ไข่ ถือเป็นวัตถุดิบที่แทบจะทุกบ้านต้องมีติดครัวไว้ เพราะไข่สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย แถมมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน, ไขมัน, แคลเซียม, วิตามิน A, ไอโอดีน และคอเลสเตอรอล อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า ไข่มีคอเลสเตอรอล แล้วทานไข่มากๆ จะดีหรือเปล่า? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันค่ะ ว่าไข่แต่ละชนิด มีคอเลสเตอรอลเท่าไหร่กันบ้าง เพื่อให้ทุกคนได้เลือกทานไข่ให้เหมาะสมในแต่ละวันค่ะ

วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการของไข่ จาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มาฝากค่ะ

ข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการของไข่ เปรียบเทียบต่อ 100 กรัม

คุณค่าทางโภชนาการ                                 ไข่เป็ด                                      ไข่นกกระทา                               ไข่ไก่

พลังงาน                                                        178 กิโลแคลอรี                    171 กิโลแคลอรี                        143 กิโลแคลอรี

โปรตีน                                                           13.03 กรัม                            13.30 กรัม                                12.77 กรัม

ไขมัน                                                              13.35 กรัม                            12.00 กรัม                                 9.65 กรัม

แคลเซียม                                                       98 มิลลิกรัม                          153 มิลลิกรัม                           70 มิลลิกรัม

วิตามิน A                                                      269 ไมโครกรัม                     143 ไมโครกรัม                         182 ไมโครกรัม

ไอโอดีน                                                          52 ไมโครกรัม                        –  ไมโครกรัม                             49 ไมโครกรัม

คอเลสเตอรอล                                             543 มิลลิกรัม                        508 มิลลิกรัม                          427 มิลลิกรัม

จากข้อมูลด้านบนจะเห็นว่า ไข่ที่มีปริมาณคอเลสเตอรอลสูงที่สุดคือ ไข่เป็ด ตามมาด้วยไข่นกกระทา และไข่ไก่ แต่อย่างไรก็ตามไข่ทุกชนิดก็ยังมีคุณค่าทางสารอาหารต่างๆ อยู่มาก ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น หากเราเลือกรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน

สำหรับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ไม่ควรทานเกิน 3 ฟองต่อสัปดาห์ หรือทานตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนผู้ป่วยโรคอื่นๆ สามารถทานไข่ได้วันละ 1 ฟอง หรือตามแพทย์สั่ง

ไข่ เป็นอาหารหลักของคนหลายเชื้อชาติทั่วโลก สามารถนำไปประกอบอาหารได้สารพัดเมนู ไม่ว่าจะของคาวของหวาน ในหนึ่งวันสิ่งที่เรารับประทานเข้าไปไม่มากก็น้อยล้วนมีส่วนประกอบเป็นไข่ เมื่อรอบตัวเรารายล้อมไปด้วยอาหารจากไข่ จึงมีหลายคนที่เกิดความกังวลและอาจเคยได้ยินว่า รับประทานไข่มากเกินไปทำให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้น ไม่ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่

  • มหาวิทยาลัย North Carolina สหรัฐอเมริกา สนับสนุนให้กินไข่ทุกวัน เพราะเป็นแหล่งสารอาหารที่ถูกมาก โดยเฉพาะโคลีนที่มีมากในไข่แดง ซึ่งช่วยให้ระบบเซลล์สื่อประสาททำงานได้ดี เพิ่มประสิทธิภาพด้านการจดจำ
  • กินไข่ทำให้คอเลสเตอรอลชนิดดีอย่าง HDL เพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ การมี HDL สูงทำให้อัตราส่วนคอเลสเตอรอลรวม กับ HDL ดีขึ้น สัดส่วนที่ดีหมายถึง การเอาคอเลสเตอรอลรวมหารด้วย HDL ค่าที่ดีควรอยู่ที่ 2-3 ในผู้หญิง และ 3-4 ในผู้ชาย
  • กินไข่ไม่ทำให้อ้วน จากการติดตามศึกษากลุ่มคนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นไข่ เทียบกับกลุ่มที่รับประทานซีเรียลและขนมปัง เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่กินไข่เป็นอาหารเช้าจะมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยต่ำกว่าอีกกลุ่ม เป็นเพราะโปรตีนจากไข่ทำให้ร่างกายค่อย ๆ ย่อยเป็นพลังงานอย่างช้าๆ ไม่เหมือนกับการกินคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันที่จะย่อยเร็วกว่า จึงทำให้หิวเร็วกว่าและรับประทานซ้ำมากกว่า
  • แม้ว่าไข่จะมีคอเลสเตอรอลสูงถึง 200 มิลลิกรัม แต่สมาคมโรคหัวใจของอเมริกาได้ให้ข้อกำหนดว่าเราควรกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้นเราจึงกินไข่วันละฟองได้ไม่มีปัญหา
  • มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ทำการศึกษาว่า การกินไข่มากกว่าวันละฟองไม่ทำให้ความเสี่ยงของโรคหัวใจเพิ่มขึ้น แต่การปฏิเสธไม่กินไข่เลย หรือเลือกกินเฉพาะไข่ขาวไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ เพราะร่างกายหากได้รับคอเลสเตอรอลไม่เพียงพอ ก็จะพยายามผลิตออกมาเอง ซึ่งอาจจะมากกว่าการกินเข้าไปเสียอีก
  • ไข่มีโปรตีนสูง เราอาจหาแหล่งโปรตีนสูงจากพืชตระกูลถั่วได้ แต่ถั่วมีกรดอะมิโนที่จำเป็นบางชนิดไม่เพียงพอ ความสมดุลของกรดอะมิโนในถั่วจึงต่ำกว่าในไข่มาก ดังนั้น การกินโปรตีนจากไข่เพียงวันละฟองก็ทำให้ร่างกายได้รับกรดอะมิโนที่สมดุลต่อความต้องการ และโปรตีนในไข่ยังมีสารภูมิคุ้มกันโรคที่เรียกว่า IgY ที่ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคได้อีกด้วย
  • ในไข่มีแร่ธาตุที่เรียกว่า ซีลีเนียม เป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ถึงแม้ว่าร่างกายจะต้องการในปริมาณไม่มากนักก็ตาม โดยเมื่อแร่ธาตุซีลีเนียมรวมตัวเข้ากับโปรตีน จะทำให้เกิด “ซีลีโนโปรตีน” ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีความสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระตัวหนึ่ง ช่วยชะลอวัย ทั้งยังป้องกันโรคความจำเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ได้ โดยในไข่ไก่ 1 ฟอง มีซีลีเนียมมากถึง 1 ใน 4 ของปริมาณที่ร่างกายของคนเราต้องการในแต่ละวัน

ที่มา : แม่บ้าน

“ไข่” มักมีความสัมพันธ์กับอาหารเช้าและให้โปรตีนแก่ร่างกาย ไข่ขนาดใหญ่หนึ่งฟอง มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น 13 ชนิดและโปรตีนคุณภาพสูงทั้งหมด 70 แคลอรี่ นอกจากนี้การวิจัยทางโภชนาการชี้ให้เห็นว่า “ไข่” มีบทบาทในการควบคุมน้ำหนัก ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ การทำงานของสมอง สุขภาพของดวงตาและอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งไข่ลวก ไข่คน ไข่ตุ๋น รวมไปถึงไข่ที่ต้มสุก ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ส่งผลดีต่อร่างกาย แต่ก็ควรกินให้ถูกจึงจะได้ประโยชน์จากไข่อย่างเต็มที่

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับไข่

พญ. กัญจณี ธนะแพสย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน อายุรศาสตร์ รพ. สมิติเวช สุขุมวิท ระบุว่า “ไข่” นั้นมีสารอาหาร 2 ชนิดที่สำคัญสำหรับสุขภาพสมอง ประกอบไปด้วย โคลีน และ ลูทีน โคลีนมีบทบาทในการพัฒนาสมองของทารกในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ในสมองที่ใช้สำหรับเป็นหน่วยความจำและสำหรับเรียนรู้ ในขณะเดียวกัน ลูทีนก็มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของดวงตาและมีบทบาทต่อการรับรู้ด้วยเช่นกัน อ้างอิงจากนักวิจัยของ University of Illinois แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างลูทีนในสมองโดยวัดจากการทดสอบสายตาที่ เรียกว่า Macular Pigment Optical Density (MPOD) และการรับรู้ในเด็ก นักวิจัยพบว่า MPOD มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลการเรียน

ประโยชน์ของไข่ คนเรากินไข่ได้วันละกี่ฟอง

ไข่อาจมีปริมาณคลอเรสเตอรอลค่อนข้างสูง แต่ไม่มีผลกระทบต่อระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย

ไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมายรวมไปถึง วิตามินเอ วิตามิน B และ B-12 วิตามินดี ไอโอดีน โฟเลต โอเมก้า 3 อีกทั้ง “ไข่” ยังมีราคาไม่แพง หาซื้อง่าย และวิธีที่ดีที่สุดในการกินไข่คือการต้ม การรับประทานไข่วันละหนึ่งถึงสามฟอง มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง แต่จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

การกินไข่ กับโรคเบาหวานชนิดที่ 2

จากการศึกษาแบบสุ่มในผู้ที่มีภาวะ metabolic syndrome แสดงให้เห็นว่าผู้ที่บริโภคไข่ 3 ฟองต่อวัน ส่งผลให้มีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี ในเรื่องของ HDL-cholesterol, insulin sensitivity และอีกกรณีศึกษาเกี่ยวกับการลดน้ำหนักแบบควบคุมในผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้รับการวินิจฉัยพบว่า ไขมันและกลูโคสดีขึ้นหลังจากบริโภคไข่วันละ 2 ฟองเป็นเวลา 12 สัปดาห์ อาหารเช้าที่ทำจากไข่อุดมไปด้วยโปรตีน (พลังงาน 35%; โปรตีนไข่ 26.1 กรัม) จะช่วยส่งเสริมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2

การกินไข่ กับโรคอ้วน

โรคอ้วนถือเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดได้จากหลายปัจจัยและซับซ้อน คำแนะนำในปัจจุบันสำหรับการควบคุมน้ำหนักคือการส่งเสริมการออกกำลังกายพร้อมกับการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ โดยรวมถึงธัญพืช ผลไม้ ผัก โปรตีน และ ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำหรือปราศจากไขมัน อีกทั้งบริโภคโปรตีนคุณภาพสูงจากไข่ที่ส่งผลต่อความอิ่ม ในขณะเดียวกันก็มีผลต่อการลดน้ำหนักด้วย ในวัยผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกิน เปรียบเทียบระหว่างผู้ที่นิยมรับประทานเบเกิล และไข่เป็นอาหารเช้า แสดงให้เห็นว่าผู้ที่บริโภคไข่รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีดัชนีมวลกายลดลง 61% และน้ำหนักลดลง 65% จากการทดลองเป็นระยะเวลา 3 เดือนในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ผู้ที่บริโภคไข่ 2 ฟองต่อวันเป็นเวลา 6 วันต่อสัปดาห์นั้นมีรายงานว่าความหิวนั้นลดลงและรู้สึกอิ่มเร็วมากขึ้นกว่าผู้ที่บริโภคไข่ น้อยกว่า 2 ฟองต่อสัปดาห์

กลุ่มคนที่ต้องระวังการบริโภคไข่

คนที่ต้องระวังเรื่องการบริโภคไข่เป็นพิเศษ และควรบริโภคไข่ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์หรือบริโภคแค่ไข่ขาวเท่านั้น ได้แก่

  • ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
  • ผู้สูงอายุ
  • ผู้ป่วยไขมันในเลือด

ไข่ มีประโยชน์ แต่ก็ควรเลือกกินให้ถูกโดยเฉพาะกรรมวิธีในการประกอบอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงการทอดด้วยน้ำมันเพราะอาจทำให้ระดับคอเลสตอรอลสูงได้ แทนที่จะได้ประโยชน์ กลับกลายเป็นเกิดโทษ จากการบริโภคไข่แทน

ที่มา : Sanook.com

สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ และแน่นอนว่าโรคภัยไข้เจ็บ ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด เราเลยอยากจะมาแนะนำอาหารที่เหมาะสำหรับคนกำลังไม่สบาย ที่คุณแม่บ้านหาได้ง่ายๆ ในซูเปอร์มาร์เก็ต เหมาะสำหรับนำไปเป็นส่วนประกอบในช่วงที่ต้องดูแลสมาชิกภายในครอบครัว

1. ซุปไก่ ถือเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับคนป่วย เพราะช่วยรักษาอาการคัดจมูก คลื่นไส้ และเวียนหัวได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยรักษาโรคไข้หวัด รับประทานง่ายเหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอมากๆ จนไม่สามารถกลืนอาหารได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการอักเสบในระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย

2. กระเทียมและหัวหอม รวมไปถึงต้นหอม แม้จะเป็นอาหารที่มีกลิ่นฉุน แต่ก็สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและมีฤทธิ์ต่อต้านไวรัส นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการคัดจมูกได้เป็นอย่างดี โดยมีการวิจัยพบว่า การรับประทานกระเทียมเป็นเวลา 12 สัปดาห์ จะช่วยทำให้มีสุขภาพที่ดีและลดไข้หวัดได้ดีกว่าคนที่รับประทานยาเสียอีกนะ

3. ผลไม้และผักใบเขียว ผลไม้หรือผักสดเป็นอาหารจำพวกวิตามินซีสูงช่วยลดอาการไข้หวัดได้ โดยเฉพาะผักใบเขียว ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 130% ของปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน และยังมีวิตามินเอ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยต่อต้านไข้หวัดได้เป็นอย่างดี

4. เนื้อปลาและหอย เนื้อปลาและหอยทุกชนิด เป็นอาหารทะเลที่มีไขมันโอเมก้า 3 สูงมาก เจ้ากรดไขมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยเฉพาะคนที่กำลังเป็นไข้หวัด เพราะจะช่วยลดอาการอักเสบ สาเหตุทำให้ภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอ นอกจากนี้หอยนางรมยังมีแร่ธาตุสังกะสีสูงทำหน้าที่ช่วยป้องกันเชื้อไวรัส ส่วนอาหารจำพวกเนื้อปลายังเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและย่อยง่ายอีกด้วย

5. ดาร์กช็อกโกแลต หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าผงโกโก้ในช็อกโกแลตนั้นมีประโยชน์กับร่างกาย เนื่องจากผงโกโก้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยต่อสู้กับโรคต่างๆ เช่น ฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลตเพิ่มระดับไนตริกออกไซด์ในร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนดีและรักษาระดับความดันเลือด แถมสารในโกโก้ยังมีส่วนสำคัญในการยับยั้งอาการไอได้อีกด้วย

6. ถั่วและเมล็ดพืช อย่างเช่น อัลมอนต์ ถั่วลิสง เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม มีสารอาหารจำพวกสังกะสีอยู่มาก แถมยังมีวิตามินอีสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยต่อสู้กับไข้หวัดและทำให้หายป่วยได้เร็วขึ้น ถ้าใครกำลังไม่สบายก็ลองหาถั่วมารับประทานได้ แต่แนะนำว่าควรเลี่ยงถั่วคั่ว ถั่วอบเกลือ และถั่วทอดที่มันมากๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะยิ่งทำให้ไอหนักกว่าเดิม

ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมล่ะ ว่าถ้ารู้จักเลือกอาหารที่มีประโยชน์ แถมเป็นสิ่งที่เราหาได้ใกล้ๆ ตัว นอกจากจะช่วยให้หายจากอาการไม่สบายเร็วขึ้นแล้ว ยังทำให้สุขภาพของคุณและคนที่คุณรักแข็งแรงทั้งกายใจเลย

ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ

อยู่ในครัวแบบนี้ ใครว่าจะไม่มีอะไรสนุกๆ ทำนอกจากการทำอาหาร เพราะวันนี้เรามีเรื่องน่ารู้ ทายนิสัยจากเมนู “ไข่” ที่เราชอบทานกันนี่แหละค่ะ ใครชอบทานไข่เมนูไหน แล้วจะบ่งบอกความเป็นตัวคุณได้อย่างไรกันบ้าง? มาสนุกไปพร้อมๆ กันกับ “ไข่” ทายนิสัย เมนูไหนใช่คุณ?

ไข่ดาว
เช้ามาก็เห็นหลายบ้านจัดเมนูไข่ดาวเสิร์ฟเป็นอาหารเช้าแสนอร่อย ทำง่าย ไม่เสียเวลา เหยาะซอสเข้าหน่อยก็อร่อยดี ถ้าคุณติดเมนูไข่ดาวแบบนี้แล้วละก็ บอกเลยว่าคุณเป็นคนประเภทชอบมีความพยายาม มุ่งมั่น แสวงหาสิ่งใหม่ๆ และกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ไม่พลาดที่จะหาโอกาสดีๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ อะไรที่ว่าท้าทายความสามารถของคุณขอให้บอกได้เลย เพราะคุณน่ะไม่เคยกลัวและกล้าเผชิญหน้ากับทุกเรื่องในชีวิต ในมุมมองด้านความรัก คุณมักคิดว่าคุณจะต้องมีสิทธิ์เป็นฝ่ายเลือกอยู่เสมอ ถ้าไม่ได้คนในอุดมคติก็อย่าหวังว่าคุณจะปันใจให้อะไรง่ายๆ เพราะคุณแน่วแน่กว่าที่คิด

ไข่ต้ม
เมนูอร่อยและเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่รักสุขภาพเป็นหลักอย่าง “ไข่ต้ม” ที่ผ่านกรรมวิธีปรุงสุกแบบไม่ใช้น้ำมัน

ไม่ต้องกังวลเรื่องความอ้วน ทานดีสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก ที่สำคัญยังเอาไปทานเคียงกับเมนูอื่นๆ ได้อีกเพียบ ใครที่ติดการทานไข่ต้มเป็นชีวิตจิตใจ ว่ากันว่าคุณน่ะเป็นคนที่มีความอดทนสูงมากๆ หากต้องการทำอะไรก็มุ่งมั่นเพื่อให้สิ่งนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ไม่เคยทิ้งอะไรไว้ครึ่งๆ กลางๆ แน่นอน ข้อดีอีกหนึ่งข้อของคุณก็คือการเป็นคนที่ค่อนข้างใช้สติและใจเย็นในการตัดสินใจ คุณเลือกฟังเหตุผลในหลายๆ ส่วนนำมาประกอบกันก่อนที่จะคิดหรือตัดสินว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดี ทำให้หลายๆ คนมองว่าคุณมีความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเองสูง

ไข่เจียว
แค่ได้กลิ่นหอมๆ ของไข่เจียวก็ไม่ต้องคิดถึงเมนูอื่นๆ ให้ยุ่งยากแล้วค่ะ เจอไข่เจียวร้อนๆ กับข้าวสวยนุ่มๆ เข้าไปก็ฟินสุดๆ หากคุณเป็นสาวกไข่เจียวละก็ บอกได้เลยว่าคุณเป็นคนที่ค่อนข้างมีระเบียบวินัยในตัวเอง มีความคิดที่เป็นระบบระเบียบ มีการวางแผนในชีวิต คิดว่าจะทำอะไรก่อนหลังอยู่เสมอ แม้ว่าหลายคนมองว่าไข่เจียวเป็นเมนูสิ้นคิดที่เวลานึกอะไรไม่ออกก็ต้องกิน แต่จริงๆ แล้วคนแบบคุณนี่แหละที่วางแผนและคิดมาดีที่สุดแล้ว ที่สำคัญคุณยังมีใจรักความยุติธรรมเป็นที่สุด ไม่ลำเอียงต่อความรู้สึกส่วนตัว ทำให้หลายๆ คนที่อยู่รอบข้างมีความไว้เนื้อเชื่อใจคุณมากเป็นพิเศษ

ไข่ตุ๋น
เมนูไข่ที่เน้นความนุ่มละมุน ได้รสสัมผัสอ่อนๆ ทานง่ายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ใครหลงรักความเนียนนุ่มของ “ไข่ตุ๋น” บอกได้เลยว่าคุณเป็นคนที่ร่าเริง ชอบเข้าสังคมเพื่อพบเจอสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เป็นคนนิสัยน่ารักช่างเอาอกเอาใจ เสียแต่ว่าบางครั้งนั้นแอบเอาแต่ใจตัวเองไปบ้าง พื้นฐานตัวตนของคุณนั้นเป็นพวกช่างจินตนาการ คิดนอกกรอบไม่เหมือนใคร และรักความสวยความงามเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย แอบบอกว่าเทคนิคในการง้อคนนิสัยแบบไข่ตุ๋นนี้ ก็คือการปลอบประโลมเขาอย่างใจเย็น จับมือหรือกอดเพื่อให้สัมผัสถึงความรักและความหวังดี เท่านี้คนแบบไข่ตุ๋นก็ใจอ่อนลงแล้วค่ะ

ไข่ลวก
เช้ามาทาน “ไข่ลวก” เสริมพลังงานสักหน่อย ติดจนขนาดที่ว่าทานได้ทุกวัน ถ้าคุณเป็นสายไข่ลวก ทำนายได้เลยว่าคุณเป็นคนชอบความรวดเร็วทันใจในทุกๆ เรื่อง มีไหวพริบดีเยี่ยมและดูกระปรี้กระเปร่าตลอดเวลา คุณชอบมีความคิดเป็นของตัวเอง หลายครั้งจึงมีมุมมองที่แตกต่างออกไปจากกลุ่มเพื่อน แต่คุณก็สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม เหมือนสุภาษิตที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” ในด้านความรักคุณน่ะเป็นคนปากหนักปากแข็งเป็นที่หนึ่ง จะบอกรักใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และก็ไร้ซึ่งความโรแมนติก

เพราะคุณแค่คิดว่าสำหรับเรื่องความรักคือการเข้าใจซึ่งกันและกัน นั่นคือส่วนสำคัญที่สุดในการอยู่ร่วมกัน เชื่อว่าถ้าสักวันหนึ่งคุณแอบทำอะไรโรแมนติกกับคนที่คุณรัก รับรองว่าเขาต้องประทับใจสุดๆ แน่นอน

ไข่ลูกเขย
ถ้าคุณมีเมนูโปรดเป็นเมนูอาหารคาวแต่รสชาติแสนหวานอย่าง “ไข่ลูกเขย” นั้น ว่ากันว่าคุณเป็นคนแอบหวาน มีความโรแมนติกเบาๆ และมองโลกในแง่ดีมาก ๆ คุณเป็นคนมีจินตนาการสูง มีอารมณ์สุนทรีย์และรักธรรมชาติเป็นที่สุด ไม่ชอบความวุ่นวายหรือการเข้าสังคมที่ต้องปั้นหน้า เพราะคุณฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณไม่ไหวจริงๆ หลายครั้งที่คุณมักจะทำอะไรเล็กๆ น้อย ๆ เพื่อคนที่คุณรักเพื่อให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความหอมหวานอยู่เสมอ นี่แหละที่เป็นสิ่งมัดใจคนรักได้แบบอยู่หมัดโดยคุณไม่ต้องทำอะไรมากมาย แค่เป็นตัวคุณเท่านี้ก็น่ารักมากๆ แล้ว

ไข่พะโล้
เมนูโปรดสำหรับเด็กๆ ที่ติดมายันโต เชื่อว่าเป็นเมนูทำบ่อยสำหรับหลาย ๆ บ้านอย่างแน่นอน ก็ต้องยกให้ “ไข่พะโล้” สุดอร่อยใช่ไหมละคะ ถ้าคุณติดการทานไข่พะโล้แถมยังไม่เคยเบื่ออีกต่างหาก ขอบอกเลยว่าคุณเป็นคนที่ค่อนข้างรักอิสระ ไม่ชอบอยู่ในกรอบที่ใครวางเอาไว้ให้ เพราะคุณจะแหกกรอบออกมาอย่างแน่นอน ถึงแม้ภายนอกคุณจะดูเป็นคนรักสนุก แต่ลึกๆ ในความคิดของคุณนั้นมีหลายอย่างที่ค่อนข้างซับซ้อน จนทำให้บางครั้งคุณแอบโลเล ไม่กล้าตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ในด้านของความรักเรียกได้ว่าคุณน่ะเจ้าชู้ไม่เบา ชอบหว่านเสน่ห์อยู่เสมอเลยแหละ และสิ่งที่ทำให้คุณมักจะเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าคุณกลัวความเหงาเอามากๆ ลองมองหาความรักที่ดีสำหรับคุณและหยุดที่เขาคนนั้นรับรองว่าคุณจะไม่เหงาอีกต่อไป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเมนู “ไข่” ทายนิสัยที่เรานำมาฝากกัน ชอบไข่แบบไหน แล้วลองอ่านแบบทายนิสัยกันดูว่าจะตรงกับคุณหรือไม่ แล้วมาแชร์ให้เราฟังกันได้เลยนะคะ ที่สำคัญอย่าลืมทานไข่เป็นประจำทุกวันจะยิ่งดี เพราะไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่ให้ประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงสมอง เสริมสร้างพัฒนาการต่างๆ แถมยังช่วยในเรื่องการคลายเครียดได้ดีอีกต่างหาก รู้แบบนี้ก็จัดไข่เตรียมไว้สำรองที่บ้าน ทำทานอร่อยได้ทุกมื้อทั้งครอบครัวค่ะ

ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ

รวมเคล็ดลับเมนูไข่

Tips & Tricks สารพันเกร็ดน่ารู้

การทำอาหารเมนูต่างๆ เชื่อว่าวัตถุดิบหลักของแทบทุกบ้านคงหนีไม่พ้น “ไข่ไก่” วัตถุดิบสารพัดประโยชน์ที่ทำได้หลากหลายทั้งคาวและหวานทั้งอาหารไทยและเทศ หรือจะกลายเป็นเมนูคลายหิวในวันสิ้นเดือน การทำเมนูไข่ให้อร่อยได้ดั่งใจ มีเคล็ดลับง่ายๆ ซึ่งในวันนี้เราได้รวบรวมมาฝากกัน

 1. การเลือกไข่ไก่

นอกจากเรื่องความสะอาดแล้ว ไข่ไก่ที่ดีต้องมีลักษณะฟองกลมใหญ่ น้ำหนักมาก เปลือกหนา ผิวหยาบ จับไม่ลื่นมือ เมื่อนำไข่ไปส่องกับแสง ถ้าเห็นแสงสว่างทั่วทั้งฟองและมีสีแดงเล็กน้อยแสดงว่าเป็นไข่คุณภาพ เมื่อหมุนไข่ไปมาไข่แดงจะต้องหมุนตามไปด้วยเสมอ เพื่อความชัวร์ลองหยิบไข่ในตู้เย็นมาตอกดู ไข่ที่ดีจะมีไข่แดงลักษณะกลมนูน สีเหลืองอมส้ม ไข่ขาวเกาะตัวกัน ส่วนฟองไหนที่ไข่แดงมีสีส้มเข้มผิดปกติ อย่าเผลอทานเข้าไปเชียวเพราะผู้เลี้ยงอาจแอบผสมสารเร่งสี

2. เคล็ดลับการต้มไข่

ถ้าอยากได้ไข่ต้มฟองเนียนสวย เทคนิคง่ายๆ เพียงแค่โรยเกลือลงไปในน้ำเล็กน้อย จะช่วยไม่ให้เปลือกร้าว เมนูยอดฮิตอย่าง ไข่ยางมะตูม ที่มีไข่แดงเยิ้มๆ ควรต้มด้วยไฟระดับกลาง ทิ้งไว้ประมาณ 4 นาที แต่ถ้าไม่ชอบแบบเยิ้มมากให้เพิ่มเวลาเป็น 6 นาที ส่วนกลางของไข่แดงจะเยิ้มนิดๆ กำลังดี

3. เคล็ดลับต้มไข่ออนเซ็น

ส่วนใครที่ชอบสัมผัสอ่อนนุ่มของไข่ออนเซ็น ต้องเลือกใช้ไข่ไก่ในอุณหภูมิห้องเท่านั้น เทคนิคสำคัญของการต้มไข่ออนเซ็น คือ “แป้งมัน” ให้ผสมแป้งมันลงไปในน้ำเดือด จากนั้นให้ ปิดไฟ แล้วหย่อนไข่ลงไปทันทีจากนั้นรอประมาณ 12-15 นาที แป้งมันจะช่วยไม่ให้ความร้อนเข้าถึงไข่เร็วเกินไป ทำให้ได้ไข่กึ่งดิบ กึ่งสุก

4. เคล็ดลับทอดไข่ดาว

เทคนิคง่ายแสนง่ายที่จะทำให้การทอดไข่ดาวออกมาสวยงามดูน่าทาน คือการตอกไข่ใส่ถ้วยใบเล็กๆ เตรียมไว้ ก่อนจะใส่ไข่ลงกระทะที่ร้อนจัด เมื่อน้ำมันในกระทะร้อนได้ที่ ให้ค่อยๆ หย่อนไข่ลงไปจะช่วยให้ไข่ดาวกลมสวย เทคนิคนี้ใช้ได้ทั้งกับการทอดไข่ในน้ำหรือทอดแบบใช้น้ำมัน

5. เคล็ดลับการทอดไข่เจียว

สำหรับการทำไข่เจียวนั้นมีเทคนิคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบีบมะนาว ใส่แป้ง ใส่นม แต่ลองหยิบ “กระชอนตาถี่” มากรองไข่ขณะเทลงในกระทะที่มีน้ำมันร้อนจัดดู ไข่เจียวที่ได้จะฟูกรอบถูกใจแน่นอน

ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ

ไข่เป็นวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารได้ง่ายที่สุด ทั้งอาหารคาวหวาน เป็นแหล่งโปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่หลายชนิด

เลือกอย่างไรให้ได้ไข่ใหม่

ไข่เก่า เปลือกลื่น เขย่าค่อยๆ จะมีเสียงก้อง แช่น้ำจะลอยน้ำ มีโพรงอากาศมาก ต่อยใส่จานจะเห็นไข่แดงแผ่แบน

ไข่ใหม่ มีคุณค่าอาหารที่สมบูรณ์ไม่เสื่อมสลายไป เขย่าค่อยๆ จะมีเสียงทึบ แช่น้ำจะจมน้ำ ต่อยใส่จานจะเห็นไข่แดงกลมนูน

ไข่ใหม่ เมื่อนำไปต้ม เปลือกไข่จะปอกยาก โดยปกติเก็บได้ถึง 2 สัปดาห์โดยไม่ต้องแช่เย็น

ขนาดของไข่มี 7 ขนาดคือ เบอร์ 0-6 ไม่เกี่ยวข้องกับขนาดความใหญ่ของไข่แดง ไข่ดาวใช้ไข่ขนาดเล็ก (ตัวเลขมาก) ก็เพียงพอ

อุณหภูมิที่ไข่แดงและไข่ขาวจะสุก

ไข่ขาว

58 องศาเซลเซียส – เริ่มจับตัวเป็นก้อน

62-65 องศาเซลเซียส – ไม่ไหลตัว

70 องศาเซลเซียส – จับตัวเป็นก้อนเกือบทั้งฟอง

80 องศาเซลเซียส – แข็งเป็นก้อนทั้งฟอง

ไข่แดง

65 องศาเซลเซียส – เริ่มจับตัวเป็นก้อน

70 องศาเซลเซียส – จับตัวเป็นก้อนเกือบทั้งฟอง

วิธีต้มไข่แบบง่ายๆ

  1. ใส่น้ำให้ท่วมไข่ เติมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  2. ต้มพลางกลิ้งไข่ไปเบาๆ ไข่แดงจะอยู่ตรงกลาง
  3. เมื่อน้ำเดือดต้มต่อโดยใช้ไฟอ่อน 10-15 นาที ไม่ต้มนานเกินไป เมื่อสุกให้ราดหรือแช่น้ำธรรมดา
  4. รอจนไข่เย็นจะปอกง่าย การปอกไข่ในน้ำจะยิ่งปอกได้สะดวกขึ้น
“ไข่แดงไม่สุก” เชื่อว่าเป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกเวลาเห็นไข่แดงไหลเยิ้มออกมา หรือรสชาติฉ่ำๆ ที่แสนอร่อย จนกลายเป็นเมนูมื้อเช้าที่แสนวิเศษ

แต่รู้หรือไม่ว่าไข่นั้นเป็นอาหารที่มีความสี่ยงจะมีเชื้อแซลโมเนลลา ซึ่งวิธีการที่จะฆ่าเชื้อเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์ก็คือปรุงให้สุก อย่างไรก็ตาม วัยผู้ใหญ่มักมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพอ แต่กับเด็กๆ ล่ะ? คุณคิดว่าเด็กๆ ควรกินไข่ไม่สุกหรือไม่?

กระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ไข่ไม่สุกที่มีไข่แดงไหลออกมาได้นั้นไม่ปลอดภัยต่อการบริโภคของเด็กๆ โดยแนะนำว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ควรจะกินไข่ที่สุกแล้วทุกส่วน คือสุกทั้งไข่แดงและไข่ขาว เพื่อป้องกันโอกาสการได้รับเชื้อโรคอย่างแซลโมเนลลา โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์, ผู้สูงอายุ และคนที่กำลังป่วย ซึ่งอาจเจ็บป่วยได้ง่ายกว่า

“แซลลี่ คูเซมแชค” นักโภชนาการในเว็บไซต์ Real Mom Nutrition กล่าวว่า อย่างที่รู้กันว่าไข่แดงไหลเยิ้มนั้นกำลังเป็นเมนูฮิตของใครหลายคน แต่หากให้เด็กกินก็อาจไม่ปลอดภัยได้ โดยจากข้อมูลของหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ขวบ มีโอกาสติดเชื้อแซลโมเนลลามากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ และเด็กทารกนั้นมีโอกาสติดเชื้อสูงมาก เนื่องจากเป็นวัยที่ระบบภูมิคุ้มกันยังอยู่ระหว่างการพัฒนา

ซึ่งถึงแม้จะดูเป็นข่าวร้ายที่คุณพ่อคุณม่ยังไม่สามารถให้ลูกที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบ กินไข่แดงไม่สุกได้ แต่ก็ถือเป็นข่าวดีที่คุณจะสามารถรังสรรค์เมนูไข่ใหม่ๆ ให้กับเด็กๆ

เมนูไข่สุกที่คุณยังทำให้น้องๆ หนูๆ กินได้ก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ไข่ดาว, ไข่ต้ม ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กวัยหัดเดินและหยิบอาหารกินด้วยมือ

โดยหลังจากอายุ 5 ขวบแล้ว ความเสี่ยงก็จะค่อยๆ ลดลง เพราะร่างกายของเด็กจะเริ่มพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากขึ้น จนคุณสามารถค่อยๆ ปรุงเมนูไข่แดงเยิ้มๆ ให้พวกเขากินได้!


Content Team Matichon Academy
ติดต่อ อีเมล์ : [email protected]
โทรศัพท์ 0-2954-3971 ต่อ 2111