อร่อยสดชื่นกับของว่างแบบไทยโบราณ ที่อยากชวนให้ลองมาชิมกันดู กับ “แตงโมปลาแห้ง” เมนูดับร้อนสุดดีงาม ที่เชื่อว่าคนรุ่นใหม่น่าจะไม่ค่อยมีโอกาสได้รับประทานกันสักเท่าไหร่ แถมยังสงสัยกันอยู่ใช่ไหมว่า แตงโมกับปลาแห้งนี่นะจะเข้ากัน? บอกเลยไม่ลองไม่รู้นะจ๊ะ ถ้าใครอยากรู้ว่าต้องทำอย่างไร วันนี้เราก็มีวิธีทำแตงโมปลาแห้งมาฝากกันค่ะ

วัตถุดิบ

แตงโม1ลูก
ปลาช่อนแดดเดียว1ตัว
หอมแดง1ถ้วย
น้ำตาลทราย100กรัม

วิธีทำ

  1. หั่นแตงโมเป็นชิ้นพอดีคำ เตรียมไว้
  2. นำหอมแดงมาปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นซอยหอมแดงเป็นแว่นบางๆ ไว้สำหรับนำไปเจียว
  3. นำปลาช่อนแดดเดียวไปอบด้วยความร้อนประมาณ 180 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลาประมาณ 9-10 นาที ให้เนื้อปลาพอตึงๆ ขึ้นมาหน่อย
  4. ในระหว่างนั้นเราก็มาตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอประมาณ เมื่อน้ำมันร้อนให้เทหอมแดงซอยลงไป จากนั้นปรับระดับไฟให้เป็นไฟกลาง-อ่อน  เมื่อเราเจียวจนหอมเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสวย ค่อยตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
  5. หลังจากอบปลาเสร็จแล้ว ก็นำส้อมมาตะกุยเอาแต่เนื้อปลา แล้วนำเนื้อปลาที่ได้มาโขลกในครก ตำให้เนื้อปลาฟู ปุยยิ่งขึ้น
  6. จากนั้นตั้งกระทะด้วยไฟอ่อนอีกครั้ง เมื่อน้ำมันเริ่มร้อนให้นำเนื้อปลาที่เราบดไว้ ลงไปคั่วในกระทะ โดยหมั่นคนให้ไปในทิศเดียวกัน คั่วไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเนื้อปลาเป็นสีเหลืองสวยงาม จากนั้นลองชิมเนื้อปลาดูถ้าเนื้อปลาจืดไป ก็สามารถใส่เกลือเพิ่มได้แล้วคั่วให้เข้ากันกับเนื้อปลา แต่ถ้าเนื้อปลาช่อนแดดเดียวที่นำมาใช้มีรสเค็มพอตัวอยู่แล้วก็ไม่ต้องใส่เพิ่ม โดยการคั่วเนื้อปลานั้นอาจใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที หรือแล้วแต่ปริมาณที่เราใช้ด้วย
  7. เมื่อได้เนื้อปลาที่คั่วเสร็จแล้ว ก็นำมาเทใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาลทรายลงไปคลุกให้เข้ากัน แล้วโรยหอมเจียวปิดท้าย
  8. นำแตงโมที่หั่นไว้ วางเรียงใส่จานให้เรียบร้อย แล้วโรยปลาแห้งลงบนแตงโม หรือจัดเสิร์ฟแยกก็ได้ตามใจชอบ
“แตงโมปลาแห้ง” ถือเป็นสำรับอาหารที่ผสมความคาว-หวาน ได้อย่างลงตัวแบบสุดๆ นับเป็นภูมิปัญญาดีๆ ของคนสมัยโบราณที่ได้คิดค้นของหวานคลายร้อนแบบนี้ ซึ่งบอกเลยถ้าใครได้ลองชิม จะรู้ว่าเมนูนี้กินแล้วชื่นใจจริงๆ นะคะ
 
ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ

ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เอาใจนักชิม จัดงาน “Helix Dining Sawasdee Songkran 2018” คัดสรรอาหารไทยคาวหวานหาทานยาก ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ และเพื่อสืบสานวัฒนธรรมอาหารไทยโบราณรวมถึงเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีแบบไทย ตั้งแต่ วันที่ 13-16 เมษายน ศกนี้ ณ โซน ฮีลิกซ์ ชั้น 5 ถึง ชั้น 7 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ โดยรวบรวมร้านอร่อยมากมายมาไว้ภายในงาน อาทิ

ล่าเตียง

“ล่าเตียงคิดเตียงน้อง นอนเตียงทองทำเมืองบน
ลดหลั่นชั้นชอบกล ยลอยากนิทรคิดแนบนอน”

กาพย์เห่ชมเครื่องคาว-หวาน พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 กล่าวถึง “ล่าเตียง” ของว่างไทยที่มีมาแต่โบราณ ล่าเตียงทำจากกุ้งสดสับปรุงรสด้วยเครื่องเทศไทย ห่อด้วยไข่ที่ทำเป็นแพตาข่าย
เมี่ยงดอกบัว


เมี่ยงดอกบัว
เป็นของว่างสมุนไพรของไทยซึ่งถูกดัดแปลงจากเมี่ยงคำที่รับประทานโดยทั่วไป
แต่ขนมไทยยายทวดเลือกใช้กลีบบัวแทนใบชะพลู ทำให้ได้รับรสชาติและความหอมจากกลีบดอกบัวซึ่งแตกต่างไปจากเดิม เครื่องเมี่ยงประกอบด้วย กุ้งแห้งอย่างดี ถั่วลิสงคั่ว ขิง หอมแดง มะนาว พริกขี้หนู และมะพร้าวคั่ว รับประทานกับน้ำเมี่ยงปรุงรสหวานเค็ม


แตงโมปลาแห้ง
ของว่างไทยยามบ่ายที่ให้ความสดชื่นคลายร้อน แตงโมเป็นผลไม้ฤดูร้อนเสิร์ฟพร้อมหน้า
ปลาแห้ง ซึ่งทำจากเนื้อปลาช่อนแห้งบดละเอียดและคั่วจนกระทั้งกลิ่นหอม ผสมเข้ากับน้ำตาลทรายและหอมแดงทอด ถึงแม้ว่าแตงโมปลาแห้งหารับประทานยาก แต่ยังคงเป็นของว่างที่ถูกนึกถึงเสมอในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย


ดาวล้อมเดือน
เป็นขนมไทยโบราณ ตัวขนมทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมสีธรรมชาติ
เช่น ใบเตย อัญชัน ฟักทอง แครอท เผือก เป็นต้น และสอดไส้ด้วยถั่วเหลืองกวนที่ให้รสชาติหวานเค็มคล้ายไส้ของขนมเทียน เสิร์ฟในน้ำกะทิและโรยหน้าด้วยงาคั่ว ทำให้ดาวล้อมเดือนมีความหวานมันและหอมน่ารับประทาน

นอกเหนือจากชิมอาหารรสเลิศแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป, สาธิตการทำบุหงารำไปสด ด้วยดอกไม้ไทยนานาชนิดพร้อมน้ำปรุง, Workshop การทำปลาตะเพียน, Workshop การสานพัดไทย พร้อมชมขบวนพาเหรดอนุรักษ์ความเป็นไทย ตั้งแต่ วันที่ 13-16 เมษายน ศกนี้ ณ โซน ฮีลิกซ์ ชั้น 5 ถึง ชั้น 7 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์