เลือก “เครื่องซักผ้า” อย่างไรให้เหมาะกับบ้านคุณ

Tips & Tricks สารพันเกร็ดน่ารู้

ในยุคนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เครื่องซักผ้าคือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านต้องมี เพราะเป็นตัวช่วยทำความสะอาดเสื้อผ้า ที่ช่วยเบาแรง ประหยัดเวลา สามารถไปทำอย่างอื่นขณะที่ซักผ้าได้ แต่การจะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าดีๆ สักเครื่องไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เพื่อให้ได้เครื่องซักผ้าที่เหมาะกับบ้านที่สุด วันนี้เราได้รวบรวม 6 วิธีเลือกเครื่องซักผ้าให้เหมาะกับบ้านคุณมาฝาก ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

1. ดูความจุให้เหมาะสมกับปริมาณผ้า

ควรเทียบปริมาณผ้าที่จะซักในแต่ละครั้ง กับจำนวนสมาชิกในบ้าน ดังนี้

  • 1-3 คน ปริมาณเสื้อผ้าที่ซักต่อครั้ง 3-5 กิโลกรัม
  • 4 คนขึ้นไป ปริมาณเสื้อผ้าที่ซักต่อครั้ง 6-8 กิโลกรัม

จากนั้นจึงค่อยเลือกขนาดของเครื่องซักผ้า เพื่อให้ได้ขนาดที่ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป และไม่ทำให้เปลืองไฟมากขึ้นอีกด้วย

2. ดูวัสดุที่ใช้ผลิต

เรื่องวัสดุที่ใช้ผลิตถังซักผ้าก็สำคัญ เรามาดูกันดีกว่า ว่าวัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเด่นยังไงบ้าง

  • พลาสติก หรือ โพลิเมอร์ จะมีน้ำหนักเบา และมีสีสันให้เลือกหลากหลาย
  • เหล็กเคลือบกันสนิม แข็งแรง ทนทาน และไม่เป็นสนิมง่าย
  • เรซิน หรือ ไฟเบอร์ ทนทานปราศจากการผุกร่อน สามารถติดตั้งได้ในที่ที่มีความชื้นสูง แถมไม่เป็นสนิม
  • สเตนเลส ทนทาน ไม่อับชื้น ไม่เป็นสนิม และไม่มีเชื้อราสะสม
  • โพลีน็อกซ์ ช่วยเก็บเสียงในการปั่น ลดความสั่นสะเทือน และช่วยประหยัดพลังงานขณะซักได้

3. ดูตำแหน่งวางและพื้นที่ภายในบ้าน

เพื่อสำรวจว่าคุณมีพื้นที่กว้างสำหรับวางเครื่องซักผ้ามากแค่ไหน

  • 60-48 เซนติเมตร : เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
  • 48-34 เซนติเมตร : เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดย่อม
  • 45-40 เซนติเมตร : เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน

4. ดูฟังก์ชั่นการทำงาน

ตอนนี้เครื่องซักผ้ามีโปรแกรมการทำงานพิเศษต่างๆ ที่อัจฉริยะขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกในการซักให้เหมาะกับผ้าแต่ละประเภทมากขึ้น ซึ่งแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น มีโปรแกรมซักกางเกงยีนส์, ซักผ้าห่ม, ซักแบบประหยัดน้ำ เป็นต้น แต่ยิ่งฟังก์ชั่นเยอะ ราคาก็ยิ่งสูงเป็นธรรมดา เราจึงควรเลือกให้ตรงกับการใช้งานจริง เพื่องบจะได้ไม่บานปลาย ได้เครื่องซักผ้าที่คุ้มค่า และเหมาะสมที่สุด

5. ดูประเภทของเครื่องซักผ้า

หลายคนคงสับสน และเลือกไม่ถูกกับประเภทของเครื่องซักผ้า ทั้งฝาหน้า ฝาบน ถังเดียว สองถัง เยอะแยะไปหมด เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจ มาดูกันว่าแต่ละแบบต่างกันอย่างไร

แบบฝาบนสองถัง (กึ่งอัตโนมัติ) เหมาะสำหรับการซักครั้งละน้อยๆ

  • ข้อดี คือ สามารถซักได้หลายครั้งโดยไม่เปลี่ยนน้ำ ราคาถูก
  • ข้อเสีย คือ ต้องคอยย้ายผ้าไปมาระหว่างถังซักและถังปั่นหมาด ทำให้ไม่สะดวกมากเท่าที่ควร

แบบฝาบนหนึ่งถัง (อัตโนมัติ) มีราคาปานกลางถึงสูง เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ในบ้านน้อย

  • ข้อดี คือ สะดวกสบาย มีโปรแกรมให้เลือกใช้งานเยอะพอสมควร
  • ข้อเสีย คือ ยังมีโปรแกรมการใช้งานไม่มากเท่ากับเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

แบบฝาหน้า ผ้าสะอาดหมดจด แถมยังถนอมเนื้อผ้า เหมาะกับครอบครัวใหญ่

  • ข้อดี คือ จุผ้าได้มาก ซักสะอาดใกล้เคียงกับซักมือมากที่สุด ประหยัดน้ำ ไฟ มากกว่าแบบฝาบน
  • ข้อเสีย คือ มีราคาสูง ต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นคนติดตั้งให้

แบบอบผ้าในตัว (ฝาหน้า) คุณสมบัติเหมือนกับแบบฝาหน้าทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ซักบ่อยแต่ไม่เยอะ และมีพื้นที่ตากผ้าไม่มากนัก

  • ข้อดี คือ สามารถอบผ้าด้วยไอน้ำ ให้ผ้าแห้งได้โดยไม่ต้องตาก และลดสารก่อโรคภูมิแพ้ได้ด้วย
  • ข้อเสีย คือ ราคาสูง ไม่เป็นที่นิยมใช้ในบ้านเรือน

6. ดูบริการหลังการขาย

การรับประกันและบริการหลังการขาย จะช่วยให้คุณไม่ต้องปวดหัว หากเครื่องซักผ้าของคุณใช้งานไม่ได้ ลองเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ใส่ใจในการบริการหลังการขาย ซ่อมเครื่องซักผ้าให้คุณได้รวดเร็ว และมีอะไหล่สำรอง

รู้รายละเอียดในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าแบบนี้แล้ว ตัดสินใจง่ายขึ้นเยอะเลยใช่ไหมคะ อย่าลืมนำทริคทั้ง 6 ข้อไปใช้ เลือกที่ตรงใจ และตอบโจทย์ จะได้มีเครื่องซักผ้าดีๆ เหมาะกับบ้านของคุณไว้ใช้งานไปอีกนานๆ ค่ะ

ที่มา : Tesco Lotus