ผุดแพ็กเกจกระตุ้น ลุ้นลงทะเบียนแจกเงินเที่ยว ให้ส่วนลดที่พัก

Journal ข่าวสาร

วันที่ 4 มิ.ย. นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลังว่า

คลังสั่งให้ ททท.ไปทำมาตรการกระตุ้นไทยเที่ยวไทย มาเสนอหาข้อสรุปอีกครั้งสัปดาห์หน้า ในหลักการมาตรการต้องมีผล 4 เดือน หรือช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค. เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ช่วงที่ผ่านมา และส่งผลให้ช่วงไตรมาส 4/2563 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ในการสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางกลับมาเที่ยว เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ

แนวทางที่ททท.เสนอคือ 1.สนับสนุนให้บุคลากรทางการแพทย์ และอาสาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เดินทางไปเที่ยว ประมาณ 1.2 ล้านคน เป็นการให้รางวัล ตอบแทนจากที่ทำงานในช่วงโควิดที่ผ่านมา

2.กลุ่มประชาชนทั่วไป หลังจากหยุดการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งในช่วง 4 เดือนนี้ ถือว่าใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ จึงต้องมีมาตรการสนับสนุนให้ท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศที่ 4-5 แสนล้านบาท จากรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมด 1.23 ล้านล้านบาท

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.เสนอมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวให้คลังพิจารณาหลายแนวทาง เป็นตุ๊กตาให้เลือก แต่คลังให้กลับไปทำข้อสรุปกลับมาว่า มาตรการต่างๆ จะส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างไร เช่น แนวทางการแจกเงินให้เปล่า การให้ส่วนลดที่พักบางส่วน หรือมาตรการชิมช้อปใช้ ที่เคยแจกเงิน 1,000 บาท ว่าในทางปฏิบัติจะกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวได้อย่างไร ได้เงินไปแล้วมีการเที่ยวจริงหรือไม่ มีการเดินทางข้ามจังหวัด เพราะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าการใช้งบประมาณ เพราะเงินส่วนนี้มาจากพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท

“คลังให้ ททท.กลับไปทำการบ้านและมาเสนออีกครั้งสัปดาห์หน้า วันนี้พูดคุยเป็นตุ๊กตายังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนเรื่องแจกเงินก็มีการพูดคุย ไม่เรียกว่าแจก เรียกจ่ายให้เป็นบางส่วน ซึ่งคลังไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่ให้ไปดูความคุ้มค่าการใช้เงินงบประมาณ และวิธีการที่ใช้จะทำอย่างไร จำนวนคนที่ได้รับสิทธิ์เป็นอย่างไร หากแจกเงินจริงต้องแจกเพื่อไปใช้เที่ยว ต้องมีการลงทะเบียน เพราะมาตรการนี้คงไม่ใช่ทุกคนจะได้สิทธิ์” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า จากนี้การท่องเที่ยวจะต้องเป็นการท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ หรือเที่ยวแบบ นิว นอร์ม (New Norm) ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือประชาชนที่จะออกไปเที่ยว ต้องมีการจองก่อนเที่ยว เพื่อลดความแออัด และไม่ให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นต้นเหตุให้เกิดการระบาดรอบสอง

ส่วนกรณีบางแสนช่วงวันหยุดที่ผ่านมา มีคนเดินทางไปมากนั้น เป็นไปตามที่คาดไว้ เพราะเป็นช่วงวันหยุด และเป็นสถานที่ไม่ไกล ดังนั้น ททท.อาจจะต้องหารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคตะวันออก ว่าจะวางแผนรับมือนักท่องเที่ยวจากนี้อย่างไร

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวขณะนี้ ถือว่าดีขึ้นเมื่อพิจารณาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวช่วงวันหยุดที่ผ่านมา แม้บางพื้นที่โรงแรมจะยังไม่เปิดให้บริการ ซึ่งจะเปิดในช่ว ก.ค. แต่บางพื้นที่ที่เปิดแล้วเช่น พัทยา หัวหิน ก็มียอดจองโรมแรมแล้วกว่า 70% ซึ่งคนไทยพร้อมที่จะเดินทางไปเที่ยว แต่ก็ต้องระมัดระวัง ให้ท่องเที่ยวแบบนิวนอร์ม เพื่อไม่ให้การระบาดของโควิด-19 กลับมาอีก

ที่มา : ข่าวสด