กลายเป็นธุรกิจฮิตติดตลาดสำหรับ “เทศกาลทัวร์ผลไม้” ภาคตะวันออก ระยอง จันทบุรี ตราด ความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเกษตรจังหวัด เกษตรกรเจ้าของสวน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และชมรมธุรกิจการท่องเที่ยว
ตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนถึงกรกฎาคมนี้ เจ้าของสวนภาคตะวันออกเตรียมเปิดสวนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวถึง 63 แห่ง นอกจากจะได้รับประทานผลไม้สด ๆ ในสวน หรือจะซื้อกลับบ้านได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาดแล้ว ยังจะได้สัมผัสและเก็บเกี่ยวบรรยากาศวิถีชีวิตของชาวสวนควบคู่กันไปด้วย
“ระยอง-จันท์” กระหน่ำบุฟเฟต์
“อุทิศ ลิ่มสกุล” ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ดูแลพื้นที่ระยอง-จันทบุรี) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้จังหวัดระยองและจันทบุรีได้เตรียมความพร้อมที่จะเปิดสวนผลไม้ให้นัก ท่องเที่ยวได้มาสัมผัส รวมมากถึง 56 สวน แบ่งเป็น ระยอง 31 สวน จันทบุรี 25 สวน กระจายไปตามอำเภอต่าง ๆ จากปีที่ผ่านมา ที่มีสวนผลไม้เข้าร่วมโครงการ 34 สวน แบ่งเป็น ระยอง 19 สวน จันทบุรี 15 สวน
สำหรับปีนี้ขายแพ็กเกจบุฟเฟต์เป็นรายหัวราคา 299-500 บาท และสามารถซื้อผลไม้หน้าสวนได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง สละ และมีการรับรองคุณภาพด้วย
แน่นอนว่านักท่องเที่ยวที่มาทัวร์สวนผลไม้ 95% ชื่นชอบ ทุเรียน มากเป็นอันดับ 1นอกจากนี้ ททท.ระยองยังจัดแคมเปญ “เที่ยววันธรรมดา ตะลุยสวนระยอง-จันท์” ด้วยการมอบคูปองส่วนลดทัวร์สวนผลไม้ และร้านค้าประชารัฐ สุขใจ คนละ 100 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักค้างโรงแรมในวันธรรมดา วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี ตลอดช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมนี้
ขณะที่ “วณิชชา วัฒนพงศ์” นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การจัดทัวร์สวนผลไม้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้มาก คาดว่าน่าจะทำรายได้ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น นอกจากทัวร์สวนผลไม้แล้ว ระหว่างวันที่ 19-27 พฤษภาคมนี้ จันทบุรียังมีการจัดงานประจำปี เทศกาลของดีเมืองจันท์ วันผลไม้ เสริมเข้ามาอีก เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวและพักในจังหวัดจันทบุรี
กิจกรรมนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับประทานผลไม้ที่สด แก่จัด รสชาติอร่อย ได้ชมวิถีชีวิตชาวสวน ได้รับรู้ภูมิปัญญา หรือบางสวนมีคุณลักษณะพิเศษ เช่น มังคุด 100 ปี ทุเรียนพันธุ์โบราณหายาก บางสวนมีฟาร์มพืชออร์แกนิก การเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ ให้เที่ยวชมด้วย
ล่าสุดเริ่มมียอดจองทัวร์ผลไม้เข้ามาเป็นระยะ ๆ แล้ว
“ชะนี เกาะช้าง” ไฮไลต์ตราด
“วรรณประภา สุขสมบูรณ์” ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด กล่าวว่า ขณะนี้ตราดได้เตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลทัวร์สวนผลไม้ โดย ททท.ตราด ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด ชมรมธุรกิจนำเที่ยวจังหวัดตราด และบริษัท บางกอกแอร์เวย์ส จำกัด ได้เข้ามาสนับสนุนแคมเปญ “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” เป็นปีที่ 3 โดยมีสวนผลไม้เข้าร่วม 7 สวน จากปีที่ผ่านมาที่เข้าร่วม 10 สวน เพราะปัญหาผลผลิตมีน้อย กำหนดเปิดเข้าชมสวน ตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน และกำหนดราคาเข้าเที่ยวชมชิมผลไม้ แบบบุฟเฟต์ราคาเดียวกัน 200 บาท/คน
ปีนี้ผลผลิตผลไม้ของตราดออกมาค่อนข้างน้อยและผลผลิตออกไม่ตรงตามฤดูกาล เนื่องจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ แต่สวนที่ร่วมแคมเปญทั้ง 7 สวน รับรองว่าจะมีผลไม้ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดฤดู เพียงแต่ขอให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเข้าชมสวน ติดต่อประสานงานกับเจ้าของสวน หรือประสานผ่านชมรมธุรกิจนำเที่ยวจังหวัดตราด ล่วงหน้า
“ไฮไลต์ตราดอยู่ที่ทุเรียนชะนี เกาะช้าง ทุเรียนพรีเมี่ยม มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น อุดมด้วยวิตามินอีและธาตุไอโอดีน มีพื้นที่ดินเป็นดินภูเขาไฟ แหล่งน้ำที่มาจากน้ำตก ซึ่งปีนี้คาดว่ามีผลผลิตออกมาเพียง 300 ตันเศษเท่านั้น ซึ่งกลุ่มเกษตรกรเกาะช้างกำหนดราคาที่กิโลกรัมละ 200 บาท
“ไพฑูรย์ วานิชศรี” เจ้าของสวนทุเรียน “สวนไพฑูรย์” ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ GAP (good agriculture practice) กล่าวว่า ปีนี้ผลผลิตผลไม้หลัก ๆ ของภาคตะวันออกมีปริมาณลดลง 20-30% และผลผลิตออกล่าช้า ราคาผลไม้มีการปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย สำหรับที่สวนเอง ปกติสวนจะเปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แต่ปีนี้ผลผลิตล่าช้า จากปกติที่ผลผลิตจะเริ่มออกในช่วงปลายเดือนมีนาคม ขณะนี้ทุเรียนหลายพันธุ์เริ่มทยอยออกแล้ว เช่น พวงมณี ชะนี หมอนทอง
การจัดทัวร์ผลไม้นอกจากนักท่องเที่ยวชาวไทย ระยะหลังมีเพื่อนบ้านกัมพูชา และนักท่องเที่ยวจีนสนใจและติดต่อเข้ามาทัวร์สวนมากขึ้น
สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ชาวสวนได้ไม่น้อย
ที่มา นสพ.ประชาชาติธุรกิจ