เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 8 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่ติดตามการป้องกันสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.เพชรบุรี โดยได้เดินทางไปที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจ เมื่อเห็นรอยยิ้มอยู่ก็ดีแล้ว ซึ่งสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ไม่ได้หนักหนาสาหัสมากนัก

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า ขณะนี้มีน้ำ 730 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้น้ำล้นสปิลเวย์ สูงประมาณ 46 เซนติเมตร แต่จะไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อน ยกเว้นรีสอร์ทที่มีตลิ่งต่ำ จะได้รับผลกระทบอยู่บ้าง สำหรับเขื่อนเพชรฯ ปริมาณน้ำท้ายเขื่อน 95 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะไม่ส่งผลต่อ อ.ท่ายาง และ อ.เมือง ที่มีคนบอกน้ำจะท่วมเมื่อคืน ตนยืนยันว่าในช่วงนี้ไม่มีผลกระทบ ทั้งนี้ คาดว่า อ.เมือง จะได้รับผลกระทบประมานวันที่ 12 สิงหาคม เนื่องจากน้ำจะผ่านเขื่อนเพชรปริมาณ 140-160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ อ.เมือง และ อ.บ้านแหลม มีปริมาณน้ำสูงขึ้น 20-50 เซนติเมตร ซึ่งทางจังหวัดและหน่วยงานเกี่ยวจะป้องกันให้ดีที่สุด

อธิบดีกรมชลฯ กล่าวว่า ขณะเดียวกันบริเวณหน้าเขื่อนเพชรตรงคลองระบายน้ำ D9 ที่ยังไม่เสร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ คาดการณ์ว่าหากเสร็จแล้วจะรองรับน้ำได้ 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะเป็นตัวช่วยตัดน้ำ ไม่ให้เข้า อ.เมือง อย่างไรก็ตาม น้ำจะท่วมขังในพื้นที่บ้านแหลมเป็นเดือน เพราะพื้นที่ติดกับทางออกของน้ำ ซึ่งจะใช้วิธีการผลักดันน้ำเพื่อลดระดับ โดยติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำกว่า 40 เครื่อง และมีการคิดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่เสี่ยงหลายพื้นที่ ทั้งนี้ ในส่วนตัวเมืองจะมีปริมาณน้ำขัง 30-50 เซนติเมตร จะอยู่ประมาณ 7-10 วัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำปัจจุบันที่ไหลเข้าเขื่อนแก่งกระจานลดลงทุกวัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี

ขณะที่นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการการปะปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกชุกหนาแน่นส่งผลให้ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงสู่เขื่อนแก่งกระจานอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่าน้ำอาจไหลล้นเส้นทาง ซึ่งได้มีการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีเป็นระยะ และได้มีการแจ้งเตือนจากจังหวัดให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อนเพชร ในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด และ อ.เมืองเพชรบุรี อย่างไรก็ตาม กปภ.สาขาเพชรบุรี ได้เตรียมการพร้อมผลิตและให้บริการน้ำประปาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพร้อมจ่ายน้ำประปาให้กับรถบรรทุกน้ำ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย เมื่อเกิดเหตุการณ์ทั้งในและนอกเขตพื้นที่บริการ ควบคู่การติดตามสถานการณ์น้ำทั้งด้านปริมาณและคุณภาพตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับมือกับสถานการณืน้ำท่วมที่อาจรุนแรงมากขึ้น สำหรับประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้หมายเลข 032492301 และ 032492300 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ PWA Contact Centerโทร 1661


ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 17 เม.ย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงช่วงบ่าย เกิดฝนตกทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้บริเวณถนนบรมราชชนนี ฝั่งขาออก ช่วงขนส่งสายใต้ใหม่ มีน้ำท่วมขังเสมอแนวฟุตปาธ ทำให้รถที่ใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรผ่านไปมาอย่างลำบาก รถเคลื่อนตัวได้ช้าติดเป็นแนวยาว

โดยก่อนหน้ามีประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 15-18 เมษายน 2561)” ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 15 เมษายน 2561 ระบุว่า บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออก จะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฟ้าผ่าและลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์