คุณค่าของมะกรูดในการบำรุงเส้นผมนั้นอาจเป็นสิ่งที่หลายๆ ท่านรู้กันดีอยู่แล้ว เพราะแม้กระทั่งผู้ผลิตยาสระผมบางรายยังใช้เป็นประเด็นในการโฆษณาว่า แชมพูของตนผสมมะกรูด มะกรูดไม่เพียงแต่ทำให้ผมดำเป็นเงางามเท่านั้น แต่ยังช่วยกำจัดรังแคแก้คันศีรษะ แก้ผมแตกปลายป้องกันผมร่วง และทำให้ผมหงอกช้า มะกรูดเป็นสมุนไพรธรรมชาติ จึงไม่ต้องกลัวแพ้เหมือนแชมพูที่ทำจากสารเคมี ที่สำคัญมะกรูดบำรุงผมได้ทุกชนิด คนผมแห้งหรือผมมันก็ใช้ได้

การนำมะกรูดมาสระผมนั้นมีหลายวิธีให้เลือก ดังนี้

1. เอามะกรูดสดๆ มาผ่าครึ่ง แคะเอาเม็ดออก บีบเอาน้ำมาใช้สระผม แต่วิธีนี้จะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำมันที่ผิวมะกรูด

2. ปอกผิวมะกรูดออก นำมาตำให้ละเอียด แล้วบีบน้ำมะกรูดผสมลงไป เติมน้ำลงไปอีกพอให้ส่วนผสมเริ่มเหลว คนให้เข้ากันดี ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วกรองคั้นเอาแต่น้ำไปใช้ วิธีนี้เวลาสระจะได้กลิ่นเหม็นเขียวจากผิวมะกรูด แต่สระเสร็จแล้วจะหอมได้ผลดีที่สุด

3. เอาลูกมะกรูดมาหั่นเป็นชิ้นและนำมาเข้าเครื่องปั่นจนละเอียดที่สุด เอาออกมาใส่ชามเติมน้ำอุ่นลงไปจนท่วม คนให้ทั่ว ตั้งทิ้งไว้ 10-20 นาที คั้นเอาแต่น้ำใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ น้ำมะกรูดจะอยู่ได้ 1-2 สัปดาห์ สำหรับมะกรูดนั้นจะใช้มะกรูดสดหรือเผาไฟก่อนก็ได้

เมื่อได้น้ำมะกรูดแล้วก่อนสระผมควรราดผมให้เปียกชุ่มเสียก่อน เนื่องจากน้ำมะกรูดมีฤทธิ์เป็นกรดแก่ กัดหนังศีรษะได้ น้ำมะกรูดเมื่อเจือจางลง ฤทธิ์อ่อนลงไปด้วย ขณะที่สระผม

ควรนวดศีรษะไปด้วย ทิ้งไว้ 2-3 นาที ล้างออกและสระซ้ำอีกครั้ง แล้วล้างออกให้สะอาด อย่าให้มีเศษมะกรูดหลงเหลืออยู่ เพราะจะทำให้ผมเสีย ที่สำคัญระวังอย่าให้น้ำมะกรูดเข้าตาหรือถูกปาก เพราะจะรู้สึกแสบตาและชาปาก เวลาใช้ตอนแรกอาจจะรู้สึกแสบที่หนังศีรษะบางแห่ง แสดงว่าตรงนั้นมีแผลอยู่ ไม่เป็นอันตรายอะไรใช้ไปเรื่อยๆ จะหายเอง แต่ถ้ารู้สึกแสบทั้งหนังศีรษะแสดงว่าน้ำมะกรูดข้นไป ต้องผสมน้ำให้เจือจางอีก

ที่มา : แม่บ้าน

วิธีปลูกมะกรูด สมุนไพรคู่ครัว

Tips & Tricks สารพันเกร็ดน่ารู้

มะกรูด ถือเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์มากมาย ส่วนต่างของมะกรูดสามารถใช้ประโยชน์ได้หมด ไม่ว่า ใบมะกรูดมีน้ำมันหอมระเหย และใช้เป็นเครื่องเทศประกอบอาหาร ผลมะกรูดใช้แต่งกลิ่น สระผม ผิวจากลูก บำรุงเป็นยาขับลมในลำไส้ แก้แน่น เป็นต้น

สายพันธุ์มะกรูดแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลัก คือสายพันธุ์ที่ให้ผลมะกรูดดกตลอดปี ผิวผลค่อนข้างเรียบ และผลมีขนาดเล็ก อีกสายพันธุ์หนึ่งเป็นพันธุ์ผลใหญ่ และติดผลเป็นพวง

ในการปลูกนั้น ควรเลือกสภาพพื้นที่ต้องมีการระบายน้ำดี น้ำไม่ท่วมขัง มีระดับ pH 5.5-7.0 ดินมีอินทรียวัตถุสูง หรือปรับแต่งได้ด้วยการใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยพืชสดได้ ควรมีการไถพรวนก่อนเพื่อช่วยไม่ให้ดินแน่นแข็งเกินไป

ในการปลูกมะกรูดเพื่อเป็นการค้านั้น ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกโดยการยกร่อง มีความกว้างของแปลง 1 เมตร ยกระดับความสูงของแปลง ประมาณ 20-25 เซนติเมตร ความห่างระหว่างจุดกึ่งกลางของแปลง 1.5 เมตร ระยะห่างระหว่างต้น 50 เซนติเมตร ดดยใช้วิธีปลูกแบบสลับฟันปลา การใช้ระยะปลูกที่ห่างกว่านี้ไม่มีความจำเป็น เนื่องจากการผลิตใบมะกรูดต้องอาศัยกรรมวิธีในการตัดแต่ง ซึ่งเท่ากับเป็นการควบคุมขนาดพุ่มต้นพร้อมกันด้วย

กิ่งพันธุ์ ที่นำมาปลูก สามารถใช้ต้นพันธุ์ที่ขยายพันธุ์จากการเพาะเมล็ด กิ่งปักชำ หรือกิ่งตอน

ทั้งนี้ในการนำต้นพันธุ์มะกรูดลงปลูกมีข้อแนะนำว่า ควรหันหน้าใบทางทิศตะวันออก เพื่อให้สามารถรับแสงอาทิตย์ได้เต็มที่ และอีกจุดที่สำคัญของการปลูกมะกรูดเพื่อตัดใบขายนั้นจะต้องมีสภาพแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ เมื่อต้นมะกรูดมีอายุเข้าปีที่ 3 เริ่มตัดใบมะกรูดขายได้ทุกๆ 3 เดือน

ส่วนฤดูกาลปลูก มีข้อแนะนำให้ปลูกในช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาวจะดีที่สุด ถ้าปลูกในช่วงฤดูฝนมักจะพบปัญหาเรื่องโรคราเนื่องจากมีความชื้นสูง

ในกรณีของเกษตรกรที่ปลูกมะกรูดเพื่อเก็บใบขายเป็นอาชีพ ในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกมะกรูดได้ 400 ต้น โดยใช้พื้นที่ปลูก 2×2 เมตร

หลังการปลูกต้นมะกรูดจะตั้งตัวหลังจากปลูกไปได้ประมาณ 1 เดือน มีข้อแนะนำว่า ให้ใช้ปุ๋ยยูเรียผสมกับปุ๋ยคอกเก่า ใส่ให้กับต้นมะกรูด แต่ให้ใส่ห่างจากโคนต้นสัก 1 คืบ ถ้าเป็นช่วงฤดูแล้งให้ทำเปลือกถั่วเขียวมาคลุมโคนต้น อย่าให้ติดโคนต้นเช่นกัน ปุ๋ยที่ใส่ไปจะกระตุ้นการแตกยอดให้เร็วขึ้น

อายุที่เริ่มให้ผลผลิต สามารถเริ่มตัดแต่งกิ่งเพื่อจำหน่ายได้หลังจากปลูกประมาณ 4-6 เดือน จะเริ่มตัดแต่งกิ่งโดยตัดให้อยู่ในระดับความสูง 60-80 เซนติเมตร จากผิวดิน กำจัดกิ่งที่อยู่ในแนวนอนออกไป ภายหลังการตัดแต่ง ตาจะเริ่มผลิ ผลจากการศึกษา

ซึ่งไม่แน่ว่าจากมะกรูดเพียง 1 ต้นในบ้าน อาจพัฒนาไปสู่การเป็นเจ้าของสวนมะกรูดรายใหญ่ก็เป็นไปได้ไม่ยาก…

ที่มา : เทคโนโลยีชาวบ้าน

bergamot-1554302_960_720

มะกรูด เป็นพืชผักพื้นบ้านที่มากคุณค่า ทั้งใบและผลมะกรูดสามารถนำมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากมาย หลายช่องทาง ทั้งในรูปอาหาร ยาสมุนไพร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สปา ส่งขายทั้งในประเทศและส่งออก สร้างรายได้หมุนเวียนในแต่ละปีได้อย่างมหาศาลทีเดียว

“มะกรูด” สรรพคุณยาไทย

ผิวมะกรูด ผล ราก น้ำมะกรูด และใบ สามารถใช้เป็นส่วนประกอบทางยาสมุนไพรได้หลายชนิด รสชาติและสรรพคุณของมะกรูดในตำรายาไทย ผิวผลสดและผลแห้งมีรสปร่า หอมร้อน สรรพคุณแก้ลมหน้ามืด แก้ลมวิงเวียน บำรุงหัวใจ ขับลมในลำไส้ ขับระดู ขับผายลม

ผลมีรสเปรี้ยว มีสรรพคุณขับเสมหะ แก้ไอ แก้น้ำลายเหนียว ฟอกโลหิต ใช้สระผม จะทำให้ผมดกดำเป็นเงางาม ไม่มีรังแคและไม่คันศีรษะ นอกจากนี้ ยังช่วยขับลม แก้ปวดท้องในเด็ก รากของมะกรูดจะมีรสเย็นจืด แก้พิษฝีภายใน แก้เสมหะเป็นโทษ ปรุงผสมกับพืชสมุนไพรอื่นๆ จะช่วยบรรเทาอาการแก้ลมจุกเสียด ถอนพิษผิดสำแดง

การใช้ประโยชน์มะกรูดเป็นพืชสมุนไพร มีขนาดและวิธีใช้ที่แตกต่างกันไป เป็นลม หน้ามืด ใช้ผิวผลสดสูดดม ขณะเป็นลม ผิวผลแห้งใช้หั่นใส่ในน้ำหอมผสมกับของหอมอื่นๆ ดมแก้อาการเป็นลมหน้ามืด แก้ลมวิงเวียน บำรุงหัวใจ ใช้ผิวผลสดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1-2 หยิบมือ ผสมกับการบูร 1 หยิบมือ ชงด้วยน้ำเดือด คนให้ละลาย ปิดฝาทิ้งไว้ 3-5 นาที ดื่มเอาแต่น้ำ

ขับเสมหะ แก้ไอ ใช้ผลมะกรูดผ่าซีกเติมเกลือป่นเล็กน้อย ลนไฟให้เปลือกผลนิ่ม ค่อยๆ บีบน้ำมะกรูดลงในคอทีละน้อยๆ จะช่วยให้คอโล่ง เสมหะจะละลายออกมาและระงับอาการไอ ขับผายลม แก้ปวดท้องในเด็กอ่อน ใช้มะกรูด 1 ผล ตัดจุกคว้านเอาไส้กลางออก เอามหาหิงคุ์ใส่กลางผล แล้วปิดจุก สุมไฟให้เกรียมกรอบ บดให้เป็นผง ละลายกับน้ำผึ้งป้ายลิ้นเด็กอ่อนตั้งแต่แรกคลอด

ใช้สระผมหรืออาบ โดยใส่มะกรูดผ่าซีกลงในหม้อร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ ต้มอาบ อบจะได้ทั้งน้ำมันหอมระเหยที่อยู่บนผิว และรสเปรี้ยวจากมะกรูดจะช่วยให้อาบสะอาดยิ่งขึ้น และถ้าใช้มะกรูดผ่าซีกสระผม จะทำให้ผมลื่นดกดำ ไม่มีรังแค

ฟอกโลหิตสำหรับสตรี (ในตำรายาพื้นบ้าน) ใช้น้ำมะกรูดดองยานั้นเรียกว่า “ยาดองเปรี้ยวเค็ม” ใช้รับประทานน้ำมะกรูดป้องกันมิให้ยาดองขึ้นราได้ และทำปฏิกิริยากับสมุนไพร เช่น เปลือกหอยละลายเกลือหินออกมาจะได้ยาที่ดูดซึมในร่างกายได้ดี แก้ไข้หวัด ปวดศีรษะ ใช้ใบมะกรูดและใบมะนาวต้มน้ำรับประทาน

 

ข้อควรระวัง เนื่องจากน้ำมะกรูดมีฤทธิ์เป็นกรด อาจทำลายเคลือบฟันได้ ดังนั้น เมื่อจิบน้ำมะกรูด ควรพยายามให้ถูกฟันน้อยที่สุด และหลังจากจิบไป 2-3 ครั้ง ควรบ้วนปากล้างกรดออกไป หากใช้เป็นยาสระผม ควรทำผมให้เปียกชุ่มทั้งศีรษะก่อนใช้มะกรูดสระผม เพื่อให้น้ำบนศีรษะช่วยลดความเป็นกรดของมะกรูดลง และเมื่อนำใบมะกรูดมากลั่นด้วยไอน้ำ จะให้น้ำมันหอมระเหยในปริมาณ 1.29% ส่วนน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากผิวมะกรูดจะมีปริมาณ 6-7% และน้ำในมะกรูดจะมีกรดซิตริก วิตามินซี และกรดอินทรีย์ชนิดอื่นๆ เป็นส่วนประกอบ 

แปรรูปมะกรูดขาย กำไรงาม

น้ำพริก (ปลาร้าบอง) ของกลุ่มพัฒนาอาชีพสตรีบ้านตลาดนาบุญ ตำบลโพนทอง กิ่งอำเภอสีดา จังหวัดนครราชสีมา เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่นำใบมะกรูดมาเป็นส่วนประกอบ ร่วมกับกระเทียม ตะไคร้ เกลือ ปลาร้า มาแปรรูปจำหน่ายเป็นสินค้าขายดีคือ น้ำพริก (ปลาร้าบอง) โดยนำปลาร้าตัวใหญ่และตัวเล็กสับละเอียด แล้วนำมาคั่วจนสุก ผสมเครื่องเทศ ปรุงคั่วจนสุก นำมาบดละเอียด ปรุงรส และบรรจุกระปุกจำหน่าย

ผลิตภัณฑ์กล่องสมุนไพรมะกรูดหอม โดยกล่องผลิตจากกระดาษใยสับปะรด มีกลิ่นหอมของมะกรูดช่วยลดกลิ่นอับต่างๆ ได้ ผลงานของกลุ่มพัฒนาสตรีคีรีขันธ์ ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สบู่มะกรูด เป็นผลิตภัณฑ์สบู่สมุนไพรธรรมชาติของกลุ่มพัฒนาของเหลือใช้บ้านหนองกระทิง บ้านหนองกระทิง ตำบลกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผลิตจากวัตถุดิบสมุนไพรที่หาได้ในพื้นที่ มะละกอ มะขาม ขมิ้น มะนาว มะกรูด และน้ำผึ้ง ซึ่งแต่ละชนิดจะมีสรรพคุณที่ต่างกัน ซึ่งกระบวนการผลิตทำได้ง่าย เริ่มจากเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แก้วทนไฟ เทอร์โมมิเตอร์ หม้อสแตนเลส แล้วนำโซดาไฟผสมน้ำ ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส เตรียมน้ำมันไปอุ่นในน้ำร้อน 40 องศาเซลเซียส แล้วเท 2 อย่างรวมกัน ให้ข้นพอประมาณ แล้วเติมสมุนไพร จากนั้นก็คนให้ข้นมากขึ้น เทใส่ถาดทิ้งไว้ 5-6 ชั่วโมง นำพิมพ์มากดขึ้นรูป แล้วทิ้งไว้ 2 สัปดาห์ จากนั้นก็ห่อด้วยพลาสติกพร้อมจำหน่าย

ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจุดกันยุง ที่นำเอาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษมาใช้ทดแทนยาจุดกันยุงที่เป็นสารเคมี กลุ่มอนุรักษ์สมุนไพรบ้านทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ได้นำสมุนไพรพื้นบ้าน ได้แก่ เปลือกส้มโอ มะกรูด ตะไคร้หอม มาตากแห้งแล้วบดผสมกัน นำไปอัดเป็นขดหรือสกัดเอาน้ำมันใส่ขวดสเปรย์ฉีดใช้ไล่ยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

มะกรูดแก้ว เป็นของว่างสำหรับขบเคี้ยว ที่ทำจากภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยนำมะกรูดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มากวนกับน้ำตาลทราย แล้วปรุงรสเผ็ดเล็กน้อย หวาน และเค็ม ช่วยทำให้อมชุ่มคอ บรรเทาอาการไอเจ็บคอ สูตรการทำมะกรูดแก้ว เริ่มจากเตรียมผลมะกรูด 100 ผล น้ำตาลทราย 3 กิโลกรัม เกลือป่น แบะแซเล็กน้อย และน้ำสะอาด

วิธีการทำ นำผลมะกรูดมาปอกเปลือกแล้วเอาเมล็ดออก หั่นเป็นชิ้นพอประมาณ แล้วคั้นเอาน้ำเปรี้ยวออก ให้เหลือเป็นชิ้นมะกรูด แล้วนำไปแช่น้ำปูนใส 1 คืน แล้วล้างน้ำเปล่าทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ

ขั้นตอนต่อมา ให้ตั้งกระทะต้มน้ำให้เดือด กะให้พอดีกับเนื้อมะกรูดที่เตรียมไว้ ใส่น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม พอน้ำตาลทรายละลายใส่เนื้อมะกรูดลงไปต้มพอเดือดแล้วยกลงแช่น้ำเชื่อม ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟ แล้วค่อยๆ เติมน้ำตาล จนหมด 2 กิโลกรัม แล้วใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย ใส่แบะแซกวนจนเหนียว ร่อนไม่ติดกระทะ ยกลงมาตั้งทิ้งไว้ให้เย็นพอปั้นได้ แล้วจึงมาปั้นให้มีลักษณะเหมือนท็อฟฟี่ โดยห่อกระดาษแก้วหรือบรรจุในขวดโหลไว้รับประทานยามว่างหรือนำออกจำหน่ายเป็นรายได้เสริมได้ดี

ที่มา : เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์