เยี่ยมชม “2หมู่บ้านสร้างสรรค์”ชุมชน”บ้านเกาะพิทักษ์-บ้านหาดส้มแป้น”สโลว์ไลฟ์แดนใต้

Travel ท่องเที่ยว

เรื่องโดย กมลชนก ครุฑเมือง

สองหมู่บ้านสร้างสรรค์“ชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์-บ้านหาดส้มแป้น” สโลว์ไลฟ์แดนใต้ จุดเช็คอินใหม่ที่ต้องแชร์

 

การท่องเที่ยวเมืองรองยังคงเป็นนโยบายที่ภาครัฐให้ความสำคัญและยังคงดำเนินกิจกรรมส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เร่งพัฒนา “โครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์” หรือ CIV ของปี พ.ศ.2562 เตรียมปั้นแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองใหม่ จากทั่วประเทศ สำหรับแผนในการพัฒนาหมู่บ้าน CIV ของปีนี้ กสอ.จะมุ่งดำเนินโครงการและกิจกรรมที่เข้มข้นขึ้น ทั้งการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ การพัฒนาแอปพลิเคชั่น การพัฒนาการตลาดให้มีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือต่าง ๆ อาทิ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ITC 4.0) โครงการไทยเด่น การฝึกอบรมเชิงลึกในด้านการทำตลาดเพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจเฉพาะบุคคล ซึ่งจะช่วยลดการกระจุกตัว พร้อมผลักดันให้เมืองรองในแต่ละภูมิภาคเติบโตขึ้นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักในอนาคต

 

โดยปีนี้เลือกจัดกิจกรรมที่ หมู่บ้าน CIV สองแห่ง คือ “ชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์” และ “ชุมชนบ้านหาดส้มแป้น” ซึ่งเป็นอีก 2 เมืองรองในภาคใต้ที่เข้าร่วมโครงการอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

“กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์” อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม อธิบายว่า ในอนาคตจะมีการผลักดันโครงการนี้ไปอีก 27 หมู่บ้านที่ได้รับการพัฒนาแล้วก้าวสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งผลิตสินค้า และบริการที่เป็นที่นิยม เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากและชุมชนมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถไต่ระดับไปสู่ SMEs ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ พัฒนามาตรฐานต่าง ๆ การรวมกลุ่มหรือคลัสเตอร์พร้อมด้วยการผสมผสานกิจกรรมที่จะช่วยให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ๆ ให้กับประเทศไทย

อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เล่าต่อว่า “ชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์” และ “ชุมชนบ้านหาดส้มแป้น” เป็น 2 ใน 50 หมู่บ้านของภาคใต้ที่ได้การรับเลือกเป็นหมู่บ้าน CIV ที่ผ่านการคัดเลือกตามกระบวนการของประชารัฐ และได้ประสบความสำเร็จมากเป็นอันดับต้น ๆ ของภาคใต้และประเทศไทย ภายใต้ผู้นำชุมชนที่มีวิสัยทัศน์และอุดมการณ์ในการพัฒนาชุมชน CIV ชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์และชุมชนหาดส้มแป้นให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวและซื้อผลิตภัณฑ์ของชุมชม

นอกจากนี้ชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ ยังได้รับความช่วยเหลือดูแลจากทาง SCG เป็นแห่งใหม่แห่งที่ 7 ของ SCG ที่ได้เข้ามาส่งเสริมร่วมกับกรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ต้องการของทางการตลาด

“ถ้าหากทุกหมู่บ้าน CIV หรือทุกวิสาหกิจชุมชนที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ CIV ดำเนินการพัฒนาชุมชนและกิจกรรมได้ถูกทาง มันก็จะเป็นแรงผลักดันในการสร้างแรงบันดาลใจและขวัญกำลังใจให้กับผู้คนในชุมชนในการทำต่อไป”กอบชัยกล่าวในที่สุด

ชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ เป็นหมู่บ้านใน ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่มีน้ำทะเลล้อมรอบ น้ำใสสะอาด ลักษณะบ้านจะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูงตั้งริมทะเลมีชานบ้านกว้างยื่นออกไปในทะเล ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะจะเป็นหาดที่มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน

ที่น่าสนใจของหมู่บ้านแห่งนี้คือ ในรอบ 1 ปี ช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี น้ำทะเลจะแห้งขอดเป็นทะเลแหวกสามารถเดินไปถึงเกาะพิทักษ์ได้โดยไม่ต้องใช้พาหนะในการเดินทาง และมีผลิตภัณฑ์ของชุมชนมากมายหลายอย่างให้เลือกจับจ่ายใช้สอย

“อำพล ธานีครุฑ” ผู้ใหญ่บ้านชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ เล่าว่า ชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์มีการทำผลิตภัณฑ์มาตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่จะไม่มีการทำแพ็คเกจจิ้ง ไม่มีการเล่าเรื่องของผลิตภัณฑ์

“หลังจากได้เข้าร่วมโครงการ CIV ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้เข้ามาเติมเต็มองค์ความรู้ให้กับชาวบ้านในชุมชน ทำให้ชาวบ้านมีองค์ความรู้เข้าสู่ระบบสากลได้ เริ่มรู้จักเล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และเริ่มขายในระบบออนไลน์ จนตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ เพราะได้รับการส่งเสริมจาก CIV ในการให้ความรู้เรื่องการตลาดและการทำสื่อ”ผู้ใหญ่อำพล อธิบาย

ปัจจุบันชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์มีผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้น 5 ผลิตภัณฑ์ อาทิ ปลาอินทรีย์ฝังทราย กะปิ อาหารแปรรูป ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ และของที่ระลึกจากเปลือกหอย เป็นต้น

ขณะที่ “ภัสรา แก้วประสงค์” ประธารกลุ่มแปรรูปอาหารสัตว์น้ำชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารสัตว์น้ำที่ได้รับความนิยมมากมีอยู่ 2 ประเภทก็คือ “ปลาอินทรีย์ฝังทราย” ซึ่งเป็นการถนอมอาหารที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษและสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน มีจุดเด่นที่กระบวนการทำที่แปลกไม่เหมือนที่อื่นเพราะจะนำปลาอินทรีย์สด ๆ คลุกเค้ากับเกลือแล้วนำไปฝังทรายที่น้ำทะเลสามารถท่วมถึงได้ และในตอนนี้มีการนำปลาอินทรีย์ฝังทรายไปต่อยอดทำเป็นน้ำพริกปลาอินทรีย์ฝังทราย ที่สามารถทานได้ง่ายและสะดวก

สำหรับคนที่กินปลาเค็มไม่เป็น ภายในอนาคตมีการวางแผนไว้ว่าจะมีไอศกรีมปลาอินทรีย์เข้ามาเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของเกาะพิทักษ์ และอาจมีอีกหลาย ๆ อย่างที่อยากจะทำเพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ จึงอยากจะได้ความรู้จากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาแนะนำให้กับผู้คนในหมู่บ้าน

และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งอย่าง คือ “กะปิ” ที่มีความแตกต่างจากที่อื่นที่กะปิของทางชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์จะใช้กุ้งสด ๆ ผสมกับเกลือ ไม่มีส่วนประกอบอย่างอื่นเจือปน และไม่ใช้เครื่องมืออุตสาหกรรมแต่จะใช้ครกตำมือ ซึ่งจะทำให้เนื้อกะปิไม่หยาบหรือละเอียดจนเกินไปและมีกลิ่นหอมไม่ฉุน เรียกได้ว่าเป็น ผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดของชุมชนเลยก็ว่าได้ แต่ว่ากะปิของทางชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์จะมีจำหน่ายเป็นช่วง ๆ คือ ช่วงเดือนมีนาคม – ตุลาคม เพราะช่วงอื่นๆจะเป็นช่วงมรสุม

“อารีรัตน์ ซ่านฮู่” ประธานกลุ่มผ้ามัดย้อมจากเปลือกไม้เคี่ยมชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ เล่าว่า “ผ้ามัดย้อมจากเปลือกไม้เคี่ยม” มีจุดเริ่มต้นในการทำกลุ่มผ้ามัดย้อมนั้นเริ่มมาได้ประมาณ 1 แล้ว จากการที่เห็นนักท่องเที่ยวนำถุงพลาสติกเข้ามาใช้บนเกาะเพิ่มมากขึ้น จึงเกิดแรงบันดาลใจในการทำถุงผ้ามัดย้อม ที่มีจุดเด่นเป็นการย้อมสีจากเปลือกไม้เคี่ยม ซึ่งเป็นเปลือกไม้เหลือใช้ที่นำมาสร้างบ้านเอามาย้อมเป็นสีธรรมชาติ และ การใช้โคลนทะเลที่ไม่เหมือนกับที่อื่น ได้รับการดูแลจากการบำบัดน้ำที่ไม่มีมลพิษ มีคุณภาพไร้สารเคมี และได้มีการต่อยอดไปทำเป็น เสื้อ กางเกง ผ้าถุง และผ้าพันคอ

ในอนาคตมีการตั้งเป้าไว้ว่าจะมีการทำกระเป๋าและพวงกุญแจจากผ้ามัดย้อมอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมจะมีทั้งจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว จัดเป็นกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำผ้ามัดย้อมเอง และเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับกลุ่มที่เข้ามาศึกษาดูงานบนเกาะพิทักษ์

“ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมสามารถเพิ่มรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของเกาะพิทักษ์ได้ 2-3 ล้านบาท/ปี สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเกาะพิทักษ์เพิ่มมากขึ้นและได้นำผลิตภัณฑ์ถุงผ้ามัดย้อมกลับไปใช้ และทำให้คนอื่นได้รู้ว่าเกาะพิทักษ์ก็มีผ้ามัดย้อมเหมือนกัน ซึ่งยังเป็นการลดการใช้ถุงพลาสติกบนเกาะพิทักษ์ได้อีกด้วย” อารีรัตน์เล่าทิ้งท้าย

“ยุพา รอดรักษา” กรรมการหมู่บ้านผลิตภัณฑ์เปลือกหอย เล่าว่า การทำ “ผลิตภัณฑ์เปลือกหอย” ได้แรงบันดาลใจมาจากการอยากจะทำของที่ระลึกที่สื่อถึงอัตลักษณ์ของชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ จึงได้นำเปลือกหอยที่ได้มาจากการรับประทานเสร็จแล้ว มาทำความสะอาดและเพ้นท์ลายลงไป เช่น ลายโลมา ลายต้นมะพร้าว และชื่อเกาะพิทักษ์ เป็นต้น ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้อีกช่องทางให้กับคนในชุมชนเกาะพิทักษ์ และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมเกาะพิทักษ์อีกด้วย

ชุมชนบ้านหาดส้มแป้น เป็นชุมชนหมู่บ้านที่อยู่ใน ตำบลหาดส้มแป้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนองตั้งอยู่บนที่ราบหุบเขา มีทิวทัศน์สวยงาม มีวัฒนธรรมและทรัพยากรที่ทรงคุณค่าเป็นแหล่งแร่ดีบุกและแร่ดินขาวที่สำคัญของจังหวัดระนองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังมีอุตสาหกรรมในระดับชุมชนที่แทบจะไม่มีให้เห็นในประเทศไทยแล้ว คือ การร่อนแร่ของชาวบ้าน และนำแร่ไปขายยังบ้านที่มีการรับซื้อ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เซรามิกบ้านหาดส้มแป้นอีกด้วย

“สุรีย์พร สรรพกุล” ประธานท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านหาดส้มแป้น กล่าวว่า บ้านหาดส้มแป้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนกับที่อื่น ที่อื่นจะเริ่มจากการท่องเที่ยวแล้วมามีผลิตภัณฑ์แต่บ้านหาดส้มแป้นมีผลิตภัณฑ์มาก่อนที่จะมีการท่องเที่ยวตามเข้ามา

“เดิมทีบ้านหาดส้มแป้นมีดินขาวอยู่แล้ว เราจึงนำดินขาวมาทำเซรามิก ในตอนแรกใคร ๆ ก็คิดว่าทำไม่ได้ แต่บ้านหาดส้มแป้นก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ เข้าร่วมประกวดโครงการคัดเลือกหมู่บ้าน CIV จนมาเป็นกลุ่มเซรามิกบ้านหาดส้มแป้น หลังจากมีผลิตภัณฑ์เซรามิกและได้รับการส่งเสริม คำแนะนำจาก CIV นักท่องเที่ยวก็เริ่มให้ความสนใจมาเที่ยวชุมชนบ้านหาดเพิ่มมากขึ้น ทางชุมชนจึงเริ่มทำการท่องเที่ยวพร้อมกับการให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน เช่น การมีส่วนร่วมทำเซรามิกจากดินขาว การร่อนแร่ และไปเที่ยวชมบ้านที่รับซื้อแร่ที่ปัจจุบันเหลือน้อยมาก เป็นต้น”

สุรีย์พร กล่าวต่อว่า นอกจากผลิตภัณฑ์กลุ่มเซรามิกแล้วยังมี ไข่เค็มดินขาวน้ำแร่บ้านหาดส้มแป้น ที่ยังเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของบ้านหาดส้มแป้นอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมีการทำมานานแล้วหลายปีจากกลุ่มผู้สูงอายุกลุ่มก่อนแต่ก็เลิกทำไป และเริ่มนำมาทำอีกครั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยมีการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ให้สวยงามยิ่งขึ้นและนอกจากนี้ยังได้มีการเชิญชวนชาวบ้านนำผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เข้ามาร่วมจำหน่ายด้วย อย่างเช่น ผักใบเหลียง ตะกร้าสาน และผลิตภัณฑ์ไข่มุก เป็นต้น เพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนบ้านหาดส้มแป้น

“สมมิต เกษจันทร์” คนร่อนแร่ชุมชนบ้านหาดส้มแป้น เล่าว่า เริ่มร่อนแร่มาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่บ้านทำอาชีพร่อนแร่ขายเป็นอาชีพหลัก จึงช่วยที่บ้านร่อนแร่มาจนเกิดความชำนาญ และทำมาจนถึงปัจจุบันก็อายุ 63 ปีแล้ว โดยแร่ที่ได้ส่วนใหญ่จะเป็น แร่ดีบุก แร่โมนาไซด์ แร่คลอง วูลแฟม และอัลเมไนด์ แจ่ที่ให้ราคาดีที่สุดจะเป็นแร่ดีบุก ในส่วนของเรื่องนักท่องเที่ยวนั้น การร่อนแร่ เป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก และแร่ที่นักท่องเที่ยวร่อนได้ก็จะบรรจุใส่ขวดขนาดเล็กให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อเป็นของที่ระลึกจากชุมชนบ้านหาดส้มแป้น

“ศาโรจน์ ลิ่มสกุล” เถ้าแก่เจ้าของโรงงานรับซื้อแร่ ได้เล่าว่า ที่บ้านเปิดรับซื้อแร่มาได้ประมาณ 140 ปีแล้ว ตั้งแต่บรรพบุรุษจนมาถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 4 และคงคิดว่าจบแค่ที่รุ่นนี้ เพราะปัจจุบันนั้นแร่มีจำนวนที่น้อยลงและชาวบ้านก็หันไปทำอาชีพอื่น ถึงจะมีชาวบ้านนำมาขายอยู่บ้างแต่ก็นำมาขายเป็นช่วง ๆ ช่วงที่เยอะสุดจะเป็นช่วงฤดูฝน ราคาของแร่จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของแร่ที่นำมาขาย ส่วนแร่ทีรับซื้อมาก็นำขายส่งออกต่างประเทศต่อไป

เป็นตัวอย่างให้เห็นภาพของการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยอุตสาหกรรม พร้อมสัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรมของสองเมืองรองชุมชนสโลว์ไลฟ์แดนใต้ “ชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ และ ชุมชนบ้านหาดส้มแป้น”