วันที่ 25 เมษายน 2561 นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า บริษัท Shanghai Win Chin Supply Management ซึ่งเป็นบริษัทจัดซื้อในเครือของอาลีบาบา ได้ร่วมหารือกับ 3 สหกรณ์ สหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด จังหวัดระยอง สหกรณ์การเกษตรมะขาม จำกัด จังหวัดจันทบุรี และสหกรณ์การเกษตรเขาสมิง จำกัด จังหวัดตราด เพื่อเจรจาซื้อขายทุเรียนกับสหกรณ์โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เพื่อนำไปขายผ่านเว็บไซต์อาลีบาบา ของ นายแจ๊ค หม่า ผู้บริหาร Alibaba Group

“ทุเรียนของไทยที่จะส่งจำหน่ายให้อาลีบาบา ทางบริษัทจำนำไปขายทางออนไลน์และร้านสะดวกซื้อที่เป็นเครือข่ายตั้งยู่ในเมืองต่าง ๆ ของจีน สิ่งที่บริษัทต้องการคือผลไม้คุณภาพดี มีความสด และรสชาติดั้งเดิม ดังนั้น ผลไม้ที่จะส่งไปถึงจีนต้องอยู่ในสภาพที่สดใหม่เหมือนกินอยู่ในสวน และถึงจีนโดยเร็วที่สุด และคาดว่าในอีก 2 สัปดาห์ทางอาลีบาบาจะส่งทีมงานลงพื้นที่เพื่อให้มีความมั่นใจว่าจะได้ทุเรียนที่มีคุณภาพ และจะมีการวางระบบโลจิสติกในการขนส่งสินค้าเพื่อให้ทุเรียนจากประเทศไทยไปถึงจีนได้เร็วสุด”

นายเชิดชัย กล่าวว่า ฤดูกาลผลิตปี 2561 สหกรณ์ในภาคตะวันออกได้วางแผนในการรวบรวมทุเรียนจากสมาชิกประมาณ 5,170 ตัน มูลค่า 309.49 ล้านบาท แบ่งเป็นทุเรียนสด 4,670 ตัน มูลค่า 219.490 ล้านบาท และทุเรียนแช่แข็ง 500 ตัน มูลค่า 90 ล้านบาท ขณะนี้ทางสหกรณ์ได้จัดทำแผนการจำหน่ายผลผลิตล่วงหน้าไว้หมดแล้ว และจะเริ่มต้นทำธุรกิจกับทางอาลีบาบาได้ทันฤดูกาลปีนี้ โดยสหกรณ์ในจังหวัดจันทบุรี จะเริ่มการค้าได้ภายในฤดูกาลผลิตปี 2562 บริษัทฯ แจ้งความต้องซื้อทุเรียนระยะเวลา 3 ปี ประมาณ 3,000 ล้านหยวน

ปีนี้อาจจะเป็นการทดลองเรื่องระบบการเจรจาซื้อขายและการขนส่ง ทุเรียนในภาคตะวันออกจะออกผลผลิตมากในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสหกรณ์สามารถผลิตทุเรียนคุณภาพได้ไม่เกิน 5 พันตันต่อฤดูกาล แนวโน้มราคาจำหน่ายในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มาเนื่องจากคาดว่าผลผลิตจะออกมาไม่มาก ซึ่งการผลิตทุเรียนคุณภาพต้นทุนต่อไร่ค่อนข้างสูง แต่คุณภาพเนื้อทุเรียนจะมีความอร่อย ซึ่งต้องอาศัยการดูแลอย่างดีและต้องได้มาตรฐาน และหากคู่ค้ายังไม่สามารถวางแผนการตลาดได้ชัดเจน กระทรวงเกษตรฯก็ไม่กล้าแนะนำให้เกษตรกรลงทุนขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนเพิ่ม เผื่อราคาไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้มันจะไม่คุ้มทุน

 


ที่มา ข่าวสดออนไลน์

วันที่ 20 เม.ย. หลังนายแจ็ค หม่า มหาเศรษฐีชาวจีน ซีอีโอบริษัทอาลีบาบากรุ๊ป ได้เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรีไทยเมื่อวานนี้ และได้ลงนามในเอ็มโอยูกับรัฐบาลไทย เกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล การจัดตั้งสมาร์ตดิจิทัลฮับในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ฯลฯ

ล่าสุด สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า บริษัทอาลีบาบา ยังได้ลงนามในข้อตกลงเป็นตัวแทนจำหน่ายทุเรียนหมอนทองกับรัฐบาลไทย มูลค่ากว่า 428 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 13,400 ล้านบาท ผ่านทางเว็บไซต์ทีมอลล์ (Tmall) โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา 1 วันก่อนที่นายหม่าจะลงนามในเอ็มโอยูกับรัฐบาลไทย อาลีบาบาได้ขายทุเรียนหมอนทองมากกว่า 80,000 ลูก ทางเว็บไซต์ได้ในเวลาเพียง 1 นาที เท่านั้น ซึ่งสร้างความประหลาดใจอย่างยิ่งให้กับคนไทย โดยทุเรียนหมอนทองนับเป็นทุเรียนสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ด้านเว็บไซต์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกง รายงานว่า ในเว็บไซต์ทีมอลล์ ได้จัดจำหน่านทุเรียนหมอนทอง ขนาดลูกละ 4.5-5 ก.ก. ในราคาลูกละ 199 หยวน (990 บาท) ในราคานี้รวมภาษีและค่าขนส่งแล้ว

 


ที่มา ข่าวสดออนไลน์