“โซล เอ็น” ส่ง 𝗨𝗩 𝗖𝗮𝗿𝗲𝟮𝟱𝟰 𝗔𝗶𝗿𝗳𝗹𝗼𝘄 เสริมเกราะป้องกันโควิด… ติดได้ทางอากาศ

ประชาสัมพันธ์

จากงานวิจัยในหลายสถาบัน รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) มีการเผยแพร่ข่าวถึงไวรัสโคโรน่า โควิด-19 ที่ในขณะนี้สามารถติดได้ทางอากาศ กล่าวคือ “droplet” หรือละอองฝอยน้ำมูก น้ำลาย หรือการจามของผู้ติดเชื้อไวรัสฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศได้เพียงระยะสั้น ๆ นำมาสู่การแพร่กระจาย (transmission) ในอากาศ “airborne” ผ่านความอบอวลของละอองลอย (aerosol transmission) เป็นเวลานานขึ้น และสามารถลอยตัวไปพร้อมกับกระแสลมได้ระยะทางไกล ซึ่งเจ้าละอองเหล่านี้สามารถฟุ้งกระจายและลอยตัวอยู่ในอากาศได้เป็นระยะเวลานาน ทำให้การติดเชื้อง่ายขึ้น

ปัจจุบันจะพบว่า สถิติรายวันของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยรอบใหม่ก็ถึงจุดที่ก้าวทะลุกว่า 20,000 รายต่อวัน โดยการติดเชื้อที่มากขึ้นนี้ สาเหตุหลักมาจากการแพร่กระจายได้ผ่านทางอากาศ หรือเราเรียกว่า “Airborne” ซึ่งจะเห็นว่าการป้องกันโดยสวมใส่หน้ากากสองชั้น ใส่ N95 ร่วมกับ Face Shield สองชั้น หรือแม้กระทั่งการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อาจไม่เพียงพออีกต่อไป

ทำให้นวัตกรรมที่เรียกว่า UV Care254 Airflow ทีมนักวิทยาศาสตร์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยาของชาวไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ คิดค้น และพัฒนาผลิตเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศและไวรัสเป็นรายแรกของไทย ที่จะเป็นเสมือนเกราะป้องกัน เชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด -19 ที่จะแพร่กระจายในอากาศ airborne  ซึ่งผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อโรคและความปลอดภัยจากหลายสถาบันระดับชาติ

ต่อเรื่องนี้ นางมัตติกา เอาแสงดีกุล  กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซล เอ็น เทค จำกัด และนักจุลชีววิทยาผู้คิดค้นเครื่องฆ่าเชื้อโรคแบรนด์โซล-เอ็น ได้อธิบายว่า

การที่โรคแพร่กระจายในอากาศไม่ว่าจะผ่านฝอยละอองขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ซึ่งส่วนมากจะเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจกลไกลการแพร่เชื้อโรคเหล่านี้จะผ่านละอองชีวภาพ Aerosol ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเชื้อก่อโรคต่างๆจะมีวิธีติดต่อสู่คนได้หลายวิธี  ละอองฝอยในอากาศ คือสิ่งที่เราต้องรู้  เชื่อว่าในช่วงนี้หลายคนเคยได้ยินคำว่า “Droplet” และ “Airborne”  โดยทั้งสองคำ เป็นชื่อเรียกของละอองในอากาศที่มาจาก เสมหะ น้ำมูก น้ำลาย โดยมาจากการไอ จาม หรือการพูด ของเราเอง ถึงทั้งสองจะเป็นละอองเหมือนกัน แต่ก็มีเส้นบาง ๆ ที่คั่นความต่างระหว่างกันและกันอยู่ กล่าวคือ

Droplet คือ ละอองที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมโครเมตร ที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศได้เพียงระยะสั้น ๆ เพียง 1- 2 เมตร และจะตกลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างรวดเร็ว โดยเราสามารถป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคที่แฝงมากับ Droplet นี้ได้ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ และเว้นระยะระหว่างกันประมาณ 2 เมตร

ส่วน Airborne  คือ เป็นละอองฝอยที่มีขนาดเล็กกว่า 5 ไมโครเมตร โดยเจ้าละอองเหล่านี้สามารถฟุ้งกระจายและลอยตัวอยู่ในอากาศได้เป็นระยะเวลานาน และสามารถลอยตัวไปพร้อมกับกระแสลมได้ระยะทางไกล โดยทางการแพทย์รายงานว่า มีเชื้อก่อโรคหลายชนิดที่นับว่าเป็น Airborne ที่แพร่สู่คนได้ นั้นรวมถึง โควิด-19 ด้วยนั่นเอง

นางมัตติกา  ยังกล่าวต่ออีกว่า การป้องกันตัวเองจึงมีความจำเป็นและสำคัญมากเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากละอองชีวภาพที่มีเชื้อโรคเหล่านี้อยู่มาตรการที่ใช้กันอยู่ทั้งการล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์หรือผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้ออื่นๆ การใส่หน้ากากเพื่อป้องกันตัวเองและลดการปล่อยสารคัดหลั่งออกสู่บุคคลอื่นลดการปนเปื้อนของเชื้อโรคเข้าสู่อากาศ และถ้าในพื้นที่ปิดใช้ร่วมกับบุคคลอื่นการมีมาตรการหรือเครื่องป้องกันเสริมเพื่อลดเชื้อที่ปนเปื้อนในอากาศด้วยเครื่องฆ่าเชื้อโรค UV Care254 Airflow ซึ่งทำหน้าที่กำจัดและลดเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในอากาศผ่านละอองชีวภาพ รวมถึงในสภาวะที่ร่างกายอ่อนแอหรือกำลังรักษาโรคติดเชื้ออื่น ๆ การลดเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในอากาศจะช่วยลดการโจมตีของเชื้อโรคเรานั้นต่อร่างกายในสภาวะที่กำลังอ่อนแออีกด้วย

“UV Care254 Airflow ภายใต้ชื่อแบรนด์ “โซล-เอ็น” ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อโรคจากไบโอเทค หรือศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ และศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) ว่ามีอัตราการฆ่าเชื้อโรคได้มากกว่า 90% ภายในอุโมงค์อาบรังสี สิทธิบัตรเฉพาะจาก “โซล-เอ็น เทค” นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบการรั่วไหลของรังสีขณะที่ใช้งานด้วยโครงสร้างที่

ปกป้องกันการเล็ดลอดของรังสี และไม่ปล่อยก๊าซโอโซน จากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) โดยผลการทดสอบทั้งหมดได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้า และบริการ ตาม พรบ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2562 ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)

นอกจากนี้ หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวสินค้าในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา มีเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานเป็นอย่างดี และมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งองค์กร ธุรกิจร้านค้า ที่พักอาศัย และได้สะท้อนความคิดเห็นเชิงบวกในการใช้งานเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ UV Care254 Airflow

ทาง “โซล-เอ็น เทค” จึงได้ส่งผลิตภัณฑ์ UV Care254 Airflow ไปทำการทดสอบเพิ่มเติมในเรื่องการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาในอากาศ ที่สำนักรังสีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงได้ส่งผลิตภัณฑ์ UV Care254 Airflow ไปทดสอบประสิทธิภาพการลด และกำจัดเชื้อที่ปนเปื้อนในอากาศในพื้นที่ห้องใช้งานจริง ผ่านสถาบันมาตราฐาน Intertek เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพในการลดการปนเปื้อนของเชื้อโรคในพื้นที่ และมีความปลอดภัยสามารถใช้งานสัมผัสกับคนได้จริง และนอกจากนี้ยังได้ส่งผลิตภัณฑ์ไปทดสอบเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานในพื้นที่ปิด ว่าเมื่อใช้ไปในระยะเวลาต่อเนื่องกันแล้วจะมีการสร้างสารเคมีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ ซึ่งผลการทดสอบจะนำเสนอในคราวถัดไป

ด้วยประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อโรค และความปลอดภัยในการใช้งานของเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ UV Care254 Airflow ที่อ้างอิงจากผลการทดสอบดังกล่าวในเบื้องต้นนั้น แสดงให้เห็นว่ากระบวนการทำงานของเครื่อง จะดูดอากาศที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าสู่อุโมงค์อาบรังสีเข้มข้น ที่มีรังสี UVC เข้าจัดการกับเชื้อโรคได้ถึง DNA และ RNA ทั้งยังมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคและไวรัสได้  ตลอดจนจะเป็นเครื่องมือช่วยลดอัตราการติดเชื้อโควิด-19 จากการแพร่เชื้อทางอากาศ  (Airborne)  

“ถือเป็นการตอกย้ำว่า UV Care254 Airflow เป็นนวัตกรรมคนไทยเพื่อคนไทย เราห่วงใยและใส่ใจทั้งเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานจริง และความปลอดภัยสูงสุดในการใช้งานร่วมกับคนและสัตว์ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ และหวังว่าเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ แบรนด์โซล-เอ็น จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อผ่านทางอากาศ ส่งผลให้อัตราการติดเชื้อในประเทศลดลง และได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย” นางมัตติกา กล่าวทิ้งท้าย