง พระองค์น่าจะมาสร้างสิ่งปลูกสร้างที่นี่บ้างหลังขึ้ครองราชย์ กระนั้น ก็เชื่อกันว่าพระองค์น่าจะมีเชื้อสายจากสุพรรณบุรีอยู่บ้าง เพราะในพงศาวดารระบุว่า หลังจากที่พระองค์ขึ้นครองราชย์แล้ว มีพระญาติจากสุพรรณบุรีมาขอเข้าเฝ้า

2.ชายผู้นอนกรนเป็นเสียงดนตรี

หนึ่งในตำนานที่เกี่ยวข้องกับพระเพทราชาคือเรื่องเล่าที่วัดกุฎีทอง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยตำนานนั้นเล่าอยู่ว่า ครั้งหนึ่งในช่วงก่อนพระเพทราชาขึ้นครองราชย์ มีชายมานอนหลับที่วัดแห่งนี้ และชายคนดังกล่าวนอนกรนเป็นเสียงดนตรี เจ้าอาวาสที่นี่เลยทำนายไว้ว่าจะได้เป็นใหญ่ต่อไป ซึ่งชายคนนั้นก็บอกว่า ถ้าได้เป็นใหญ่จริงจะกลับมาสร้างกุฏิ หรือกุฎีทองถวาย ซึ่งเมื่อพระเพทราชาได้ปกครองแผ่นดิน พระองค์ก็ทรงมาสร้างกุฏิถวายที่นี่จริงๆ โดยสมเด็จมาบนเสลี่ยงคานหาม มีการจัดพิธีฉลองสมโภชน์ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเสด็จกลับก็ทรงลืมไว้ ทางวัดจึงจัดเก็บไว้ และจัดแสดงให้ดูในปัจจุบัน

3.ยุคสมัยของพระเพทราชา ยังมีการส่งทูตไปฝรั่งเศส

หลายคนเข้าใจว่าหลังสิ้นแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยาและฝรั่งเศสเป็นอันขาดสะบั้นลง แต่ในพงศาวดารระบุว่า พระเพทราชาก็ยังส่งทูตไปฝรั่งเศส ซึ่งแปลว่าท่านยังสืบสานในสิ่งที่พระนารายณ์ทำ ไม่ว่าจะเป็นทูตก็ยังรับอยู่ พ่อค้าก็ยังรับอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างสยามและฝรั่งเศสไม่ได้จบลง มีแค่ทหารที่ต้องออกไป มิชชั่นนารีถูกปล่อยตัวออกมา พ่อค้าก็ยังทำการค้าได้เหมือนเดิม และคงไม่มีใครที่จะไปตัดตอนการค้าได้ เพราะเป็นท่อน้ำเลี้ยงของอยุธยานั่นเอง

4.”ออกพระเพทราชา” เป็นแค่ชื่อตำแหน่ง

การเข้ามามีบทบาทในราชสำนักกรุงศรีอยุธยาของพระเพทราชานั้น พบว่าพระองค์เข้ามาดำรงตำแหน่งในกรมช้าง ที่มีชื่อตำแหน่งว่า “พระเพทราชาธิบดีศรีสุริยาภิชาติสุริยวงษ์องคสมุหะฯ” และเป็นชื่อตำแหน่งที่ใช้กันมาจนถึงยุคกรุงรัตนโกสินทร์ แต่พระนามของพระองค์หลังขึ้นครองราชย์นั้นคือ พระบาทสมเด็จพระมหาบุรุษวิสุทธิเดชอุดม เพราะในมุมมองหนึ่ง การที่พระองค์ขับไล่ฝรั่งเศสออกไป ทำให้พระองค์กลายเป็น “พระเอกขี่ม้าขาว” หรือ “ฮีโร่” ในสายตาชาวกรุงศรีอยุธยา ได้รับการขนานนามเป็น “พระมหาบุรุษ” ปกปักพระพุทธศาสนา ช่วยกอบบ้านกู้เมืองให้พ้นจากการตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส

แล้วทำไมเราถึงยังเรียกพระองค์ว่าพระเพทราชา? การปฏิวัติแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ของพระองค์ส่งผลดีหรือผลเสียกันแน่? มติชนอคาเดมีชวนไปค้นคว้าค้าหาร่องรอยประวัติศาสตร์ ในทัวร์ ออกพระเพทราชา “ฮีโร่” แห่งกรุงศรีฯ จ.สุพรรณบุรี-พระนครศรีอยุธยา รอบ 2 วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561 นี้ ราคา 2,700 บาท (อ่านรายละเอียดการเดินทางได้ที่ https://www.matichonacademy.com/content/article_15932)

สนใจติดต่อ มติชนอคาเดมี Inbox : Facebook Matichon Academy Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105 line : @matichonacademy

หลักฐานที่มีอยู่ในพงศาวดารชี้ไว้ว่า พระเพทราชาเป็นคนสุพรรณบุรี ถึงแม้เรื่องราวของพระองค์ใน จ.สุพรรณบุรี จะมีไม่มากนัก แต่หนึ่งในร่องรอยที่เกี่ยวกับพระเพทราชาที่เห็นอยู่ก็คือ “เสลี่ยงคานหาม” ที่ “วัดกุฎีทอง” อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีเรื่องเล่าตำนานเกี่ยวกับพระเพทราชาอยู่ว่า

“ครั้งหนึ่งในช่วงก่อนพระเพทราชาขึ้นครองราชย์ มีชายมานอนหลับที่วัดแห่งนี้ และชายคนดังกล่าวนอนกรนเป็นเสียงดนตรี เจ้าอาวาสที่นี่เลยทำนายไว้ว่าจะได้เป็นใหญ่ต่อไป ซึ่งชายคนนั้นก็บอกว่า ถ้าได้เป็นใหญ่จริงจะกลับมาสร้างกุฏิ หรือกุฎีทองถวาย ซึ่งเมื่อพระเพทราชาได้ปกครองแผ่นดิน พระองค์ก็ทรงมาสร้างกุฏิถวายที่นี่จริงๆ โดยสมเด็จมาบนเสลี่ยงคานหาม มีการจัดพิธีฉลองสมโภชน์ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเสด็จกลับก็ทรงลืมไว้ ทางวัดจึงจัดเก็บไว้”

ปัจจุบันเสลี่ยงคานหามดังกล่าวถูกบูรณะซ่อมแซมและทางวัดได้นำออกมาแสดงให้ผู้คนทั่วไปได้ชม โดยเสลี่ยงนี้จัดแสดงอยู่บนกุฏิไม้โบราณหลังใหญ่ภายในวัด ซึ่งบนกุฏิยังจัดเก็บวัตถุโบราณหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องลายครามโบราณ, หนังใหญ่ เป็นต้น

ในบริเวณพื้นที่ 30 ไร่ของวัดกุฎีทองยังอาคารต่างๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือตำหนักสมเด็จพระเพทราชา ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2540 อีกด้วย

สำหรับ “วัดกุฎีทอง” นั้นจะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทัวร์ ออกพระเพทราชา “ฮีโร่” แห่งกรุงศรีฯ จะพาทุกคนไปเยือน พร้อมฟังเรื่องราวในยุคสมัยของออกพระเพทราชา ตั้งแต่ว่าพระองค์เป็นใครมาจากไหน ไปจนถึงเรื่องการเมือง และการเสด็จขึ้นครองราชย์ จาก รศ.ดร.ปรีดี พิศภูมิวิถี อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ม.มหิดล มาเป็นวิทยากร

กำหนดเดินทาง รอบสอง วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2560

สนใจติดต่อ มติชนอคาเดมี

Inbox : Facebook Matichon Academy

Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124

Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105

line : @matichonacademy

คลิกอ่านรายละเอียดการเดินทางได้ที่ https://www.matichonacademy.com/content/article_15932