โครงการ “วัคซีนพ่อแม่” ภูมิคุ้มกันสำคัญของเด็กในชุมชนแออัด โดยกรุงเทพดุสิตเวชการ

ประชาสัมพันธ์

เมื่อพ่อแม่เป็น “วัคซีน” ที่ดีที่สุดของลูก โครงการ “วัคซีนพ่อแม่” ภูมิคุ้มกันสำคัญของเด็กในชุมชนแออัด
โดยกรุงเทพดุสิตเวชการ

คำว่า “การเยียวยา” อาจเป็นหนึ่งในคำแรกๆ ที่เรานึกถึง เมื่อเราพูดถึงการหยิบยื่นการเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีในกลุ่มบุคคลที่ขาดโอกาส แต่การเยียวยาที่ขาดการมองภาพในอนาคต อาจเป็นได้แค่การฉีดยาเพื่อรักษาอาการเบื้องต้น ซึ่งอาจเกิดซ้ำได้หากเราไม่คิด “ป้องกัน” ในทางการแพทย์ การป้องกันเริ่มต้นขึ้นได้จากการฉีด “วัคซีน” เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ในสถาบันครอบครัว มันคือการดูแลที่ถูกต้องอย่างใกล้ชิด จากบุคคลในครอบครัวที่มีอิทธิพลที่สุดต่อเด็ก – พ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กนั่นเอง

“เพราะพ่อแม่คือ ‘วัคซีน’ ที่ดีที่สุดของลูก” คือความเชื่อที่ทำให้ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS จับมือกับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทั้ง 4 หลัง ได้แก่ บ้านสมวัย (ชุมชนคลองเตย) บ้านศรีนครินทร์ (ชุมชนกองขยะหนองแขม) บ้านแห่งความหวัง (ซอยอ่อนนุช 88 แยก 10) และบ้านเด็กอ่อนเสือใหญ่ (ชุมชนเสือใหญ่ประชาอุทิศ) จัดทำโครงการ “วัคซีนพ่อแม่” เพื่ออบรมส่งเสริมองค์ความรู้ของพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กในชุมชนดังกล่าว เกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่ระยะ 3 เดือน – 5 ปี โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาความเป็นอยู่ของเด็กในชุมชนแออัด ให้มีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย และมีชีวิตวัยเด็กที่มีคุณภาพ ผ่านความช่วยเหลือด้านองค์ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพและบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) โดยเมื่อเร็วๆนี้ โครงการฯ ได้นำร่อง พาคณะพยาบาลจากศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลกรุงเทพเข้าอบรมพ่อแม่และผู้ปกครองในชุมชนเสือใหญ่ประชาอุทิศเป็นที่แรก ในหัวข้อ “ การดูแลเช็ดตัวลูกเมื่อมีไข้สูงและโรคที่พบบ่อยในฤดูหนาว ” ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่มักจะถูกละเลย ปฏิบัติอย่างผิดวิธีหรือไม่ใส่ใจ ซึ่งอาจจะส่งผลร้าย ต่ออาการป่วยไข้ของเด็กต่อไปได้

รศ. อัจจิมา เศรษฐบุตร ที่ปรึกษาด้านความรับผิดชอบขององค์กรต่อสังคม บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญในการสร้างและส่งเสริมคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเยาวชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยง เช่น เด็กในชุมชนแออัด ที่มักประสบปัญหาการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ ไปจนถึงโอกาสในการมีชีวิตวัยเด็กที่มีคุณภาพ โดยเรามองว่า ก้าวแรกของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ใช่เพียงความสามารถในการเข้าถึงมาตรการเยียวยา หรือการรักษาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งให้กับเด็กและชุมชน โดยเริ่มจากสถาบันครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันที่ใกล้ชิดกับตัวเด็กมากที่สุด โดยมีพ่อแม่หรือผู้ปกครองเป็นกำลังสำคัญในการสร้างเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของเด็ก การให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องจากบุคลากรที่มีคุณภาพจึงถือเป็นสิ่งสำคัญในการนำทางเด็กไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยทาง BDMS จะไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ แต่มีแผนที่จะขยายโครงการไปสู่พ่อแม่และผู้ปกครองในชุมชนต่างๆทั่วประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆ ไม่ว่าจะอยู่ภายในสภาพแวดล้อมใด ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับโอกาสในการมีชีวิตวัยเด็กที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงกัน”
“แต่ก่อนเคยเข้าใจผิดในหลายๆ อย่าง เช่น เรื่องการใช้ยา หรือวิธีการเช็ดตัวอย่างถูกต้อง” คุณยายน้องข้าวหอม ผู้เข้าร่วมโครงการท่านหนึ่งกล่าว “แต่ตั้งแต่ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม ได้เรียนรู้หลายๆ อย่าง ที่เราจะนำไปปฎิบัติตามและช่วยบอกคนอื่นๆ ให้รับรู้ด้วยเช่นกัน”

“บางทีเราทำงานก็ไม่ได้สังเกตลูก แต่กิจกรรมนี้ช่วยแนะนำวิธีการสังเกตลูกอย่างถูกต้อง” แม่น้องมะลิกล่าว ในขณะที่ผู้ปกครองอีกท่านเสริมขึ้นว่า “รู้สึกดีที่มีคนเข้ามาใส่ใจในเรื่องนี้ เป็นโอกาสที่เราจะได้เพิ่มพูนความรู้จากที่มีอยู่เดิมให้มากขึ้น”

สามารถติดตามกิจกรรมของมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์ฯ ได้ที่ http://www.fscc.or.th/thai/children.html และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการเพื่อสังคมของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ได้ที่ http://www.bdms.co.th/th/our-community/