‘สมิติเวช’ เปิดตัวแคมเปญ #เราไม่อยากให้ใครเปลือง จัด 3 แพ็กเกจสุดคุ้มจ่ายคืนค่าคัดกรอง – เปิดศูนย์ Long COVID Center ครบวงจรแห่งแรกของไทย

Health สุขภาพดีๆ
‘สมิติเวช’ เปิดตัวแคมเปญ #เราไม่อยากให้ใครเปลือง จัด 3 แพ็กเกจสุดคุ้มจ่ายคืนค่าคัดกรอง มะเร็งลำไส้-หัวใจ-มะเร็งเต้านม/ปากมดลูก เปิดศูนย์ Long COVID Center ครบวงจรแห่งแรกของไทย หลังพบสถิติเกือบครึ่งของผู้ป่วยโควิดเป็น Long COVID

เมื่อเวลา 10.30 น.  วันที่ 26 เมษายน 2565 ที่ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์  รพ.สมิติเวช เปิดตัวแคมเปญ #เราไม่อยากให้ใครเปลือง ร่วมฝ่าฟันวิกฤติ โดยออกแพ็กเกจ คัดกรอง โรคร้าย รู้เร็วรักษาได้  และ เจอ จ่ายคืนค่าตรวจคัดกรองเป็นส่วนลดค่าผ่าตัด  กับ 3  แพ็กเกจ  คือ  1. แพ็กเกจส่องกล้องตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่  2. แพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคหัวใจ   และ 3. แพ็กเกจตรวจคัดกรอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนล่าง สำหรับสุภาพสตรี   พร้อมสิทธิพิเศษเมื่อเข้ารับการผ่าตัด  นอกจากนี้ยังร่วมกับบริษัทประกันกว่า 50 แห่งครอบคลุมสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล และแบ่งชำระ 0% สูงสุด 10 เดือนกับ 7 ธนาคารชั้นนำ   เพราะการช่วยให้คนไทย ไม่ป่วย ไม่เปลือง ถือเป็นบุญอันยิ่งใหญ่และมีคุณค่ายิ่งกว่าการรักษา

รวมถึงเปิดศูนย์ Long COVID Center ดูแล รักษา ฟื้นฟู ครบทุกด้าน  โดยโรงพยาบาลสมิติเวช มุ่งหวังให้คนไทยมีสุขภาพดีเป็นพื้นฐาน  นอกจากนี้รพ.สมิติเวช ได้จัดกำลังรับโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ร่วมมือภาครัฐเน้นการดูแลผู้ป่วย บริการฉีดวัคซีน ตรวจหาเชื้อ บริการผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวใน Hospitel หรือHome isolation 

นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร

นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม รพ.สมิติเวช และ รพ.บีเอ็นเอช กล่าวว่า ในภาวะเช่นนี้ เรียกได้ว่าอยู่ในยุคที่คนไทยเจอมรสุม 2 เรื่อง 1.โรคโควิด-19  2.พิษเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนมหาศาล กำลังซื้อลดลง รวมถึง ภัยธรรมชาติ ไม่มีนักท่องเที่ยว ร้านค้าปิดกิจการ เกิดความเครียด  ความกลัว  จึงเกิดเป็นวิกฤติสุขภาพทางร่างกาย และจิตใจ สิ่งที่เราทุกคนควรทำตอนนี้ คือร่วมมือร่วมใจฝ่าฟันวิกฤติช่วงนี้ไปให้ได้ ทำอย่างไรถึงจะเซฟจากโรคโควิด ทำอย่างไรถึงจะรอดจากพิษเศรษฐกิจไปได้ เราจึงต้องเสียสละทำเพื่อสังคมให้อยู่รอดได้ ให้ประชาชนพึ่งพาตัวเองได้ โดยผลักออกจากโรงพยาบาล ด้วยการป้องกัน จึงเกิดแคมเปญเราไม่อยากให้ใครป่วย ไม่อยากให้ใครเปลืองขึ้นมา

“สำหรับแนวโน้มธุรกิจของโรงพยาบาล ถึงแม้จะรายได้หดตัวเนื่องจากไม่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามารักษาตัวได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ยังมีรายได้จากการร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจในการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19  ไม่ว่าจะเป็นการจับมือกับโรงแรมเปิดเป็น Hospitel ในการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 การตรวจหาเชื้อ การฉีดวัคซีน  พร้อมตั้งศูนย์  Long COVID Center ให้การรักษาโดยการฟื้นฟูร่างกายให้ครบวงจรทุกด้าน จะเรียกว่าสมิติเวชเปิดเป็นแห่งแรกเลยก็ได้ เพราะเราไม่มีนโยบายเอากำไรกับความทุกข์ของผู้คนกับวิกฤติโรคภัยที่เป็นอยู่ เรายิ่งต้องเสียสละช่วยเหลือกันและกัน ถ้าสังคมอยู่ไม่ได้ สุดท้ายเราก็อยู่ไม่ได้ เพราะสมิติเวชเป็น Agile Organization of Value สร้างคุณค่าต่อชุมชนและสังคม ไม่ใช่ Organization of Success ที่เน้นแต่ความสำเร็จขององค์กรเท่านั้น” นพ.ชัยรัตน์ กล่าว

นพ.ชัยรัตน์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 4 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็น Long COVID 30-50% หรือ 1-2 ล้านคน โดยพบว่ามีผลกระทบต่อระบบโดยรวม อาทิ อาการก่อนเพลียเหนื่อยล้าสูงสุด 58% ส่วนอาการต่อระบบประสาทและสมอง ปวดศีรษะ 44% สูญเสียสมาธิ 27% สูญเสียการรับรส 23% สูญเสียความทรงจำบางส่วน 16% นอนไม่หลับ 11% เป็นต้น สมิติเวชจึงทำศูนย์  Long COVID Center ที่ใหญ่และครบวงจร เพื่อช่วยเหลือสังคม

“ไม่ป่วย คือ การรู้เท่าทันโรค นำไปสู่การป้องกัน บรรเทาความเจ็บป่วยก่อนที่จะเกิดขึ้นได้ รู้เท่าทัน-สกัดกั้น-วางแผนสุขภาพ เซฟชีวิต ลดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษา และ Health Care Cost ของประเทศชาติลดลง  นอกจากนี้ รพ. มีการนำนวัตกรรมการสุขภาพเพื่อดักจับและคัดกรองความเสี่ยงที่จะทำให้ป่วย  อาทิ  การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ด้วยเทคโนโลยี AI (Assisted Colonoscopy) จากประเทศญี่ปุ่น มีความแม่นยำขึ้น 1.5 เท่า สามารถตัดติ่งเนื้อได้ทันทีขณะตรวจส่องกล้อง และเน้นการป้องกันโรคด้วยวัคซีน 

“พร้อมตั้งศูนย์  Long COVID Center โดยให้บริการตรวจสุขภาพร่างกาย ตรวจสมรรถภาพปอด ตรวจการทำงานของหัวใจ ตรวจการอักเสบของร่างกาย การรักษาโดยการฟื้นฟูร่างกายให้ครบทุกด้าน ทั้งการฝึกหายใจ การออกกำลังกายเบาๆ การวัดระดับวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายการเสริมภูมิคุ้มกันด้วยวิตามินสูตรเฉพาะบุคคล วัคซีน รวมถึงการเสริมสุขภาพในด้านอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 เพื่อเป็นการประเมินสุขภาพและวางแผนดูแลฟื้นฟูตัวเองต่อไป รวมถึงเพื่อให้อวัยวะต่างๆ และร่างกายกลับมาทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้มีการนำแพทย์ให้ความรู้กับประชาชนและองค์กร ผ่านงานสัมมนาวิชาการออนไลน์ (Webinar)  วิดีโอ โทรทัศน์ บทความสุขภาพ  ล่าสุดได้จัดฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานสำหรับประชาชนเพื่อรับมือเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยคาดไม่ถึง

0Q4A3042

“ไม่เปลือง คือ จากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด -19  ที่เกิดขึ้น คนไทยมีเรื่องให้กังวลหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน สังคม การดูแลสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่ “เอาไว้ก่อน”จนอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งบางโรคหากคัดกรองตั้งแต่เริ่มต้นสามารถรักษา ช่วยประหยัดเงินและเซฟชีวิตไว้ได้  สมิติเวชจึงออกมาตรการช่วยเหลือ อาทิ เจอ จ่ายคืนค่าตรวจคัดกรองเป็นส่วนลดค่าผ่าตัด โดยเมื่อมาตรวจคัดกรอง พบความผิดปกติ และรักษากับสมิติเวช จะได้รับส่วนลดค่าผ่าตัดเท่ากับค่าตรวจคัดกรองใน 3 แพ็กเกจ 1.แพ็กเกจส่องกล้องตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่ 2. แพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคหัวใจ การตรวจวินิฉัยด้วยเครื่องมือพิเศษและการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงการวิ่งสายพาน  เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ 3. แพ็กเกจตรวจคัดกรอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนล่าง สำหรับสุภาพสตรี ที่เลือกทั้ง3โรคนี้ เพราะถ้าไม่ตรวจตั้งแต่เริ่มต้นปล่อยให้ป่วยแล้ว เป็นโรคที่เป็นแล้วทรมาน ญาติก็ทรมาน และต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นล้าน แต่ถ้าตรวจคัดกรองก่อนจะลดค่ารักษาพยาบาลได้เยอะ จึงเป็นที่มาของแคมเปญว่าไม่อยากให้ใครเปลือง”นพ.ชัยรัตน์กล่าว

ด้าน นพ.นิธิวัฒน์ กิจศรีอุไร ผอ.รพ.สมิติเวช สุขุมวิท กล่าวว่า คนทั่วโลกเป็นโควิด 500 กว่าล้านคน ประเทศไทยมีคนป่วย 4 ล้านคน โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนใน 3-4 เดือน มียอดผู้ป่วยเกือบ 2 ล้านคน ในจำนวนนี้ 30-50% มีอาการ Long COVID เกิดจากช่วงที่เป็นโควิดมีภูมิคุ้มกันผิดปกติ โดย CEO รพ.สมิติเวช ตระหนักถึงผลกระทบจาก Long COVID จึงตั้งเป็นศูนย์ Long COVID Center ทั้งนี้ในการดูแล เราจะดูแลเป็นองค์รวม คือ ตั้งแต่การสร้างเสริมสุขภาพ ตรวจเช็กสุขภาพตลอด ให้ออกกำลังกาย และถ้าเป็นโควิดจะมีกระบวนการรักษาที่ดี จนถึงเมื่อเป็น Long COVID จะมุ่งสู่การรักษาแบบครบวงจร โดยมีแบบประเมินอาการที่ยังหลงเหลือ

เนย - โชติกา วงศ์วิลาศ

“การตั้งศูนย์ Long COVID Center ครบวงจร ถือว่าสมิติเวชทำเป็นอันดับแรกๆ จะมีอยู่ทุกสาขาในกลุ่มรพ.สมิติเวชและ BNH กระบวนการรักษาจะมีการคัดกรองผู้ป่วย ก่อนส่งแพทย์เฉพาะทาง เป็นสหสาขาวิชาชีพ โดยผู้ป่วย1คนอาจมีหลายอาการ ในการรักษาส่วนใหญ่จะหายขาดได้ ใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 1-6 เดือน ขึ้นกับว่าแต่ละคนมีอาการรุนแรงมากน้อยแค่ไหน”นพ.นิธิวัฒน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงอาการ Long COVID ในส่วนของเด็ก นพ.นิธิวัฒน์ กล่าวว่า เด็กจะมีอาการ Long COVID น้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่เด็กบางคนโชคไม่ดีเกิดภูมิต้านทานผิดเพี้ยนระหว่างป่วยโควิด ทำให้เป็นเบาหวาน ส่วนใหญ่จะเป็นระยะสั้น ถ้าเข้าสู่การรักษาให้เร็วขึ้น ทำให้ตับอ่อนฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ปัญหาเบาหวานก็จะหายเร็วขึ้น แต่ถ้าเขาไม่รู้และปล่อยให้อักเสบเรื้อรัง จะกลายเป็นถาวรได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการรักษาโรคโควิด ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะได้รับยาเยอะแล้ว เมื่อเป็น Long COVID อีกจะต้องได้รับยาเพิ่มอีก จะมีปัญหาในการรักษาหรือไม่ นพ.นิธิวัฒน์ กล่าวว่า เป็นยาคนละกลุ่ม จริงๆแล้วสาธารณสุขของไทยมีระบบของรัฐบาลซัพพอร์ตเรื่องโควิดดีมากๆ ทำให้คนไทยที่เป็นโควิดเข้าถึงการดูแลการรักษาได้อย่างทั่วถึงทำให้ลดปัจจัย Long COVIDลง เมื่อรักษาดี หายเร็ว ฟื้นตัวเร็ว ผลกระทบจาก Long COVIDก็ลดลง

“ส่วนการจะใช้ยาตัวไหนแล้วแต่ความรุนแรงของโรค เมื่อเป็น Long COVID ก็มีการดูแลอีกกระบวนการหนึ่ง จะไม่มีผลต่อการรักษา แต่ถ้าจำเป็นจะมีเรื่องการชั่งน้ำหนัก ตัวอย่างถ้าเราให้ยาฟาวิพิราเวีย ก็จะไม่ให้ยาฟ้าทะลายโจร เพราะฉะนั้นระบบการแพทย์เรามีระบบการเฝ้าระวังอยู่แล้ว”ผอ.รพ.สมิติเวช สุขุมวิท กล่าว

เมื่อถามว่าทราบว่า นอกจากการรักษาแผนปัจจุบันแล้ว สมิติเวชมีการฝังเข็มเพื่อฟื้นฟูผู้ป่วย Long COVID แทนการใช้ยาแผนปัจจุบันด้วย นพ.นิธิวัฒน์ กล่าวว่า บางคนมีปัญหาเรื่องสภาวะการนอนไม่หลับ สภาวะร่างกายอ่อนล้า จิตใจไม่สดชื่น บางคนกลัวการกินยาแผนปัจจุบัน จะมีศาสตร์ทางเลือกเรื่องการใช้การฝังเข็ม ซึ่งเรามีแพทย์ฝังเข็มที่จบศาสตร์นี้โดยเฉพาะจากประเทศจีน ถือเป็นทางเลือกได้ถ้าบางคนกังวลเรื่องการสะสมของยา

ส่วน พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และผอ.ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า ปัจจุบันแพทย์เข้าใจเรื่อง Long COVID และกลไกการดูแลรักษาขึ้นมาก และทางสมิติเวชพร้อมดูแลให้ผู้ป่วยแข็งแรงเหมือนเดิม

“ในการจัดแคมเปญเราไม่อยากให้ใครเปลือง จึงออกแพ็กเกจคัดกรองโรคร้าย เจอ จ่ายคืนค่าตรวจคัดกรองเป็นส่วนลดค่าผ่าตัด โดยเมื่อมาตรวจคัดกรอง พบความผิดปกติ และรักษากับสมิติเวช จะได้รับส่วนลดค่าผ่าตัดเท่ากับค่าตรวจคัดกรอง  3 แพ็กเกจ  1.แพ็กเกจส่องกล้องตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่  2.แพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคหัวใจ การตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องมือพิเศษและการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงการวิ่งสายพาน  เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และ 3.แพ็กเกจตรวจคัดกรอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนล่าง สำหรับสุภาพสตรี 

“นอกจากนี้ยังจัด Surgery Plus สิทธิพิเศษเมื่อเข้ารับการผ่าตัด ตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ป่วย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนลดค่าตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด (Pre-Operation) มูลค่า 5,000 บาท สำหรับการผ่าตัดที่มีค่าใช้จ่าย 100,000 บาทขึ้นไป Biobeat ติดตามสัญญาณชีพของผู้ป่วยในห้องพัก Samitivej Pace ติดตามสถานะการผ่าตัด โดยไม่มีค่าใช้จ่าย Samitivej Prompt ติดตามสถานะการดูแลผู้ป่วยในห้องพัก โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยแพ็กเกจนี้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2565

ดีเจพุฒ - พุฒิชัย เกษตรสิน

“รวมถึงร่วมมือกับ บริษัทประกันกว่า 50 แห่งครอบคลุมสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล ด้านค่าใช้จ่ายและการบริการ ด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ ส่วนลดค่าห้องพัก โปรแกรมตรวจสุขภาพราคาพิเศษ  ห้องรับรองพิเศษ ช่องทางติดต่อพิเศษ และสามารถแบ่งชำระ 0%สูงสุด 10 เดือนกับ 7 ธนาคารชั้นนำ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 2565 ประกอบด้วย

“1.บัตรเครดิตเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์  และยูโอบี ผ่อนนานสูงสุด 10 เดือน (สำหรับผู้ป่วยในที่มียอดใช้จ่ายเกิน 200,000  บาท) 2.บัตรเครดิต  Co- Brand :  BDMS-กสิกร  และ เคทีซี-สมิติเวช  6 เดือน (สำหรับผู้ป่วยในที่มียอดใช้จ่ายเกิน 50,000 บาท) 3.บัตรเครดิตซิตี้แบงก์ กสิกรไทย เอสซีบี กรุงเทพ เคทีซี  4 เดือน (สำหรับผู้ป่วยในที่มียอดใช้จ่ายเกิน 50,000 บาท) ทั้งนี้แคมเปญและแพ็กเกจทั้งหมดเราคาดหวังว่า ต้องการให้สมิติเวชเป็นองค์กรแห่งคุณค่า ต้องการให้เกิดความยั่งยืนมั่นคงกับคนไทยทุกคน”พญ.ธิดากานต์ กล่าว

ด้าน บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ ศิลปินนักร้องชื่อดัง แคมเปญพรีเซนเตอร์ #เราไม่อยากให้ใครเปลือง กล่าวว่า ผมให้ความสำคัญกับสุขภาพ ควรมาตรวจก่อนที่คิดว่าเปลือง เพราะการลงทุนเพื่อสุขภาพเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องเอาไว้ก่อน ตัวผมเองมีไลฟ์สไตล์ที่สุดในทุกด้านและชอบทานเนื้อสัตว์ พอถึงอายุที่ต้องตรวจมะเร็งลำไส้ ก็เลยมาหาคุณหมอที่รพ.สมิติเวช เพราะรักษาที่รพ.นี้มาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ เสียค่าใช้จ่ายในการตรวจ 20,000 กว่าบาท แต่สบายใจอยู่ได้ 4-5 ปี ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะถ้ามีอาการแล้วลุกลามต้องรักษากันเป็นหลักล้าน ซึ่งมันไม่คุ้มค่าเลย

“อยากเป็นกระบอกเสียงให้ทุกคนหันมาตรวจสุขภาพกันเพราะถ้าตรวจพบได้เร็วก็ยิ่งรักษาให้หายได้เร็ว ไม่ป่วย ไม่เปลือง อยากจะฝากให้ทุกคนติดตามโปรเจกต์พิเศษระหว่างผมกับรพ.สมิติเวชได้เร็วๆ นี้ ได้ทาง Facebook : samitivej club”บุรินทร์กล่าว

ด้าน เนย – โชติกา วงศ์วิลาศ ดารานักแสดงสาว คุณแม่ลูก 2 ร่วมแชร์ประสบการณ์ตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสมิติเวช ว่า ตรวจสุขภาพที่สมิติเวชตลอด เคยตรวจพบก้อนซีสต์ที่เต้านมตั้งแต่อายุ 20 ปี จึงให้หมอเอาออกไป จากนั้นจึงตรวจสุขภาพทุกปี ตอนนี้มีก้อนซีสต์เล็กๆที่เต้านมอยู่ 6 ก้อน แต่สภาพไม่เปลี่ยนแปลง จึงมาตรวจกับหมอตลอด และออกกำลังกายด้วย กินผักผลไม้อาหารที่มีประโยชน์ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เลิกกินอาหารแปรรูป เพราะอยากสุขภาพดี จะได้อยู่กับลูกไปนานๆ

ขณะที่ ดีเจพุฒ – พุฒิชัย เกษตรสิน นักแสดงชื่อดัง ทำหน้าที่เป็นพิธีกร กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้ว คุณจุ๋ย วรัทยา นิลคูหา มาส่องกล้องตรวจลำไส้ด้วยระบบ AI ที่รพ.สมิติเวช พบว่าลำไส้สะอาดก็สบายใจไป 4-5 ปี จากนั้นผมจึงพาคุณพ่อคุณแม่อายุ 70 กว่าแล้วมาส่องกล้อง พบว่าคุณพ่อไม่เป็นอะไร ส่วนคุณแม่พบติ่งชิ้นเนื้อแต่ไม่ใช่เนื้อร้าย คุณหมอสามารถรักษาได้ เสียเงินนิดเดียว ดีกว่าปล่อยทิ้งเอาไว้แล้วเกิดโรคมะเร็ง