“สินค้าวางอยู่เป็นล็อกๆ แยกตามกลุ่มประเภท” คงเป็นภาพจำโซนขายของแต่งบ้าน หรือแผนกโฮมของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลที่หลายคนนึกออก
แต่คงไม่ใช่กับที่ “เซ็นทรัล พระราม 3” ที่มีการปรับโฉม และเปลี่ยนประสบการณ์การช้อปปิ้งให้สนุกและตอบโจท์ทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Living House” (ลิฟวิ่ง เฮ้าส์) เติมเต็มความสุขให้ลูกค้าเสมือนบ้านหลังที่ 2 บนพื้นที่กว่า 4,200 ตารางเมตรของแผนกโฮม เซ็นทรัล พระราม 3
![](https://www.matichonacademy.com/wp-content/uploads/2019/01/DSCF0166.jpg)
“รุ่งนิภา ศรีวิริยะเลิศกุล” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารสินค้า บริษัท สรรพสินค้า เซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า แผนกโฮมในคอนเซ็ปต์ใหม่นี้จะเป็นต้นแบบของแผนกโฮมของห้างเซ็นทรัลสาขาอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งหัวใจสำคัญของห้างสรรพสินค้าอยู่ที่การสร้างบรรยากาศที่จะมอบความอบอุ่น และให้ความรู้สึกราวกับคนพิเศษ จึงแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ Round Center (ราวด์ เซ็นตอร์) โซนรวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน, Dining Community (ไดนิ่ง คอมมูนิตี้) โซนร้านอาหารที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี และโซน New Service (นิว เซอร์วิส) หรือบริการสุดพิเศษตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
การออกแบบหลักๆ ของแผนกโฮมที่เซ็นทรัล พระราม 3 จะเน้นการดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ลักชัวรี่ ด้วยการใช้วัสดุจากไม้และทองแดงเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง ซึ่งให้ความรู้สึกสวยงาม หรูหรา แต่ก็อบอุ่นไปในตัว
ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะสะดุดตาทันทีตั้งแต่ก้าวเข้ามา คือ โครงไม้ทรงกลมขนาดใหญ่ในโซนราวด์ เซ็นเตอร์ ที่ด้านบนใช้การตกแต่งด้วยแผ่นไม้ซ้อนทับกับระแนงไม้สวยงาม ซึ่งบริเวณนี้เปรียบเสมือนใจกลางของพื้นที่ทั้งหมด เพราะง่ายต่อการสังเกตเห็น และสามารถเดินดูสินค้าได้โดยรอบเป็นวงกลมอีกด้วย
ในโซนราวด์ เซ็นเตอร์ นอกจากจัดสินค้าตามประเภทเพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อแล้ว ยังมีจุดจัดแสดงให้เห็นสินค้าแต่ละหมวด หรือการจัดแสดงออกเป็นธีม เช่น ธีมห้องนอน ธีมห้องครัว เพื่อให้ลูกค้าเกิดไอเดียในการเลือกซื้อของไปตกแต่งบ้าน
ถัดมาที่โซนนิว เซอร์วิส ที่เชื่อว่าจะต้องถูกใจใครหลายคนแน่นอน เพราะที่นี่จัดเต็มด้วยบริการสุดพิเศษ Pillow Testing Room หรือห้องลองหมอน สาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่ลูกค้าสามารถเลือกหมอนที่ต้องการไปลองหนุนได้ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยจัดให้ลองในห้องนอนเสมือนจริง พร้อมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกหากต้องการเปลี่ยนหมอนใหม่ ซึ่งไม่ต้องกังวลในเรื่องความสะอาดของที่นอน เพราะมีการดูแลเรื่องความสะอาดอย่างดี
![](https://www.matichonacademy.com/wp-content/uploads/2019/01/DSCF0176.jpg)
นอกจากนี้ ยังสามารถทดลองแผ่นรองนอน เพื่อเพิ่มความนุ่มสบายในการนอน โดยมีให้เลือกทั้งวัสดุที่ผลิตจากใยสังเคราะห์ เมมโมรี่โฟม หรือยางพารา
![](https://www.matichonacademy.com/wp-content/uploads/2019/01/DSCF0175.jpg)
ลองหมอนกันไปแล้วก็ยังมีให้ลองทำอาหาร กับบริการ Cooking Studio โดย Smile Cooking Club โรงเรียนสอนทำอาหารชื่อดัง ซึ่งจะมีทั้งหลักสูตรการทำอาหารคาว-หวาน และเบเกอรี่ ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้
และที่พลาดไม่ได้คือโซน “ไดนิ่ง คอมมูนิตี้” จัดเต็มความอร่อยตอบโจทย์ครอบครัวได้เป็นอย่างดี ประมาณว่าคุณแม่เลือกของ คุณพ่อก็ขอมาอิ่มท้องกันก่อน ซึ่งงานนี้เซ็นทรัลก็คัดสรรร้านดัง อาหารรสเลิศ ครบทุกสัญชาติมาให้ไว้บริการเลยทีเดียว
เริ่มด้วยอาหารเกาหลีอย่าง “เดอะ บิบิมบับ” ที่โดดเด่นในเรื่องบิบิมบับ หรือข้าวยำเกาหลี โดยเฉพาะเมนู “พุลโกกิ บิบิมบับ” รวมมิตรสารพัดผักและเห็ด จัดจ้านด้วยซอสโคชูจังรสชาติกลมกล่อม ให้รสชาติแบบเกาหลีแท้ๆ เมนูที่ไม่ควรพลาดยังมี “ต็อกโปกี” หรือแป้งตัวอ้วนผัดกับซอสพริกโคชูจัง อร่อยแบบไม่ต้องบรรยายเยอะ
![](https://www.matichonacademy.com/wp-content/uploads/2019/01/DSCF0178.jpg)
ถัดมาคือร้าน “แสนยอด WOK” ร้านอาหารจีนกวางตุ้งแท้ระดับตำนาน (ได้รับรางวัล Bib gourmand จากมิชลิน ไกด์) ที่ยังคงรักษาสูตรต้นตำรับสไตล์แสนยอดไว้อย่างครบถ้วน เมนูแนะนำคือ ราดหน้าสไตล์ฮ่องกง น้ำราดหน้าเข้มข้น กับหมูนุ่ม และคะน้าต้นอวบ ทำเอาคนกินฟินลืม ส่วนอีกเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ ปลาหมึกคั่วพริกเกลือ จานนี้กรอบนอก ข้างในหนึบหนับ หอมกลิ่นพริกและเกลือ กินกับข้าวสวยได้ดีทีเดียว
![](https://www.matichonacademy.com/wp-content/uploads/2019/01/DSCF0192.jpg)
![](https://www.matichonacademy.com/wp-content/uploads/2019/01/DSCF0190.jpg)
เอาใจคนนักอาหารอีสานกันด้วยร้าน “ไก่ย่างหนังกรอบป้าแก้ว” กับสาขาแรกที่เข้ามาเปิดในห้างสรรพสินค้า แต่ยังรสชาติระดับตำนานที่ใครหลายคนติดใจ โดยเฉพาะ “ไก่ย่างหนังกรอบ” สูตรเด็ดเฉพาะตัว ย่างมาแบบหนังกรอบมากๆ รสชาติกลมกล่อมดี จิ้มน้ำจิ้มแจ่วแลวเด็ดอย่าบอกใครเลยล่ะ
![](https://www.matichonacademy.com/wp-content/uploads/2019/01/DSCF0181.jpg)
นอกจากไก่ย่างสูตรเด็ดแล้ว ที่ร้านนี้ยังมีเมนูอาหารอีสานที่เด็ดไม่แพ้กัน ทั้งส้มตำ ลาบ น้ำตก จัดว่าเด็ดทุกจาน!
จากอาหารเกาหลี อาหารจีน อาหารอีสาน มาสู่อาหารยุโรปกันบ้างกับร้าน “Maillard Butcher & Steak” (เมญาร์ด บุตเชอร์ แอนด์ สเต๊ก) ร้านสเต๊กเนื้อไทย-วากิวดรายเอจ ที่มาเปิดในห้างสรรพสินค้าที่นี่เป็นที่แรกเช่นกัน กับเมนูที่ต้องลองคือ Dry aged steak สเต๊กเนื้อนุ่ม แม้สั่งแบบเวลดันก็ไม่แห้ง และยังคงฉ่ำด้วยส่วนของมันที่แรกอยู่ในเนื้อ พร้อมกลิ่นพริกไทยเข้มข้น ได้รสชาติเป็นเอกลักษณ์
![](https://www.matichonacademy.com/wp-content/uploads/2019/01/DSCF0191.jpg)
กระซิบบอกกันอีกนิดว่า เร็วๆ นี้เตรียมพบกับร้าน Peppina (เพ็พพิน่า) ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์นาโปเลียนชื่อดัง ที่พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบในการปรุงอาหาร และสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ด้วยความตั้งใจทุกขั้นตอน ทำให้ได้รสชาติอาหารอิตาเลียนแบบออริจินัล
ความพิเศษของโซนนี้ไม่ได้อยู่เพียงร้านอาหารเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่บริเวณนั่งกินที่มีพื้นที่ Glass House ที่สามารถนั่งรับประทานอาหารแนวหน้าต่างกระจก เพื่อรับแสงสว่างจากธรรมชาติในช่วงกลางวัน พร้อมชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ หรือเดินออกไปยังระเบียงด้านนอกเปลี่ยนบรรยากาศ ก็ช่วยให้อาหารมื้อนั้นเป้นมือที่พิเศษมากยิ่งขึ้น
เอาเป็นว่าใครอยากสัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบพิเศษ ในบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน พร้อมอิ่มอร่อยกับร้านอาหารเจ้าเด็ด ไปแวะชมแวะชิมกันได้ที่ “แผนกโฮม ชั้น 6 เซ็นทรัล พระราม 3” เลย!