“ก๋วยเตี๋ยวเรือ” เมนูนี้เชื่อว่าติดอยู่ในลำดับต้นๆ มื้ออาหารของใครหลายคน ด้วยรสชาติและส่วนผสมที่ต่างจากก๋วยเตี๋ยวชนิดอื่น อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์ อันเป็นเสน่ห์ของก๋วยเตี๋ยวเรือ นั่นคือ ชามที่ใส่จะมีขนาดเล็ก ปริมาณพอเหมาะ รสชาติจัดจ้าน น้ำซุปสีข้น ในสมัยก่อนจะพายเรือขายกันทางน้ำ แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ก๋วยเตี๋ยวเรือหันมาเปิดบนบก แต่อย่างไรก็ตาม บางร้านที่ไม่ทิ้งสัญลักษณ์ความเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือ ยังคงนำเรือมาตั้งหน้าร้าน และชามที่ใส่เป็นชามขนาดเล็ก

แต่ก็อย่างที่เห็นว่าปัจจุบันร้านก๋วยเตี๋ยวมีมากมาย เห็นได้มากหน่อยก็แถว อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วคนที่สนใจอยากเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือบ้าง ต้องทำอย่างไรให้รอดและรุ่ง ลองฟังมุมมองจาก “อ.โอฬาร ศรีสวรรค์” เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา (สูตรโบราณ) คลองสี่ ถนนลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

อ.โอฬาร เล่าว่า ทำงานมาหลายอย่าง นับตั้งแต่เป็นลูกจ้างร้านอาหาร พนักงานประจำหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง และขายของ แต่รายได้ดีไม่เท่ากับขายอาหาร ฉะนั้น เลยเริ่มเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือจริงจังตอนปี 2545

สำหรับสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือที่ อ.โอฬาร ขายอยู่นั้น การันตีได้ถึงรสชาติว่าอร่อยแน่นอน เพราะเป็นสูตรโบราณจากอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดินแดนแห่งก๋วยเตี๋ยวเรือที่เล่าขานกันมายาวนาน

สาเหตุที่เมนูอาหารชนิดนี้ทำรายได้สูง อ.โอฬาร ระบุว่า โดยมากแล้วก๋วยเตี๋ยวจะกำไรต่อชามอย่างน้อย 40 เปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเช่น ลงทุนวันละประมาณ 800-1,000 บาท สามารถทำก๋วยเตี๋ยวขนาดชามเล็กได้ประมาณ 200 ชาม ขายชามละ 10 บาท ถ้าขายได้วันละ 200 ชาม จะมีกำไรเฉลี่ยวันละ 2,000 บาท

สำหรับข้อได้เปรียบของการขายเมนูนี้ อ.โอฬาร ให้ความเห็นว่า เป็นอาหารที่คนไทยคุ้นเคยมานาน รับประทานง่าย ได้ทุกเพศ ทุกวัย บรรดาวัตถุดิบ และเครื่องปรุง หาซื้อง่ายได้ตามตลาดสด ร้านขายของชำ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าทั่วไป อีกทั้งหากจำหน่ายไม่หมด สามารถเก็บแช่ในตู้เย็นใช้วันต่อไปได้ แต่ข้อเสีย พิจารณาแล้ว นั่นคือ รายจ่ายอาจจะมากกว่าบางอาชีพ เพราะใช้เงินหมุนเวียนอย่างน้อยวันละหลักพันบาท กรณีไม่มีผู้ช่วย ช่วงแรกเจ้าของร้านจะเหนื่อยหน่อย เพราะต้องตระเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เองทุกอย่าง แต่เชื่อว่าถ้าทุกอย่างเข้าที่ รายรับจะสามารถนำไปใช้จ้างคนงานพร้อมทั้งมีเหลือเก็บได้อย่างแน่นอน

ปัญหาและอุปสรรคของผู้ที่สนใจประกอบอาชีพนี้ อ.โอฬาร เผยจากประสบการณ์ส่วนตัวว่า หลักๆ เป็นเรื่อง แรงงาน สถานที่ตั้งร้าน และทำเล สิ่งเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในร้านที่ยอดขายดี หรือมีลูกค้าประจำมาก

“คนงานบางคน พอรู้สูตรก็แยกออกไปเปิดร้านเอง ทำให้เจ้าของร้านเสียเวลามาฝึกฝนพนักงานใหม่ กรณีเช่าพื้นที่ขาย หากเจ้าของเห็นว่าขายดี อาจใช้วิธีบังคับทางอ้อม โดยการขึ้นราคาเช่าที่ ฉะนั้น ควรวางแผนให้รอบคอบเสียก่อน” อ.โอฬารกล่าว

ใครอยากเรียนสูตรก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา สูตรโบราณ กับ อ.โอฬาร ศรีสวรรค์ ที่ “มติชนอคาเดมี” วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 ราคา 2,140 บาท

สนใจติดต่อมติชนอคาเดมี

Inbox : Facebook Matichon Academy

Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124

Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105

line : @matichonacademy

ซัมเมอร์นี้ไม่มีที่หลบแดด ลองมาที่ ศูนย์การค้า เดอะ เพนนินซูล่า พลาซ่า ถนนราชดำริ กันได้ แถมยังอิ่มท้อง อร่อยลิ้น กับป็อบอัพ คาเฟ่ เก๋ๆ “เพนนิน ซัมเมอร์ คาเฟ่” (Penin Summer Café) พร้อมเมนูคอมฟอร์ท ฟู๊ด ร่วม 30 รายการ อาหารทานง่าย สบายๆ และรสชาติคุ้นลิ้น ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี มารังสรรค์เป็นอาหารรสเลิศ ท่ามกลางบรรยากาศภายในร้านที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ดูสบายๆ จะมานั่งทานอาหาร หรือสั่งเครื่องดื่ม พร้อมเซลฟี่ถ่ายรูปเก๋ๆ ที่ได้อารมณ์เสมือนนั่งจิบกาแฟที่คาเฟ่ในปารีส

มาถึงเพนนินซูล่า พลาซ่า ทั้งที ต้องสั่ง ก๋วยเตี๋ยวเรือไฮโซในตำนาน ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ เพราะเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นห้างกลางกรุงที่เป็นที่รู้จักกันมากว่า 30 ปี ด้วยรสชาติของน้ำซุปที่เคี่ยวมาอย่างเข้มข้น และยังหอมด้วยกลิ่นของเครื่องเทศสมุนไพร กินคู่กับเนื้อหมูที่หมักได้เข้าที่ หรือเนื้อตุ๋นที่เคี่ยวจนเนื้อนิ่มเปื่อย ช่วยเพิ่มความอร่อยให้แก่ก๋วยเตี๋ยวเรือชามนี้มากยิ่งขึ้น

หรืออีกหนึ่งเมนูที่อร่อยไม่ธรรมดา กับเมนู ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ ผัดไทยเส้นฉ่ำน้ำซอสแต่รับประทานแล้วไม่เลี่ยน ท็อปปิ้งหน้าด้วยกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ 2 ตัว อีกเมนูที่มาแล้วอยากให้ลอง กับเมนู สปาเกตตีทะเลพริกเกลือ ที่ให้กลิ่นหอมฉุนและรสชาติเผ็ดร้อนเบาๆ

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีอาหารทานเล่นอย่าง ไก่ทอด 2 สี ที่เสิร์ฟคู่พร้อมกัน ด้วยรสชาติที่แตกต่างแต่อร่อยด้วยกันทั้งคู่ หรืออีกเมนูสุขภาพกับ ซีซ่าร์ไส้กรอกอีสาน เป็นเมนูที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ที่มีรสเปรี้ยว เค็ม ตัดสลับกัน ได้รสชาติที่อร่อย กลมกล่อม และลงตัว

เมนูเครื่องดื่มเป็นอีกไฮไลท์ของที่นี่อย่าง อิตาเลี่ยน โซดา ที่มีหลากหลายรสชาติ เสริมพิเศษด้วยไอศครีมโลลี่ป๊อบเย็นฉ่ำในแก้ว ที่อัดแน่นด้วยผลไม้ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี กีวี ลูกพีช ดับร้อนช่วงซัมเมอร์นี้ได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็นเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ต้องลอง เพราะที่อื่นไม่มีเสิร์ฟ กับ ฟีล เดอะ ทรอปิคอล ที่นำน้ำลิ้นจี่มาผสมกับน้ำมะม่วง ท็อปปิ้งหน้าด้วยเนื้อมะม่วงและสับปะรดหั่นลูกเต๋า และผลลิ้นจี่ ให้รสชาติที่หวานอมเปรี้ยว และ ฟริซซี่ สไปซ์ ที่เรียกพลังเอนเนอร์จี้ในร่างกาย ด้วยรสชาติเปรี้ยว หวาน ซ่า ของน้ำขิงที่ผสมกับน้ำผึ้งและน้ำมะนาว ไม่เพียงเท่านี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มกาแฟต่างๆ ที่คัดสรรเมล็ดกาแฟมาจากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำขุ่น จ.เชียงราย ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งแบบร้อนและแบบเย็น

เที่ยว อิ่มท้อง กับอาหารรสชาติคุ้นลิ้นกันได้ที่ “เพนนิน ซัมเมอร์ คาเฟ่” (Penin Summer Cafe) ในศูนย์การค้า เดอะ เพนนินซูล่า พลาซ่า ถนนราชดำริ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้